วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 1230 เขาเป็นลูกชายตามกฎหมายของโม่จื่อซีจริงเหรอ
เฉินจิ้งหรงรีบไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบดูว่าใครแต่งงานและมีลูกแล้ว
เมื่อทำเช่นนั้นก็ได้คำตอบชัดเจนในทันที…
ถึงอย่างไรแทบทุกคนในโรงพยาบาลก็รู้ว่าเหยาอันฉีตั้งท้องและมีลูก
เป็นเหยาอันฉีหรือ
หมอแผลกฉุกเฉินธรรมดาคนนี้พยายามแย่งผู้ชายของเธอไป ช่างกล้าเสียจริง เฉินจิ้งหรงไปหาเหยาอันฉีและลากหมอปริศนาคนนี้มาด้านข้างอย่างไม่รอช้าในท้ายที่สุด ง้างมือหมายจะตบหน้าเหยาอันฉีทันทีที่เผชิญหน้ากัน หากแต่อีกฝ่ายรีบห้ามเธอไว้
“คุณเฉิน คุณกำลังพยายามทำอะไรคะ”
“ฉันกำลังจะทำอะไรน่ะเหรอ ทำไมไม่ถามอย่างนี้ตอนที่เธอแย่งโม่จื่อซีไปบ้างล่ะ” เฉินจิ้งหรงถาม “เธอก็รู้ว่าโม่จื่อซีกับฉันคบกันมาสี่ปี คิดอะไรถึงได้มาขัดขวางเราสองคนแล้วยอมเป็นชู้”
ทุกคนในโรงพยาบาลมามุงทันทีพร้อมเสียงซุบซิบนินทาที่ดังขึ้นให้ได้ยิน
ทุกคนต่างรู้ถึงสถานการณ์ของเฉินจิ้งหรงกับโม่จื่อซี ตอนนี้เฉินจิ้งหรงมาตามหาเหยาอันฉี มันก็ชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอ
นี่หมายความว่าเหยาอันฉีเป็นคนที่ทำลายความสุขของคนอื่นอย่างนั้นหรือ
อย่างไรก็ตามเหยาอันฉีไม่ได้ตื่นตระหนก เธอทำเพียงตอบกลับ “คุณอยากให้ฉันบอกทุกคนว่าคุณน่ารังเกียจและไร้ยางอายขนาดไหนที่แก้ผ้าตัวเองแล้วไปนอนอยู่ข้างนายพลโม่ ทำเหมือนเขาหลับนอนกับคุณเมื่อสี่ปีก่อนจริงๆ เหรอคะ
“ถ้าคุณอยากจะพูดถึงชู้ละก็ ฉันมั่นใจว่าคุณนั่นแหละค่ะที่เป็นชู้ในความสัมพันธ์นี้ ไม่ใช่ฉัน คุณเป็นคนที่มาทีหลังที่สุด”
หลังเฉินจิ้งหรงได้ยินเช่นนี้ เธอก็ถึงกับตกตะลึง
“เธอเชื่อหรือเปล่าถ้าฉันจะบอกเธอว่าฉันทำให้เธอไม่มีหน้าอยู่ในโรงพยาบาลนี้อีกต่อไปได้”
“คุณกำลังขู่ฉันเหรอคะ ฉันเป็นแค่เด็กกำพร้า มีอะไรให้ต้องกลัวล่ะคะ อีกอย่างคุณคิดว่าจะทำอะไรก็ได้ตามใจในปักกิ่งจริงๆ เหรอ จากอิทธิพลระดับล่างของตระกูลคุณ ฉันไม่คิดว่าจะเป็นไปได้หรอกนะคะ” เหยาอันฉีเอ่ยก่อนจะผลักอีกฝ่ายออกไป
“ฉันกลัวจะมีเรื่องแต่ไม่ได้กลัวที่จัดการกับมันหรอกนะคะ ฉันตัวคนเดียวมาตลอด ถ้าจำเป็นฉันก็พร้อมต่อกรกับคุณได้ทุกเมื่อค่ะ”
“ไม่กลัวที่จะจัดการงั้นเหรอ แล้วลูกของเธอล่ะ เขาเป็นลูกชายตามกฎหมายของโม่จื่อซีจริงๆ เหรอ”
“คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอกค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวนะคะ” หลังว่าจบเธอก็หายลับไปจากสายตาของเฉินจิ้งหรง หันไปพูดกับคนที่มุงรอบๆ ระหว่างที่เดินจากไป “มองอะไรกันคะ กลับไปทำงานสิคะ”
