เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 206
ตอนที่ 206 เตรียมให้ครบ
ทั้งสามคนนั่งอยู่ข้างเตียงและรอจนกระทั่งค่ำมืด พ่อยังไม่ฟื้นขึ้นมา และหยางหล่างก็ไม่ได้มา
หยางโปเห็นบรรยากาศอิหลักอิเหลื่อ เขาก็ยืนขึ้นแล้วพูดกับแม่ว่า เดี๋ยวผมจะออกไปซื้อมื้อเย็นกลับมาให้
แม่พยักหน้า “โอเค ไปดีๆล่ะ”
หยางโปพยักหน้าแล้วเดินออกไป
น้าชายจ้องมองหยางโปที่เดินออกไปจากห้องผู้ป่วย สักพักหนึ่งจึงเอ่ยปากถาม “พี่รอง ขอโทษจริงๆ นะ ก่อนหน้านี้ผมก็โง่เง่าไม่ได้สังเกตว่าเสี่ยวโปมาถึงหน้าประตูแล้ว โอ้! ผมก็เลอะเทอะไป ลืมไปเลยว่าแม้เขาจะไม่ได้อยู่ด้วย แต่เพื่อนของเขาก็ยังอยู่ตรงนั้น ถ้าไม่ได้เพื่อนของเสี่ยวโป ไหนเลยจะสามารถจัดการจนมาอยู่ห้องผู้ป่วยนี้ได้?”
แม่ส่ายหัว “ไม่เป็นไรหรอก เขาอาจไม่ได้ยินก็ได้!”
พูดจบ แม่ก็ถอนหายใจหนึ่งครั้ง “ถ้าได้ยินไปแล้วนั้นจะทำอะไรได้? แต่ไหนแต่ไรมา แม้แต่คนนอกก็ยังดูออก ท่าทีของพี่เขยเธอที่มีต่อเขาว่าเป็นยังไง?”
น้าชายก็ถอนหายใจเบาๆ “พี่รอง อย่าหาว่าผมว่าพี่เขยเลยนะ ผมเห็นเสี่ยวหล่างและเสี่ยวโปมา ตั้งแต่เล็กจนโตนิสัยใจคอของพวกเขาทั้งสองคนเป็นยังไงผมก็รู้เป็นอย่างดี เสี่ยวหล่างเหลาะแหละ เสี่ยวโปสุขุมหนักแน่น เสี่ยวหล่างดูเฉลียวฉลาด แต่ในความเป็นจริงเขาฉลาดน้อย เสี่ยวโปเสียเปรียบที่ซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา แต่เขาเป็นคนฉลาด”
“ในตอนนั้นพวกพี่รับเสี่ยวโปมาเลี้ยงเป็นลูกเพื่ออะไรกัน? ไม่ได้เพื่อเลี้ยงเอาไว้ดูแลตนเองยามแก่เฒ่า? เลี้ยงจนเติบโตจนถึงทุกวันนี้แล้ว สิ่งเหล่านี้ที่พี่เขยทำเรียกว่าอะไร? เห็นได้ชัดเลยว่าต้องการผลักเขาออกไป ใครที่ไหนจะทำแบบนี้กัน?”
แม่ส่ายหน้า “หลังจากที่ตาแก่ป่วยเขาก็อยากจะฝากสิ่งดีๆ ไว้กับลูกชายของเขา เขาเลยทำสิ่งที่ไม่ยุติธรรมอย่างเลี่ยงไม่ได้”
“งั้นเขาก็จะไม่ผลักลูกของเขาออกไปหรือ พวกพี่เลี้ยงกันมาเกือบยี่สิบปี เห็นอยู่ว่ากตัญญูต่อพวกพี่ ในเวลานี้ พี่เขยทำเรื่องน่าผิดหวังอย่างนี้ ไม่ต้องพูดถึงเขาหรอก แม้แต่ผมที่ดูอยู่ห่างๆ ก็ยังทนไม่ได้!” น้าชายเอ่ยปากกล่าว
ใกล้เข้ามาเขาถอนหายใจอีกครั้ง “จนถึงตอนนี้แล้วเสี่ยวหล่างก็ยังไม่กลับมา ดูๆ ไปแล้ว กลัวว่าวันนี้จะไม่ได้มาแล้ว จะโทรมาสักครั้ง ลูกแท้ๆ ก็ยังไม่มีวี่แวว แทนที่จะ… เฮ้อ!”
