วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 659 ฉันยังอยากแก้แค้นให้เธอก่อน
แต่เพราะเธอกำลังสวมชุดราตรีสั้นสีดำที่ถูกไม่คล่องตัวและท่าทางอ่อนแอ…
แต่ทุกคนต้องประหลาดใจ เมื่อเฉินซิงเยียนฉีกท่อนล่างของชุดเธอทิ้ง เผยให้เห็นกางเกงขาสั้นสีดำภายในและจัดการล้มเหล่าบอดีการ์ดที่อยู่ด้านหลังของหลินเซิงลงไปกองกับพื้นได้ภายในเวลาไม่กี่นาที…
“ว้าว…”
ทุกคนต่างพากันส่งเสียงเชียร์ด้วยความประหลาดใจ เธอเป็นเด็กสาวอายุสิบเก้าปีจริงหรือ ทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้
กระนั้น หลังจากช่วงเวลาอันน่าประหลาดใจผ่านพ้นไป ทุกคนเผยรอยยิ้มออกมา เด็กสาวคนนี้ดูไม่ค่อยมีไหวพริบเท่าใดนักในงานอีเว้นท์เช่นนี้ และด้วยความช่วยเหลือของถังหนิง คนส่วนใหญ่จะฉวยโอกาสนี้ในการทำตัวเองให้โดดเด่นต่อหน้าหลินเซิง แต่การแสดงความสามารถของเด็กสาวคนนี้กลับดูถ่อมตนเกินไป
แม้แต่แอนนี่ที่ยืนอยู่ด้านหลังโรงภาพยนตร์ยังแอบพูดกระซิบกับตัวเองเบาๆ ‘ยัยโง่’
กระนั้นถังหนิงกลับไม่คิดเช่นนั้น เธอรู้ดีว่าเฉินซิงเยียนเป็นคนทะเล้น
“วันนี้เป็นงานปฐมทัศน์ของพี่เซิง ดังนั้นฉันไม่อาจทำตัวโดดเด่นได้ ภาพยนตร์กำลังจะเริ่มฉาย และฉันไม่ควรต้องทำให้ทุกท่านมาเสียเวลาเช่นกัน ฉันขอให้พี่เซิงขายตั๋วได้มากๆ นะคะ!” พูดจบ เฉินซิงเยียนก็หันไปโค้งเคารพกับทุกคน
เธอไม่ได้ต้องการความสนใจ แต่การแสดงของเธอเหมาะกับสไตล์การสอนของถังหนิงและได้รับความสนใจอยู่ดีเพราะเธอสร้างความสนใจใคร่รู้ในตัวของหลินเซิงได้สำเร็จ
“เธอทำให้โอกาสที่ได้จากถังหนิงต้องสูญเปล่านะเนี่ย”
“นั่นเพราะฉันรู้ว่าพี่ชอบคนที่มีความสามารถจริงๆ ไม่ใช่คนที่รู้จักแต่วิธีทำตัวให้ดูดี”
หลินเซิงมองทุกคนในงานและหัวเราะออกมา ก่อนจะพูดกับถังหนิงและเฉินซิงเยียน “มานั่งข้างๆ ฉันนะ ฉันอยากจะคุยด้วยสักหน่อย เราไม่ได้เจอกันมานานแล้วนะ”
ดังนั้น เฉินซิงเยียนจึงยกระดับตัวเองจากแถวหลังมาอยู่แถวหน้าได้สำเร็จ แน่นอนว่าทุกคนต่างมีความสุขที่ได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวและไม่ได้รู้สึกอิจฉาอะไร เฉินซิงเยียนมีทักษะแต่เธอไม่ได้ดูเป็นภัย เด็กสาวคนนี้น่าทึ่งจริงๆ ที่สำคัญที่สุด หากเธอเป็นสตันต์หรือนักแสดงบทบู๊แล้วละก็ ตัวตนของเธอก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับใครทั้งนั้น
“เด็กสาวคนนี้น่าสนใจดีนะ!”
