วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 991 ให้ผลงานเป็นคำตอบของฉัน
“พวกคุณบางคนคงต้องการโทษฉันว่าเป็นสาเหตุให้คนอื่นเสียชีวิต และทำไมฉันถึงไม่ได้เป็นฝ่ายที่ตายแทน
“ฉันมั่นใจว่าวันนี้คนส่วนใหญ่ในที่นี้กำลังคิดอย่างนั้นและคงอยากให้ฉันตาย” หลังเงียบไปครู่หนึ่ง ถังหนิงเอ่ยต่อ “ฉันเองก็หวังว่าตัวเองจะเป็นคนที่ตายเสียเองเช่นกันค่ะ แต่เรื่องได้เกิดขึ้นผ่านไปแล้ว ฉันจะทำอะไรได้ล่ะคะ
“ฉันรู้ดีว่าแฟนๆ ของซย่าหันโม่เป็นคนที่ทั้งส่งความเห็นในโลกออนไลน์รวมทั้งสิ่งของต่างๆ มาให้ ฉันเห็นหมดแล้วค่ะ
“แต่พวกคุณคาดหวังให้ฉันทำยังไงเหรอคะ อยากให้ฉันกระโดดลงจากชั้นสามของตึกไหมคะ ฉันต้องขอโทษด้วยแต่ฉันคงทำอย่างนั้นไม่ได้…ฉันจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไป คุณจะพอใจหรือไม่ก็แล้วแต่คุณค่ะ แต่ฉันจะยังอยู่ตรงนี้ ไม่ยอมสูญเสียผมสักเส้นเพราะความเกลียดชังของพวกคุณหรอกค่ะ
“ยังไงฉันก็รู้ว่าส่วนใหญ่พวกคุณก็แค่ใช้การเสียชีวิตเป็นข้ออ้างในการกดขี่ข่มเหงฉันอยู่แล้ว ฉันว่ามันคงไม่เป็นการเคารพผู้เสียชีวิตสักเท่าไหร่หรอกนะคะ”
“ขอโทษด้วยค่ะ ถังหนิง แต่ฉันต้องขอขัดสักครู่” นักข่าวสาวคนหนึ่งพลันยกมือขึ้นเอ่ยแทรก
“ทำไมคุณถึงขอโทษก่อนไม่ได้ล่ะคะ ทำไมต้องพูดว่าทุกคนรังแกคุณด้วยคะ”
ถังหนิงจ้องมองรอยยิ้มดูถูกเธอก่อนตอบ “คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่ได้ขอโทษหันโม่คะ คุณรู้เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างนั้นเหรอ คุณรู้ว่าสถานการณ์เป็นยังไงเหรอคะ ต่อให้ฉันจะต้องขอโทษหรือทำอย่างอื่น ก็คงไม่ต้องรายงานให้คุณรู้หรอกค่ะ…ฉันทำอะไรให้คุณล่ะคะ ทำไมฉันต้องขอโทษคุณด้วย”
“คุณคงเป็นแค่คนเดียวที่กล้าพูดจาเย่อหยิ่งขนาดนี้ทั้งที่เพิ่งจะฆ่าคนไป”
“แล้วคุณหวังให้ฉันทำตัวยังไงล่ะคะ” ถังหนิงถามกลับ “หรือคุณต้องการให้ฉันคุกเข่าต่อหน้าคุณ ขอร้องให้คนทั้งโลกให้อภัยอย่างนั้นเหรอ ฉันรู้ว่านั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องการเห็นค่ะ…”
ถังหนิงหัวเราะ
“ถังหนิงคุณก็แค่อวดดีเพราะชื่อเสียงของตัวเองเท่านั้นแหละ”
“ฉันไม่เคยเรียกร้องสิ่งที่เรียกว่าชื่อเสียงแบบนี้เลยนะคะ ถ้าคุณไม่ต้องการให้ฉันมีชื่อเสียงไปมากกว่านี้ก็เชิญออกไปได้เลยค่ะ ประตูอยู่ทางด้านซ้าย”
“ถ้าคุณไม่ได้คิดจะขอโทษแล้วคุณจะจัดงานแถลงข่าวขึ้นมาทำไมคะ เพื่อตอบโต้กับนักเลงคีย์บอร์ดเหรอ”
ถังหนิงปรายตามองเธออีกครั้งก่อนเริ่มพูดประเด็นหลักในวันนี้
