วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 661 ถังหนิงผู้ ‘ฆ่าไม่ตาย’ !
ผู้กำกับแมตต์เอามือเท้าคางมองดูการสัมภาษณ์ของแอนนี่บนหน้าจออย่างครุ่นคิด
“ผู้กำกับ ทำไมเราไม่มองข้ามคำขู่ของถังหนิงไปเสียล่ะครับ”
“ไม่ได้!” ผู้กำกับแมตต์ปัดมือใส่ผู้ช่วยของเขา “ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะทำแบบนั้น”
“แต่ตอนนี้ทุกคนต่างลือกันว่าถังหนิงดีแต่ปากเท่านั้นแต่ไม่เคยลงมือทำอะไร”
“ไม่ ไม่ได้!” แมตต์ตะโกน “อย่าถูกเปลือกนอกหลอกเอาได้ การเคลื่อนไหวนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งในแผนของถังหนิง ฉันไม่เคยเห็นข่าวบันเทิงข่าวไหนใกล้เคียงความจริงเลยสักครั้ง อีกอย่างพวกนั้นประกาศจุดยืนชัดเจนแม้ข่าวบันเทิงจะสนใจแค่ผลลัพธ์เพียงอย่างเดียวก็เถอะ คนพวกนั้นมีเรื่องดีๆ ในมือ แต่ทำไมถึงไม่ออกมาใส่สีตีไข่เพื่อสร้างความให้สาธารณชนล่ะ
“ฉันไปมีเรื่องกับไห่รุ่ยและถังหนิงเพราะนักแสดงหญิงธรรมดาไม่ได้หรอกนะ”
ผู้ช่วยคนนั้นเห็นด้วยกับเหตุผลเข้าใจได้ของแมตต์ เพราะแอนนี่ทำตัวสะเพร่าเกินไป แค่เพราะถังหนิงไม่เคลื่อนไหว เขาก็เกือบคิดไปเองว่าเธอก็เป็นแค่คนธรรมดาสามัญทั่วไป
แอนนี่ไปเอาความมั่นใจขนาดนี้มาจากไหนกัน
…
“แอนนี่มันไร้สมองจริงๆ” ณ ไฮแอทรีเจนซี หลงเจี่ยกำลังอารมณ์ดีเพราะลู่เช่อกลับมาแล้ว “แต่สิ่งที่คุณทำส่งผลกระทบกับเฉินซิงเยียนเยอะน่าดูเลยนะคะ ตอนนี้เด็กนั่นต้องรู้สึกผิดอยู่แน่ๆ ฉันว่าคุณน่าจะหยุดได้แล้วมั้ง”
“ฉันคิดหาวิธีแก้แค้นไว้ให้ตั้งหลายอย่าง แต่เด็กคนนั้นกลับเดินหุนหันเข้าไปทำร้ายศัตรูโดยไม่คิดถึงหลินเซิงหรือฉันเลย แล้วจะให้ฉันปล่อยให้เด็กคนนั้นลอยคอสบายใจอยู่ได้ยังไง ถ้าฉันได้รับผลกระทบคนเดียวฉันก็คงปล่อยเรื่องนี้ไป แต่นี่มันงานอีเวนท์ของเซิงเกอ โชคดีแค่ไหนแล้วที่เซิงเกอไม่เอาเรื่อง
“เธออาจจะพูดห้ามฉันได้ไม่ยาก แต่ฉันแน่ใจว่าเธอคงได้ยินแล้วว่าเฉินซิงเยียนกดหัวแอนนี่ลงไปในโถชักโครกยังไง”
“คุณอยากเห็นเด็กคนนั้นได้แก้แค้นสินะคะ
“ฉันต้องยอมรับเลยว่ายัยเด็กนี่เจ๋งเอาเรื่อง กดหัวคนอื่นลงโถชักโครกได้นี่สร้างสรรค์น่าดู”
“ไม่ใช่แค่กดหัวแอนนี่ลงโถชักโครกนะ เด็กนั่นยังพูดด้วยว่า ‘จากวันนี้ไป แกจะได้เป็นผู้หญิงที่กินขี้ด้วยเหมือนกัน’ ” ถังหนิงกลอกตาโดยไม่รู้ว่าเธอควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี ถังหนิงอดสงสัยไม่ได้ว่าเฉินซิงเยียนไปได้นิสัยเลือดร้อนแบบนี้มาจากไหน
“จริงเหรอคะ ฮะๆๆ …” หลงเจี่ยระเบิดหัวเราะออกมา “เด็กคนนี้เป็นอัจฉริยะ!”
ถังหนิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเช่นกัน
“การแก้แค้นของเด็กคนนี้ไม่เลวเลย ตอนนี้ฉันอยากจะเห็นสีหน้าของแอนนี่จังค่ะ ต่อให้ต้องดูอีกเป็นล้านปีฉันก็ไม่มีวันเบื่อฉากคนโดยฉีกหน้าแบบนี้” แม้หลงเจี่ยจะเคยได้ยินมาแล้วว่าแอนนี่กลายเป็นตัวตลกแค่ไหน เธอก็ยังหวังว่าถังหนิงจะออกมาแก้ต่างทุกอย่างโดยเร็ว เพราะในเวลาที่แอนนี่กำลังหยิ่งผยองแบบนี้ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุด
“ทำไม่ยากหรอก”
เป็นไปตามคาด ทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นล้วนเป็นส่วนหนึ่งในแผนของถังหนิง เป็นแค่เกมจิตวิทยาเท่านั้น
ดังนั้นแอนนี่จึงไม่มีคู่ต่อสู้ที่ยากจะรับมือ
แม้จะมีพยานรู้เห็นว่าเฉินซิงเยียนทำร้ายแอนนี่ในคืนนั้น แต่หญิงสาวทั้งสามก็ไม่กล้าพอที่จะออกมาพูดอะไร ดังนั้นคนที่ปล่อยข่าวพวกนี้ออกมาจึงเป็นถังหนิงอย่างแน่นอน
สิ่งที่เธอเปิดเผยคือสิ่งที่เธอได้เห็นด้วยตาตัวเอง
หลังจากนั้น…
‘ข่าวใหม่ นี่คือผลที่เหยื่อสมควรได้รับ’
‘ความจริงเบื้องหลังการถูกกดทิ่มชักโครกของแอนนี่’
ผ่านช่วงเวลาเที่ยงวันไปได้ไม่นาน ก็มีข้อมูลใหม่เพิ่มเติมให้กับข่าวฉาวดังกล่าว พยานทั้งสามคนออกมาพูด อันดับแรก พวกเธอยอมรับว่าพูดเธอทำผิดที่นินทาคนอื่นในห้องน้ำ หลังจากนั้นพวกเธออธิบายว่าแอนนี่ถูกทำร้ายเพราะพูดใส่ร้ายถังหนิงต่อหน้าพวกเธอ
“เธอใส่ร้ายเฉินซิงเยียนด้วยการเรียกอีกฝ่ายว่า’ โสเภณีสกปรก’ แถมยังบอกว่าเฉินซิงเยียนถูกบังคับให้กินปัสสาวะด้วย!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น บรรดาสื่อต่างเข้าใจว่าทำไมเฉินซิงเยียนถึงบอกว่าแอนนี่ก็เป็นคนที่ได้กินอุจจาระด้วย
“ฉันรู้สึกว่าทั้งสองคนต้องมีเรื่องบาดหมางมากๆ อยู่แน่ๆ อีกอย่างด้วยความที่แอนนี่รู้เรื่องเยอะมาก อาจหมายความว่าเธอเป็นคนวางแผนโจมตีเฉินซิงเยียนก่อนก็ได้”
“ถ้าฉันอยู่ในจุดเดียวกับเฉินซิงเยียน ฉันก็คงยับยั้งชั่งใจได้ยากเหมือนกัน”
“ถ้างั้น ถังหนิงได้พูดอะไรในเหตุการณ์บ้างคะ” นักข่าวถาม
“ถังหนิงพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับว่ากรรมตามสนองยังไม่สาสม” หญิงสาวตอบหลังจากนึกย้อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “พูดตามตรง แอนนี่ปากมากเกินไป พวกเราเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดและไม่มีการเตะหรือต่อยอะไรอย่างที่แอนนี่พูดเลย เธอแค่ถูกกดลงชักโครกสองครั้งเท่านั้น”
“เป็นความจริงค่ะ เราทนถูกประณามอยู่ลึกๆ ไม่ได้ ดังนั้นพวกเราเลยหวังว่าทุกคนจะให้อภัย”
เพราะการออกมาชี้แจงของพยานทั้งสามคน ทำให้เรื่องราวเริ่มเปลี่ยนไป
เดิมทีทุกคนต่างกล่าวหาว่าเฉินซิงเยียนไร้สมอง แต่หลังจากได้ยินคำพูดของพยานทั้งสามคน ทุกคนแค่รู้สึกว่าเฉินซิงเยียนเป็นแค่นักแสดงหน้าใหม่ที่หุนหันไปหน่อยเท่านั้น
[ถึงจะอารมณ์ร้อนไปหน่อย แต่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรนะ!]
