เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 1073 แพะรับบาป
หยางโปขมวดคิ้ว เขาหันไปเหลือบมองเสวียนจง และเอ่ยปากพูดขึ้นว่า “ พังก็พังไปเถอะ ดึกมากแล้ว ฉันอยากกลับไปพักผ่อน ออกรถพวกเราไปกันเถอะ ”
เสวียนจงเกาะหน้าต่างฟังคำพูดของหยางโป ด้วยใบหน้าที่ตื่นตระหนก เขาคิดไม่ถึงว่าหยางโปจะแสดงท่าทีแบบนี้
ลัวย่าวหัวไม่พูดอะไรเลยด้วยซ้ำ ปล่อยให้รถเคลื่อนตัวออกไป และทิ้งเสวียนจงไว้ข้างหลัง
ลัวย่าวหัวหันไปมองหยางโป “ นายสงสัยว่าเสวียนจงเป็นคนทำใช่ไหม ? ”
หยางโปมีท่าทีลังเลเล็กน้อย “ เขาน่าสงสัยมาก ทำไมไม่จับก่อนหน้าหรือหลังจากนี้ ทำไมต้องรอเราไปตรวจดูแล้วค่อยมาจับ ? เสวียนจงคนนี้น่ะ หัวไวมาก ควบคุมไม่ง่าย ดูแล้ว เขายังอยากเข้ามาควบคุมสถานการณ์ ถึงกับไม่คำนึง ลากพวกเราทั้งสองคนมารับผิดแทนคนอื่น ! ”
“ เขาลากพวกเราเข้าไปยุ่งด้วย คงคิดที่จะเป็นปฏิปักษ์กับโจวเหม่ยเอ๋อและหวังเสี่ยวชีละสิ
ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็ดูถูกเราสองคนมากเกินไปแล้ว ! ” ลัวย่าวหัวกล่าว
หยางโปรู้สึกไม่พอใจมาก เขารู้สึกว่าตัวเองถูกหลอกใช้ และถึงขั้นถูกเสวียนจงใช้เป็นไม้กั้นหมา
“ เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะไม่ได้ทำ ” ลัวย่าวหัวถาม
“ งั้นก็รอดูท่าทีของเขาพรุ่งนี้ก็แล้วกัน อ้อใช้สิ พรุ่งนี้ฉันต้องออกไปทำธุระ อาจจะไม่ได้อยู่บ้าน
นายไม่ต้องไปหาฉันนะ ” หยางโปสั่ง
ลัวย่าวหัวยิ้มเหยเก “ นายนี่มันหลบเก่งจริงๆ พรุ่งนี้ฉันก็ไม่อยู่บ้านเหมือนกัน ”
ทั้งสองมองหน้ากันและหัวเราะลั่น ทำงานร่วมกันมาก็ได้หลายปีแล้ว ทั้งสองต่างก็รู้ใจกัน
ถึงแม้ลัวย่าวหัวจะเอ่ยปากว่าจะรับช่วงต่อธุรกิจพวกนี้ แต่หนึ่ง พวกเขาไม่ได้ร่วมมือด้วย
สองไม่ได้เซ็นเอกสารอะไร และไม่มีใครมาเชื่อมั่น แต่พอไนต์คลับมาประสบพบเจอเข้ากับปัญหาตอนนี้ พวกเขาก็ต้องหลบเป็นธรรมดา
เช้าวันที่สอง หยางโปฝึกกระบี่เทียนหลัวอยู่ที่บ้าน เขาปิดบ้านไม่รับแขก และถึงกับไม่รับสายใครด้วยซ้ำ
ช่วงพลบค่ำ ชุยอี้ผิงมาหาถึงเรือนสี่ประสาน เขาตามหาหยางโปจนพบ ” เมื่อคืนนี้ตำรวจได้ทำการตรวจค้นที่ไนต์คลับโฮ่วไห่ และได้เข้าจับกุมผู้คนจำนวนมาก ทำไมฉันได้ยินมาว่าที่นั่นเป็นกิจการของนาย ”