ทุกคนที่โรงพยาบาลได้เห็นเหยาอันฉีในมุมที่ต่างออกไป ที่แท้หมอเหยาที่รักสงบและสุขุมก็มีฝีมือไม่น้อยเมื่อได้แผลงฤทธิ์เดชออกมา
ซ้ำจากที่เหยาอันฉีบอก เฉินจิ้งหรงได้ทำเรื่องงามหน้าเพื่อให้ได้โม่จื่อซีมาครอบครอง…
ไม่แปลกใจที่เขาจะขอเลิกกับเธอหลังจากรู้ความจริง
ข่าวแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว ทว่าเหยาอันฉีทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตราบใดที่เธอมีจุดยืนที่ชัดเจน ไม่มีเหตุผลให้เธอต้องกลัว
ในเมื่อเฉินจิ้งหรงทำตัวร้ายกาจอย่างนั้นก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องยอมทน
เมื่อนางพยาบาลผู้ช่วยของเธอรู้เรื่อง เธอแอบพูดกับเธอ “หมอเหยาคะ ฉันนึกไม่ถึงว่านายพลโม่จะเป็นพ่อของเสี่ยวซิงซิงเลยนะคะเนี่ย ทำไมตลอดสี่ปีนี้คุณไม่ไปหาเขาเลยล่ะคะ”
“ไม่มีเหตุผลนี่คะ”
“ก็ได้ค่ะ ฉันรู้ว่าคุณไม่อยากตอบ งั้นก็หมายความว่าตอนนี้เสี่ยวซิงซิงมีพ่อแล้วใช่ไหมคะ”
“ใช่ค่ะ”
อย่างไรก็ตามเรื่องก็ยังไม่ได้ถูกต้องตามกฎหมาย
ในไม่ช้าเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลก็มาถึงหูโม่จื่อซี แม้เขาจะไม่รู้ว่าเฉินจิ้งหรงหาเหยาอันฉีเจอได้อย่างไร เขาก็เห็นภาพที่ใครบางคนบันทึกไว้ที่โรงพยาบาล เมื่อได้ยินว่าเหยาอันฉีบอกว่าเธอมีตัวคนเดียวเขาก็พลันหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย
ดวงตาของเขาฉายแววเคร่งขรึมขึ้นมา เมื่อเฉินจิ้งหรงบอกว่าซิงเจ๋อไม่ใช่ลูกชายตามกฎหมายของเขา
ตลอดหลายปีมานี้เฉินจิ้งหรงแสดงละครตบตาได้แนบเนียน แนบเนียนเสียจนโม่จื่อซีไม่คิดว่าเฉินจิ้งหรงที่สติแตกจะงี่เง่าได้ขนาดนี้
เขาต้องการให้เหยาอันฉีออกจากที่ที่มีแต่จะเดือดร้อน ด้วยรู้ว่าการเข้าไปข้องเกี่ยวกับเฉินจิ้งหรงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก
หากแต่มันจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเหยาอันฉียินยอมเท่านั้น…
คืนนั้นเหยาอันฉีเลิกงานและกลับมาถึงบ้าน เมื่อเห็นซิงเจ๋อหลับสนิทในอ้อมแขนของพ่อตัวเอง เธอก็เบาใจลงบ้าง
เธอวางกระเป๋าลงและมาอุ้มซิงเจ๋อจากแขนของโม่จื่อซี
จังหวะนี้เองที่เขาลุกขึ้นก่อนเอ่ยกับเธอ “ผมรู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลวันนี้แล้วนะครับ แต่ผมไม่ได้เป็นคนบอกเธอนะครับ”
“ฉันรู้ว่าเธอทำอะไรที่โรงพยาบาลมานานแล้วละค่ะ เลยรู้ว่าอีกเดี๋ยวฉันก็จะถูกเจอตัว” เหยาอันฉีตอบ “ฉันไม่ได้กลัวที่เธอมาหาฉันหรอกค่ะ ยังไงผู้ชายของเธอก็มาอยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้แล้ว”
