วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 651 ใครเป็นคนถ่ายรูปนี้
เวลารุ่งสางท้องฟ้ายังไม่สว่างนัก แต่มีแสงอาทิตย์เริ่มส่องรำไรให้เห็นผ่านกลีบเมฆ ในขณะที่บ้านเรือนในระยะใกล้เคียงยังคงอยู่ภายใต้ความมืดสลัว
ไห่รุ่ยเป็นเจ้าแรกที่ได้รับข้อมูลข่าวฉาวของอันจื่อเฮ่า ทันทีที่ถังหนิงทราบเรื่อง เธอก็รีบมองหน้าป้าไป๋โดยไม่รู้ตัว
ไป๋ลี่หวายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทันทีที่เธอมองไปที่โทรศัพท์ของถังหนิงและเห็นภาพเกมพิศวาสลูกสาวของเธอกับอันจื่อเฮ่ากำลังด้วยกันอยู่นั้น ใบหน้าเธอก็ซีดอย่างควบคุมไม่ได้ จากนั้นเธอจึงหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาโทรหาอันจื่อเฮ่า แต่เพราะอันจื่อเฮ่าใช้เวลาทั้งคืนในการดูแลเฉินซิงเยียน ทำให้ขณะนั้นเขากำลังนอนหลับไม่ได้สติอยู่บนโซฟา
ไป๋ลี่หวาเดินกลับไปกลับมาอย่างกระวนกระวายใจอยู่ในห้องนั่งเล่น ถังหนิงจึงเดินเข้าไปปลอบ “ป้าไป๋ ฉันรับรองว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นไปอย่างที่เห็นหรอก”
“แต่…” ไป๋ลี่หวาเริ่มพูดตะกุกตะกัก “แต่…”
“เชื่อฉันเถอะ นี่ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่ๆ” ถังหนิงดึงไป๋ลี่หวาให้ลงมานั่งข้างเธอ
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดี ไม่อย่างนั้นเสี่ยวซิงจะอยู่ต่อไปได้ยังไง” ไป๋ลี่หวาไม่สนใจว่าเฉินซิงเยียนจะโด่งดังหรือไม่ เธอแค่ต้องการให้ลูกสาวของเธอยังคงความบริสุทธิ์และไม่ต้องแบกชื่อเสียไปตลอดชีวิต “ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดหลังจากที่เธอเพิ่งจะเซ็นสัญญารับบทใหญ่ด้วย คุณอันไม่น่าจะ…”
“ไม่ต้องห่วง เขาไม่ทำหรอก” ถังหนิงมีสิทธิ์ที่จะรับรองพฤติกรรมและนิสัยของอันจื่อเฮ่า
ไป๋ลี่หวามองหน้าถังหนิงด้วยความจริงจังก่อนที่เธอจะผ่อนคลายลง เธอไม่รู้จักอันจื่อเฮ่าดีนัก ดังนั้นเธอจึงไม่อาจเชื่อใจเขาได้ แต่ถ้าเป็นถังหนิง เธอเชื่อถังหนิงอย่างแน่นอน…
ถังหนิงมองดูสีหน้าเป็นกังวลของไป๋ลี่หวาแล้วก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ถ้าไป๋ลี่หวาเป็นแม่ที่แท้จริงของโม่ถิง นั่นหมายความว่าเฉินซิงเยียนคือน้องสาวต่างพ่อของโม่ถิง
เพิ่มเติมด้วยความจริงที่เธอชอบนิสัยของเฉินซิงเยียน ทำให้ถังหนิงตัดสินใจว่าเธอจะไม่นั่งดูเรื่องนี้อยู่เฉยๆ
เมื่อคิดดังนั้น ถังหนิงรีบโทรหาฟังอวี้ทันที “ช่วยหาให้ฉันทีว่าใครเป็นทีมผู้จัดและผู้กำกับของ ‘The Savage Wars’ ”
ถังหนิงไม่ได้คิดจะใช้ไห่รุ่ยจัดการกับเรื่องในครั้งนี้ ข้อแรก เธอเป็นเพียงนักแสดงมีสังกัด และข้อสอง โม่ถิงเป็นแค่สามีและผู้จัดการของเธอ ในเวลาเช่นนี้ เธอต้องการขีดเส้นให้ชัดเจนระหว่างตัวเธอกับไห่รุ่ย
ไม่มีเหตุผลอะไรที่ไห่รุ่ยจะต้องมาเสียแรงและเวลาในการช่วยนักแสดงที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท
“เสี่ยวหนิง…”
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่นิ่งดูดาย” ถังหนิงรับประกัน
…
ในที่สุดอันจื่อเฮ่าก็ตื่นขึ้นจากเสียงของแอนนี่ เธอกำลังตื่นตระหนกและส่งโทรศัพท์ของเธอให้เขาดู “คุณอัน ดูนี่สิ!”
