วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 747 จุดเปลี่ยน
ในความเป็นจริงแล้ว ถังหนิงเพียงแค่ไม่รับบทนี้เท่านั้น ในขณะที่เฉินเฟิงและอันจื่อเฮ่าต่างหากที่ทุ่มเทไปมากมายกับละครเรื่องนี้ ดังนั้นการถอนตัวของทั้งคู่จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง กระนั้นพวกเขาต่างก็มีขีดจำกัดของตัวเองที่ชัดเจน
แน่นอนว่าทั้งสองคนไม่มีใครตกอยู่ในจุดที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบถังหนิง ตอนนี้ถังหนิงกำลังอยู่ในสถานะที่ต้องการงานสักอย่างหนึ่งมาพิสูจน์คุณค่าของเธอ ดังนั้นเมื่อไป๋อวี๋รู้ว่าอยู่ๆ ถังหนิงก็ตัดสินใจถอนตัวออกจาก ‘ชายาหนิง’ เธอจึงคิดว่าถังหนิงต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ เพราะในวงการนี้งานที่รับรองความก้าวหน้าได้แบบแน่นอนเช่นนี้เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง แต่ถังหนิงกลับทำให้ทีมผู้จัดไม่พอใจถึงขนาดนี้…
ทุกคนต่างวิตกกังวล โดยเฉพาะบรรดาแฟนคลับ แต่ไม่ว่าพวกเขาจะกังวลแค่ไหน ถังหนิงก็จะไม่มีวันรับบทเว้นเสียแต่มันจะดีพอ
ขณะเดียวกัน ละครเรื่อง ‘ชายาหนิง’ มีความคืบหน้าไปมาก ไม่นานหลังจากไป๋อวี๋ตกลงเข้าร่วมงาน พวกเขาก็เริ่มปล่อยภาพนักแสดงในชุดแต่งกายและเริ่มต้นการถ่ายทำทันที ดูราวกับว่าพวกเขากำลังพยายามจะสื่อว่าต่อให้ถังหนิงเกิดเปลี่ยนใจ ก็ไม่มีที่สำหรับถังหนิงอีกแล้ว ในเวลาแบบนี้ ไป๋อวี๋ได้ออกความเห็นเกี่ยวกับเหตุดราม่าในครั้งนี้ระหว่างการให้สัมภาษณ์หนึ่ง “ทุกคนให้ความหมายของคำว่าคุณภาพต่างกันค่ะ ฉันคิดว่าผู้เขียนบทได้เขียนมันขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว ฉันคิดว่าทุกคนควรเคารพงานของคนอื่นนะคะ หรือต่อให้ไม่เคารพอย่างน้อยก็ควรไม่ออกมาวิจารณ์การตัดสินใจของทีมงาน”
ไป๋อวี๋เลือกใช้คำพูดได้อย่างชาญฉลาด ภายนอกดูเหมือนเธอจะกำลังชื่นชมบรรดาทีมงานและผู้เขียนบทที่ทุ่มเททำงานอย่างนัก แต่เธอก็ยังพุ่งประเด็นถึง ‘ใครบางคน’ ที่ตั้งความหวังของตัวเองเอาไว้สูงส่งและเรียกร้องมากเกินไปด้วย เธอไม่จำเป็นต้องพูดทุกคนก็รู้ว่าเธอกำลังพูดถึงใคร ถังหนิงนั้นเอง เธอรู้สึกว่าถังหนิงไม่เคารพการทุ่มเททำงานหนักของคนอื่น!
