วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 970 ทรงอำนาจ
“ปู่กำลังจะบอกว่าผมแก้แค้นไม่ได้เหรอ” ประธานฟ่านตัดพ้ออย่างไม่พอใจ “ไม่ยุติธรรมเลย!”
โชคดีที่หลินเฉี่ยนได้เดินทางออกไปที่ช่องเขาแล้ว และถังหนิงคงไม่อาจตามหาตัวเธอเจอได้ในเร็วๆ นี้ นี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่สร้างความสบายใจให้กับเขา
อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าหลินเฉี่ยนได้กลับออกมาที่หมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว
หลังจากมาถึงหมู่บ้าน สิ่งแรกที่เธอได้ยินคือเรื่องที่ลู่เช่อออกตามหาตัวเธอไปทั่วทุกที่ เธอรู้ว่าตัวเองทำผิดกับถังหนิง หากแต่เธอไม่ต้องการให้อีกฝ่ายต้องทุกข์ใจไปกับเธอด้วย
กระนั้นก็ตาม ข่าวที่ว่าหลินเฉี่ยนกลับมาถึงที่พักลอยเข้าหูลู่เช่ออย่างรวดเร็ว เมื่อเขาเห็นหน้าเธอก็โล่งใจได้ในท้ายที่สุด
“คุณรู้หรือเปล่าว่าทำให้เราต้องออกตามหาขนาดไหนน่ะครับ เพราะคุณ คุณผู้หญิงกับประธานฟ่านเกือบจะหันปากกระบอกปืนใส่กันแล้วนะครับ”
“หมายความว่าพี่น้องสองคนนั้นที่ตามฉันมาเป็นคนที่ประธานฟ่านส่งมาเหรอคะ” ในที่สุดหลินเฉี่ยนก็เข้าใจว่าเหตุใดเธอจึงถูกล่อลวงไปในช่องเขา
“คุณคิดว่ายังไงล่ะครับ อย่างน้อยคุณก็ไม่ทำให้เราผิดหวังและยังมีสติแยกแยะได้ ไม่เสียเปล่าที่คุณผู้หญิงปกป้องคุณจริงๆ ”
“แล้วพวกคุณจับตัวพวกเขาได้หรือยังคะ” เธอถาม
“เรารู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหนแล้วครับ คุณอยากจะเล่นกับพวกเขาสักหน่อยไหมล่ะครับ” ลู่เช่อเลิกคิ้วถามขึ้น
“แน่สิคะ” หลินเฉี่ยนขานรับพร้อมเงยหน้าขึ้น เธอไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือไปอย่างแน่นอน ยิ่งพวกเขาพยายามใช้ชื่อของหลี่จิ่นมาหลอกเธอด้วยแล้ว
“ส่วนเรื่องของหลี่จิ่น ไม่ต้องกังวลมากนักนะครับ เราต้องได้ข่าวจากเขาแน่นอน”
“ฉันรู้ค่ะ” หลินเฉี่ยนตอบอย่างมั่นใจ “ฉันสัมผัสได้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ เขาจะต้องยังมีชีวิตอยู่แน่นอนค่ะ”
“ดีครับ อย่างนั้นก็ไปกันดีกว่า ตอนนี้ผู้ชายสองคนนั้นกำลังกินข้าวอยู่ที่ห้องอาหารน่ะครับ” ลู่เช่อเอ่ยพลางปรายตาไปทางห้องอาหาร
“ไปทักทายเขาก่อนแล้วกันค่ะ เดี๋ยวฉันค่อยตามไปนะคะ”
เขาพยักหน้ารับและพาคนของเขาไปยังห้องอาหาร จากนั้นจึงนั่งลงข้างๆ ชายทั้งสองคน “ได้ยินจากเจ้าของที่พักว่าพวกคุณสองคนสะกดรอยตามหลินเฉี่ยนมาสักพักแล้วนี่ครับ”
เมื่อพวกเขาเห็นลู่เช่อก็จำได้ทันที จึงเริ่มหลบสายตา…
“คุณจำคนผิดหรือเปล่าครับ”
