วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 1191 บทส่งท้าย : ฉันถูกใจเขาออก
เพื่อนร่วมงานของเชียนหลานพยายามนัดบอดให้เธอมาพักใหญ่แล้ว เป้าหมายของการนัดเดตในครั้งนี้เป็นครูฟิสิกส์ชั้นมัธยมจากตึกข้างๆ ชายหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ ที่มีชื่อว่าโม่จื่อเฉิน
เขามีความสูงที่สมบูรณ์แบบกว่านายแบบหน้าไหน พร้อมรูปร่างหน้าตาที่ชวนดึงดูดเสียยิ่งกว่าดาราดังคนใด แต่กลับมีข่าวลือว่าชายหนุ่มคนนี้มาจากครอบครัวที่สุดแสนยากจน
ถ้าไม่ใช่เช่นนั้นทำไมเขาถึงเอาแต่สวมสูทสีดำตัวเดิมและแว่นกรอบดำเชยๆ อันเดิมกันล่ะ
เมื่อก่อนเชียนหลานเคยบังเอิญเจอเขาอยู่ หน้าตาเขาชวนมองแต่กลับมีท่าทีน่าเบื่อเต็มที
อย่างไรก็ตามเพื่อนของเธอดึงดันที่จะจับคู่พวกเขาด้วยกัน เธอจึงไว้หน้าพวกเขาและตกลงยอมไปพบเขา ว่ากันตามจริงแล้วคนอื่นคงไม่ได้ประทับใจในตัวชายหนุ่มนัก แต่เชียนหลานนั้นพึงพอใจในตัวเขาอย่างน่าแปลกใจ
ถึงอย่างไรเขาก็ทั้งอ่อนโยน ดูดี และดูค่อนข้างมัธยัสถ์ แม้ว่าเขาจะเป็นคนเงียบๆ เชียนหลานก็ยังทึ่งที่สมัยนี้ยังมีผู้ชายที่รู้จักบริหารการใช้เงินอยู่
“คุณเชียนครับ คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่นั่งเงียบๆ ตรงข้ามผมมากกว่าห้านาทีโดยที่ไม่ลุกพรวดพราดออกไปเพราะโกรธเลยนะครับ” โม่จื่อเฉินหัวเราะ ใบหน้าของเขาหล่อเหลาจนแทบไม่มีที่ติ
“คุณเองก็เป็นผู้ชายที่รู้จักประหยัดเงินทองคนแรกทั้งที่ยังอายุแค่ยี่สิบต้นๆ ที่ฉันเคยเจอเหมือนกันค่ะ” เชียนหลานตอบพร้อมเสียงหัวเราะ
“สวัสดีครับ ผมโม่จื่อเฉิน เป็นครูสอนฟิสิกส์ชั้นมัธยมครับ”
“ฉันเชียนหลาน เป็นครูภาษาอังกฤษโรงเรียนประถมค่ะ”
ทั้งคู่ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง แต่มันไม่ใช่ความเงียบที่น่าอึดอัดใจ อย่างไรเสียเชียนหลานก็ขึ้นชื่อเรื่องเป็นคนแปลกๆ อยู่แล้ว เธอไม่ชอบผู้ชายที่ขี้โอ่เกินไป โดยเฉพาะผู้ชายที่อวดดี
ไม่เพียงแต่โม่จื่อเฉินจะไม่ทำตัวโดดเด่นแต่อย่างใด เขายังออกจะเย็นชาและสันโดษราวกับจงใจให้คนลืมว่าเขามีตัวตนอยู่ด้วยซ้ำ
เชียนหลานชอบนิสัยเก็บตัวเงียบของเขา
“เราจะมีโอกาสเจอกันอีกไหมคะ” เชียนหลานถามอย่างตรงไปตรงมา
“แน่นอนครับ ช่วงที่ผมไม่ได้มีสอนผมก็ค่อนข้างว่างอยู่ตลอดครับ”
การพบกันครั้งแรกระหว่างพวกเขาทั้งสองนั้นช่างเรียบง่ายและไม่ซับซ้อนจนชวนให้คนอื่นแค่มองก็รู้สึกง่วงขึ้นมา เพื่อนของเชียนหลานคอยสังเกตการณ์จากที่ซ่อนตัว ทันทีที่โม่จื่อเฉินจากไปเธอก็หาวและเข้ามาหาเชียนหลาน “ผู้ชายคนนั้นน่าเบื่อเกินไป ลืมๆ ไปเถอะ เราจะแนะนำคนอื่นให้เธอเอง มันแค่น่าเสียดายที่เขาดูดีขนาดนี้”
“ไม่นะ ฉันถูกใจเขาออก!” เชียนหลานหัวเราะคิกคัก
“อะไรนะ” เพื่อนของเธอร้องออกมาด้วยความตกใจ “เชียนหลาน เธอเพี้ยนไปแล้วเหรอ ฉันไม่ได้หวังให้เธอหาผู้ชายที่สูง รวย แล้วก็หล่อหรอกนะ แต่อย่างน้อยก็หาคนที่ปกติหน่อยเถอะ ดูโม่จื่อเฉินสิ เขาแปลกตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยนะ เธอชอบเขาตรงไหนกันเนี่ย”
“เธอต้องคิดดีๆ นะ คุณลูกสาวนายกเทศมนตรี ถึงเธอจะไม่ได้พึ่งพาพ่อแม่เพื่อมาถึงทุกวันนี้ เธอก็จะตาต่ำขนาดนี้ไม่ได้นะ ดูอย่างพี่สาวเธอสิ เธอแต่งงานกับศาสตราจารย์จาก MTI ที่เพิ่งมีห้องทดลองเป็นของตัวเองเมื่อเร็วๆ นี้ เธออยากจะแพ้งั้นเหรอไง”
“จริงๆ แล้วมีตัวเลือกอีกเยอะที่โรงเรียนนะ แค่เธอไม่ได้เปิดเผยฐานะที่แท้จริงเฉยๆ ถ้าเธอทำอย่างนั้น ผู้ชายเป็นพรวนคงมาเสนอตัวให้เธอแน่!”
