วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 818 อย่ามากวนประสาทฉันนะ!
“น่าเสียดายเป็นบ้าที่ไม่มีนายอยู่ด้วย นายรู้ไหมว่ฉันอยากให้นายกลับเข้าวงมากแค่ไหน ถ้าแบบนั้นพวกเราจะได้มีใครสักคนไว้ให้แกล้งไงละ ฮะๆๆ …”
ลัวเซิงยังคงยิ่งเงียบ แต่ไม่ได้ประสาทเสีย เขาคว้าคอเสื้อของชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามและตะโกนลั่น “อย่ามากวนประสาทฉันนะ!”
ทุกคนต่างหวาดกลัวการระเบิดอารมณ์ของลัวเซิง รวมถึงบรรดาสมาชิกในวงที่เพิ่งจะกล่าวเยาะเย้ยเขาเมื่อครู่ด้วย
แม้จะยังมีคนที่อยากสร้างปัญหาให้เขาอยู่ ทว่าคนพวกนั้นต่างกลัวแววตาขู่อาฆาตของลัวเซิง…
มันเป็นสายตาที่พร้อมจะสับใครบางคนเป็นชิ้นๆ หากคนผู้นั้นกล้าที่จะพูดอะไรออกมาอีกแค่คำเดียว มันเป็นสายตาที่แสดงว่าเขาไม่หวาดกลัวอะไรทั้งนั้น
“เฮ้ นั่นลัวเซิงนี่ ไม่ได้เจอกันหลายวันดูเหมือนนายจะเปลี่ยนไปนิดหน่อยนะ” ขณะนั้นเองผู้จัดการของเอสเอ็มวายได้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าทุกคน เมื่อได้เห็นท่าทางอันทรงพลังของลัวเซิง เธอก็ถูกหน้าตาอันหล่อเหลาของเขาดึงดูดอย่างไม่อาจต้านทานได้
เขาหล่อมากจริงๆ โชคร้ายที่เขาทำตัวไม่ดี
“ผมมายกเลิกสัญญา” ลัวเซิงกล่าวกับผู้จัดการของเขา
“ยกเลิกสัญญา?” ได้ยินเช่นนั้นทุกคนเริ่มหัวเราะ “ฮ่าๆๆ นี่ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหมเนี่ย นายอยากยกเลิกสัญญางั้นเหรอ นายเตรียมเงินชดเชยสามสิบล้านเหรียญมาหรือยังล่ะ นายคงไม่ได้คิดจะใช้กล้ามเนื้อหนาๆ นั้นมาต่อรองอะไรหรอกนะใช่ไหม”
ทุกคนมองลัวเซิงอย่างเย้ยหยัน
หมอนี่เป็นแค่ลูกชายเจ้าของร้านเล็กๆ ไม่ใช่เหรอ ต่อให้เปิดร้านเล็กๆ นั่นไปอีกสิบชาติก็ไม่มีวันหาเงินสามสิบล้านเหรียญได้หรอก
เวลานี้ ลัวเซิงมองหน้าทุกคนก่อนหยิบเช็คฉบับหนึ่งขึ้นมา “ผมต้องการยกเลิกสัญญาเดี๋ยวนี้”
ผู้จัดการมองเช็คฉบับนั้นและท่าทีของเธอเปลี่ยนไป “นี่นายไปเจอนายทุนมางั้นเหรอ”
“จะนายทุนแบบไหนก็ดีกว่าขายตัวเองให้พวกคุณ” ลัวเซิงประกาศชัด “คุณต้องการเงินสามสิบล้านนี่หรือเปล่า ถ้าไม่เอางั้นผมกลับละ”
หลังต่อต้านบอสใหญ่ของบริษัท ลัวเซิงก็ถูกแบนจากวงการนี้ตลอดชีวิต พวกเขาทุ่มเงินจำนวนมหาศาลในการสร้างลัวเซิงขึ้นมา หากเธอสามารถกู้คืนเงินจำนวนนั้นมาจากลัวเซิงได้สักหน่อยแล้วละก็ เธอคงนอนยิ้ม แล้วเรื่องอะไรที่เธอจะไม่คว้าโอกาสนี้ไว้
“ก็ได้ มายกเลิกสัญญากันเดี๋ยวนี้เลย”
ผู้จัดการคนนั้นต่อต้านเล็กน้อย เธอรู้สึกว่าใครก็ตามที่เซ็นสัญญากับเธอล้วนแต่เป็นพวกโง่เง่าทั้งนั้น
สามสิบล้าน!
