วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 1260 เผลอใจไปบ้าง
หลังจากเพื่อนของโม่จื่อเหยียนรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับกู้ชิงหลี พวกเธอก็อดแซวอยู่เรื่อยๆ ไม่ได้
“เธอนี่มันน่าเบื่อจริงๆ ในเมื่อเธอคบกับอาจารย์กู้แล้ว ทำไมถึงไม่บอกเราล่ะ”
“นั่นน่ะสิ ใช่ไหม เธอทำให้เราเอาอาจารย์กู้ไปพูดเสียๆ หายๆ ซะเยอะเชียว!”
“เรายังคบกันได้ไม่นานน่ะ ฉันเลยยังไม่คิดว่าถึงเวลา” โม่จื่อเหยียนอธิบาย “ก็ได้ ฉันผิดเอง ให้ฉันขอโทษและเลี้ยงข้าวเธอทีหลัง โอเคไหม”
“ต้องอย่างนี้สิ!” เพื่อนของเธอว่าขึ้น
“ว่าแต่ จื่อเหยียน เธอจะทำยังไงกับแม่ดาราดังคนนั้นล่ะ เห็นชัดๆ ว่าหล่อนชอบอาจารย์กู้อยู่เหมือนกัน”
โม่จื่อเหยียนมองหน้าเพื่อนอย่างมั่นใจก่อนตอบ “พี่สี่ไม่ใช่คนอย่างนั้นหรอกน่า!”
“พี่สี่ พี่สี่ เธอเย้ยเราเพราะพวกเราโสดกันใช่ไหมเนี่ย”
เธอระบายยิ้มและไม่ได้ตอบอีก ตราบใดที่เธอไว้ใจกู้ชิงหลีเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
อย่างไรก็ตามมีข่าวลือล่าสุดอ้างว่าจี้เหม่ยอี๋จีบกู้ชิงหลีสำเร็จแล้ว โดยจี้เหม่ยอี๋มักจะปรากฏตัวในทุกที่ที่เขาไป ดูเหมือนว่าเธอจะพยายามอย่างหนักเพื่อสร้างภาพลักษณ์ว่าเธอกำลังคบหากับใครบางคนอยู่
ด้วยเหตุนี้จึงมีข่าวว่าด้วยเรื่องที่จี้เหม่ยอี๋ตกหลุมรักกับอาจารย์มหาวิทยาลัย และความรักที่ใสซื่อบริสุทธิ์ของเธอก็ค่อยๆ ทำให้เธอได้รับความนิยมขึ้น
เห็นได้ชัดว่ามันเป็นการลองใจอีกขั้นของเธอ กู้ชิงหลีรู้เรื่องนี้ดี อย่างไรเสียสำหรับผู้ชายหลายคน การถูกดาราดังที่ทั้งสวยและมีความสามารถมาคอยตามตื๊อก็เป็นเหมือนความฝันที่เป็นจริง ผุ้ชายที่ไม่ซื่อสัตย์คงจะไขว้เขวได้ง่ายๆ
แม้แต่คนรอบตัวของเขาเองก็เริ่มถาม “จี้เหม่ยอี๋มามหาวิทยาลัยเพราะคุณชัดๆ คุณห้ามใจกับเธอได้ยังไงกันเนี่ย”
“เธอทั้งสวยแล้วก็รูปร่างดีขนาดนี้ คุณยังไม่ชอบอีกเหรอ”
“จี้เหม่ยอี๋เอาเค้กมาให้ทั้งห้องพักอาจารย์ก็เพราะคุณ เธออยู่เป็นจริงๆ นะ คุณควรยอมรับเธอได้แล้วนะครับ”
ทุกครั้งที่เขาได้ยิน คำแนะนำ เช่นนี้ก็มักตอบกลับไป “อาจารย์กับลูกศิษย์ไม่ควรมีความสัมพันธ์แบบนี้กันครับ” มันทำให้ทุกคนเงียบไปทันที
สำหรับเขาต่อให้จี้เหม่ยอี๋สิบคนก็ไม่อาจเทียบกับโม่จื่อเหยียนคนเดียวได้ เขาจะไม่นอกลู่นอกทางง่ายๆ หรอก!
“คุณนี่โน้มน้าวไม่ได้เลยแฮะ!”