“ส่วนเรื่องที่บอกว่าจะรับแต่บทที่มีคุณภาพเท่านั้น ฉันรู้สึกว่านักแสดงที่ดีไม่ควรจะเรื่องมากนะคะ นักแสดงควรจะสามารถแสดงบทอะไรก็ได้ นั่นถือเป็นการฝึกฝนตนเองอย่างเหมาะสมในฐานะนักแสดง”
ทันทีที่คำพูดของไป๋อวี๋ถูกเผยแพร่ แม้จะฟังดูสมเหตุสมผลแต่ก็ถือเป็นการประกาศสงครามระหว่างเธอกับถังหนิงทันที
ผลลัพธ์คือเธอทึกทักเอาเองว่าถังหนิงกำลังอยู่ที่บ้านด้วยความหวั่นวิตก
แต่ในความเป็นจริงนั้น ถังหนิงไม่แม้แต่จะใส่ใจด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายทำอะไร
ไป๋อวี๋พูดอะไรงั้นเหรอ
ท่ามกลางบทมากมายในมือของไห่รุ่ย โม่ถิงพยายามเลือกบทที่ดูมีศักยภาพและน่าจะทำให้เติบโตได้ แต่กลับไม่มีบทใดที่เหมาะสมกับถังหนิงเลย ขณะที่ถังหนิงไม่มีงานอะไรในมือและพยายามที่จะปรากฏตัวออกไปพิสูจน์สถานะปัจจุบันของตัวเอง ทำให้แม้บรรดาแฟนคลับของเธอจะอยากเข้าข้างแต่พวกเขาก็ไม่มีความมั่นใจ
นั่นเป็นตอนที่มีสายโทรศัพท์ดังขึ้นในห้องทำงานประธานของไห่รุ่ย
นักเขียนที่มีชื่อว่าถังเซี่ยวได้โทรเข้ามาเพื่อบอกว่าเธอมีนิยายในมือชื่อ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ ซึ่งเธอได้นำมาปรับปรุงเป็นบทละครที่จดสิทธิบัตรแล้วและต้องการเชิญให้ถังหนิงมาเล่นบทนางเอกของเรื่อง
เธอเป็นแฟนคลับของถังหนิง จนถึงขนาดใช้นามสกุลถังในนามปากกา เธอบอกโม่ถิงว่าเธอยังคงทำงานเขียนเพราะได้กำลังใจจากถังหนิงและเธอมาถึงจุดที่เธออยู่ทุกวันนี้ได้เพราะถังหนิงเช่นดัน ดังนั้นเธอจึงรู้สึกว่าถึงเวลาที่เธอจะได้ตอบแทนถังหนิงแล้ว
ดังนั้นโม่ถิงจึงบอกให้ลู่เช่อหาข้อมูลเกี่ยวกับ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ ทันที
ผลที่ได้น่ะเหรอ แม้แต่ลู่เช่อยังต้องอึ้งกับข้อมูลที่พบ
ตอนนี้นิยายเรื่องดังกล่าวได้รับความนิยมอันดับหนึ่งของนิยายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดหลายเจ้าของจีนและมียอดวิวกว่าพันล้านวิว นักเขียนได้รับการเสนอเงินจำนวนมหาศาลจากค่ายหนังหลายค่าย แต่ถังเซี่ยวไม่เคยใจอ่อนเพราะเธอฝันว่าสักวันหนึ่งนักแสดงในดังใจของเธอจะร่วมแสดงในหนังที่ปรับจากนิยายเรื่องนี้ ดังนั้นเธอจึงไม่ยอมขายลิขสิทธิ์ให้ใครเลยจนถึงตอนนี้ เมื่อโอกาสที่ไม่คาดฝันได้มาถึง
“ท่านประธานครับ นิยายเรื่องนี้มีมูลค่ามาก ที่สำคัญที่สุดคือตัวนิยายเองก็มีมาตรฐานสูงและทุกส่วนสามารถล้มล้างคำวิพากวิจารณ์ได้จนหมดสิ้น ชัดเจนว่านักเขียนคนนี้มีพรสวรรค์มากจริงๆ ครับ
“ที่จริงเธอถึงขนาดเขียนบทด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องใช้นักเขียนบทเลย ผมลองตรวจสอบดูแล้ว เห็นว่ามันสมบูรณ์แบบทีเดียวครับ”
ลู่เช่อรู้สึกตื่นเต้น จะมีใครปฏิเสธงานแบบนี้ได้อย่างไรกัน
โม่ถิงรับบทมาและเปิดดูที่หน้าแรก
เรื่องราวของละครเรื่องนี้ไม่ได้เปิดมาแบบเนิบนาบหรือน่าเบื่อ ที่จริงผลงานของถังเซี่ยวมักจะตื่นเต้นและน่าประทับใจเสมอ
ฉากแรกเริ่มต้นด้วยองค์จักรพรรดิแห่งราชวงศ์หลานกำลังถามนางเอกว่าทำไมเธอถึงเป็นแม่ของเขา เพราะเขาดันโชคร้ายที่ตกหลุมรักเธอและชื่นชมในตัวเธอ
ในความเป็นจริง นางเอกมีอายุมากกว่าองค์จักรพรรดิเพียงสามปีเท่านั้น และด้วยว่านางเป็นพระสนมของจักรพรรดิองค์ก่อนและได้รับคำสั่งให้ดูแลเขา ในขณะเดียวกัน ที่จริงแล้วนางเอกนั้นมาจากโลกอนาคต จึงต้องทำหน้าที่นางสนมไปพร้อมกับการซ่อนความสามารถที่แท้จริงของนางเอาไว้
หลังจากได้อ่านเพียงส่วนสั้นๆ ของบทละคร โม่ถิงก็ปิดบทลงและพูดกับลู่เช่อ “ไม่ว่าจะต้องทำยังไง เราต้องได้ละครสิทธิบัตรเรื่องนี้”
ถังหนิงได้รับบทละครหลังจากนั้น ทันทีที่เธอมองดูบทละครนั้น เธอตกหลุมรักการออกแบบของมันทันที นอกจากส่วนของความรักต้องห้ามแล้ว ความรู้เกี่ยวกับความยุติธรรมและรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งปรากฏในงานเขียนของถังเซี่ยวก็มีความเป็นมืออาชีพมากจนนักนิติวิทยาตัวจริงยังให้การยอมรับ
หลงเจี่ยได้ทราบข่าวเรื่องนี้หลังจากนั้นไม่นาน ทันทีที่เธอได้ยินเรื่องนี้ ก็ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ “คุณพระ ฉันเคยอ่านนิยายเรื่องนี้ตอนมีเวลาว่าง ให้ตายสิ นี่คุณกำลังจะเล่นเป็นชิงหลาน นางเอกสุดที่รักของฉัน ฉันจะบอกอะไรให้นะคะ นิยายเรื่องนี้สนุกสุดๆ เลย ถ้าคุณไม่อ่านแล้วจะเสียใจ!”
