เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 1059 ดอกไม้เดือนตุลาคม
หยางโปยื่นตำราเรียกลมฝนที่หลงเหลืออยู่ให้เหยียนหรูหยู เหยียนหรูหยูไม่ได้พูดอะไรมาก
เมื่อรับมาก็เปิดอ่านทันที
หยางโปจ้องมองเหยียนหรูหยู พลางคิดเกี่ยวกับปัญหาของตัวเอง สิ่งที่ได้มาพร้อมตำราที่หลงเหลืออยู่เล่มนี้คือ “ตำราฟู่ลู่” แม้ว่าหยางโปจะคืนตำราฟู่ลู่ไปแล้ว แต่เขาได้จดจำเนื้อหาในนั้นไว้ในหัวนานแล้ว. . .
ตอนนี้ เขากลับกำลังประสบกับปัญหาหนึ่ง เขาได้เรียนรู้ตำรามาสองเล่มแล้ว แต่ตอนที่เขาร่ายรำออกมา กลับไม่มีผลอะไรเลยแม้แต่น้อย หยางโปพอจะเดาได้คราวๆว่าเนื้อหาบางอย่างของเขาน่าจะผิดปกติ
เหยียนหรูหยูเปิดอ่านดู และขมวดคิ้วแน่น ” ตำราเรียกลมฝนเล่มนี้มีปัญหา ตำราเล่มจริงมีพลังที่มากมายมหาศาล แต่ตำราเล่มนี้ด้อยค่ากว่ามาก ! “ หยางโปยิ้มและพูดว่า “นี่เป็นเพียงตำราที่หลงเหลืออยู่ หากเป็นตำราเล่มที่สมบูรณ์
คงจะแข็งแกร่งกว่านี้แน่ ! ”
เหยียนหรูหยูส่ายหน้าและตอบกลับไปว่า ” แม้ว่าจะเป็นเศษเสี้ยวของตำรา แต่ตำรานี้มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วน ! ”
หยางโปตกตะลึงไปชั่วครู่ เขาได้วิชาเรียกลมฝนมาจากมังกรทองสัมฤทธิ์ เขารู้สึกว่ามันแข็งแกร่งกว่าตำราพวกนี้มาก แต่ตำราเล่มนี้กลับขาดคุณสมบัติที่ครบถ้วนไป ?
“ ไม่มั้ง ตำเล่มนี้ทรงพลังเอามากๆ แม้ว่าจะเป็นชิ้นส่วนที่หลงเหลืออยู่ก็ตาม แต่ถือว่าเป็นตำราที่หาได้ยากเล่มหนึ่งเลยทีเดียว ! ” หยางโปพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ
เหยียนหรูหยูเงยหน้าขึ้นเหลือบมองไปทางหยางโป ขมวดคิ้วพร้อมเอ่ยปาก “ ที่ฉันบอกว่ามีคุณสมบัติไม่ครบถ้วน ทำอย่างกับว่าจะโกหกคุณงั้นแหละ ? ตำราเล่มจริงไม่ใช้วิธีการฝึกฝนแบบนี้ ฉันเคยเห็นวิชาเรียกลมฝนของจริงมากับตา แต่มันไม่ใช่วิธีการฝึกฝนแบบนี้ ! ”
หยางโปเงียบไปทันที เขาจ้องหน้าเหยียนหรูหยูไม่วางตา แต่ใจของเขารู้สึกร้อนรุ่ม เขามีตำราเรียกลมฝนอยู่จริงๆ อีกทั้งยังเหมือนกับตำราเล่มนี้อย่างกับแกะมาจากที่เดียวกัน แต่ทำไมพอมาอยู่กับเหยียนหรูหยูที่นี่ ถึงได้เกิดปัญหาใหญ่โตขึ้นแบบนี้ มันทำให้เขาแทบไม่อยากจะเชื่อเลยด้วยซ้ำ !