“พวกคุณไม่ใช่คนที่หลอกหลินเฉี่ยนเข้าไปในช่องเขาเหรอครับ แล้วไม่ใช่คนที่แสร้งทำเป็นชาวไร่เหรอครับ” ลู่เช่อหัวเราะขณะยกมือกอดอก “ดูเหมือนคนของประธานฟ่านจะไม่ค่อยฉลาดเอาซะเลยนะ”
เมื่อรู้ว่าตัวตนของพวกเขาถูกเปิดโปงแล้ว ทั้งสองก็ไม่ปิดบังอีกต่อไปพร้อมตอบไปอย่างไม่อ้อมค้อม “ขู่เราไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก เราต่างก็ทำงานให้เจ้านายของเรา หลินเฉี่ยนก็เข้าไปในช่องเขาแล้วด้วย ถ้าคุณเก่งนักก็ไปช่วยเธอกลับออกมาสิ ใครจะไปรู้ว่าตอนนี้เธออาจจะโดนสัตว์ป่าคาบไปกินแล้วก็ได้”
“คิดว่าคนของจู้ซิงมีเดียจะไม่มีสมองเหมือนพวกคุณเหรอไง” ลู่เช่อหัวเราะขณะชี้ไปที่ศีรษะของพวกเขา
“คุณกำลังจะพูดอะไรน่ะ”
ลู่เช่อมองไปทางด้านหลังของพวกเขาและพยักพเยิดคางไปอีกทาง “ดูด้วยตาตัวเองสิครับ…”
ทั้งสองหันไปพร้อมกันและเห็นหลินเฉี่ยนเดินมาทางพวกเขาโดยไม่มีร่องรอยการบาดเจ็บแต่อย่างใด
พวกเขาถึงกับตกตะลึงจนตาแทบถลนออกมาจากเบ้า…
“นี่มัน…เป็นไปได้ยังไงกัน”
“ฉันเห็นว่าเธอเดินเข้าไปในช่องเขากับตาของตัวเองแท้ๆ ”
ตอนนี้เองที่เธอเดินตรงไปหาพวกเขาและราดกาแฟเดือดๆ ลงบนศีรษะของพวกเขาอย่างไม่ลังเล “ไอ้เศษสวะ…”
“อ๊าก…”
เสียงคร่ำครวญแทบขาดใจดังก้องไปทั่วโรงแรมขณะที่ทุกสายตาหันมามองเธอและชายสองคนเป็นตาเดียว อย่างไรก็ตามลู่เช่อได้บังพวกเขาเอาไว้พร้อมกับเจ้าของที่พักที่ได้แจ้งกับแขก “ผู้ชายสองคนนี้พยายามจับลูกของคนอื่นไปขายน่ะครับแล้วก็โดนจับได้คาหนังคาเขา”
เมื่อแขกคนอื่นๆ ได้ยินดังนั้นก็ไม่พอใจ พากันเอ่ยซ้ำเติม “คนอย่างนี้สมควรถูกลงโทษแล้ว!”
ด้วยเหตุนี้ชายทั้งสองคนจึงโดนกาแฟลวกและไม่มีใครเข้ามาช่วยพวกเขาสักคน
ในเวลาเดียวกันลู่เช่อรอกระทั่งหลินเฉี่ยนคลายความโกรธก่อนที่เขาจะเรียกรถพยาบาล
“ตอนนี้คุณหายโกรธแล้วใช่ไหมครับ รู้สึกดีขึ้นไหมครับ”
หลินเฉี่ยนก้มหน้าและคิดถึงหลี่จิ่นขึ้นมาในทันใด “ตอนนี้คำว่าดีขึ้นไม่อยู่ในพจนานุกรมของฉันหรอกค่ะ ฉันแค่อยากเห็นว่าเขายังมีชีวิตอยู่เท่านั้น…”
“คุณจะได้เห็นแน่ครับ” เขาตอบพลางตบบ่าเธอ ในจังหวะที่หยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดเครื่อง อยู่ๆ เธอก็ได้รับสายจากหมายเลขปริศนา
เมื่อเธอเห็นดังนั้น ก็กดรับสายอย่างรีบร้อน “หลี่จิ่น นั้นคุณใช่ไหมคะ หลี่จิ่นใช่ไหม”
“พี่สะใภ้ครับ ผมไม่ใช่หัวหน้าครับแต่ก็บอกข่าวดีกับคุณได้ว่าหัวหน้าไม่เป็นไรครับ เขาถูกช่วยชีวิตไว้เมื่อคืน ตอนนี้กำลังถูกพาตัวกลับไปปักกิ่ง พวกเขาส่งตัวเขามาคืนนี้ครับ”
“เขาไม่เป็นไรจริงๆ ใช่ไหมคะ” หลินเฉี่ยนถามย้ำ
“ครับ เขาไม่เป็นไรแต่…เขาคงไม่สามารถกลับบ้านได้สักพักน่ะครับ”
“เขาอยู่ที่ไหนคะ ฉันจะไปหาเขา…”