“มีเหตุผลบางประการที่ฉันจัดงานแถลงข่าวนี้ขึ้นมาค่ะ ตอนนี้ทางตำรวจกำลังสืบเรื่องของซย่าหันโม่ และฉันมั่นใจว่าคนร้ายจะต้องชดใช้เป็นสิบเป็นร้อยเท่ากับสิ่งที่เขาทำลงไป เพราะฉันเคารพและเชื่อมั่นในกฎหมายค่ะ ในขณะเดียวกันฉันจะก้าวลงจากตำแหน่งในจู้ซิงมีเดียและออกจากไห่รุ่ย แต่ว่าฉันไม่ได้จะถอนตัวจากวงการบันเทิงซะทีเดียวหรอกนะคะ เพราะฉันมีบางอย่างที่สำคัญที่ต้องทำ
“ฉันจะใช้ช่วงชีวิตที่เหลือของฉันในการเติมเต็มความฝันของเฉียวเซินและซย่าหันโม่เพื่อให้พวกเขาพักผ่อนอย่างสงบบนสวรรค์ค่ะ
“รวมถึงฉันจะเข้ามาดูแลรับผิดชอบพี่ชายของซย่าหันโม่
“ฉันจะชดใช้กับความผิดพลาดของตัวเองในอดีต ไม่ว่าคนจะมองฉันยังไงก็ตาม ฉันเองก็หวังว่าจะทำให้พวกเขาฟื้นกลับมาเช่นกันแต่ฉันรู้ว่ามันคงเป็นไปไม่ได้
“ฉันจะทุ่มเทให้สุดความสามารถของฉันค่ะ! …
“ถึงฉันจะรู้ว่าการทำเช่นนี้ไม่ได้ทำให้ความโกรธของพวกคุณน้อยลง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอกค่ะ พวกคุณจะคอยประณามฉันและแฟนๆ จะส่งพวงหรีดมาให้ต่อไปก็ได้ค่ะ ฉันจะไม่ตอบโต้อะไรทั้งนั้น ไม่ว่าฉันจะติดค้างกับใครเอาไว้ ก็ไม่ใช่หนึ่งในพวกคุณแน่นอนค่ะ!…
“ฉันมีเรื่องจะพูดเท่านี้ค่ะ ตอนนี้ฉันจะให้โอกาสพวกคุณถาม 3 ข้อแล้วกันนะคะ” พูดจบถังหนิงก็มองไปทางแฟนๆ ของซย่าหันโม่ เธอหวังว่าคำถามจะมาจากปากของคนที่รักซย่าหันโม่จากใจจริง
อย่างที่เธอคาดหวังไว้ แฟนคนหนึ่งในกลุ่มคว้าไมโครโฟนขึ้นมา “คุณตั้งใจจะเติมเต็มความฝันของซย่าหันโม่จริงๆ เหรอคะ”
“แน่สิ”
“อย่างนั้นคุณรู้เหรอคะว่าความฝันของเธอคืออะไร”
“หลังจากเรื่องของโจวชิง นอกจากการอภัยจากหลินเฉี่ยนแล้ว เธอยังต้องการเงินเพื่อนำไปรักษาตัวพี่ชายของเธอด้วย” ถังหนิงตอบ ครั้นนึกถึงความปรารถนาของซย่าหันโม่ที่เห็นจากทางช่องทางโซเชียลของเจ้าตัว ดวงตาของถังหนิงก็เริ่มแดงก่ำขึ้นมา
“ความปรารถนาแรกของเธอได้รับการเติมเต็มแล้วล่ะค่ะ”
เมื่อได้ยินคำตอบของถังหนิง แฟนๆ ของซย่าหันโม่ก็พยักหน้าให้ “ถังหนิง ฉันจะไม่โทษคุณเพราะฉันเชื่อว่าคุณเป็นคนพิเศษที่สุดในชีวิตของเธอ ครั้งหนึ่งเธอเคยบอกเอาไว้อย่างนั้น ความจริงแล้วหลังจากที่เธอออกจากจู้ซิงมีเดียไป เธอก็ออกมาพูดบ่อยๆ ว่าเธออยากให้คุณยกโทษให้เธอ
“แม้ว่าเธอต้องตายเพื่อแลกกับสิ่งที่เธอต้องการ ฉันก็มั่นใจว่าเธอไม่ได้จากโลกใบนี้ไปอย่างเจ็บปวดอย่างที่ทุกคนคิดกัน
“คุณรู้ความฝันทั้งสองข้อของเธอดี คุณก็คงดูแลเธออย่างดีที่สุดแล้ว ฉันถึงเชื่อว่าคุณเป็นคนที่เจ็บปวดมากกว่าใครๆ กับการจากไปของซย่าหันโม่ เพราะคุณจะโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองไปตลอดชีวิต
