เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 258
ตอนที่ 258 ซูหนี
ฉินโถวยืนอยู่ไม่ไกล ตอนที่ก่อนหยางโปจะมองเห็นเขา ฉินโถวมีสีหน้าเคร่งขรึม เมื่อตอนนี้มองดูอีกครั้ง สีหน้าของฉินโถวก็ผ่อนคลายลงมากแล้ว เห็นหลูตงซิงเอ่ยราคาสูงถึงสามล้านหยวนออกมา ฉินโถวก็ไม่ได้ถอดใจ ” สามล้านห้าแสนหยวน ! “
” สี่ล้านหยวน ! ” อีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
การแข่งขันในนี้พลันเข้าสู่จุดเดือดอย่างแท้จริง ไม่มีใครยอมปล่อยลายแทงสมบัตินี้ไปเลย !
คนหนุ่มเผ่าอี๋ทั้งสามก็คาดไม่ถึงภาพการณ์ตรงหน้านี้เลย เดิมพวกเขาคิดว่าจะสามารถขายออกไปได้สักสามแสนห้าแสนหยวนก็แพงมากแล้ว ไม่ได้คาดการณ์ไว้เลยว่าคนเหล่านี้จะสนใจแคว้นเย่หลางโบราณที่ลึกลับแปลกประหลาดมากขนาดนี้ !
หลูตงซิงมองไปทางหยางโป เอ่ยถามเสียงเบาว่า ” ตามดีไหม ? “
หยางโปก็ลังเล ราคานี้มากเกินกว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้ เมื่อครู่เขาพยายามลองพิสูจน์จริงเท็จของลายแทงสมบัติข้างในจากข้างนอกกล่องไม้แล้ว แต่ลายแทงสมบัติม้วนรวมเข้าด้วยกัน ทำให้เขายากที่จะตัดสินได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาสามารถมั่นใจได้ก็คือกระดาษของลายแทงสมบัติไม่ธรรมดาเลย แต่เป็นหนังสัตว์ชนิดหนึ่ง ทั้งยังมีอายุยาวนานมาก
หยางโปลังเลอยู่ชั่วครู่แล้วก็พยักหน้า ” ตามเลย ! “
หลูตงซิงเหลือบมองหยางโป เขารู้ว่าหยางโปมีทักษะในการประเมินวัตถุโบราณสูงมาก สิ่งนี้ทำให้เขายิ่งมั่นใจ ” สี่ล้านหนึ่งแสนหยวน ! “
คนผู้นั้นที่เข้าร่วมการประมูลไม่คุ้นเคยกับหลูตงซิงเลย เหมือนว่าเขาจะมีความตั้งใจสูงมาก ” สี่ล้านสามแสนหยวน ! “
” ห้าล้านหยวน ! ” หยางโปจ้องมองสถานการณ์ในที่นี้ เดิมเขาคิดจะให้หลูตงซิงคว้าเอาลายแทงสมบัตินี้มา แต่พอครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว เป้าหมายของหลูตงซิงใหญ่เกินไป คนจำนวนมากถ้าหากได้สืบค้นก็จะสืบถึงฐานะของหลูตงซิงได้ ตามด้วยถ้าหากเขาถูกสะกดรอยตาม พวกเขาก็จัดการได้ยากไม่สู้ให้เขาเป็นคนประมูลเอาไปจะดีซะกว่าเหรอ
หลูตงซิงมองไปอย่างสงสัยเล็กน้อย แต่ว่าเขาก็ไม่ได้พูดอะไร
ฉินโถวขมวดคิ้วแน่น มองไปทางหยางโป มุมปากกระตุก แต่ในที่สุดแล้วเขาก็ไม่ได้เอ่ยปาก
อีกคนหนึ่งมองมาทางหยางโปอย่างสงสัย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
ต่อมาทุกคนก็ได้รับวัตถุโบราณของตนเอง จ่ายเงินแล้วก็พากันจากไป
โดยรอบก็เหลือแค่กลุ่มของหยางโปกับพวกฉินโถวสองคนอย่างรวดเร็ว ฉินโถวมองมาทางหยางโป
” แคว้นเย่หลางยังมีเรื่องลึกลับอีกมาก หวังว่าคนหนุ่มอย่างพวกคุณจะสามารถสำรวจออกมาได้ “