เสียงถอนหายใจดังของน้าชาย ทำให้แม่ใจตุ้มๆ ต่อมๆ
ไม่นานหยางโปก็ซื้อมื้อเย็นกลับมา ทั้งสามนั่งทานอาหารเย็นข้างนอก พ่อยังคงไม่ฟื้นอยู่เหมือนเดิม
เมื่อทานเสร็จ หยางโปก็เก็บกวาดแล้วจึงหันมากล่าวกับแม่หยาง “แม่ แม่กับน้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ ทั้งสองคนเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ผมเปิดห้องไว้สองห้องที่โรงแรมข้างนอกไว้ให้แล้วละ
พูดจบ หยางโปก็หยิบคีย์การ์ดสองใบออกมาแล้วมอบให้
แม่หยางส่ายหน้า “ไม่เป็นไร แม่ไม่เหนื่อย ในนี้ยังมีเตียงอยู่ตัวหนึ่ง แม่นอนที่เตียงนี้สักหน่อยก็ได้ เมื่อถึงเวลาเขาผ่าตัด ก็เป็นอย่างนี้ไม่ใช่เหรอ? แม่ยังอดทนได้เลย!”
น้าชายหยิบคีย์การ์ดแล้วเหลือบไปมอง “ช่างเถอะ เสี่ยวโป เธอยังเช็คเอ้าท์ได้อยู่ โรงแรมดีๆแบบนี้ ค่าพักคืนหนึ่งคงแพงไม่น้อยเลย ประหยัดๆ หน่อย”
หยางโปตกตะลึงอยู่บ้าง แต่ก็ยังพูดอีกครั้ง “แม่ ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมอยู่ดูที่นี้เอง เปิดห้องสองห้องไม่ได้แพงอะไรมากนัก ผมมีบัตรสมาชิกของที่นั่น เลยได้ส่วนลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์น่ะ “
“ไม่ไป คืนนี้แม่จะอยู่ดูที่นี้น่ะดีแล้ว” แม่หยางยืนกราน
น้าชายก็ส่ายหัวปฏิเสธไม่ไป
หยางโปไม่มีวิธีอื่นจริงๆ ค่าห้องก็จ่ายไปแล้ว เขาแค่ต้องโทรไปเช็คเอาท์ เขาไม่มีที่นอน ต้องไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตด้านนอกตอนกลางดึกเพื่อซื้อผ้านวมสองผืนมาให้เขาและน้าชายคนละผืน แล้วเขาก็นอนบนเก้าอี้ด้านนอก
ค่ำคืนที่ว่างเปล่า
หลังจากหยางโปตื่นขึ้นมา เขารู้สึกปวดหลังซึ่งเป็นผลมาจากการนอนบนเก้าอี้ เขาออกไปสนามหลังโรงบาลและวิ่งไปรอบๆ สนามหลังโรงพยาบาล จนรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย เขาจึงออกไปซื้ออาหารเช้าแล้วเอากลับมา
พ่อฟื้นขึ้นมาแล้วและหมอก็เข้ามาตรวจแล้ว ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง อีกประมาณสองวันก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
หลังจากที่หมอเดินออกไป หยางโปก็ถามพ่อของเขาว่า “พ่อดีขึ้นแล้วเหรอ?”
พ่อหยางอืมเสียงเบา แล้วหันหน้าไปทางอื่น
พฤติกรรมนี้ทำให้หยางโปทำตัวไม่ถูก เขารู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาอีกครั้ง
แม่หยางตีพ่อหยางครั้งหนึ่ง พ่อหยางร้อง ฮึอย่างเย็นชาและไม่พูดอะไรอีก
สักพักใหญ่ พ่อหยางหันมามองแม่หยาง “เงินทั้งหมดในบ้านก็ถูกสัตว์ร้ายนั่นเอาไปหมดแล้ว เธอเอาเงินที่ไหนส่งฉันมาที่นี้? ตอนนี้ถ้าพวกเราออกจากโรงพยาบาล จะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย!”
พูดอยู่ พ่อหยางก็หันไปมองหยางโป “แกไม่ไปหาเงินแล้วเหรอ? ค่ารักษาจ่ายให้ไม่ได้ใช่ไหม?”
