วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 1136 ลุงชิวตายไปเมื่อสิบวันก่อนแล้ว
ไม่นานเวลาสามเดือนก็ผ่านพ้นไป พร้อมกับคุณเฉียวที่กลับมาจากต่างประเทศ ถังหนิงจึงส่งใครบางคนไปทักทายเธอที่สนามบิน
ระหว่างนี้ทีมงานตัดต่อชุดใหม่ของถังหนิงเป็นรูปเป็นร่าง ตอนนี้พวกเขาได้เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันและปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในการทำงานใหม่
มดราชินีสองเตรียมการพร้อมแล้ว ถังหนิงได้คัดตัวนักแสดงคนอื่นๆ สำหรับภาพยนตร์ของเธอเสร็จเรียบร้อย เหลือเพียงกำหนดตารางงานของพวกเขาและเรียกมาซ้อมการแสดง
ในไม่ช้ามดราชินีสองได้ประกาศรายชื่อทีมงานและนักแสดงหลักอย่างเป็นทางการ ด้วยเป็นภาพยนตร์เรื่องแรก ถังหนิงได้นำทีมในฐานะผู้สร้าง รองจากเธอคือเฉียวมั่นซึ่งรับหน้าที่ผู้กำกับ สมทบด้วยดาราดังสายบู๊ ผู้อาวุโสหลง นักแสดงหญิงหน้าใหม่ เฟยเอ๋อร์ และลัวเซิงที่เป็นที่นิยมเมื่อเร็วๆ นี้ และแน่นอนว่ามีโม่ถิงรับบทตัวร้าย!
ทันทีที่รายชื่อเหล่านี้ถูกประกาศออกมา ผู้คนก็ให้การตอบรับล้นหลามอย่างตั้งตารอคอยเต็มที่
เรื่องที่ผู้อาวุโสหลงมาร่วมแสดงนั้นถือว่าน่าทึ่ง หากแต่นอกเหนือไปจากนั้นคือการที่โม่ถิงได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมนักแสดงอีกครั้ง และเขากำลังจะรับบทเป็นตัวร้าย!
ในขณะที่ใบปิดภาพยนตร์สื่อให้เห็นอย่างชัดเจนว่าภาพยนตร์เป็นเรื่องของการพิสูจน์ความเข้มแข็งของสายสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์
ซึ่งหมายความว่าเนื้อเรื่องหลักคงจะต้องเน้นไปที่ตัวลูกศิษย์และอาจารย์!
แฟนๆ ทิ้งความคิดเห็นออนไลน์ทันที บอกให้ถังหนิงรีบเริ่มถ่ายทำเสียที
[เหตุผลหนึ่งที่ฉันชอบผลงานของถังหนิงเพราะว่าเธอไม่ได้ทำเหมือนหนังฮีโร่ทั่วไปที่มาช่วยผู้หญิงไม่มีทางสู้ เธอไม่ได้สนใจเรื่องรักหวานแหวว แต่กลับเล่นกับความสัมพันธ์อื่นๆ หนังของเธอลึกซึ้งไปกว่านั้น และมันก็ทำให้ฉันรู้สึกดีมากเวลาได้ดู]
[ครั้งที่แล้วเป็นเรื่องของพ่อกับลูกสาว คราวนี้เป็นเรื่องของอาจารย์กับลูกศิษย์ แค่คิดก็น่าสนใจแล้ว ฉันละสงสัยว่าดาราดังระดับนานาชาติต่อสู้กับสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ยักษ์จะออกมาเป็นยังไงจัง!]
[ฉันเป็นคนเดียวที่คิดว่าบทตัวร้ายของประธานโม่จะต้องน่าประทับใจหรือเปล่า หนังเรื่องแรกตัวละครที่เขาเล่นนิสัยอ่อนโยนและสุขุมมาก ฉันรอเขาระเบิดอารมณ์ในภาคต่อไม่ไหวแล้วละ!]
[อดใจรอไม่ไหว +1…]
[อดใจรอไม่ไหว +2…]
[ตอนนี้พวกเขาประกาศทีมงานและนักแสดงแล้ว เมื่อไหร่จะเริ่มถ่ายทำละ นี่มันการทรมานนี่นา!]