ลัวเซิงไม่ได้มีค่ามากมายขนาดนั้น
แต่ด้วยเงินก้อนนี้ เธอสามารถฝึกคนขึ้นมาได้มากกว่าเดิม ซึ่งดีกว่าการถือขยะไร้ประโยชน์อย่างลัวเซิงไว้ในมือ
หลังผ่านไปครึ่งชั่วโมง ผู้จัดการคนนั้นก็ทำตามขั้นตอนต่างๆ และเซ็นเอกสารยกเลิกสัญญาระหว่างเอเจนซี่กับลัวเซิง นับจากนี้ไปลัวเซิงเป็นอิสระ
หลังจากเซ็นเอกสาร ลัวเซิงก็ลุกขึ้นกำลังจะเดินออกจากห้อง ทว่า… อดีตผู้จัดการของเขาเรียกเขาเอาไว้ “ตอนแรกฉันคิดว่าด้วยความดื้อด้านแบบนั้น นายจะไม่มีวันได้เป็นอะไรสักอย่าง ฉันไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเป็นแบบนี้ ลัวเซิง นายต้องเข้าใจผลที่ตามมาของการลาออกจากเอเจนซี่นี้ไว้ด้วยนะ นายควรจะเตรียมตัวรับมือเอาไว้ให้ดี”
“ผมจะทำให้คุณมองเห็นผมในมุมที่ต่างจากเดิม” พูดจบ ลัวเซิงก็หันหลังเดินออกจากเอเจนซี่ไร้มนุษยธรรมแห่งนั้น เอเจนซี่ที่ทำให้เขารู้สึกสะอิดสะเอียนเต็มทน
คุณนายลัวเป็นพยานรู้เห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
ในขณะนั้น เธอรู้สึกว่าไม่ว่าลัวเซิงจะวางแผนทำอะไร การที่เธอปล่อยให้ลูกของเธอได้รับความยุติธรรมนั้นเป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าเธอเป็นคนดีพอ
หลังจากนั้น แม่ลูกทั้งสองกลับมาที่บาร์ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน
หลงเจี่ยสังเกตเห็นแผ่นอกหน้าที่สั่นเทิ้มของลัวเซิง อารมณ์ของเขายังไม่มั่นคง
“ตอนนี้นายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเอเจนซี่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอีกแล้ว ดังนั้นตอนนี้นายจะได้เซ็นสัญญากับเรา”
ลัวเซิงมองหน้าหลงเจี่ยโดยไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะลงนามลงไป “มาทำเหมือนว่าผมยืมเงินคุณมาสามสิบล้านแล้วกัน ผมยินดีทำทุกอย่างเพื่อชดใช้คืนให้”
หลงเจี่ยชำเลืองตามองชายหนุ่มและมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า สุดท้ายเธอเพียงแค่พูดว่า “นายพูดเองนะ สิ่งแรกที่เราจะทำตอนนี้คือการแปลงโฉมนายใหม่ ยินดีด้วย นายได้เกิดใหม่แล้ว”
หลังจากนั้น ลัวเซิงก็ถูกลากไปยังสตูดิโอแห่งหนึ่งและได้รับการแปลงโฉมใหม่ “ไม่จำเป็นต้องลดน้ำหนักอะไร แค่รักษารูปร่างตอนนี้เอาไว้ก็พอ ใส่เสื้อผ้าสีดำให้มากขึ้น เราจะช่วยเตรียมเรื่องนั้นให้นายนับตั้งแต่นี้ไป”
ลัวเซิงตกตะลึง แม้หลังจากหลงเจี่ยพาเขามาส่งที่บ้าน เขาก็ยังไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร
“มารายงานตัวที่เอเจนซี่พรุ่งนี้ อย่าลืมอ่านรายละเอียดสัญญาให้ดีด้วยล่ะ”
พูดจบ หลงเจี่ยก็เดินทางกลับบ้านของเธอเพื่อดูแลลูกสาว ขณะที่หลินเฉี่ยนตรงไปยังไฮแอทรีเจนซี่
“ลูก ถ้าพวกเขาบอกให้ลูกอ่านสัญญาลูกก็ควรอ่านมันให้ดีนะ” คุณนายลัวย้ำ