อันจื่อเฮ่าลุกขึ้นนั่งบนโซฟาและตื่นเต็มที่หลังจากได้เห็นข่าว “นี่มันอะไรกันเนี่ย”
“ฉันไม่แน่ใจ ฉันเพิ่งเห็นข่าวนี้เมื่อเช้าหลังจากตื่นนอนขึ้นมา”
อันจื่อเฮ่ารีบหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาดู ก็พบว่ามีสายที่ไม่ได้รับเกือบสามสิบสาย และมีสายจากไป๋ลี่หวารวมอยู่ในนั้นด้วย
อันจื่อเฮ่าเดินเข้าไปในห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น หลังจากรวบรวมสติได้แล้ว เขาก็นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอย่างถี่ถ้วนและตระหนักได้ว่า… มีเพียงคนคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถถ่ายรูปพวกนั้นได้…
ดังนั้นเขาจึงรีบออกจากห้องน้ำและคว้าข้อมือของแอนนี่ทันที “ทำแบบนี้ทำไม”
แอนนี่ตัวแข็งทื่อไปชั่วครู่หนึ่งด้วยความประหลาดใจ “คุณอันหมายความว่ายังไงคะ ฉันไม่ได้ทำนะ…”
“นอกจากเธอแล้ว ก็ไม่มีใครหน้าไหนที่จะสามารถถ่ายรูปได้ชัดเจนขนาดนั้นอีก”
“คุณอัน ไม่ใช่ฉันจริงๆ นะคะ ถ้าเป็นฉัน ป่านนี้ฉันคงหนีไปนานแล้ว ทำไมฉันต้องนั่งรอให้คุณมาจับฉันแบบนี้ด้วย ไม่ใช่ฉันจริงๆ …” ท่าทางของแอนนี่นั้นทั้งจริงใจและใสซื่อ
สีหน้าที่เธอแสดงออกมาทำเอาอันจื่อเฮ่าสงสัยขึ้นมาจริงๆ ว่าในอะพาร์ตเมนต์นี้มีผีอยู่หรืออย่างไร
หลังจากนั้น อันจื่อเฮ่าก็เหวี่ยงแขนแอนนี่ทิ้งและพูดขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าฉันรู้ว่าเธอเป็นคนแทงข้างหลังพวกเรา ฉันจะทำกับเธอแบบเดียวกับที่เธอทำกับเฉินซิงเยียนในวันนี้”
แอนนี่มองอีกฝ่ายกลับด้วยดวงตาที่เอ่อนองไปด้วยน้ำตาราวกับเธอกำลังหวาดกลัว ขณะที่เธอนั่งขดตัวอยู่ข้างๆ เฉินซิงเยียนก็ปรากฏตัวออกมาจากห้องนอนของตัวเองและพูดกับคนทั้งสอง “เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย”
อันจื่อเฮ่ามองหน้าเฉินซิงเยียนโดยไม่พูดอะไร เขาเพียงแค่หยิบแจ็กเกตของตัวเองขึ้นมาจากโซฟาแล้วเดินออกไปพร้อมคำเตือน “ทางที่ดีวันนี้เธออย่าออกไปจากอะพาร์ตเมนต์จะดีกว่า”
“มีอะไรงั้นเหรอ”
อันจื่อเฮ่าเดินออกไปโดยไม่ตอบ
เฉินซิงเยียนยังคงอยู่ในอาการสับสนขณะที่แอนนี่ทำท่าทางให้เธอรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แน่นอนว่าขณะที่เฉินซิงเยียนกำลังดูโทรศัพท์อยู่นั้น แอนนี่ก็พยายามพูดปกป้องตัวเอง “ไม่ใช่ฉันจริงๆ นะ ฉันไม่มีทางทำหรอกยกเว้นฉันจะรนหาที่ตายเท่านั้น”
เฉินซิงเยียนชำเลืองตามองแอนนี่โดยไม่พูดอะไรสักคำเดียว หลังจากเธออ่านบทความทั้งหมดเกี่ยวกับข่าว เธอหันมามองหน้าแอนนี่ด้วยความจริงจัง “บอกฉันมา เธอคิดว่าข่าวฉาวนี่จะทำลายอาชีพของอันจื่อเฮ่าได้ไหม”