[ฉันจะไปขุดหนังเรื่องก่อนๆ ของถังหนิงกับโม่ถิงทั้งหมดมาดู น่าจะช่วยยื้อเวลาให้ฉันได้สักหน่อย]
[ตั้งแต่ที่ถังหนิงเข้าวงการภาพยนตร์ ก็รู้สึกว่าเธอพาอากาศสดชื่นมาด้วย ฉันว่าทั้งวงการควรขอบคุณเธอนะ!]
อย่างไรก็ตามถังหนิงไม่ได้สนใจการได้รับคำขอบคุณ มันไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะสิ่งที่เธอสนใจคือการได้ทำตามสิ่งที่ต้องการ เธออยากเติมเต็มความฝันของเฉียวเซินและยืนอยู่ในจุดสูงสุดในวงการบันเทิงเคียงข้างโม่ถิง ว่าแต่ตอนนี้เธอทำสำเร็จหรือยังล่ะ
ไม่นานคนก็เริ่มสืบเรื่องของเฉียวมั่นเพื่อหาว่าเธอเป็นใคร ถึงได้รู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของเฉียวเซินและยังเป็นช่างบันทึกภาพชื่อดังระเบิด
เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของพ่อของเธอ เธอตัดสินใจอุทิศชีวิตที่เหลือของตัวเองให้กับวงการไซไฟเช่นกัน เดิมทีเธอคิดเอาไว้ว่าสาธารณชนคงมีข้อกังขาเพราะเธอยังใหม่ในวงการ แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อทุกคนให้การยอมรับเป็นอย่างดี นี่เป็นเพราะว่าพวกเขารู้ว่าเธอคงทุ่มเทอย่างเต็มที่ หากเธอตั้งใจจะเป็นอย่างพ่อของเธอ
ในท้ายที่สุดทุกคนจึงพากันพูดถึง มดราชินี 2 ทำให้หนานกงเฉวียนรู้สึกว่าถังหนิงกับโม่ถิงเป็นคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังซึ่งควรค่าแก่การให้เกียรติ
“ท่านประธานครับ เราควรเริ่มประชาสัมพันธ์ปรสิตรอบสองไหมครับ”
หนานกงเฉวียนส่ายหน้าคล้ายบอกว่ายังไม่ถึงเวลา “ไม่จำเป็นหรอก เอาแรงไปทุ่มกับการถ่ายทำปรสิต เถอะ พอหนังที่เสร็จสมบูรณ์ถูกปล่อยออกมา มันจะเป็นสิ่งที่ใช้ประชาสัมพันธ์ได้ดีที่สุดเอง”
“ผมเข้าใจครับ เรากำลังตามกระแสไซไฟ แม้ว่าผมจะไม่อยากจะยอมรับ แต่ถังหนิงก็เป็นคนที่บุกเบิกวงการจริงๆ ” ผู้ช่วยของหนานกงเฉวียนเอ่ย “ไม่อย่างนั้นเราคงไม่ได้เห็นหนังไซไฟที่มีคุณภาพระดับนี้ไปอีกยี่สิบปี ไม่ต้องพูดถึงตอนนี้เลยครับ”
“ไป๋จวินเหยี่ยเป็นยังไงบ้างละ”
“ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ ไป๋จวินเหยี่ยมีความสามารถจริงๆ เราคว้าคนมาไม่ผิดเลยครับ”
“เยี่ยมเลย” หนานกงเฉวียนพยักหน้า เขาตั้งความหวังกับ ปรสิต ไว้สูง
แม้ว่าพวกเขาจะไม่อาจเทียบกับมดราชินีสองของไห่รุ่ยได้ ภาพยนตร์ดีๆ ก็ควรค่าแก่การจดจำอยู่ดี
จากนั้นหนานกงเฉวียนเก็บของและขับรถไปเยี่ยมชิวจิ้น แต่ก็ต้องอึ้งกับสิ่งที่ลูกน้องของชิวจิ้นบอกเขา “ลุงชิวตายไปเมื่อสิบวันก่อนแล้วครับ…”
“ทำไมไม่มีใครบอกฉันเลย” หนานกงเฉวียนขึ้นเสียง “ไม่มีใครบอกเรื่องใหญ่ขนาดนี้กับฉันได้ยังไงกัน
“เพราะว่าลุงชิวจากไปอย่างกะทันหันน่ะครับ เขาผูกคอตาย แต่ผมมั่นใจว่าเดิมทีเขาบอกผมว่าอยากจะไปเที่ยวต่างประเทศนะครับ ใครๆ ก็เลยนึกไม่ถึง” ลูกน้องของชิวจิ้นตอบ “ผมยังเห็นเขาเก็บกระเป๋าอยู่เลยครับ…”