“อายุแค่นี้แต่ทักษะของเธอไม่เลวเลยทีเดียว มีถังหนิงคอยสนับสนุนแบบนี้ อนาคตต้องไปได้ไกลแน่ๆ”
“จากที่ดู เราอาจจะได้เห็นเธอในหนังเรื่องต่อไปของหลินเซิงก็ได้นะ”
เบื้องหน้าจอภาพยนตร์ แขกเหรื่อต่างพูดคุยกับเฉินซิงเยียนอย่างมีความสุข ในขณะเดียวกันที่บริเวณด้านหลังของโรงภาพยนตร์ แอนนี่กำลังเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา
เธอยอมละทิ้งทั้งร่างกายและศีลธรรม แต่ท้ายที่สุดเธอกลับไม่มีเพื่อนอย่างถังหนิงที่จะช่วยผลักดันให้เธอก้าวไปอีกขั้น
แต่… เธอยังไม่แพ้หมดรูป “The Savage Wars” กำลังจะประกาศบทของเธอในฐานะตัวร้ายหลักของเรื่อง นั่นต่างหากที่เป็นจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของเธอ
…
“เรื่องพวกนี้มันอะไรกันงั้นเหรอ ปกติเธอไม่ทำอะไรแบบนี้นี่นา” หลินเซิงกระซิบที่ข้างหูของถังหนิงขณะที่เขามองไปทางเฉินซิงเยียน “เด็กคนนี้เป็นคนสำคัญงั้นเหรอ”
“เซิงเกอ เมื่อก่อนทั้งพี่และฉันต่างก็เคยตกอยู่ในสภานการณ์ที่ถูกใส่ร้ายและถูกกล่าวหามาแล้ว แต่พวกเราไม่เคยถูกใครปัสสาวะใส่มาก่อน ทุกครั้งที่ฉันคิดถึงเรื่องนี้ ฉันรู้สึกแย่ที่ไม่มีโอกาสได้ช่วยเด็กคนนี้” ถังหนิงตอบ “วงการนี้เต็มไปด้วยความโสมมแต่เราต้องรักษาแก่นแท้ของพวกเราเอาไว้”
หลินเซิงพยักหน้า “เพราะอย่างนี้คนถึงถูกเธอโน้มน้าวกันหมด เด็กสาวคนนี้ไม่เลวทีเดียว แต่เธอแต่ในนะว่าเด็กคนนี้จะไม่ผิดหวัง”
“ไมว่าเด็กคนนี้จะน่าผิดหวังหรือไม่ ฉันก็ยังอยากแก้แค้นให้เธอก่อน” ถังหนิงกล่าวพลางหันไปแล้วใช้คางชี้ไปที่คนคนหนึ่งซึ่งกำลังยืนอยู่ที่ด้านหลังของโรงภาพยนตร์
“มิน่า ฉันว่าฉันไม่ได้คำนวณจำนวนที่นั่งผิดสักหน่อย กลายเป็นว่าเป็นฝีมือเธอนี่เอง นั่นคือตัวการใช่ไหม”
“ถ้าฉันไม่รู้ว่าคนคนนั้นเคยทำอะไรมา ฉันคงปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปแล้ว แต่เกิดกับคนใกล้ชิดของฉัน พี่รู้จักฉันดี ฉันไม่ชอบคนสกปรกแบบนี้ ฉันก็เลยจำเป็นต้องในโอกาสในการชำระล้างสิ่งโสมมพวกนั้น”
เป็นเรื่องประหลาด เพราะเพื่อนของถังหนิงมักจะพบว่าพวกเขามีศัตรูคนเดียวกันเสมอ
ถังหนิงไม่ชอบแอนนี่ เช่นเดียวกันหลินเซิงที่รู้สึกไม่ชอบเธอเช่นกัน
“อย่าปล่อยไปง่ายๆ ล่ะ ที่นี่เป็นอาณาเขตของฉัน เพราะงั้นเธอไม่จำเป็นต้องยั้งมือ!