กู้ชิงหลีระบายยิ้มและทำเมินพวกเขาไป
หลังกลับมาถึงบ้าน เขากลับมาเป็นชายแก่ที่เริ่มพร่ำบ่นเรื่องนิสัยไม่ดีของโม่จื่อเหยียน อย่างการที่เธอมักจะนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง
“ผมไม่น่ามองเท่าโทรศัพท์ของคุณเหรอครับ” เขาถาม
“พี่สี่…จี้เหม่ยอี๋กำลังจีบพี่อย่างที่พวกเขาพูดกันจริงๆ เหรอคะ” โม่จื่อเหยียนวางโทรศัพท์ลงขณะที่เริ่มกังวล
กู้ชิงหลีอดหัวเราะกับคำถามนี้ไม่ได้ เขารั้งเธอเข้ามาในอ้อมแขนก่อนบอก “ผมมีแค่คุณในหัวใจของผมนะครับ ต่อให้จี้เหม่ยอี๋สิบคนผมก็ไม่หวั่นไหวหรอก”
“แต่ว่า…เธอจะตามตื๊อคุณอย่างนี้ต่อไปไม่ได้นะคะ”
“คุณกังวลเหรอครับ” เขาถามพลางบีบแก้มของเธอและพยักหน้าให้ “ก็ได้ครับ ขอผมคิดบางอย่าง…”
โม่จื่อเหยียนนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา สูดกลิ่นน้ำหอมสดชื่นเหมือนอยู่ในป่าจากตัวเขา มันช่างชวนหลงใหลและรื่นรมย์เสียจนเธอค่อยๆ หลับตาและผล็อยหลับไป
กู้ชิงหลีที่น่าสงสารได้แต่มองหญิงสาวที่รักของเขานอนอยู่ในวงแขน ในขณะที่ไม่อาจทำสิ่งใดได้ ไม่ใช่ว่าเขาจะปลุกเธอขึ้นมาได้เช่นกัน…
“เฮ้…
…ยัยบื้อ” แม้เขาจะบ่นเช่นนี้ กู้ชิงหลีก็ยังเอื้อมไปหยิบแหวนคู่หนึ่งที่เตรียมไว้ ก่อนจะสวมวงเล็กลงกับนิ้วของเธอและวงใหญ่กับนิ้วของตัวเอง
ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงเริ่มพูดว่าอาจารย์กู้แต่งงานแล้วขึ้นมาอีกครั้งในวันถัดมาที่มหาวิทยาลัย ถึงอย่างไรเขาก็จงใจสวมแหวนเพื่อหลีกเลี่ยงข่าวลือ
เขากำลังบอกทุกคนอย่างชัดเจนว่าเขาแต่งงานแล้ว
“ใครจะไปคิดว่าอาจารย์กู้จะแต่งงานแล้วกัน ดูเหมือนว่าจี้เหม่ยอี๋จะกำลังพยายามแกล้งทำอยู่นะ”
“นั่นน่ะสิ อาจารย์กู้ต้องรักภรรยามากแน่ๆ ถึงได้ปฏิเสธคนอย่างจี้เหม่ยอี๋อย่างไม่คิดขนาดนี้”
“ต่อไปนี้ถ้าจี้เหม่ยอี๋ส่งของขวัญอะไรมาอีก ได้โปรดอย่าเตาะต้องมันนะครับ ผมจะเลี้ยงอาหารทุกคนหลังจากฉลองการแต่งงานของผมเอง”
“โอเคค่ะ อาจารย์กู้ เราคิดว่าคุณแค่ล้อเล่นมาตลอด เมื่อไหร่คุณจะพาน้องสะใภ้มาแนะนำให้เรารู้จักล่ะคะ” เพื่อนร่วมงานของเขาถาม
“เดี๋ยวคุณก็จะได้พบกับเธอในไม่ช้านี้แหละครับ”
ด้วยเหตุนั้นคนทั้งมหาวิทยาลัยจึงรู้ถึงการแต่งงานของเขา เขาถึงกับใส่แหวนแต่งงานมาด้วยซ้ำ! หาก จี้เหม่ยอี๋ยังตามตื๊อเขาต่อไป ก็จะไม่เป็นข่าวว่าด้วยเรื่องรักใสซื่อในมหาวิทยาลัยอีกต่อไป หากแต่จะกลายเป็นการทำให้ครอบครัวคนอื่นร้าวฉานแทน
จี้เหม่ยอี๋เข้าใจถึงความรุนแรงของเรื่องนี้ เธอจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเลี่ยงกู้ชิงหลี และปล่อยเขาไปเป็นการชั่วคราว
ในขณะเดียวกันคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวที่สุดในเหตุการณ์ทั้งหมดคือโม่จื่อเหยียน เธอรู้เพียงว่าเมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า กู้ชิงหลีก็หายหน้าไปเสียแล้ว ทว่าอยู่ๆ ก็มีแหวนระยิบระยับวงหนึ่งปรากฏบนนิ้วของเธอ
มันหมายความว่าอะไรกันนะ
หรือนี่จะเป็นการขอแต่งงาน
หรือว่าพวกเขาจะหมั้นหมายกัน
พวกเขาจะแต่งงานกันอย่างนั้นหรือ
ชายคนนี้สวมแหวนให้เธอโดยที่ไม่ได้บอกอะไรสักคำ
โม่จื่อเหยียนไปมหาวิทยาลัยเพื่อเข้าเรียน เมื่อเธอได้ยินจากเพื่อนร่วมชั้นว่ากู้ชิงหลีสวมแหวนมาที่มหาวิทยาลัยเธอก็แทบจะพ่นน้ำออกมาใส่หน้าพวกเขา เธอรีบถอดแหวนออกทันที ชายคนนี้ทำอย่างนี้เพื่อหลีกเลี่ยงจี้เหม่ยอี๋ชัดๆ
อย่างไรก็ตามเธอไม่อาจปฏิเสธได้ว่าหัวใจของเธอนั้นลิงโลดอย่างสุขล้น!
โดยเฉพาะเมื่อพวกเขามาเจอกันในโรงอาหารในช่วงพักเที่ยง
โม่จื่อเหยียนเห็นแหวนบนนิ้วของเขาและพบว่ามันเป็นแหวนคู่กับเธอ มันชวนให้ยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิม
“แหวนของคุณไปไหนซะล่ะครับ” เขาถาม
“ในกระเป๋าค่ะ” เธอตอบพลางตบกระเป๋าเสื้อคลุมของเธอ “พี่สี่ ตอนนี้ทุกคนคิดว่าคุณแต่งงานแล้วนะคะ”
กู้ชิงหลีกลืนอาหารลงไปแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ขณะที่นั่งทานอาหารของเขา กระทั่งกลับมาถึงบ้านในคืนนั้นถึงได้ตรึงโม่จื่อเหยียนไว้กับกำแพงและถามเธอ “ในเมื่อทั้งมหาวิทยาลัยพูดกันว่าผมแต่งงานแล้ว เมื่อไหร่คุณจะช่วยผมทำให้มันเป็นจริงล่ะครับ”
“ใครเขาขอแต่งงานกันอย่างนี้คะ” เธอมุ่ยหน้าด้วยความงอน
“ยัยบื้อ” เขาบอกขณะลูกศีรษะเธอ ก่อนปล่อยเธอไป “แน่นอนว่ามันไม่นับจนกว่าผมของคุณแต่งงานต่อหน้าพ่อแม่ของคุณหรอกนะครับ”
“จริงเหรอคะ”
เขาพยักหน้าให้ “ไปอาบน้ำนอนเถอะครับ…”
“โอเคค่ะ งั้นฉันไปอาบน้ำนะคะ”
ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ กู้ชิงหลีจงใจอยู่ในห้องทำงานระหว่างที่โม่จื่อเหยียนอาบน้ำ ด้วยกลัวว่าตัวเองจะห้ามใจไว้ไม่อยู่ หากแต่เห็นๆ กันอยู่ว่าผู้หญิงซื่อบื้อคนนั้นกลับไม่ระวังตัวกับเขาแต่อย่างใด เธอไม่ได้ล็อกประตูห้องน้ำตอนที่อาบน้ำอยู่ด้วยซ้ำ
ผนังห้องน้ำทำมาจากกระจกฝ้า แม้มันจะไม่ได้โปร่งใส ทว่าเมื่อแสงลอดผ่านเขาก็สามารถเห็นทรวดทรงองค์เอวของเธอได้อย่างชัดเจน
ด้วยเหตุนี้กู้ชิงหลีจึงเผลอใจไปบ้างในคืนนั้น…
โดยเฉพาะเมื่อเธอก้าวออกมาจากอ่างอาบน้ำพร้อมเงาของเรียวขายาวของเธอที่ปรากฏสู่สายตาของเขา…