เชียนหลานปัดแขนเพื่อนตัวเองออกก่อนหัวเราะ “แค่ฉันชอบเขา คนอื่นจะว่ายังไงมันสำคัญตรงไหนเล่า”
“โถ่ เธอนี่ ฉันละไม่เข้าใจว่าเธอคิดอะไรอยู่จริงๆ”
“ก็ได้ ในเมื่อเธอชอบเขา ฉันจะหาเบอร์โทรของเขาให้แล้วกัน ไม่ต้องมาขอบคุณฉันเลยนะ!”
ด้วยเหตุนี้เชียนหลานจึงได้เบอร์โทรของโม่จื่อเฉินมา หากแต่เธอกลัวเกินกว่าจะติดต่อเขาไป เพราะเกรงว่าเขาจะคิดว่าเร็วเกินไป อย่างไรเสียเธอก็เป็นสาวเป็นนางจึงไม่อยากเป็นคนเริ่มก่อน
หลังจากกลับมาถึงบ้าน หนึ่งในสาวใช้เข้ามาหาก่อนเอ่ย “คุณหนูรองคะ คุณหนูใหญ่กับคุณผู้หญิงกำลังรอคุณหนูอยู่ค่ะ”
“โอเคค่ะ” เชียนหลานเปลี่ยนเป็นรองเท้าใส่ในบ้านก่อนเดินเข้าไปในห้องทานอาหาร นั่งลงที่ที่นั่งประจำของเธอที่โต๊ะทานอาหาร
“เชียนหลาน พ่อของลูกหาผู้ชายทั้งยังหนุ่มและมีความสามารถมาให้ลูกหลายคน เมื่อไหร่ลูกจะมีเวลาไปเจอกับพวกเขาล่ะ” คุณนายเชียนถามขณะที่หุบยิ้ม
“แม่คะ หนูอยากหาด้วยตัวเองนะคะ”
“ไม่ แม่ไม่ไว้ใจการตัดสินใจของลูก ดูอย่างสามีที่ดีที่พี่สาวลูกเจอสิ พ่อของลูกกับแม่ก็แค่ต้องการหาคนมาดูแลเจ้าหญิงน้อยของเราให้ดีเท่านั้นแหละ”
เชียนหลานยิ้มเจื่อน แต่ไม่ได้มองหน้าพี่สาวหรือพูดสักคำ
ไม่นานคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่เขยของเธอก็เดินลงมาชั้นล่าง ทว่าเชียนหลานทำเพียงทักทายเขาเงียบๆ ก่อนออกไปจากห้องทานอาหาร
“เด็กคนนั้นชักจะมารยาทแย่ไปทุกทีแล้ว”
“คุณแม่ครับ ไม่เป็นไรหรอกครับ” ชายหนุ่มรีบกล่าวปลอบคุณนายเชียนก่อนนั่งลงข้างภรรยา
ชายคนนี้ชื่อสวีฉุนเฮ่า เขาเคยเป็นรุ่นพี่ในโรงเรียนของเชียนหลานซึ่งเธอเคยคบหาด้วยมาสองปี อย่างไรก็ตามสวีฉุนเฮ่าได้ไปต่างประเทศ และในที่สุดเมื่อเขากลับมา อยู่ๆ เขาก็กลายเป็นพี่เขยของเธอเสียอย่างนั้น
นับตั้งแต่นั้นเชียนหลานไม่คาดหวังในตัวผู้ชายมากนักอีกต่อไป เธอเพียงต้องการคนที่ซื่อสัตย์และถ่อมตัวอย่างโม่จื่อเฉินเท่านั้น
ดูเหมือนสวีฉุนเฮ่าจะรู้ว่าพี่สาวของเธอนั้นภูมิฐานและประสบความสำเร็จมากกว่า
คืนนั้นสวีฉุนเฮ่ามาเคาะประตูห้องของเชียนหลาน และเดินเข้าไปคล้ายจะแนะนำเธออย่างจริงใจ “แม่ทำไปเพื่อตัวเธอเองนะ เธออยากให้เธอเจอผู้ชายที่ดี”
“ถ้าฉันเจอผู้ชายที่ดี ฉันมั่นใจว่าพี่คงตกที่นั่งลำบากแน่ค่ะ” เชียนหลานหัวเราะ “ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ออกไปเถอะค่ะ ฉันต้องเตรียมสอนพรุ่งนี้”