“ส่วนเรื่องนักศิลปะป้องกันตัวอายุน้อยคนนี้ ฉันคิดว่าฉันควรจะหาคนอื่นดีกว่า ไม่งั้นอันจื่อเฮ่าอาจจะโกรธก็ได้” ในที่สุดหลินเซิงก็รู้ตัวว่าเฉินซิงเยียนเป็นใครและจำได้ว่าเธอมีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนกับอันจื่อเฮ่า
“ถ้าซิงเยียนได้มีโอกาสติดตามพี่ เขาน่าจะมีความสุขมากกว่าด้วยซ้ำ เขาไม่มีทางโกรธหรอก”
เพื่อนสองคนต่างยิ้มให้กันและกัน ขณะนั้นเอง เฉินซิงเยียนลุกขึ้นยืนเพื่อไปห้องน้ำ แต่เมื่อเธอเดินไปถึง ก็พบว่าในนั้นมีคนอยู่
“ฉันเพิ่งนึกได้ นั่นมันเฉินซิงเยียนที่เป็นสตันต์คนที่ทุกคนกำลังพูดถึงไม่ใช่เหรอ มิน่าถังหนิงถึงได้อยู่ข้างเธอ เพราะเด็กคนนั้นมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับอันจื่อเฮ่านี่เอง”
“ใช่แล้ว มีข่าวลือในวงการก่อนหน้านี้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างถังหนิงกับอันจื่อเฮ่าไม่ใช่เหรอ”
“ความสัมพันธ์ของสองคนนั้นเละเทะสุดๆ ทำเอาพูดไม่ออกเลยนะ”
“ที่จริงมันก็ไม่ได้เละเทะขนาดนั้น ให้ฉันอธิบายให้ฟังนะ” นักแสดงสาวสามคนกำลังอยู่ในระหว่างการพูดคุยกันอย่างออกรสภายในห้องน้ำพลางเติมเครื่องสำอาง ทันใดนั้นเอง แอนนี่ก็ก้าวมาอยู่ด้านหลังของพวกเธอพร้อมกับกอดอก “อันจื่อเฮ่ากับถังหนิงเป็นคนรักกันมาตลอด แต่อันจื่อเฮ่าไม่อาจทนความว้าเหว่ได้ เขาเลยมองหาเหยื่อมาตลอด จนสุดท้ายเฉินซิงเยียนก็ติดเบ็ดเขา”
“เธอเป็นใคร ทำไมถึงได้รู้ดีนัก”
“ฉันเป็นใครไม่สำคัญหรอก สิ่งที่สำคัญคือฉันมั่นใจว่าเฉินซิงเยียนกับอันจื่อเฮ่าเคยนอนด้วยกันและฉันรู้ว่าเฉินซิงเยียนถูกบังคับให้ดื่มปัสสาวะหลังจากไปทำให้ใครบางคนไม่พอใจเข้า”
ผู้หญิงทั้งสามคนระเบิดหัวเราะออกมา
“จริงเหรอ”
“จริงร้อยเปอร์เซ็นต์!” แอนนี่พยักหน้า “ผู้หญิงคนนั้นถูกผู้ชายยืนรายล้อม…”
“อย่าบอกฉันนะว่าพวกเขาทำ ‘แบบนั้น’ กับผู้หญิงคนนั้นด้วย…” ผู้หญิงคนหนึ่งถามอย่างสู่รู้
“ใครจะไปรู้ล่ะ ยังไงผู้หญิงคนนั้นก็เป็นโสเภณีสกปรกอยู่แล้วนี่…”
ทันใดนั้นเอง ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกอย่างรุนแรง ก่อนที่สาวๆ จะทันได้เห็นชัดๆ ว่าใครเข้ามาในห้อง แอนนี่ก็ถูกกระชากผมลากไปที่โถชักโครกและกดหัวเธอลงไปในนั้น…
ทุกคนต่างพากันช็อกจนไปกองกันอยู่ที่มุมห้อง และหวาดกลัวจนแทบจะไม่กล้าหายใจ
“เฉินซิงเยียน ปล่อยฉันนะ!”
กระนั้นเฉินซิงเยียนไม่ปล่อยและยังคงกระชากผมของแอนนี่ลากจากห้องหนึ่งไปอีกห้องหนึ่งและกดหัวเธอลงไปในโถชักโครก “จากวันนี้ไป เธอก็จะเป็นผู้หญิงที่กินฉี่”
“ต่อให้แกทำแบบนี้ ฉันก็ยังเป็นเจ้าของบทเรื่อง ‘The Savage Wars’ อยู่ดี แกมันไม่มีอะไรทั้งนั้น”
เมื่อได้ยินคำพูดปั่นหัวเหล่านั้น เฉินซิงเยียนก็อยากจะทำร้ายแอนนี่แต่มีเสียงอันทรงพลังดังขึ้นอย่างฉับพลันจากประตูทางเข้า “ซิงเยียน หยุด!”
ทุกคนหันกลับไปมอง พบว่าถังหนิงที่กำลังตั้งท้องยืนอยู่ที่ประตูทางเข้า
ท่าทีของนักแสดงสาวจอมสอดรู้สอดเห็นทั้งสามเปลี่ยนไปทันที ในขณะที่พวกเธอกำลังจะแอบเดินหนีออกไปนั้นเอง ถังหนิงส่งสายตามองพวกเธอและเชิดคางขึ้นด้วยท่าทางอันภูมิฐานและสง่างาม
ผู้หญิงทั้งสามติดอยู่ภายใต้ความกดดันขณะที่พวกเธอรีบกล่าวคำขอโทษ “ขอโทษนะคะ พวกเราจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”
“แต่… ฉันได้ยินทุกอย่างที่เธอพูดหมดแล้ว…”