เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 1028 แลกเปลี่ยน
หยางโปตาเบิกกว้าง เขาหันไปมองตาอ้วนหลิว ” คุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่ ? ผมเป็นคนแบบนั้นหรือไง ? ”
“ แล้วนายใช่ไหมล่ะ ? ” ตาอ้วนหลิวพูดพลางยิ้ม
หลินหลินนั่งลงและตบไปที่โต๊ะอย่างแรง ” เอาล่ะ เรื่องนี้เอาตามนี้แหละ พวกเรารายงานเรื่องนี้กับคุณปู่ไปแล้ว และคุณปู่เองก็เห็นด้วย เรื่องนี้มอบหมายให้ลูกดูแลก็แล้วกัน ! ”
หยางโปหมดสิ้นหนทาง เขาไม่มีทางอธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจนได้จริงๆ แต่เขาก็ไม่อยากทำ เขาจึงทำได้เพียงหันไปมองหน้าชุยอี้ผิง ” ฉันจะลงทุนให้ นายเป็นคนดูแลจัดการ ส่วนเงินที่หามาได้ยกให้นาย ! ”
“ ฉันไม่ต้องการเงิน ฉันกำลังรอตอนแต่งงาน นายสัญญาว่าจะยกเครื่องประดับหยกครบชุดให้
เอาแค่ชุดเดียว ฉันก็สามารถสร้างครอบครัวได้แล้ว ต่อให้ในอนาคตไม่มีเงินแต่มันก็คุ้มค่า ”
ชุยอี้ผิงพูดออกมาอย่างไม่แยแส
หยางโปมองหน้าชุยอี้ผิง เขายังคงจำเรื่องนี้ได้ ตอนนั้นเขาให้สัญญาเรื่องนี้ไว้กับอีกฝ่าย คิดไม่ถึงว่าชุยอี้ผิงจะใช้เรื่องนี้เพื่อมาปิดปากของเขา !
“ ทุกคนต่างก็ขอให้ลูกรับดูแลเรื่องนี้กัน ทำไมถึงผลักไสมันออกไปอีก ? ” หลินหลินกล่าวด้วยความไม่พอใจ
หยางโปจึงต้องพยักหน้า ” งั้นก็ได้ พรุ่งนี้ผมจะเริ่มเตรียมตัว ”
หลังอาหารเย็น หยางโปกลับไปที่ห้องและหยิบกระจกแสงจันทร์ออกมา ด้วยท่าทีที่ค่อนข้างจะลังเลใจ จากนั้นเขาจึงต่อสายโทรหาเยว่จวิ้นเหยา หลังจากรอนานกว่าครึ่งชั่วโมงถึงมีสายโทรกลับมา
เยว่จวิ้นเหยาพูดอย่างมีคามสุข เธอทักทายกับหยางโปอย่างดีอกดีใจ
หยางโปพูดคุยกับเยว่จวิ้นเหยา แต่กลับรู้สึกลังเล เดิมทีเขาคิดที่จะคุยกับเยว่จวิ้นเหยาเกี่ยวกับเรื่องของวันนี้ แต่กลับรู้สึกว่ามันค่อนข้างที่จะเสียหน้าและไม่รู้ว่าต้องทำยังไงดี
แต่คิดไม่ถึงว่าเยว่จวิ้นเหยาจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากถามออกมาก่อน “ พี่ชายโป ฉันได้ยินมาว่า
เมื่อเร็วๆนี้พ่อของโจวซินได้ลงเขาไปแล้ว บอกว่าจะไปตามหาโจวซิน คุณคิดว่าเขาน่ารำคาญมาตลอดไม่ใช่เหรอ ? โจวซินจะจากไปแล้วในไม่ช้านี้ แบบนี้คุณก็จีบสาวได้อย่างมีความสุขแล้ว ! ”
หยางโปตะลึงไปครู่หนึ่ง ยิ้มพลางพูดว่า ” ไร้สาระ ฉันไม่ได้ไปตามจีบสาวสักหน่อย เหยียนหรูหยูถูกฉันเก็บมาจริงๆ ถ้าโจวซินคิดจะตามจีบก็ไม่เป็นไร แต่การที่เขาคิดจะมาทำร้ายฉันหลายๆครั้ง เรื่องแบบนี้ทนไม่ได้ ! ”
“ เกิดอะไรขึ้นกับเขา ? ” เยว่จวิ้นเหยาถามโดยที่มองไม่เห็น
หยางโปลังเลเล็กน้อยและพูดว่า ” โจวซินเขาร่วมมือกับคนอื่นๆ และมาเล่นงานฉัน ต้องการจับตัวฉันไว้ และพยายามค้นหาความลับของโอกาสและโชคชะตาของที่ฉันที่ได้จากทะเลสาบซีหูเมื่อครั้งก่อน ตรงกันข้าม เขากลับถูกฉันทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ฉันจึงได้ตำราลับของเขามา ตอนนี้เขาน่าจะยังอยู่ในโรงพยาบาลอยู่ ! ”
หยางโปและเยว่จวิ้นเหยาไม่มีอะไรจะพูดกัน แม้แต่การพบกันครั้งก่อนในทะเลสาบซีหู เขาก็ได้สารภาพกับเยว่จวิ้นเหยาไปแล้ว ดังนั้น เยว่จวิ้นเหยาจึงรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับเขาอย่างชัดเจนดี
เมื่อได้ยินคำอธิบายของหยางโป เยว่จวิ้นเหยาก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา “ พี่ชายโป ทำได้ดีมาก ! มันเป็นแบบนี้แหละ ฉันถึงดูถูกคนขี้ขลาดอย่างเขาที่สุด ตัวเองไม่ได้รับโอกาสและโชคชะตามาเอง กลับคิดที่จะแย่งชิงมันไปจากคุณ จะว่าไปแล้ว คุณก็ไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรเลยเหมือนกันไม่ใช่หรือไง ? ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เยว่จวิ้นเหยาก็นึกขึ้นมาได้ ” คุณพูดว่าอะไรนะ ? คุณแย่งตำราลับของ โจวซินไป คงไม่ได้เอาวิชาเรียกลมฝนที่เหลืออยู่ไปหรอกนะ ? ”
“ เธอรู้ ? ” หยางโปเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ.novel-lucky.