นี่ถือเป็นความประหลาดใจที่ดีใช่ไหมนะ
อยู่ๆ ถังหนิงก็หัวเราะออกมา
หลงเจี่ยพอจะเดาความรู้สึกของถังหนิงในตอนนี้ได้ ดังนั้นเธอจึงรีบถาม “นี่คือผลของความดีต่างๆ ที่คุณเคยทำมาไงล่ะคะ ความจริงจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าทุกก้าวที่คุณเลือกมันถูกต้องแล้ว พระเจ้า ฉันรอดูไม่ไหวแล้วค่ะ!”
นี่ทำให้ถังหนิงรู้สึกขอบคุณนักเขียนคนนี้อย่างสุดซึ้ง ที่จริงเธอบอกโม่ถิงให้เชิญถังเซี่ยวมาที่บ้านของพวกเขา เพราะพวกเขาต้องการหารือเกี่ยวกับบทแบบตัวต่อตัวและทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ถังเซี่ยวรู้สึกตื่นเต้นที่ได้รับเชิญ แม้เธอจะตระหนักดีว่าถังหนิงอาจไม่รู้จักเธอหากไม่มี ‘หวงเฟยยอดสตรี’ แต่การได้ใกล้ชิดกับนักแสดงในดวงใจเช่นนี้ทำให้เธอรู้สึกโชคดีสุดๆ
ด้วยความที่ตัวบทละครเองก็ดีอยู่แล้ว โม่ถิงจึงรีบจัดการประชุมระดับผู้บริหารและยืนยันว่าไห่รุ่ยจะลงทุนในละครเรื่องนี้และจะเชิญเฉินเฟิงมาเป็นผู้กำกับ
พนักงานระดับบริหารแทบทุกคนเห็นด้วยกับการตัดสินใจนี้และยินดีให้โม่ถิงดำเนินการต่อได้เลย
ทีมงานถูกจัดตั้งขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยการสนับสนุนของไห่รุ่ย ในขณะเดียวกันเฉินเฟิงก็ได้รับบทละครจากโม่ถิง ทันทีที่เขาเห็นบทดังกล่าว เขาก็รีบโทรหาโม่ถิงและตกลงที่จะเซ็นสัญญาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ดูเหมือนเขาจะตื่นเต้นมากกว่าคนอื่นๆ เสียอีก
ใช้เวลาไม่นาน ตำแหน่งหลักๆ ในทีมงานก็ครบถ้วนและการคัดตัวนักแสดงได้เริ่มต้นขึ้น
แต่ถังหนิงบอกโม่ถิงว่าเธอต้องการคุยกับนักเขียนก่อน
ถังเซี่ยวนั้นมีพรสวรรค์ เธอน่าจะมีนักแสดงอยู่ในใจแล้ว จึงน่าจะฟังคำเสนอแนะของเธอก่อน
นั่นทำให้โม่ถิงรีบจัดการเชิญถังเซี่ยวและส่งลู่เช่อไปรับเธอมายังไฮแอทรีเจนซีถึงหน้าประตูบ้านของถังหนิงด้วยตัวเอง
ก่อนที่ถังหนิงจะได้พบถังเซี่ยว เธอคิดว่าถังเซี่ยวเป็นผู้ชาย แต่เมื่อหญิงสาวหน้าตาดีมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอ ถังหนิงก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ถังเซี่ยวนั้นทั้งมีพรสวรรค์และชวนให้ประหลาดใจ
“ตายแล้ว ถังหนิง คุณสวยจังเลย…” ถังหนิงทำให้ถังเซี่ยวประหลาดใจไม่แพ้กัน “คุณไม่เหมือนกับที่เขาลือกันเลย คุณไม่เห็นอ้วนเลยสักนิด!”