“แฟนๆ อย่างพวกเราเพียงแค่ต้องการความเป็นธรรมเท่านั้น และคำตอบของคุณได้มอบมันให้กับเราแล้ว ตอนนี้เราได้รับมันแล้วค่ะ เราไม่เสียใจอีกต่อไปแล้วเหมือนอย่างที่ซย่าหันโม่รู้สึก
“ในฐานะแฟนๆ ของเธอ เราไม่ต้องการให้คนใช้ชื่อของเธอมาสร้างกระแสต่อให้เธอจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตามค่ะ เราหวังว่าเธอจะได้พักผ่อนอย่างสงบและมีศักดิ์ศรีค่ะ”
ถังหนิงมองแฟนคนนั้นก่อนพยักหน้าให้พร้อมน้ำตาที่ไหลรินลงมา
“แฟนๆ ถามไปสองคำถามแล้ว พวกเขายังเหลืออีกหนึ่งข้อ”
“ถังหนิงตั้งแต่ตอนที่คุณประกาศลาวงการการแสดง คุณเองก็มีประเด็นกับสื่อมาตลอด คุณคงเกลียดนักข่าวใช่ไหมคะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ถังหนิงสวนกลับอย่างไม่คิด “ใช่ค่ะ
“ทุกคนมีทั้งด้านดีและเลวร้าย เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็เช่นกันค่ะ จากที่ฉันเห็นโลกใบนี้ไม่มีสิ่งที่ผิดหรือถูกที่แท้จริง จะมีก็แค่ผลประโยชน์เท่านั้น และนักข่าวก็ทำให้ฉันคุ้นเคยกับสิ่งนี้ไปแล้วค่ะ
“ฉันไม่ได้พูดถึงแต่นักข่าวบันเทิง แต่ยังนักข่าวทั่วไปบางคนด้วย
“เพราะพวกคุณไม่รู้จักเคารพความจริงที่เป็นกลางด้วยซ้ำ
“พวกคุณทั้งรุนแรง โหดร้าย นึกถึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง และเหยียบย่ำคนที่อ่อนแออย่างถือดี”
“ถ้าคุณดูถูกพวกเรานัก ทำไมคุณถึงเชิญพวกเรามาที่นี่ล่ะ” ใครบางคนถามขึ้น
“เพราะฉันยังมีความหวังในวงการของฉันไงคะ…หวังว่าสักวันหนึ่งสิ่งที่พวกคุณนำเสนอจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงสักที…
“พอใจกับคำตอบนี้ไหมล่ะคะ”
หลังจากถังหนิงพูดจบ ทั้งห้องโถงก็ตกอยู่ในความเงียบสงักด เดิมทีในสถานการณ์เช่นนี้ ถังหนิงควรเป็นฝ่ายคุกเข่าและร้องขอให้ยกโทษให้ อย่างไรก็ตามงานแถลงข่าวใกล้จบลงแล้ว และคนที่ถูกสั่งสอนกลับกลายเป็นเหล่านักข่าวแทน
ถังหนิงยังคงเป็นถังหนิงคนเดิม แม้ตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำและค่อยๆ ถูกต้อนให้จนมุมก็ตาม นับตั้งแต่ที่เธอประกาศถอนตัวจากไห่รุ่ย เธอก็ยังคงควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
ในที่สุดงานแถลงข่าวก็สิ้นสุดลง ในจังหวะที่ถังหนิงกำลังจะเดินจากไป ใครบางคนพลันเอ่ยถามขึ้น “ถังหนิง เมื่อไหร่คุณจะกลับมาคะ”
ถังหนิงหันกลับไปมองเด็กสาวที่ส่งยิ้มให้ก่อนยิ้มตอบ “ให้ผลงานที่ฉันกำลังทำอยู่เป็นคำตอบแล้วกันค่ะ”
ผลงานหรือ
ผลงานอะไรกัน
เธอไม่ได้ทำงานแสดงอีกแล้วนี่
หรือบางทีเธออาจจะหมายถึงภาพยนตร์ไซไฟที่เลื่องชื่อก็เป็นได้