เยว่จวิ้นเหยาทำอะไรไม่ถูกไปเล็กน้อย ” พี่ชายโป ตอนนี้คุณหนีไปเถอะ หนีไปได้ไกลแค่ไหนก็หนีเท่าที่หนีได้ จะเป็นการดีที่สุดถ้าไปหาอวี่เหวิน อวี่เหวินน่ะเก่งมาก เขาสามารถปกป้องคุณได้ ! ”
หยางโปถึงกับได้สติกลับมาทันที แต่เขาก็ยังถามอีกว่า ” ทำไมต้องหนีด้วย ? ”
“ เพราะว่าพ่อของโจวซินลงจากภูเขาไปแล้ว คงต้องเป็นเรื่องนี้แน่ เขาถือว่าเป็นปรมาจารย์เลยนะ คุณไม่สามารถเอาชนะเขาได้ วิชาเรียกลมฝนที่ยังคงหลงเหลืออยู่เป็นรากฐานตระกูลโจวของพวกเขา หากตกไปอยู่กับคนอื่น ตระกูลโจวจะต้องกดดันมากแน่ๆ ! ” เยว่จวิ้นเหยากล่าว
หยางโปลังเลเล็กน้อย “ โจวเซี่ยงเฉิงเหรอ ? ”
“ คุณเคยพบกับเขาแล้ว ? ” เยว่จวิ้นเหยาประหลาดใจมาก
“ พวกเราต่อสู้ประชันฝีมือกันแล้ว ผลัดกันแพ้ชนะ ตอนนี้เขาไปแล้ว ” หยางโปกล่าว
เยว่จวิ้นเหยาเงียบและไม่พูดอะไรไปสักพัก เธอถอนหายใจออกมาอย่างแรง “ พี่ชายโป คุณนี่มันเก่งจริงๆ แม้แต่โจวเซี่ยงเฉิงก็ยังพ่ายแพ้ ! ”
หยางโปไม่มีทางเลือกอื่น “ ที่ฉันโทรหาเธอก็เพื่อขอคำชี้แนะจากเธอและต้องการให้เธอช่วยฉันคิดหน่อยว่า พอจะมีวิธีไหนบ้างที่จะสามารถหลบเลี่ยงการมารบกวนจากโจวเซี่ยงเฉิงได้ ? ”
เยว่จวิ้นเหยาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ มีทางเดียวเท่านั้น นั่นคือการคืนวิชาเรียกลมฝนที่หลงเหลืออยู่คืนให้เขาไปซะ แต่ฉันคิดว่า ต่อให้คืนให้เขาไป เขาก็คงจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆแน่ มีเพียงทางเดียวคือ ต้องสู้กับเขาจนเขายอมพ่ายแพ้ไปเองนั่นแหละ ! ”
“ แต่ถึงอย่างนั้นขั้นวรยุทธ์ของเขาก็สูงกว่าฉัน ถ้าเจอกันครั้งหน้าอีก ครั้งนี้เขารู้ไม้ตายสุดท้ายของฉันหมดแล้ว เกรงว่าครั้งหน้าฉันคงจะเอาชนะเขามาไม่ได้ง่ายๆ ” หยางโปกล่าว
หยางโปทำอะไรไม่ถูก เจตนารมณ์กระบี่ของเขาเป็นอาวุธที่มหัศจรรย์จริงๆ แต่ไม้ตายสุดท้ายสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว ครั้งต่อไปกลัวว่าอาจจะใช้ไม่ได้ดีแบบนั้นแล้ว
เยว่จวิ้นเหยาคิดอยู่นานแต่ก็คิดวิธีดีๆไม่ออก เธอลังเลเล็กน้อย “ เอาอย่างนี้ดีไหม ฉันจะลงเขาเดี๋ยวนี้ และไปร่วมมือต่อสู้กับคุณ ? ถ้าเราสองคนร่วมมือกัน จะต้องเอาชนะเขาได้อย่างแน่นอน ! ”
“ ช่างเถอะเธออย่าหุนหันพลันแล่นลงจากเขามา เพราะยังไงซะ เธอก็ยังเป็นตัวแทนของภูเขาเอ๋อเหม่ยซาน ถ้าลงจากเขามาจริงๆ มันจะก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่าย มันจะไม่ดี ” หยางโปกล่าว
