วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 652 เธอไม่คิดว่าเขาลำเอียงเข้าข้างเธออย่างนั้นหรือ
“ในเมื่อเธอเองก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นฝีมือของแอนนี่ แต่อีกฝ่ายยังไม่ยอมรับสารภาพ คำตอบก็ง่ายนิดเดียว เพราะทางนั้นยังไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการไงล่ะ
“ถ้าผู้หญิงคนนั้นจะทำอะไรที่เลวร้ายมากกว่านี้ก็เป็นเพราะเธอยังเก็บผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ใกล้ตัว แล้วปล่อยให้เขาได้เห็นทุกการเคลื่อนไหวของตัวเธอเอง”
เมื่อได้ยินคำพูดของถังหนิง เฉินซิงเยียนก็ถึงกับเข่าอ่อน แม้เธอจะเคยเห็นเหตุการณ์มากมายในวงการนี้ แต่เมื่อต้องมาเป็นฝ่ายรับมือเอง เธอกลับไม่รู้เลยว่าจะต้องจัดการอย่างไร
เธอเป็นคนขวานผ่าซากและผยอง แต่เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน เธอกลับอ่อนแอและไร้ประโยชน์
“ฉันควรทำยังไงดี” เฉินซิงเยียนถามถังหนิง “ฉันจะป้องกันไม่ให้อันจื่อเฮ่าโดนลากเข้ามาเกี่ยวด้วยได้ยังไง”
“อะไรเนี่ย นี่เธอเริ่มคิดว่าก่อนหน้านี้ตัวเองทำไม่ดีกับจื่อเฮ่าเอาไว้งั้นเหรอ” ถังหนิงหัวเราะเบาๆ
ถังหนิงถามคำถามที่กระทบจุดอ่อนของเฉินซิงเยียนเนื่องจากเธอดันเริ่มตั้งคำถามที่เกิดจากความกังวลใจของตัวเอง
เธอตระหนักดีว่าอันจื่อเฮ่าเป็นคนมีความสามารถ ในขณะที่เธอเป็นแค่สตันต์ที่ทำงานไปวันๆ อย่างไร้ความทะเยอทะยาน หากชื่อเสียงของอันจื่อเฮ่าต้องเสียหายเพราะข่าวฉาวในครั้งนี้ เธอคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต เธอไม่ชอบความรู้สึกติดค้างกับคนอื่นแบบนี้
“พี่หนิง บอกหน่อยได้ไหมว่าฉันจะช่วยอันจื่อเฮ่าได้ยังไง”
“เธอไม่จำเป็นต้องทำอะไรทั้งนั้น แต่รออย่างใจเย็นแค่นั้นก็พอแล้ว” ถังหนิงตอบ “อย่าเปิดโอกาสให้แอนนี่โจมตีเธอหรือจื่อเฮ่าอีก”
“ฉันควรจะอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรเลยอย่างงั้นเหรอ”
“ในเวลาแบบนี้เธอทำอะไรไม่ได้หรอก”
ถังหนิงเป็นคนตรงไปตรงมา คำพูดของเธอเหมือนเป็นคำเตือนโดยตรงถึงนิสัยเห็นแก่ตัวของเฉินซิงเยียน หากเธอยังคงทำตัวเช่นนี้ ไม่เพียงแต่อันจื่อเฮ่าเท่านั้นที่เดือดร้อน แต่คนอื่นๆ ก็จะพลอยติดร่างแหไปด้วย
“งั้นก็ได้ ฉันจะไม่ทำอะไร” เฉินซิงเยียนกล่าวตอบก่อนกดวางสาย จากนั้นเธออยากจะโทรหาอันจื่อเฮ่าแต่เธอดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็วและรู้ตัวว่าสิ่งที่เธอทำไม่ได้มีประโยชน์อะไร
ดังนั้นเธอจึงกลับไปที่ห้องนั่งเล่นและคิดสะระตะอะไรไปเรื่อยๆ แทน ดูจากมุมที่ภาพฉาวพวกนั้นถูกถ่าย คนคนนั้นจะต้องยืนอยู่ตรงประตูห้องของแอนนี่อย่างแน่นอน
เฉินซิงเยียนพยายามระงับความโกรธและเดินไปเคาะประตูห้องนอนของแอนนี่อย่างใจเย็น
ด้านหลังประตูบานนั้น แอนนี่กำลังดูโทรศัพท์ของตัวเองอยู่ ทันทีที่ประตูถูกเปิดออก เธอยื่นโทรศัพท์ให้เฉินซิงเยียน “สถานการณ์เริ่มไปกันใหญ่แล้ว ผู้กำกับเฉินเฟิงประกาศว่าเขาจะยกเลิกสัญญาของคุณอันเรื่อง ‘ชายาหนิง’ ดูจากความรุนแรงของสถานการณ์ในตอนนี้ ฉันกลัวว่าคุณอันจะต้องไม่มีงานไปอีกนานแน่ๆ”