หยางโปพยักหน้า ” วางใจเถอะครับ พวกเราแบกรับงานพวกนี้มาก็สามารถหาแคว้นเย่หลางเจอได้แล้ว “
ฉินโถวหัวเราะ หันหลังเดินออกไปด้านหน้า ก่อนที่จะจากไป เขาส่งกระดาษแผ่นหนึ่งมาให้หยางโป ” ฉันคิดๆ ดูแล้วยังรู้สึกว่าพวกเธอต่อไปอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากฉัน ถ้าหากมีเรื่องจำเป็นก็ติดต่อฉันมาได้นะ ! “
หยางโปมองไปอย่างประหลาดใจมาก ไม่รู้ว่าฉินโถวพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร แต่เขาก็ยังพยักหน้า
” ได้ครับ ถ้าหากมีปัญหาอะไรที่แก้ไขไม่ได้จริงๆ พวกเราจะติดต่อคุณแน่นอน “
ฉินโถวยิ้มแล้วเดินออกไป หยางโปเหลือบมองหลูตงซิงครั้งหนึ่งแล้วก็มองไปทางเด็กหนุ่มเผ่าอี๋ทั้งสามคน
” พวกเรารีบประเมินของกันเถอะ ที่นี่รั้งอยู่นานไม่ได้ “
เด็กหนุ่มทั้งสามก็อยากจะรีบรับเงินให้เร็วที่สุด คนที่เป็นผู้นำจึงส่งกล่องไม้ให้กับหยางโป ” พวกคุณดูก่อนเลยครับ “
หยางโปรับกล่องไม้มา เด็กหนุ่มเผ่าอี๋ผู้เป็นหัวหน้าก็เอ่ยอธิบาย ” นี่คือลายแทงหนังวัวแผ่นหนึ่ง เปื่อยผุไปกว่าครึ่งแล้วแต่ว่ายังสามารถมองโครงเส้นสายได้อยู่ นี่น่าจะเป็นแผนที่ป้องกันเมืองของเมืองที่มั่งคั่งสักแห่งในแคว้นเย่หลาง “
หยางโปจ้องมองลายแทง จะเป็นหนังวัวจริงหรือไม่นั้นก็ไม่แน่ชัด แต่เขามั่นใจได้เรื่องหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นหนังของสัตว์ชนิดไหนก็ไม่มีทางที่จะเก็บรักษาได้ยาวนานนัก หลังจากฝังลงไปแล้วก็จะต้องเปื่อยเน่าอย่างแน่นอน แต่เขาสามารถมองออกได้ว่าลายแทงหนังสัตว์ผืนนี้เก็บรักษามานานกว่าสองพันปีเต็มๆ ! นี่เป็นเรื่องที่ประหลาดมาก !
” นี่คือหนังวัวเหรอ ? ” หลูตงซิงสีหน้าเปลี่ยน แล้วรีบเดินเข้ามาจ้องมองแผ่นหนังวัว
” หนังสัตว์ฝังลงดินไปแล้วเปื่อยผุได้ง่ายมาก ผ่านมานานขนาดนี้แล้วจะยังมีรอยขีดเขียนอยู่ได้ยังไง ? ” หลูตงซิงกล่าวอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เด็กหนุ่มเผ่าอี๋ผู้เป็นหัวหน้าส่ายหน้า ” นี่ก็ไม่แน่ใจนะ ตอนที่บ้านของอาซานก่อสร้างก็ขุดเอาลายแทงแผ่นนี้ออกมา พวกเราก็ไม่รู้อายุที่แน่ชัดแต่มีอายุไม่น้อยอย่างแน่นอน “
” นี่ไม่น่าเป็นลายแทงสมัยแคว้นเย่หลางโบราณไปได้นะ ควรรู้ว่าแคว้นแย่หลางโบราณนั้นอายุกว่าสองพันปีแล้ว หนังวัวจะอยู่มาถึงสองพันปีได้ยังไง ? ” หลูตงซิงยังคงไม่เชื่อ เขาหันหน้ามามองหยางโปแต่กลับมองเห็นหยางโปหยิบแผ่นหนังวัวขึ้นมาดมใต้จมูก
เด็กหนุ่มเผ่าอี๋ที่เป็นผู้นำกำลังจะเอ่ยห้าม จู่ๆ หยางโปก็ยกมือขึ้น ” นายบอกที่อยู่และรายละเอียดในการติดต่อให้ฉันได้ไหม ? “
เด็กหนุ่มเผ่าอี๋สีหน้าเปลี่ยน เขาวิ่งแจ้นมาถึงจิ่งเฉิงก็เพราะว่าป้องกันไม่ให้ข้อมูลรั่วไหล ควรรู้ว่าเรื่องพวกนี้ที่เขาทำอยู่นั้นล้วนผิดกฏหมาย !