“อย่างนั้นทำไมถึงไม่เรียกตำรวจล่ะ”
“ตำรวจมายืนยันว่าเขาผูกคอตายแล้วยังทิ้งจดหมายสั่งเสียไว้ด้วย พวกเขาเลยไม่ได้สืบไปมากกว่านี้ แต่ผมก็ยังรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติอยู่นะครับ”
ทำไมคนคนหนึ่งที่กำลังจะไปเที่ยวต่างประเทศถึงได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายกะทันหันกัน แล้วทำไมเขาถึงทิ้งไว้แค่จดหมายสั่งเสียธรรมดาๆ ขนาดนี้
หนานกงเฉวียนรู้สึกตงิดใจ หากแต่เขาไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ที่ไหนกันแน่
ชิวจิ้นจากไปทั้งอย่างนั้นแต่ก็ไม่มีใครบอกเขาแต่อย่างใด ตอนแรกเขาคิดว่าชิวจิ้นกำลังเศร้าใจและต้องการเวลาฟื้นตัวเขาจึงไม่มารบกวน ใครจะไปคิดว่า…
“นายได้ไปค้นห้องของชิวจิ้นอย่างละเอียดหรือเปล่า มีอะไรน่าสงสัยหรือเปล่า”
“ไม่ครับ ผมไปดูแล้ว” ลูกน้องหัวโล้นคนหนึ่งเอ่ยก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาจากลิ้นชัก “นี่เป็นของลุงชิวครับ ผมดูรายชื่อคนโทรเข้าออกแล้ว ในคืนที่เขาตาย ลุงชิวคุยกับเบอร์ที่ไม่รู้จักอยู่ครึ่งชั่วโมงครับ”
“ใครล่ะ”
“ผมพยายามโทรไปเบอร์นั้นแล้ว เป็นเบอร์ของพนักงานขายประกันรถคนหนึ่งครับ…”
หนานกงเฉวียนรับโทรศัพท์มาและไม่ได้พูดอะไร ทว่าเขาพลันนึกสงสัยว่าต้องมีใครอีกคนอยู่เบื้องหลัง
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้มีโอกาสสืบโดยละเอียดเพราะแม่ของซูโยวหรานได้โทรมาหาเขาในตอนนั้น “คุณหนานกง คุณแต่งงานกับโยวหรานให้เร็วที่สุดได้ไหมคะ”
“คุณน้า เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ”
“ธุรกิจของพ่อเธอเจ๊งน่ะค่ะ แล้วเขาก็กำลังหาประโยชน์จากเธออยู่”
หนานกงเฉวียนใจหายวาบ อย่างไรก็ตามไม่ใช่เพราะสิ่งที่คุณนายซูบอก “เสียงของคุณน้าดูอ่อนแรงมากเลยนะครับ…”
“ฉันไม่เป็นไร…ฉันไม่เป็นไร”
มันฟังดูไม่เหมือนว่าเธอสบายดีเลย หลังจากวางสาย หนานกงเฉวียนออกมาจากบ้านของชิวจิ้น ขับตรงไปที่ที่ซูโยวหรานกำลังเรียนอยู่ ก่อนลากเธอออกมาจากห้องเรียน
“เฮ้ คุณ จำคนผิดหรือเปล่าคะ จับตัวผิดคนหรือเปล่าเนี่ย”
“แม่ของคุณอาจจะอยู่ในอันตราย คุณควรกลับบ้านไปดูเธอนะ” หนานกงเฉวียนเอ่ยพลางยื่นโทรศัพท์ให้ซูโยวหรานดูเบอร์บนหน้าจอ
หลังจากแน่ใจว่าเป็นเบอร์ของแม่เธอ ซูโยวหรานหันหลังออกไป หากแต่หนานกงเฉวียนคว้าตัวเธอกลับมา “ผมจะพาคุณไปที่นั่นเอง มันเร็วกว่าน่ะ”
ถึงซูโยวหรานจะมีคำถามมากมาย เธอก็ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านั้น จึงรีบก้าวขึ้นรถของหนานกงเฉวียน
มันแปลกที่เธอต้องรู้ว่าแม่ตัวเองตกอยู่ในอันตรายจากปากคนแปลกหน้า…