หลังจากอ่านบทความข่าวล่าสุดจบ เฉินซิงเยียนจึงยื่นโทรศัพท์กลับไปให้แอนนี่ก่อนหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเพื่อซักถามอีกฝ่าย “มีแค่มุมนี้และส่วนสูงระดับนี้เท่านั้นที่คนบางคนถึงจะถ่ายรูปพวกนั้นออกมาได้แบบนี้ ฉันพูดถูกไหม”
แอนนี่มองดูรูปเปรียบเทียบที่เฉินซิงเยียนถ่ายจากประตูห้องของเธอและได้แต่เงียบ
“ต่อให้เธอไม่ยอมรับ ฉันก็หาหลักฐานอื่นมาได้อยู่ดี เธอหยุดเล่นละครเถอะแอนนี่”
แอนนี่เงยหน้าขึ้น ดวงตาทั้งสองข้างของเธอแดงก่ำราวกับเธอพยายามอดกลั้นอะไรบางอย่าง แต่ชั่วครู่หลังจากนั้น…
…เธอพยักหน้าและหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของเธอฟังดูโอหังอย่างมาก “ถ้าฉันเป็นคนทำแล้วมันทำไมเหรอ ใครเป็นคนเปิดโปงแล้วมันยังจะมีผลอะไรอีกหรือไง
“บางทีเธออาจจะจัดแถลงข่าวแล้วบอกทุกคนว่าฉันเป็นคนวางแผนทุกแล้วก็ได้นี่ เธอคิดว่าจะมีใครเชื่อเธอไหมล่ะ”
เฉินซิงเยียนไม่พูดอะไร เธอเพียงแค่มอบกำปั้นเน้นๆ เข้าที่ใบหน้าของแอนนี่จนอีกฝ่ายลงไปกองกับพื้น “ฉันรู้ว่าเธอเกลียดชั้น แต่ทำไมเธอถึงทำกับอันจื่อเฮ่าแบบนี้”
แอนนี่นั่งกับพื้นพลางลูบใบหน้าที่ได้รับบาดเจ็บของตัวเองก่อนจะพูดอย่างเยาะเย้ย “เธอไม่คิดว่าเขาลำเอียงเข้าข้างแต่เธอหรือไง”
“ไม่เลยสักนิด!”
“นั่นเพราะเธอมันโง่ไง ไม่รู้หรือไงว่าอันจื่อเฮ่าพาฉันมาที่นี่แค่เพื่อปั่นหัวเธอให้ทำงานหนักขึ้นเท่านั้นแหละ ก่อนหน้านี้ตอนที่ ‘The Savage Wars’ คัดตัวนักแสดง เธอปฏิเสธข้อเสนอและอันจื่อเฮ่าสัญญาว่าเขาจะยกบทนั้นให้ฉัน แต่ท้ายที่สุดเกิดอะไรขึ้นรู้ไหม เขาไม่เคยพูดถึงฉันกับผู้กำกับด้วยซ้ำ เขาแค่รอเวลาให้เธอเปลี่ยนใจ
“ทั้งหมดที่เขาพูดว่าเราสองคนมีโอกาสเท่ากันและต้องปล่อยให้ผู้กำกับเป็นคนตัดสินใจน่ะ มันเรื่องโกหกทั้งเพ โอกาสเป็นของเธอมาตลอดและฉันไม่เคยได้รับมันเลย!
“เธอรู้ไหมว่าเรื่องนี้มันเลวร้ายกับฉันมาแค่ไหน
“ในฐานะนักศึกษามหาวิทยาลัยคนหนึ่ง ฉันคิดว่าฉันจะได้ก้าวหน้าและจะได้เปิดตัว แต่ดูสิว่าสุดท้ายมันเป็นยังไง
“ต่อให้เขาพยายามแก้ไขทุกอย่างให้ดีขึ้นหลังจากนั้น เขาก็ยังเพิกเฉยกับความจริงที่ว่าฉันเองก็ต้องการได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมและอยากพัฒนาอาชีพไปในระดับโลก ทันทีที่เขารู้ว่าฉันไม่ผ่านออดิชั่น เขาไม่แม้แต่จะพยายามสู้เอาโอกาสนั้นมาให้ฉัน เธอยังคิดว่าเขาไม่ลำเอียงอยู่อีกเหรอ”
เมื่อได้ฟังคำโต้แย้งของแอนนี่ เฉินซิงเยียนก็ชะงักไป เธอไม่เคยรู้เลยว่าอันจื่อเฮ่าทำอะไรให้เธอบ้างโดยที่เธอไม่รู้
“ตอนที่เธอบอกว่าเครื่องเล่มเกมนั่นต้องเอาไปซ่อม เขารีบเอากลับบ้านและซ่อมมันด้วยตัวเอง ภายนอกเธอดูเหมือนเสียเปรียบ แต่ในความเป็นจริง เธอนั่นแหละที่เป็นคนโปรดของเขา
“แล้วเธอคิดว่าทำไมฉันถึงทำกับเขาแบบนี้งั้นเหรอ ก็เพราะเขาสมควรได้รับไงละ!”
