เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 184
ผงทองแปลกประหลาด
ของสองสามชิ้นที่ประมูลต่อไป ยังคงเป็นวัตถุวัฒนธรรมของไท่ผิงเทียนกั๋ว มีหมดทั้งของจริงของปลอม สิ่งนี้ทำให้หยางโปอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่านักประเมินของอีกฝ่ายมาตรฐานย่ำแย่เกินไปหรือไม่
เย่เหวยหลินอยากยกป้ายประมูลอยู่หลายครั้ง แต่ก็ล้วนถูกหยางโปขัดขวางไว้
จนกระทั่งดาบคาดเอวของนายพลระดับสูงเล่มหนึ่งได้ส่งขึ้นมา หยางโปถึงค่อยหันไปพยักหน้าให้กับเย่เหวยหลิน
ท้ายที่สุดเย่เหวยหลินก็ได้ประมูลมาที่ห้าแสนสามหมื่นหยวน ราคาแบบนี้ทำให้หยางโปขมวดคิ้วไม่คลายเพราะว่าในความจริงแล้วราคานี้แพงมากเกินไป!
ราคาไม่สมเหตุสมผล ปั่นราคาอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นลักษณะที่ชัดเจนที่สุดของการประมูลนี้ หยางโปครุ่นคิดเล็กน้อย และก็สามารถเข้าใจได้ ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะรัศมีของขุมทรัพย์ไท่ผิงเทียนกั๋ว ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าของพวกนี้ไม่ได้มาจากในสุสาน แต่ก็ยังเลี่ยงที่จะอยากได้รับอิทธิพลไม่ได้
การประมูลสุดท้ายเป็นของหนังสือภาพเล่มหนึ่ง ในตอนที่ผู้ทำการประมูลประกาศชื่อ หยางโปก็จ้องเขม็งมองตรงไปทางบนเวที
“ตำราเขียนมือ <บทกวีจัดตั้งฟ้าดิน> ของหงซิ่วเฉวียน!
ม้วนอักษรแบบนี้ส่งขึ้นมาพลันทำให้ในที่นี้แตะฮือขึ้น ความจริงเป็นเพราะว่าผลงานตำราเขียนมือทั้งหมดของหงซิ่วเฉวียนส่งต่อมาน้อยมาก ปีนั้นหงซิ่วเฉวียนสอบตกหลายครั้ง ป่วยหนักอยู่สี่สิบวันต่อมาถึงได้กราบไหวพระผู้เป็นเจ้า
ถึงแม้เขาจะมีบทกวีที่สืบทอดลงมา แต่ที่เขียนด้วยลายมือของตัวนั้นกลับไม่มีแม้แต่ชิ้นเดียว
หยางโปมองไป มองเห็น “มังกรหลบซ่อนอยู่ในถ้ำหวั่นเกรงตื่นตระหนก ขณะนี้ลอบเสวยสุขกระโดดอยู่ในบ่อลึก รอจนฤดูกาลควบรวม ทะยานไปจัดตั้งฟ้าดินทุกทิศทาง” อยู่บนหนังสือ
ด้านล่างมีเขียนไว้ว่า “หงซิ่วเฉวียน” รวมถึงตราประทับ “ตราหงซิ่วเฉวียน”
ตำราเขียนมือมองดูแล้วไม่เลว ลำแสงสว่างวาบตรงหน้าหยางโป เขามองเห็นลำแสงประกายบนกระดาษอย่างชัดเจน แต่บนลายมือสีดำนั้นกลับมีประกายแสงสว่างเล็กน้อย เล็กบางอย่างที่สุด
รูปร่างแบบนี้ทำให้หยางโปชะงักนิ่งไปครู่หนึ่ง ถึงขนาดมองเห็นประกายแสงกลายเป็นสองส่วน
แต่ว่าหยางโปก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วมาก นี่คือของทำปลอมชิ้นหนึ่ง! กระดาษเก่าอักษรใหม่!
ตาอ้วนหลิวจ้องไปที่ตำราเขียนมือแล้วหันมองมาทางหยางโป หยางโปส่ายหน้าน้อยๆ
การแข่งขันในที่นี้กลับเร่าร้อนอย่างที่สุด พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เพียงแต่ว่าหยางโปไม่สนใจของพวกนี้แล้ว สนทนากับหลี่เอ้อที่อยู่ด้านข้าง ต้องการรู้จากปากของเขาว่าช่วงนี้มีโอกาสที่ค่อนข้างดีอยู่บ้างไหม
รอจนผู้ทำการประมูลเคาะค้อนก็หลังจากครึ่งชั่วโมงไปแล้ว ราคาในตอนนี้ถึงแม้จะแข่งขันกันอย่างดุเดือด แต่ก็เพิ่มขึ้นไม่มาก เพิ่มขึ้นทีละน้อย ในที่สุดราคาประมูลก็สูงไปถึงสองล้านสามแสนสามหมื่นหยวน!