เยว่จวิ้นเหยาได้ฝึกฝนจนเข้าสู่วรายุทธ์ขั้นเลี่ยนชี่จิงแล้ว ด้วยความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น จะมาหุนหันพลันแล่นแบบนั้นต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เธอลังเลใจเล็กน้อย “ พี่ชายโป ที่ฉันพูดต่อจากนี้ คุณต้องจำไว้ให้ดีนะ มันเป็นข้อบกพร่องการต่อสู้ของตระกูลโจวทั้งหมด คุณแค่ต้องจำสิ่งเหล่านี้เอาไว้ แม้ว่าโจวเซี่ยงเฉิงจะมาสร้างปัญหาให้กับคุณ เกรงว่ามันคงจะไม่ง่ายขนาดนั้น ”
หยางโปใจตกไปอยู่ตรงตาตุ่ม เมื่อรู้ว่าสิ่งสำคัญกำลังจะมาถึง เขาคาดคิดไม่ถึงว่าการโทรไปครั้งนี้จะได้รับผลกลับมาเช่นนี้ “ ตกลง ฉันจะตั้งใจฟัง คำพูดพวกนี้ออกมาจากปากเธอและเข้าหูฉัน
ฉันจะไม่พูดออกไปอย่างแน่นอน ”
จากนั้นเยว่จวิ้นเหยาก็บอกเล่าเกี่ยวกับข้อบกพร่องบางประการในการฝึกฝนวรายุทธ์ของตระกูลโจวให้หยางโปฟัง
หยางโปมีอาการลังเลใจแต่ก็เอ่ยปากพูดออกมา “ ฉันก็มีวิชาแขนงหนึ่งที่อยากจะบอกกับเธอเหมือนกัน เธอฟังนะ จดเอาไว้ และอย่าเอาไปพูดข้างนอกล่ะ ”
เยว่จวินหยาอดที่จะสังสัยไม่ได้ “ นี่… ”
หยางโปไม่ได้มีความเกรงอกเกรงใจกับเยว่จวิ้นเหยา จึงพูดต่อไปว่า “ เตรียมกระดาษและปากกาให้พร้อม ฉันจะพูดแล้วเธอก็จดนะ ! ”
เยว่จวิ้นเหยาเป็นคนที่ฉลาดมาก เธอพอจะเดาออกว่าหยางโปพูดถึงอะไร แต่ก็อดที่จะจดจำสิ่งที่เขาพูดมาทั้งหมดไม่ได้
หยางโปพูดด้วยสักพัก ถึงได้วางสาย
เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก วิชาเรียกลมฝนสำหรับเขาแล้ว มันก็ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรกับเขามากนัก เขาเชี่ยวชาญมันหมดแล้ว แต่ตระกูลโจวยอมตายเพื่อมาหาเขาเพราะวิชาบทนี้
มันก็เพียงพอแล้วที่จะเห็นคุณค่าของวิชานี้ เขาจึงต้องการถ่ายทอดวิชาบทนี้แก่เยว่จวิ้นเหยา !
ทันทีที่เยว่จวิ้นเหยาได้วิชามา ก็ก้มดูลายมือที่จดไว้ และอดไม่ได้ที่จะลังเลขึ้นมา เรื่องนี้สำคัญมาก ต่อให้เป็นเขาเอ๋ยเหมยซานก็มีวรยุทธ์ที่สมบูรณ์เพียงบทเดียว ตอนนี้เมื่อได้รับวิชาที่หลงเหลืออยู่อีกบทหนึ่งมา ถึงแม้จะเป็นมิตรสหายที่ดีต่อกันมากับตระกูลโจว เกรงว่าอาจารย์ก็คงจะเห็นด้วยเช่นกัน !
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เยว่จวิ้นเหยาก็หยิบโน้ตขึ้นมาและรีบเดินตรงไปที่ห้องของอาจารย์อย่างรีบร้อนทันที
เมื่อวิ่งมาถึงหน้าประตูห้องของอาจารย์ เยว่จวิ้นเหยาก็เคาะประตูพอได้ยินเสียงขานรับมาจากข้างใน เธอจึงผลักประตูแล้วเดินเข้าไป อาจารย์กำลังนั่งสมาธิอยู่ใต้หน้าต่าง แสงจันทร์ส่องสว่างราวน้ำใส ตกกระทบลงบนบ่าของเธอ !