หยางโปอยากจะเอ่ยปากพูดเกี่ยวกับปัญหาค่ารักษาพยาบาล แต่รู้สึกสำลักโดยคำพูดของพ่อหยางทำให้ไม่สามารถกล่าวออกมาได้ พ่อหยางพูดว่าที่บ้านไม่มีเงิน เขาสามารถอาสาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้อีกฝ่ายได้ แต่เมื่อพ่อหยางบอกว่าเงินที่บ้านถูกพี่ใหญ่เอาไป เมื่อพ่อหยางขอให้หยางโปจ่ายให้ หยางโปก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย
ทำไมเขาถึงถูกบังคับ แม้จะมีวัตถุประสงค์และผลลัพธ์เดียวกัน แต่หยางโปก็รู้สึกเศร้าใจขึ้นมาอีกครั้ง
แม่หยางจ้องไปที่พ่อหยางอย่างดุดันและหันมามองหยางโป “ครั้งนี้น้าชายของลูกออกให้”
ท้ายที่สุดหยางโปก็ยังไม่สามารถพูดปฏิเสธได้ เขามองไปที่น้าชาย “น้า เมื่อวานออกไปเท่าไหร่ ผมจะจ่ายคืนให้ก็แล้วกัน?”
น้าชายโบกมือ “ไม่เป็นไร เธอยังหนุ่ม เงินยังมีไม่มาก”
“น้า ไม่เป็นไรครับ รับไปเถอะ!” พูดจบ หยางโปก็ยัดเงินพร้อมซองใส่ในกระเป๋าของน้า
ในตอนเที่ยง หยางโปจ่ายเงิน หกพันกว่าหยวนสำหรับค่ารักษาพยาบาล ครั้งนี้พยาบาลมาหาเขาโดยตรง
ในตอนสี่โมงเย็นกว่าๆ หยางหล่างและแฟนสาวก็มาถึงโรงพยาบาลได้ในที่สุด ในเวลานี้ทั้งสองคนได้มาหลัง
หยางโปถึงหนึ่งวันหนึ่งคืน
เข้าห้องผู้ป่วยมาแล้ว หยางหล่างก็วิ่งไปหาพ่อหยาง ก้มไปมองพ่อหยางแล้วกล่าว “พ่อ เกิดอะไรขึ้น? พ่อ!”
พูดๆ อยู่ หยางหล่างก็น้ำตาคลอเบ้า ในไม่ช้าน้ำตาก็ไหลออกมา
หยางโปยืนหน้ามุ่ยอยู่ด้านข้าง เขาดูถูกหยางหล่าง นี้เป็นการแสดงที่เกินจริงที่น่ารังเกียจจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลานเย่วแฟนของหยางหล่างที่แต่งหน้าหนาจัดจ้าน ใส่น้ำหอมกลิ่นฉุน เวลานี้ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม!
พ่อหยางจับหัวของหยางหล่าง “แกมาได้แล้วเหรอ มาได้ก็ดี!”
“พ่อ ผมสมควรตาย เวลาพ่อไม่สบาย ผมไม่สามารถดูแลพ่อได้เลย นี้มันเป็นความผิดของผมเอง! ” เสียงของ
หยางหล่างที่กำลังร้องไห้ด้วยความจริงใจและกตัญญู
พ่อหยางยังส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ไม่ใช่ยังมีแม่แกเหรอ?”
หยางหล่างหัวเราะเหอะเหอะ “จริงสิ ลำบากแม่เลย”
“ในบัตรATMยังเหลือเงินอยู่เท่าไหร่?” พ่อหยางหันไปถามหยางหล่าง
หยางหล่างก้มหน้าคิด ดูเหมือนว่ากำลังคิดเกี่ยวกับตัวเลข “ไม่มากแล้ว”
พ่อหยางขมวดคิ้ว ไม่มากแล้วมันเหลือเท่าไหร่กัน?
“ยังเหลืออยู่ประมาณสามหมื่นกว่าหยวน” หยางหล่างตอบ
พ่อจับไปที่อกของตัวเอง ใช้เวลาอยู่พักหนึ่งจึงตอบสนอง “นั้นก็คือเงินของครอบครัวสามแสนหยวน ตอนนี้เหลือเพียงสามหมื่นหยวน พวกแกเอาไปใช้ขนาดนั้นเลยจริงๆ เหรอ!”
พูดจบ พ่อหยางก็หันไปมองหยางโป “เงินนี้เป็นของพวกเราสองสามีภรรยา ฉันคิดว่าก็ให้หยางโปเตรียมมาให้ครบก็แล้วกัน!”