สวีฉุนเฮ่าไม่อาจทำสิ่งใดได้เขาจึงออกจากห้องไป
เหตุผลเดียวที่พี่สาวของเชียนหลานไม่หึงหวง เพราะเธอรู้ว่าสามีตัวเองไปที่ห้องของเชียนหลานเพื่อโอ้อวดเท่านั้น
อย่างไรเสียมันก็เป็นไปไม่ได้ที่เชียนหลานจะหาคนที่ดีกว่าได้
ตอนนั้นเองที่เชียนหลานนึกอยากส่งข้อความไปหาโม่จื่อเฉิน
เธอหยิบโทรศัพท์ออกมา และหลังจากจ้องมองอยู่นาน ในที่สุดเธอก็กดส่งข้อความไปหาเขา มันเป็นเพียงข้อความเรียบง่าย [สวัสดีค่ะ เชียนหลานเองนะคะ คุณนอนหลับหรือยัง]
…
โม่จื่อเฉินได้รับข้อความจากเชียนหลานระหว่างที่กำลังทานมื้อเย็นที่บ้าน เพราะพี่ชายของเขากลับมาจากฐานทัพ
ด้วยโม่จื่อซีสอบเข้าวิทยาลัยทหารได้จึงต้องเข้าฝึกที่ฐานทัพ
“จื่อเฉิน นายคงสนุกกับความยากลำบากมากสินะ ไห่รุ่ยเป็นบริษัทใญ่โตขนาดนี้ แต่แทนที่จะไปช่วยพ่อและใช้ชีวิตคุณชายสบายๆ กลับไปเป็นครูซะอย่างนั้น”
เทียบกับร่างสูงโปร่งของโม่จื่อเฉิน โม่จื่อซีนั้นรูปร่างกำยำและแข็งแรงกว่า
ผิวแทนที่ได้มาจากการฝึกในกองทัพยิ่งเสริมให้เขาดูสุขภาพดี
“พี่ใหญ่กับพี่รอง เลิกคุยกันแล้วมาช่วยแม่ยกจานไปสักทีสิคะ” โม่จื่อเหยียนเรียกมาจากในครัว
“ไปแล้ว” โม่จื่อซีว่าขึ้นอย่างร่าเริงพลางเดินไปในครัว
ในขณะเดียวกันโม่จื่อเฉินพยายามนึกว่าเขาไม่ได้กลับบ้านมานานเท่าไรแล้ว แม้แต่เขายังจำได้ไม่แน่ชัดนัก บางทีอาจจะราวๆ ห้าปีได้…
เมื่อเห็นว่าพ่อแม่ตัวเองยังคงสง่างามและดูดีอย่างที่เคย โม่จื่อเฉินรู้สึกราวกับตัวเองจากบ้านไปเพียงห้าวันเท่านั้น
โม่ถิงยังคงดูเหมือนเดิม ยังคงน่ายำเกรงและเป็นที่นับถืออย่างเคย ทุกอย่างในตัวเขาล้วนดีไปหมดเว้นเสียแต่เรื่องที่ไม่ยอมให้ลูกๆ ทั้งสามคนก่อเรื่องให้ถังหนิงมากเกินไปนักเพราะความเป็นทาสภรรยาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
ในขณะเดียวกันถังหนิงไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักเช่นกัน ขาของเธอยังเรียวยาวและงดงาม และเธอยังดูแลตัวเองเป็นอย่างดี
“จื่อเฉิน แม่คิดว่ามันใกล้ถึงเวลาที่ลูกจะกลับบ้านได้แล้วนะ” ถังหนิงเอ่ยกับลูกชาย
โม่จื่อเฉินเฉลียวฉลาดตั้งแต่ยังเด็ก มันจึงช่วยให้เขามีแนวคิดการใช้ชีวิตเป็นของตัวเอง ด้วยเหตุนี้เขาถึงจากบ้านไปเมื่อหลายปีก่อนเพื่อเรียนรู้ชีวิตด้วยตัวเอง หากแต่ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นลูกชายของนายใหญ่แห่งวงการบันเทิง โม่ถิง และเจ้าแม่แวดวงไซไฟ ถังหนิง