หยางโปจ้องหน้าเหยียนหรูหยูเขม็ง ” คุณเคยเห็นใครฝึกตำรานี้มาก่อนกันแน่ สถานการณ์ตอนนั้นเป็นไงบ้าง คุณบอกผมหน่อยได้ไหม ? ”
เหยียนหรูหยูส่ายหน้า “ คุณอย่าคิดมาก ต่อให้คุณจะรู้เรื่องนี้ เกรงว่าคุณจะไม่มีทางฝึกฝนในลักษณะนี้ได้ ลืมมันไปเถอะ ! ”
พอพูดจบ เหยียนหรูหยูก็โยนตำราเล่มนี้ลงบนโต๊ะ หันหลังและเดินออกไป
เมื่อหยางโปถูกเหยียนหรูหยูคลางแคลงใจแบบนี้ ก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที แต่เมื่อเห็นเหยียนหรูหยูกำลังจะเดินออกไป เขาถึงนึกเรื่องฟู่ลู่ขึ้นมาได้ จึงรีบร้องห้ามเหยียนหรูหยูไว้ และถามไปว่า “ แล้วทำไมฟู่ลู่ที่ผมคัดลอกไว้เมื่อเร็วๆนี้ ถึงไม่มีผลกระทบเลยละ ? ”
“ คุณมีกระดาษยันต์ไหม ? ” เหยียนหรูหยูหันกลับมามองหน้า
หยางโปส่ายหัว “ ไม่มี ” novel-lucky
เหยียนหรูหยูไม่ได้อธิบายอะไร หันหลังและเดินจากไปทันที
หยางโปมองตำราที่ถูกเหยียนหรูหยูโยนทิ้ง จึงอดที่จะก้าวไปข้างหน้าและหยิบขึ้นมาไม่ได้
เขาได้มอบตำราเล่มนี้ให้เยว่จวิ้นเหยาไปแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับไม่ตอบกลับอะไรมาเลย นั่นก็แสดงว่าทางด้านเอ๋อเหมยซานไม่ได้มีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับตำราเล่มนี้ แต่ทำไมเหยียนหรูหยูถึงคิดว่าตำราเล่มนี้มีปัญหา ?
หยางโปรู้สึกว่าต้องมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่ แต่แค่ตอนนี้เขาคิดไม่ออกก็เท่านั้น
สองวันมานี้หลินหลินรีบร้อนกลับมาบ้านหลังจากที่เธอกลับมาก็ดูรีบร้อนออกไป และดูเหมือนจะนั่งรออะไรบางอย่างอยู่ในสำนักงาน
หลังจากนั้น หลินหลินก็ได้รับพัสดุในวันรุ่งขึ้น เธอเปิดดู และพบว่ามีขวดแก้วอยู่ในบรรจุภัณฑ์
ในขวดแก้ว มีสมุนไพรสองสามชนิดบรรจุอยู่
เป็นเรื่องปกติที่หลินหลินจะไม่เชื่อใจอีกฝ่าย เธอจงใจไปพบแพทย์แผนจีนเพื่อช่วยเธอระบุตัวยาสมุนไพร แพทย์แผนจีนผู้เฒ่าดูอยู่นานสองนานก่อนจะบอกว่า “ นี่น่าจะเป็นยาสมุนไพรจาก
ภาคตะวันตกเฉียงใต้เรียกว่า ดอกไม้เดือนตุลาคม กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ยาสมุนไพรประเภทนี้
ใช้เวลาอย่างน้อยสิบเดือนตั้งแต่การเจริญเติบโตจนถึงการออกดอกและติดผล ซึ่งเป็นเวลาใกล้เคียงกับการตั้งครรภ์ของผู้หญิง ดังนั้นมีชนกลุ่มน้อยบางกลุ่มเชื่อกันว่าดอกไม้ชนิดนี้สามารถ ทำให้ผู้ชายเกิดอารมณ์ความต้องการและทำให้ง่ายต่อการตั้งครรภ์ได้ ”
หลินหลินรู้สึกค่อนข้างที่จะแปลกใจ ” มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ไหม ? ”
แพทย์แผนจีนผู้เฒ่าหัวเราะดังขึ้น ” อย่างเรื่องพวกนี้ ผมบอกรายละเอียดได้ไม่หมด เพราะผมคงจะไม่สั่งยาประเภทนี้ให้กับผู้ป่วยแน่ ”
หลินหลินถึงได้สติ อดหน้าแดงไม่ได้ “ นั่นคงต้องลำบากคุณแล้วจริงๆ ! ”
แพทย์แผนจีนผู้เฒ่าโบกมือ “ ไม่ต้องเกรงใจ ”
หลินหลินหยิบสมุนไพรกลับไป และอดที่จะลังเลใจไม่ได้ ตอนนี้ฮัวชิงหยุนกลับไปแล้ว
ถ้าเธอวางยาลูกชาย มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แม้ว่าจะมีผู้หญิงอีกคนในบ้าน แต่หลินหลินรู้สึกว่า
เหยียนหรูหยูเย็นชาเกินไป แต่งเข้าบ้านมาคงลำบากใจน่าดู !