หยางโปหัวเราะลั่น “ ล้อเล่นเก่งจริงๆ มีชื่อฉันเขียนติดไว้หรือเปล่า ? อย่างฉันจะไปเปิดบาร์ไหม ? แต่ละปีฉันจะได้กำไรสักเท่าไหร่ ? เงินแค่น้อยนิดแค่นั้น นายคิดว่าฉันจะสนใจไหม ? ”
เมื่อชุยอี้ผิงได้ยินหยางโปโต้แย้ง ก็อดพยักหน้าให้ไม่ได้ ” นายก็พูดถูกนะ แต่ฉันคิดว่าเรื่องนี้มันก็ไม่ได้ไร้สาระจนเชื่อถือไม่ได้ เรื่องทั้งหมดคงมีส่วนเกี่ยวข้องกับนายอยู่บ้างแหละ ! ”
หยางโปหัวเราะร่า “ คนพวกนั้นหาทางสาดน้ำสกปรกใส่ฉันจนได้จริงๆ เรื่องพวกนี้ถึงได้เชื่อมโยงมาถึงฉันจนได้ ”
ถึงแม้เรื่องราวจะเป็นเช่นนี้ แต่หยางโปก็ยังเล่าให้ฟังอีกรอบ และยังกล่าวถึงเรื่องราวที่เขาเห็นในคืนนั้นอีกครั้งด้วย
ชุยอี้ผิงหันไปมองหน้าหยางโป ” นายจัดการเรื่องนี้ไม่ดีพอ แม้แต่ลัวย่าวหัว เขาก็คงไม่น่าขาดแคลนเงินจำนวนนี้ ทำไมถึงเข้ามารับช่วงต่อธุรกิจพวกนี้อีก ? ”
หยางโปรู้สึกจนปัญญา “ ยังไงซะเป็ดก็ตกมาถึงมือแล้ว ใครจะไม่อยากกัดกินกันบ้างละ ?สนใจไหม ? ”
เมื่อชุยอี้ผิงได้ยินหยางโปโต้แย้ง ก็อดพยักหน้าให้ไม่ได้ ” นายก็พูดถูกนะ แต่ฉันคิดว่าเรื่องนี้มันก็ไม่ได้ไร้สาระจนเชื่อถือไม่ได้ เรื่องทั้งหมดคงมีส่วนเกี่ยวข้องกับนายอยู่บ้างแหละ ! ”
หยางโปหัวเราะร่า “ คนพวกนั้นหาทางสาดน้ำสกปรกใส่ฉันจนได้จริงๆ เรื่องพวกนี้ถึงได้เชื่อมโยงมาถึงฉันจนได้ ”
ถึงแม้เรื่องราวจะเป็นเช่นนี้ แต่หยางโปก็ยังเล่าให้ฟังอีกรอบ และยังกล่าวถึงเรื่องราวที่เขาเห็นในคืนนั้นอีกครั้งด้วย
ชุยอี้ผิงหันไปมองหน้าหยางโป ” นายจัดการเรื่องนี้ไม่ดีพอ แม้แต่ลัวย่าวหัว เขาก็คงไม่น่าขาดแคลนเงินจำนวนนี้ ทำไมถึงเข้ามารับช่วงต่อธุรกิจพวกนี้อีก ? ”
หยางโปรู้สึกจนปัญญา “ ยังไงซะเป็ดก็ตกมาถึงมือแล้ว ใครจะไม่อยากกัดกินกันบ้างละ ? แม้ว่าตอนนี้นายจะเป็นผู้จัดการบริษัท แต่นายไม่อยากมีธุรกิจที่เป็นของตัวเองมากกว่านี้เหรอ ? ”
ชุยอี้ผิงหลุดหัวเราะออกมา “ ฉันไม่สนหรอก แค่ว่าลัวย่าวหัวทำอะไรสนใจแต่ประโยชน์ส่วนตัว
ไม่สนใจคนอื่นแม้แต่นิดเดียว นายก็รู้ ตอนนี้ตำแหน่งพ่อของเขาอ่อนไหวมากแค่ไหน แค่เรื่องแบบนี้ต่อให้สาดน้ำสกปรกใส่ก็ไม่ได้ ! ”