เฉินซิงเยียนคุกเข่าลงกับพื้นและคว้าเสื้อของแอนนี่ จากนั้นเธอชูกำปั้นขึ้นและพร้อมที่จะต่อยอีกครั้ง แอนนี่ไม่คิดจะหลบ เธอเพียงแค่ยืดคอพร้อมรับกำปั้นนั้น แต่ทว่าในเวลานั้นเอง ประตูอะพาร์ตเมนต์ถูกเปิดออกอย่างรุนแรง…
ชายฉกรรจ์ห้าหกคนกรูเข้ามาภายในบ้านและทันทีที่พวกเขามาถึงตัวเฉินซิงเยียน พวกเขาเริ่มรุมทำร้ายเธออย่างรุนแรงทันที
เฉินซิงเยียนไม่อาจต่อกรกับบอดีการ์ดมืออาชีพห้าคนในคราวเดียวได้ เธอจึงทำได้เพียงขดตัวอยู่กับพื้นโดยไม่เคลื่อนไหว…
หัวหน้าบอดีการ์ดช่วยดึงแอนนี่ขึ้นจากพื้นและถาม “คุณเป็นอะไรไหม”
“จับมันไว้!” แอนนี่พูดโดยไม่ใส่ใจกับอาการบาดเจ็บของตัวเอง
บรรดาบอดีการ์ดทำตามที่เธอสั่งและจับตัวเฉินซิงเยียนเอาไว้ เมื่อแอนนี่เห็นเช่นนั้น เธอก็รีบเดินไปต่อยหน้าอีกฝ่ายทันที “หมัดนี้ถือว่าเอาคืน” จากนั้นเธอจึงต่อยเข้าไปอีกหมัด “ส่วนหมัดนี้ถือเป็นโบนัส”
จากนั้นแอนนี่ยืนตัวตรงและปัดฝุ่นออกจากตัว ท่าทีของเธอเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วขณะที่เธอก้มลงมองเฉินซิงเยียนอย่างโอหัง
“แกคิดว่าเรื่องมันจะจบแค่นี้งั้นเหรอ ที่จริงฉันเป็นคนขโมยบทของแกจากเรื่อง ‘The Savage Wars’ ไปเองแหละ ฉันจะไม่มีวันพอใจตราบใดที่แกยังไม่ถูกเปลี่ยนตัวออก แกบอกเองไม่ใช่เหรอว่าอยากเป็นสตันต์ แกเป็นคนไม่แยแสอะไรไม่ใช่หรือไง จากนี้ไปแกก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างไม่แยแสอย่างที่แกต้องการไง…
“โชว์มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น! คราวนี้ถ้าไม่มีอันจื่อเฮ่า ฉันอยากจะรู้ว่าใครจะยังช่วยแกได้อีก”
พูดจบ แอนนี่ก็เดินออกไปจากห้อง ขณะที่เธอเดินออกไปนั้น เธอบอกกับหัวหน้าบอดีการ์ด “สั่งสอนบทเรียนของวงการบันเทิงให้มันซะ”
“ได้ครับ ก้าวระวังด้วยครับคุณแอน”
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเป็นสิ่งที่เฉินซิงเยียนต้องการลบออกไปจากความทรงจำของเธอ
สิ่งที่เรียกว่า ‘บทเรียนของวงการบันเทิง’ นั่นคือการถูกล้อมด้วยกลุ่มชายฉกรรจ์และคนพวกนั้นปัสสาวะรดตัวเธอจนทั่ว
กลิ่นอันน่ารังเกียจคละคลุ้งไปทั่วตัวเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า
ความคิดนั้นทำให้เฉินซิงเยียนต้องการจะฆ่าคน เธอยินดีสละชีวิตตัวเองเพื่อให้ได้ฆ่าแอนนี่