เมื่อเป็นแบบนี้ เงินต้าฮัวเฟิงเยว่ที่เย่เหวยหลิวซื้อมาก็กลายเป็นของมูลค่าสูงที่สุดในที่นี้ไป!
ผลลัพธ์แบบนี้ทำให้เย่เหวยหลินยินดีอย่างมากอยู่ครู่หนึ่ง ถึงขนาดในตอนที่ต้องควักเงินออกมาในท้ายที่สุดก็ยังคงฉีกยิ้มจนปากจะถึงหู
ในใจหยางโปพะวงถึงการประมูลด้านนอก รอจนข้างในเสร็จสิ้นลงแล้ว ทั้งสามคนก็เดินออกไป ด้านนอกมีจอขนาดใหญ่ เริ่มหมุนผลลัพธ์ของสัญญาณลับในตอนสุดท้าย
หยางโปค้นหาที่ที่ถูกใจแล้วนั่งลง จ้องมองไปที่จอขนาดใหญ่ ไม่นานเขาก็พบว่าตำราภาพชิ้นหนึ่งถูกเขาประมูลมาได้แล้วจริงๆ!
มองราคาประมูลในท้ายที่สุด หยางโปก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ เพราะว่าราคาที่เขาขานออกไปนั้นต่ำมาก ทำได้กำไรเป็นเงินก้อนหนึ่ง
แต่ว่าไม่นานหยางโปก็ไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนั้น ต่อมาก็พลิกเปิดไปหลายหน้า ไม่มีหมายเลขของเขา!
ตาอ้วนหลิวก็ยิ่งหดหู่ “เป็นคนรวยกันทั้งนั้น การประมูลที่ฉันลงไปไม่มีอยู่สักอัน!
หลี่เอ้อก็กล่าวอย่างหดหู่ “ช่างเถอะ ฉันก็ประมูลไม่ได้
หยางโปจ้องมองจอขนาดใหญ่จนเจ็บตา จากนั้นก็ไม่ได้ปรากฏหมายเลขของทั้งสามคนไปตลอด จนกระทั่งหน้าสุดท้าย ในที่สุดก็ปรากฏหมายเลขของเขา แต่ก็มีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น!
หลี่เอ้อกับตาอ้วนหลิวต่างโอดครวญขึ้นมา “ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ!”
หยางโปหัวเราะ บอกกล่าวกันแล้วก็รับไปจ่ายเงินแล้วถือของสองอย่างกลับมา
หนังสือภาพคือผลงานของอู๋หงจิตรกรสมัยราชวงศ์ชิง สำนักของจิตรกรท่านนี้อยู่หนึ่งในแปดของจินหลิง ชื่อเสียงไม่โดดเด่น แต่ระดับฝีมือเพียงพอ หยางโปซื้อมาราคาราวห้าหมื่นแปดพันหยวน สามารถได้กำไรเพียงหนึ่งเท่า
ส่วนของอีกชิ้นหนึ่ง ตัวหยางโปเองก็ไม่แน่ใจนัก นั่นคือกล่องไม้ใบหนึ่ง เพียงแต่แปลกประหลาดอยู่บ้างอย่างชัดเจน
นั่งพักอยู่ในโถงใหญ่ ตาอ้วนหลิวเอาตำราภาพไว้ด้านหนึ่ง หยิบกล่องไม้ขึ้นมาเปิด มองเห็นกล้องไม้ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน สองฝั่งกลายเป็นช่องว่างเปล่าไป แต่ตำแหน่งตรงกลางมีของที่เหมือนเศษฝุ่นสีทองอย่างหนึ่ง
“นี่คืออะไร?” ตาอ้วนหลิวหันมองแล้วเอ่ยถามหยางโป
หลี่เอ้อเองก็มองอย่างประหลาดใจครั้งหนึ่ง เขาก็ไม่เข้าใจเช่นกัน
“ผมเองก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่” หยางโปจ่ายเงินไปสองแสนหยวนซื้อของในกล่องไม้นี้มา ในตอนที่มองเห็นนั้น เขาก็รู้ว่ามันแปลกประหลาดอย่างมาก เพราะว่าของที่เหมือนกับฝุ่นดินแบบนี้ มอบความรู้สึกแปลกประหลาดอย่างหนึ่งให้กับเขา เขารู้สึกว่าตนเองจะต้องซื้อเอามาให้ได้!