“กลับมาถึงเดี๋ยวคุณก็จะรู้เองครับ” ปลายสายพึมพำอย่างไม่ได้อธิบายชัดเจนนัก กระนั้นการได้รู้ว่าหลี่จิ่นยังมีชีวิตอยู่ก็นับว่าเป็นข่าวดีที่สุดสำหรับเธอแล้ว
ลู่เช่อที่อยู่ข้างกายเธอได้ยินบทสนทนาทั้งหมดและรู้ว่าหลี่จิ่นยังมีชีวิตอยู่ เขาจึงอดดีใจกับเธอด้วยไม่ได้ “ฟ้าหลังฝนมักงดงามเสมอครับ เห็นไหม สุดท้ายพระเจ้าก็ยังคุ้มครองคนดีอยู่เสมอนะครับ”
“ถ้างั้นเรากลับปักกิ่งกันเลยเถอะค่ะ”
“โอเคครับ ผมจะจัดการให้เดี๋ยวนี้เลย” พูดจบ ลู่เช่อก็หันหลังเดินจากไปทิ้งให้หลินเฉี่ยนอยู่บอกลาเจ้าของที่นัก
เจ้าของที่พักมองหน้าหลินเฉี่ยนก่อนส่งยิ้มให้ “ผมนึกไม่ถึงเลยว่าคุณจะเป็นผู้ช่วยของดาราดังขนาดนี้ ได้ยินมาจากลูกสาวว่าศิลปินของคุณเป็นดาราคนโปรดของเธอด้วย เธอชื่ออะไรนะครับ ถังหนิงใช่ไหม”
“ขอบคุณนะคะ”
“ถ้าคุณอยากจะขอบคุณผมจริงๆ อย่างนั้นก็ช่วยขอลายเซ็นถังหนิงมาให้ลูกสาวของผมเป็นรางวัลที่เสี่ยงชีวิตไปกับคุณแล้วกันครับ”
“ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ เรื่องแค่นี้เอง”
…
ถังหนิงได้ยินข่าวของหลินเฉี่ยนอย่างรวดเร็วและติดต่ออีกฝ่ายได้สำเร็จ
“พี่หนิง ฉันขอโทษจริงๆ นะคะ… ดูเหมือนว่าฉันจะสร้างปัญหาให้คุณตลอดเลยค่ะ”
“เธอเป็นส่วนหนึ่งของจู้ซิงมีเดียนะ เธอเองก็เหมือนครอบครัวของฉัน ไม่ได้ลำบากอะไรเลย” ถังหนิงตอบ “แค่เธอปลอดภัยกลับมาก็พอแล้วล่ะ”
“คุณตั้งตัวเป็นศัตรูกับประธานฟ่านขนาดนี้แล้ว เขาจะใช้วิธีที่รุนแรงกับคุณกว่านี้ไหมคะ” หลินเฉี่ยนเป็นห่วง ด้วยประธานฟ่านนั้นร้ายกาจพอที่จะหลอกเธอให้เข้าไปในช่องเขา จึงเป็นไปได้สูงว่าเขาจะทำเรื่องที่เลวร้ายกว่านี้
“เดี๋ยวเราจะจัดการตอนที่เรื่องเกิดเอง แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าเขาคงไม่มีแรงมาสู้กับฉันหรอก พอแล้วล่ะ ไว้คุยกันต่อตอนที่เธอมาถึงแล้วกันนะ”
หลังจากพูดคุยกันสั้นๆ หญิงสาวทั้งสองก็วางสาย
ในตอนนั้นเองที่หลินเฉี่ยนต้องตื่นตระหนกเมื่อกลับมาถึงบ้าน
…
ในไม่ช้าประธานฟ่านก็รู้ว่าหลินเฉี่ยนไม่ได้ตกหลุมพรางของเขา เมื่อข่าวนี้ลอยมาถึงหู เขาก็โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงจนแทบจะพังข้าวของทุกอย่างในบ้าน
นึกไม่ถึงว่าคนของจู้ซิงมีเดียจะฉลาดจนไม่หลงกลคำลวงของเขาขนาดนี้
ทว่าเขายังคงกังวลว่าภรรยาของตัวเองจะเปิดเผยเรื่องทุกอย่างกับถังหนิง
ทว่าเขาไม่อาจทำสิ่งใดได้ ได้แต่นั่งรอให้ปู่ของเขาจัดการเรื่องนี้
“แค่ครั้งนี้เท่านั้นแหละ ฉันจะไปเจอกับเธอและจะไม่มีครั้งต่อไปเด็ดขาด!” ชายสูงวัยเอ่ยสบถ “ตระกูล่ฟ่านให้กำเนิดคนอย่างแกมาได้ยังไงกัน!”
“แต่เธอคงไม่ตอบรับคำเชิญของปู่หรอก!”
“ฉันมีวิธีของฉัน…ฉันรอดูว่าผู้หญิงคนนี้จะทรงอำนาจแค่ไหนไม่ไหวแล้ว”