แอนนี่ส่ายศีรษะแสดงท่าทีว่าเธอไม่แน่ใจถึงผลที่จะตามมา
“ถ้างั้นฉันมั่นใจว่าเธอจะตอบคำถามต่อไปของฉันได้ ใครเป็นคนถ่ายรูปนี้ แล้วมันหลุดออกไปได้ยังไง”
“ฉันไม่รู้จริงๆ”
“ไม่เป็นไร ฉันรู้ว่าเธอแสดงเป็นบทใสซื่อเก่ง ถ้างั้นเราจะทำอย่างที่ฉันบอก ถ้าไม่ใช่ฝีมือเธอ งั้นก็คงไม่มีปัญหาอะไรถ้าเธอจะออกไปยืนยันความบริสุทธิ์ของอันจื่อเฮ่าจริงไหม”
แอนนี่ดูไม่พอใจนัก หลังจากเว้นวรรคไปครู่หนึ่ง ในที่สุดเธอก็ตอบ “เมื่อคืนหลังจากที่เธอดูเหมือนจะเป็นไข้ ฉันเองก็อาเจียนไปหลายครั้ง ฉันโทรขอความช่วยเหลือจากคุณอัน แต่ก่อนเข้าจะมาถึง ฉันก็เข้าห้องนอนหลับไปแล้ว แล้วฉันจะช่วยยืนยันให้เขาได้ยังไงล่ะ”
เฉินซิงเยียนชำเลืองตามองแอนนี่และพยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้กำลังคิด
แต่เธอไม่รู้จริงๆ ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่
“ถ้าฉันจับได้ว่าเธอเป็นคนทำ ฉันจะลากเธอลงหลุมไปกับฉันด้วย”
พูดจบ เฉินซิงเยียนก็เดินไปที่ประตู เดิมทีเธอตั้งใจจะเดินออกไปดูสถานการณ์ภายนอก แต่อะพาร์ตเมนต์กลับถูกรายล้อมไปด้วยบรรดานักข่าวจำนวนมาก
แล้วอันจื่อเฮ่าแอบออกไปโดยไม่มีใครรู้ได้ยังไงเนี่ย
“ก็ได้ ฉันจะออกไปยืนยันความบริสุทธิ์ให้คุณอัน” อาจเป็นเพราะเธอต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง หรืออาจเป็นเพราะเธอต้องการช่วยอันจื่อเฮ่าจริงๆ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง แอนนี่พูดกับเฉินซิงเยียน “ฉันจะยืนยันความบริสุทธิ์ให้คุณอัน ว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเธอสองคน แล้วฉันก็จะได้ทำให้มันกระจ่างทั้งเรื่องของเธอสองคนแล้วก็ตัวฉันเองด้วย”
มีคนอีกคนที่ต้องการทำให้ตัวเองกระจ่าง…
“เธอพูดเองนะ รอให้อันจื่อเฮ่าจัดการทุกอย่างแล้วกัน” เฉินซิงเยียนกล่าว
แอนนี่พยักหน้าก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองอย่างรวดเร็วเพื่อรวบรวมสติ
แต่เธอคิดจะออกไปยืนยันความบริสุทธิ์ให้อันจื่อเฮ่าจริงๆ งั้นเหรอ
เธอกำลังจะให้คนพวกนั้นได้เห็นอะไรดีๆ ต่างหาก
เฉินซิงเยียนไม่ได้เชื่อใจแอนนี่ เธอจึงรีบโทรไปที่ไฮแอทรีเจนซี่และเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ถังหนิงฟัง
หลังได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด ถังหนิงหัวเราะออกมา “ทำไมเธอถึงขอให้แอนนี่ช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ให้เธอล่ะ”
“พี่หมายความว่ายังไง”
“คำพูดของแอนนี่ไม่มีผลอะไรกับสาธารณะทั้งนั้นแหละ”