หลินหลินครุ่นคิดมาครึ่งวัน แต่ก็ยังติดสินใจไม่ได้ เขากลับมาถึงบ้านก็เห็นหยางโปยังคงฝึกซ้อมอยู่ที่สวนหลังบ้าน จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัดกลุ้มใจ “ ทำไมลูกฝึกของแบบนี้ตลอดทั้งวัน ? ต่อให้ฝึกฝนดีอีกแค่ไหน มันจะมีประโยชน์อะไรงั้นเหรอ ? ”
หยางโปหันไปตอบแม่ว่า “ แม่ ไม่เป็นไร ผมฝึกฝนมากขึ้น ก็สามารถรักษาสุขภาพได้ แถมยังทำให้อายุยืนอีกด้วย ถือว่าดีทีเดียว ! ”
หลินหลินมองไปที่หยางโป “ มันเกิดอะไรขึ้นกับเรื่องของลูกกับชิงหยุน คิดว่าลูกก็คงจะชัดเจนดี ลูกเอาเวลามาคลุกอยู่แต่กับสิ่งนี้ ไม่น่าละที่ชิงหยุนจะคิดมาก ! ”
“ แม่ มันไม่ใช่แบบนั้น ! ” หยางโปพูด
หลินหลินมองหยางโป ส่ายหน้าแล้วพูดว่า ” แม่ว่า ลูกจะเอาแต่ฝึกฝนของพวกนี้ทั้งวันไม่ได้
ลูกต้องออกไปเดินเล่นบ้าง ผู้ชายต้องออกไปหาประสบการณ์นอกบ้าน และประติสัมพันธ์กับคนให้มาก ลูกต้องรู้ว่าในอนาคตควรจะมีชีวิตอยู่กับธุรกิจการงานไม่ใช่คลุกตัวอยู่แต่ในสนามหลังบ้านเล็กๆแบบนี้ ! ”
หยางโปมองหน้าแม่และรู้สึกพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง เขาพอจะเดาความคิดของแม่ออก เธออยากให้เขามีอนาคตที่ดี และอยากให้ตัวเองเจริญรุ่งเรือง เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม ” แม่คิดว่าผมยังไม่ประสบความสำเร็จมากพอในธุรกิจใช่ไหม ? ”
หลินหลินตกตะลึงไปครู่หนึ่ง “ เฮ้ ลูกคนนี้ เดี๋ยวนี้ตอบปากตอบคำเป็นแล้วนะ ? ”
หยางโปยิ้ม “ แม่ครับ เย็นนี้กินอะไรดี ? ”
“ เดี๋ยวแม่ไปดูให้ ” หลินหลินกล่าว
หยางโปหาทางให้แม่ออกไป จากนั้นก็ฝึกฝนวิชากระบี่เทียนหลัวอีกรอบ จากนั้นถึงได้เก็บกระบี่
หลังจากล้างเนื้อล้างตัวแล้ว โต๊ะอาหารก็ถูกจัดวางอย่างเรียบร้อย หลินหลินเองก็เข้ามาพร้อมกับซุป ” กินเยอะๆหน่อย ”
หยางโปพยักหน้า ช่วงนี้เขามีความอยากอาหารมาก ตามที่อู๋เฉียงว่า ความอยากอาหารแบบนี้จะต้องคงอยู่ไปอีกนาน ดังนั้นหยางโปจึงได้เตรียมใจไว้แล้ว
หลังจากกินและดื่มซุป หยางโปก็คุยกับแม่ของเขาอยู่พักหนึ่ง และรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว
หยางโปจึงกลับไปพักผ่อนที่ห้อง
หลินหลินมองตามหลังของหยางโป และถอนหายใจเบาๆ
เมื่อหยางโปกลับมาที่ห้อง ก็รู้สึกเวียนหัวและโลกหมุนไปหมด มันเป็นเวลานานแล้วที่เขาไม่ได้สัมผัสกับความรู้สึกแบบนี้ เขานั่งสมาธิขับเคลื่อนพลังอยู่บนเตียง แต่ทันทีที่เขาขับเคลื่อนพลัง
ก็ยิ่งรู้สึกเวียนหัวมากขึ้นกว่าเดิม
แสงของกระจกแสงจันทร์ส่องกระทบเตียง ทันใดนั้นหยางโปก็เงยหน้าขึ้นและเหลือบไปเห็นร่างของคนคนหนึ่งที่อยู่นอกหน้าต่าง บุคคลนั้นเอื้อมมือจะเข้ามาหยิบกระจกแสงจันทร์ไป หยางโปตกใจก่อน จากนั้นจึงได้คว้ากระบี่ยาวข้างตัวฟันเข้าใส่ แสงกระบี่เย็นวาบ เกิดเป็นแสงสีเงินวาววับพาดผ่านออกมา