พอพูดจบ ชุยอี้ผิงก็หันไปมองหยางโป ” นายคิดจะจัดการยังไง ? ”
“ ดูไปก่อน ฉันไม่คิดว่าจะต้องรีบร้อนกับเรื่องนี้ ” หยางโปกล่าว novel-lucky
ชุยอี้ผิงทำอะไรไม่ถูก “งั้นก็แล้วแต่พวกนายก็แล้วกัน ถ้ามันไม่เกี่ยวอะไรกับพวกนาย ฉันก็วางใจ ”
“ อ้อใช่สิ ช่วงนี้ มีหลายคนที่มาขอร้องฉัน อยากให้ฉันถามนายหน่อยว่าโครงการเกาะเสี่ยวเหยาดำเนินการไปถึงไหนแล้ว คืบหน้าไปอย่างราบรื่นไหม ดำเนินการไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว ? ”
ชุยอี้ผิงถาม
หยางโปนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะดังลั่นออกมา เขาละเลยเรื่องนี้ไปจริงๆ เขาระดมทุนหลายพันล้านจากเพื่อนๆหลายคนในตี้จิงมาลงทุนในโครงการนี้ แต่กลับไปได้รายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานต่อพวกเขา พวกเขาจึงไม่เข้าใจสถานการณ์ เลยต้องร้อนใจเป็นธรรมดา
หยางโปรีบโทรหาลั่วชิง เพื่อสอบถามรายละเอียดความคืบหน้า เขาก็ขอให้ลั่วชิงเขียนเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วส่งมาให้เขาในเช้าวันพรุ่งนี้
ชุยอี้ผิงหันไปมองหยางโป ” นายละเลยเรื่องนี้ไป นายต้องจัดงานเลี้ยงและเชิญทุกคนมากินข้าวร่วมกันสักมื้อเลยนะ ”
หยางโปพยักหน้า เริ่มแรกเป็นเพราะความช่วยเหลือจากชุยอี้ผิง เขาถึงได้ระดมเงินได้มากขนาดนี้ ตอนนี้เขาเสนอให้หยางโปจัดงานเลี้ยงเป็นการขอโทษเล็กน้อยๆ ก็เพื่อให้หยางโปได้มีความสัมพันธ์ที่ดี
“ โอเค ทุกอย่างราบรื่นก็ดีแล้ว พรุ่งนี้อาจจะเร่งรีบไปหน่อย วันมะรืนก็แล้วกัน ! ” หยางโปพูดออกมาตามตรง
ชุยอี้ผิง พยักหน้า “ ได้ นายก็เตรียมตัวให้ดีก็แล้วกัน เพราะทุกคนต่างก็เป็นผู้ร่วมลงทุนของนาย ! ”
หลังจากส่งชุยอี้ผิงกลับไปแล้ว หยางโปถึงได้มีโอกาสพูดคุยกับลั่วชิงอีกครั้ง แผนโครงการเกาะเสี่ยวเหยาดำเนินมาได้กว่าครึ่งปีแล้ว การก่อสร้างบนเกาะก็เป็นไปอย่างรวดเร็ว งานพื้นฐานส่วนใหญ่ต่างก็แล้วเสร็จไปแล้ว ช่วงนี้ลั่วชิงจึงดูผ่อนคลายลงไปมาก
หยางโปอยู่พูดคุยกับเธอสักพัก ก่อนที่จะวางสาย ลั่วชิงดูมีความสามารถมากขึ้น ตอนแรกเขามองว่าลั่วชิงเป็นนักธุรกิจที่เก่ง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้มองผลาดไป