ในที่นี้น่าจะไม่มีใครรู้จักสิ่งของที่เหมือนกับฝุ่นดินแบบนี้ แต่เขาก็ทำเพื่อความปลอดภัย ทั้งราคายังยกขึ้นสูงมาก ท้ายที่สุดก็ได้มาอยู่ในมือ”
ต้าอ้วนหลิวรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ “นายไม่รู้เหรอ ถ้างั้นนายจะซื้อมาทำไม?”
“ผมรู้สึกว่ามันไม่เลวเลย” หยางโปกล่าว
ตาอ้วนหลิวจ้องมองหยางโป มองเห็นเขาไม่ได้ตอบกลับอย่างอื่นถึงได้นั่งกลับลงไป “ฉันไม่เชื่อ!”
ในที่สุดเย่เหวยหลินก็จัดการเรื่องราวเรียบร้อยแล้วก็พาเสวี่ยหนิงเดินมาตรงด้านข้างของทั้งสามคน มองเห็นในกล่องไม้ในมือของหยางโป ก็ยิ่งหัวเราะ “เสี่ยวโปน่าสนใจจริงๆ ทำไมถึงซื้อกล่องเครื่องประดับที่นี่ล่ะ?”
เสวี่ยหนิงมองไปอย่างประหลาดใจ มองเห็นฝุ่นผงสีทองที่อยู่ในกล่องไม้ก็หัวเราะ “นี่คงไม่ใช่ผงทองใช่ไหม?”
“ผงทอง?” หยางโปจ้องมองกล่องไม้ในมือ เขาไม่รู้สึกว่านี่คือผงทองเลยแม้แต่น้อย เพราะว่าผงทองพวกนี้ควบรวมกันเป็นก้อน ดูไปแล้วก็ยิ่งเหมือนก้อนดินสีทอง
“ใช่แล้ว สามารถเอามาทาหน้าได้ ดูไปแล้วเป็นสีทองวับวาว สวยมากเลย!” หยางโปเอ่ย
หยางโปก้มหน้าลงไปมอง เขาไม่มั่นใจเลย “ผมจะเอากลับไปศึกษาดูหน่อยก็แล้วกัน!
ต่อมาทุกคนก็ไม่ได้สนทนาอะไรมากนัก ต่างก็เอาข้าวของกลับไป ถึงแม้หยางโปจะซื้อมาน้อยมาก แต่ก็นับว่าทำกำไรได้ไม่น้อย
พอกลับมาถึงบ้าน หยางโปก็เอาผงทองมาถ่ายรูป ส่งให้กับเฉาหยวนเต๋อ เพราะว่าเขาคิดว่าเฉาหยวนเต๋อประสบการณ์กว้างไกล อาจจะรู้อะไรบ้าง
เฉาหยวนเต๋อน่าจะไม่ได้สังเกต จึงไม่ได้ตอบหยางโปกลับ
หยางโปเองก็ไม่ได้สนใจ เขาจัดเก็บห้องลับเล็กน้อย สองสามวันนี้เขากำลังจะไปเยอรมัน ในบ้านมีข้าวของต้องจัดเก็บมากมาย ถึงแม้จะอยู่ในตู้เซฟ หยางโปก็รู้สึกว่ามันอยู่ในความไม่ปลอดภัย หยางโปรู้สึกไม่เหมาะสมอยู่ตลอด เพราะว่าของเหล่านี้มูลค่าสูงมากเกินไป ถ้าหากถึงกับมีขโมยยกเอาตู้เซฟหนีไปด้วย หยางโปก็ต้องร้องไห้จริงๆ แล้ว
ดังนั้นหยางโปจึงติดต่อธนาคาร เขาจะเอาของพวกนี้ไปฝากไว้ที่ธนาคาร!
แต่ว่านี่ก็ได้เตือนสติหยางโป เขาจะต้องมีพื้นที่ที่นิรภัยปลอดภัยสักแห่ง!
หยางโปมองเห็นบทคอมพิวเตอร์ เฉาหยวนเต๋อส่งข้อความตอบกลับมาแล้ว
“นี่ไม่ใช่ผงทองใช่ไหม? ผงทองที่เป็นก้อนจากความชื้น”
หน้าผากของหยางโปเปียกชุ่ม ผงทองรวมเป็นก้อนจากความชื้น? คำตอบแบบนี้ทำให้คนประหลาดใจจริงๆ ทำไมผงทองถึงควบรวมเป็นก้อนเพราะความเปียกชื้นได้ล่ะ?