[ปากมากแบบนั้น ไม่แปลกที่แอนนี่จะโดนกดหัวลงชักโครก!]
[ฉันอยากบอกว่าเฉินซิงเยียนทำดีแล้ว]
แอนนี่ออกมาร้องห่มร้องไห้ต่อหน้าสื่อหลายต่อหลายครั้ง พยายามอย่างหนักในการสร้างภาพ แต่เธอกลับไม่เคยนึกเลยว่าในระยะเวลาเพียงแค่ครึ่งวัน ทุกอย่างจะกลับตาลปัตรอย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนต่างรู้ถึงคำพูดที่เธอใช้รังแกเฉินซิงเยียนอย่างรวดเร็ว
นี่คือถังหนิงผู้ ‘ฆ่าไม่ตาย’ เธอพูดถึง!
[แอนนี่ ในที่สุดเธอก็เข้าใจ ‘ความอ่อนโยน’ ของถังหนิงแล้วสินะ] ความเห็นบทโลกออนไลน์หยอกล้อเธอ [สำหรับถังหนิงแล้วการจัดการกับเธอมันง่ายยิ่งกว่าบี้มดเสียอีก]
…
หลังได้เห็นข่าว แอนนี่ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า
ไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าเธอจะได้รับโอกาสสักครั้ง แต่เฉินซิงเยียนกลับเปลี่ยนทุกอย่างจากหน้ามือเป็นหลังมือ น่าหงุดหงิดจริงๆ!
หลังจากระบายความโกรธแล้ว แอนนี่ก็หยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาโทรหาผู้ช่วยของผู้กำกับแมตต์ “คุณผู้ช่วยคะ เมื่อไหร่ ‘The Savage Wars’ ถึงจะจัดการแถลงข่าวงั้นเหรอคะ”
ทันทีที่ผู้ช่วยคนนั้นรู้ว่าเป็นแอนนี่ เขาก็เอามือปิดไมค์และบอกกับผู้กำกับแมตต์ “แอนนี่โทรมาครับ”
“เปิดโหมดลำโพง” แมตต์สั่ง
“เออ… เรากำลังจะจัดแถลงข่าวเร็วๆ นี้ครับ” ผู้ช่วยคนนั้นตอบ “คุณถามทำไมงั้นเหรอ”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันแต่อยากยืนยันวันแถลงข่าว ฉันจะได้เตรียมชุดไปร่วมงานวันนั้น”
ผู้ช่วยคนนั้นอยากบอกเธอว่าไม่จำเป็นต้องแต่งตัวให้ดูดีนักก็ได้ เพราะต่อให้ไม่มีใครแย่งบทนี้ ก็เป็นเพียงบทตัวร้ายและไม่ใช่บทนำ ดังนั้นเธอจึงไม่จำเป็นต้องทุ่มเทอะไรมากนัก
แต่แมตต์ส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายควบคุมตัวเอง
ดังนั้นผู้ช่วยคนนั้นจึงกระแอมและตอบอีกฝ่ายในสาย “เยี่ยมเลย แต่งตัวมาดีเลยนะครับ”
“โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะคุณผู้ช่วย”
แอนนี่รู้สึกโล่งใจด้วยความคิดไปเองของตัวเอง
แต่แมตต์และผู้ช่วยของเขากลับได้รับรู้ว่าแอนนี่นั้นมั่นใจในตัวเองมากแค่ไหน
ด้วยเหตุนี้ วันนั้นจึงผ่านไปได้อย่างสวยงาม ภายในห้องทำงานประธานไห่รุ่ย ลู่เช่ออดไม่ได้ที่จะกว่าวถึงบางอย่าง “วันนี้… คุณผู้หญิงเธอ…”
“ฉันรู้” โม่ถิงตอบ “จับตาดูอารมณ์ของหนิงให้ดี ถ้าเธอต้องการอะไรก็ช่วยจัดเตรียมให้เธอทันที เรื่องนี้ช่วยแก้เบื่อให้ถังหนิงได้ดีทีเดียว”
กลับกลายเป็นว่า เหตุผลเดียวที่โม่ถิงปล่อยให้แอนนี่ออกมาสร้างความปั่นป่วนก็เพราะเขาคิดว่าถังหนิงต้องการทำอะไรแก้เบื่อ!
แม้โม่ถิงจะเอ็นดูและรักใคร่ภรรยาของเขามาตลอด…
… แต่เขาก็จำเป็นต้องกำหนดเส้นแบ่งให้ทุกวัน!