ไม่นานก็มีหมายเลขโทรศัพท์ของลัวย่าวหัวโทรเข้ามา “ บ้าเอ้ย พ่อของฉันเรียกไปคุยแล้ว ! ”
หยางโปตกตะลึงไปครู่หนึ่ง “ เขาสงสัยนายงั้นเหรอ ? ”
“ ไม่ใช่สงสัย แต่มั่นใจว่าธุรกิจนั้นต้องเป็นของฉันนะสิ ไม่ว่าฉันจะอธิบายยังไงก็ไม่มีประโยชน์ ”
ลัวย่าวหัวพูดอย่างหมดทางเลือก
หยางโปตกใจนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “ มีคนไม่มากที่รู้เรื่องนี้ ใครไปพูดว่าเราแบบนี้ ? ฉันก็เพิ่งพูดคุยกับอี้ผิงไปเมื่อกี้ ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะมีคนใส่สีตีไข่อยู่เบื้องหลังแน่ๆ ! ”
“ นายคิดว่าใคร ? ” ลัวย่าวหัวถาม
หยางโปส่ายหน้า “ ตอนนี้ฉันยังไม่แน่ใจ นายตรวจสอบดูก่อน อ้อใช่ ฉันวางแผนที่จะจัดงานเลี้ยงวันมะรืนนี้ จึงได้เชิญบรรดาคุณชายที่ร่วมลงทุนในแผนเกาะเสี่ยวเหยามากินข้าวด้วยกัน นายก็มาด้วยนะ ! ”
“ นายจะมาจัดงานเลี้ยงเวลานี้เนี่ยนะ ไม่ค่อยดีมั้ง ? ” ลัวย่าวหัวดูแปลกใจไม่น้อย
“ ไม่เป็นไร ฉันอยากจะดูสิว่าใครคิดที่จะใส่ร้ายพวกเราแบบนี้ เราค่อยมาดูกันอีกที ! ” หยางโปกล่าว
ลัวย่าวหัวก็ได้สติกลับมาเช่นกัน “ เอาตามนั้น ฉันขอตรวจสอบดูก่อน ดูเหมือนว่าเสวียนจงจะไม่ใช่ผู้บงการ เขามาตี้จิงได้ไม่นาน จึงไม่ได้มีเครือข่ายขนาดใหญ่มากพอที่จะมากระจายข่าวเรื่องนี้ ”
“ อืม มีคนอยากใส่ร้ายเรา แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ” หยางโปส่ายหัว “ นายไปตรวจสอบดูซะ ! ”
จากนั้นหยางโปก็ตัดสายลัวย่าวหัว และเริ่มวางแผนจัดงานเลี้ยง แม้ว่าจะมีที่ว่างมากพอในเรือนสี่ประสาน แต่เขาก็ยังวางแผนที่จะจัดงานในโรงแรม เขาจึงหาโรงแรมใหญ่ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง
โทรจอง และจ่ายเงินไปบางส่วน
วันรุ่งขึ้น หยางโปได้จัดให้คนส่งคำเชิญไปอีกครั้ง เขาโทรหาทุกคนในรายชื่อแขก และเชิญพวกเขาให้มาเข้าร่วมด้วยตัวเอง หยางโปขอโทษทุกคนทางโทรศัพท์ที่ไม่สามารถรายงานข่าวได้ทันเวลา
ดูเหมือนในสายทุกคนจะแสดงออกว่าไม่ถือสาเอาความแต่หยางโปรู้ดีว่า ไม่มีใครโง่พอที่จะมาพูดความจริงต่อหน้าเขา แค่มองหน้ากันติด คิดว่าคงไม่มีใครถือสาเอาความกันมากนัก