ลัวเซิงไม่รีบเพราะเขาไม่ได้หวังอะไรไว้สูง แต่หลังจากที่เขากลับเข้าบ้านและเห็นว่าผู้มีอำนาจลงนามในสัญญานั้นคือถังหนิง เขาก็ตัวแข็งทื่อในทันทีก่อนจะกระโดดตัวลอยออกจากเตียงด้วยความตื่นเต้น
นี่มันถังหนิง… คนที่เป็นภรรยาประธานของไห่รุ่ยนี่
แล้วหลงมั่น…
ลัวเซิงรีบหาข้อมูลออนไลน์ และมันทำให้เขาตระหนักได้ว่าผู้จัดการของถังหนิงตอนที่เธอยังเป็นนางแบบอยู่ที่เทียนอี้มีชื่อว่าหลงมั่น
เป็นไปได้ยังไง
ลัวเซิงหยิกน่องของตัวเองและรู้สึกถึงความเจ็บจี๊ดขณะที่เขากำสัญญาไว้แน่น เขาไม่ได้ฝันไป ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง เขาเซ็นสัญญากับถังหนิง
แต่…
เมื่อไม่นานมานี่ถังหนิงถูกดึงไปเกี่ยวข้องกับการตายของสวี่ซินและถูกกดดันจากวงการบันเทิง แล้วเธอจะมาช่วยเขาได้อย่างไร
คืนนั้นลัวเซิงครุ่นคิดอย่างหนัก แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ได้เซ็นสัญญาไปแล้วและนี่เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขา
แต่กระนั้นตัวเขาในตอนนี้ไม่มีอะไรเลย แล้วถังหนิงจะช่วยให้เขาดังได้ยังไงกัน
…
“ฉันเดาว่าเด็กนั่นคงรู้แล้วว่าคุณเป็นเจ้าของจู้ซิงมีเดีย” หลงเจี่ยหัวเราะผ่านโทรศัพท์ “ตื่นเต้นเป็นบ้าเลย ถังหนิง อยู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่าเราได้กลับไปเมื่อหลายปีก่อนตอนที่เรายังมีไฟกันอยู่เลย”
“เลิกหัวเราะได้แล้ว ตอนนี้ลัวเซิงต้องกำลังสงสัยในตัวพวกเราอยู่แน่ เราต้องช่วยให้เขากลับเข้าวงการอีกครั้ง”
“ฉันจะรอฟังคำสั่งจากคุณค่ะ”
ถังหนิงวางสายโทรศัพท์ เธออุ้มกั่วกั่วเอาไว้พลางเอนตัวเข้าสู่อ้อมกอดของโม่ถิงและจูบลงบนหน้าผากของถังถัง
เมื่อเห็นเช่นนั้น โม่ถิงอดเสนอขึ้นมาไม่ได้ “ทำไมเราไม่ช่วยเปลี่ยนชื่อเล่นให้สองแสบนี่ล่ะ ผมไม่อยากให้พวกเขาเกลียดแม่ตัวเองตอนโตหรอกนะ”
“ชื่อถังกั่วที่แปลว่าลูกอมดีไหมคะ” ถังหนิงถาม
“ฟังดูไม่แมนเลยสักนิด” โม่ถิงหัวเราะ
ถังหนิงคิดอยู่พักหน่อยและตอบ “แต่ทุกคนชินกันหมดแล้วนะ อีกอย่างฉันคิดชื่ออื่นไม่ออกจริงๆ”
“ไม่เห็นยากเลย เราแค่เรียกพวกเขาว่าจื่อเฉินกับจื่อซี”
หลังได้ยินเช่นนั้น ถังหนิงพยักหน้า “ก็ได้ค่ะ ในเมื่อคุณชายโม่คิดว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้วก็มาเรียกพวกเขาด้วยชื่อจริงกันเถอะ”
“ผมอยากให้เด็กสองคนนี้ปกป้องแม่ของพวกเขาตอนที่โตขึ้น ผมไม่อยากให้พวกเขาเป็นลูกแหง่ติดแม่เหมือนคนอ่อนแอ” โม่ถิงกล่าวอย่างรักใคร่
หลังมีลูกชายสองคน ท่าทีตึงเครียดของโม่ถิงเริ่มผ่อนลงโดยไม่รู้ตัว
แต่ถังหนิงตระหนักดีว่านั่นเป็นเพียงภายนอกเท่านั้น
ราชสีห์เพียงแค่กำลังหลับอยู่เท่านั้น แต่มันยังคงเป็นราชันผู้ไม่มีใครโค่นล้มได้อยู่ดี