“อันฉี…”
“ฉันรู้ว่าคุณจะพูดอะไร แต่ฉันไม่ได้อ่อนแออย่างที่คุณคิดหรอกนะคะ” พูดจบเธอก็กล่อมลูกตัวเองและอุ้มเขาไปในห้องเลี้ยงเด็ก
โม่จื่อซีเดินตามไป หลังครุ่นคิดชั่วขณะในที่สุดเขาก็บอกกับเธอ “ผมไม่มั่นใจว่าผมต้องแสดงความเป็นห่วงหรือปกป้องยังไง สิ่งที่ผมได้ยินจากวิดีโอวันนี้มันทำให้ผมเจ็บปวดมาก ผมเลยคิดเรื่องนี้ทั้งวันและตัดสินใจว่าผมอยากจดทะเบียนรับรองซิงเจ๋อเป็นลูกชาย และทำให้คุณมีสถานะอย่างเป็นทางการครับ
“แน่นอนว่าถ้าคุณไม่ยินยอม ผมก็ยินดีที่จะรออยู่แล้ว”
หลังได้ยินเช่นนี้ เธอหันไปมองหน้าเขา “คุณตัดสินใจเรื่องนี้จริงจังเหรอคะ”
“แน่นอนสิครับ ผมบอกก่อนหน้านี้แล้วว่าถ้าคุณไม่แต่งงานกับผม ผมก็จะดูแลซิงเจ๋อและไม่มีทางแต่งงานอีก” เขาตอบด้วยท่าทีจริงจัง “ยังไงผมก็เป็นพ่อคน เลยอยากเป็นตัวอย่างที่ดีน่ะครับ”
“ฉันพอมีเวลาว่างพรุ่งนี้เช้าค่ะ” เธอตอบ “บัตรประชาชนของฉันอยู่ในลิ้นชักชั้นบน”
“หมายความว่าคุณยอมเหรอครับ”
“อย่างที่คุณบอกนั่นแหละค่ะ ฉันต้องการบางอย่างที่เป็นทางการ อีกอย่างฉันก็ไม่อยากให้คนเพ่งเล็ง
ซิงเจ๋อและตราหน้าเขา
“แต่ว่า โม่จื่อซี ฉันจะพูดแค่ครั้งเดียวนะคะ ฉันอ่อนไหวง่ายแล้วก็เจ้าคิดเจ้าแค้นมากด้วย สำคัญไปกว่านั้นถ้าคุณคิดจะโกหกฉัน ฉันก็ไม่มีปัญหาถ้าคุณปิดไม่ให้ฉันรู้เด็ดขาด ฉันยังไม่พร้อมเป็นภรรยาของคุณซะทีเดียวแต่ก็ยินดีที่จะลองดูเพื่อซิงเจ๋อค่ะ แต่ยังไงก็อย่าพยายามฝืนเลยนะคะ”
เขาพยักหน้ารับ “ผมเข้าใจครับ”
“ไม่ต้องพยายามทำเป็นรักต่อหน้าฉันด้วยนะคะ ฉันเข้าใจว่าคุณเพิ่งจบความสัมพันธ์ไปไม่นานมานี้ แล้วความรักก็ต้องใช้เวลาพัฒนา ในเมื่อเรากำลังจะแต่งงานกันเราก็จำเป็นต้องเข้าใจให้ตรงกันค่ะ”
“แน่นอนครับ” เขาพยักหน้า
“แล้วการขอแต่งงานก็ไม่จำเป็นค่ะ… คุณชดเชยให้ฉันได้ถ้าคุณรักฉันจริงๆ ในวันใดวันหนึ่ง ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่น่ะค่ะ”
ตราบใดที่ทั้งคู่มีเอกสารที่ลงนามอย่างเป็นทางการ เฉินจิ้งหรงคงไม่มีอะไรให้พูดอีก
เหยาอันฉีไม่กลัวที่ถูกเฉินจิ้งหรงตะโกนใส่หน้า เธอแค่เป็นห่วงว่าซิงเจ๋อจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย
“ถ้าอย่างนั้นคุณจะยังทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลเหรอครับ”
“ทำไมฉันต้องลาออกเพราะเธอด้วยล่ะคะ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนี่”
เมื่อเขาได้ยินเช่นนี้ก็อดขำออกมาไม่ได้ “ผมคิดว่าจากภายนอกที่บอบบางของคุณ คุณจะไม่อยากมีเรื่องซะอีก แล้วคุณก็ดูยอมคนมากด้วย”
“มันขึ้นอยู่กับว่าฉันมีเรื่องกับใครน่ะค่ะ”