หยางโปสังเกตเห็นถึงจุดนี้ เขาจึงห้ามหลูตงซิงแล้วหันไปกล่าวกับเด็กหนุ่มเผ่าอี๋เสียงอ่อนว่า ” ถ้าหากไม่อยากให้จริงๆ ถ้างั้นก็ทิ้งข้อมูลติดต่อเอาไว้หน่อยเถอะ ต่อไปถ้าหากพวกเราหาเบาะแสเจอแล้วก็อาจจะยังต้องการไกด์นำทางสักคนน่ะ “
เด็กหนุ่มเผ่าอี๋ส่ายหน้า ” ผมลดราคาให้อีกหน่อยก็ได้ แต่ว่าข้อมูลติดต่อกับที่อยู่ เกรงว่าผมจะให้ไม่ได้ ! “
หยางโปพยักหน้า เขาเข้าใจความกังวลของอีกฝ่ายแล้วก็ไม่ได้บังคับ เขามองอีกฝ่าย ” ฉันอยากรู้เรื่องหนึ่งน่ะ ตอนที่พวกนายขุดเอาแผ่นหนังสัตว์นี้ออกมา ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นไหม ? อย่างแผ่นหนังนี้ถูกปิดผนึกเอาไว้ไหม ? “
เด็กหนุ่มเผ่าอี๋ประหลาดใจเล็กน้อย เขาหันหน้ามองไปทางด้านหลัง ” อาซาน ตอนที่นายอยู่ที่นั่นมีเรื่องอะไรไหม ? “
อาซานดูเหมือนจะผอมบางมาก สีหน้าเหลืองซีด ท่าทีขลาดเขลา เมื่อครู่หลังจากที่เจรจาธุรกิจเสร็จแล้ว นัยน์ตาของเขาก็มีประกายกล้า พอเด็กหนุ่มหัวหน้าเรียกออกมาก็พลันโง่งมไปเล็กน้อย แล้วเอ่ยอย่างตะกุกตะกักว่า ” คือ คือมันถูกวางเอาไว้ในน้ำเลือดน่ะ “
พวกของหยางโปพลันสีหน้าเปลี่ยนสี มือที่หยางโปหนีบแผ่นหนังสัตว์สั่นเทาเล็กน้อย
เด็กหนุ่มเผ่าอี๋ผู้เป็นหัวหน้าก็ชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าไม่น่าดูอยู่บ้าง เขาทำงานอยู่ด้านนอกมาตลอด ก่อนหน้าก็ไม่รู้เรื่องนี้เลย ต่อมาพอได้ยินแล้วก็อาศัยประสบการณ์สองสามส่วน เขาเลยอยากจะขายออกไปในราคาสูง ไม่คิดเลยว่าแผ่นหนังสัตว์นี้จะถึงกับถูกแช่อยู่ในน้ำเลือด !
อาซานเห็นสีหน้าของทุกคนแล้วก็ยิ่งตึงเครียดขึ้นมา รีบเอ่ยว่า ” ไม่ ไม่ใช่น้ำเลือด… แค่น้ำนั่นมันเป็นสีแดง “
หยางโปหนีบหนังสัตว์ รู้ว่ายิ่งอธิบายก็ยิ่งเละเทะ เขาทำได้แค่เอ่ยถามว่า ” ในเมื่อวางไว้ในน้ำ แล้วอ่างที่ใส่น้ำนั่นยังอยู่ไหม ? “
อาซานมองเด็กหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าแวบหนึ่ง ” โยนทิ้งไปแล้ว “
“หะ โยนทิ้งไปทำไม ? ” หยางโปมองไป ” พวกนายเอาอ่างนั้นมา ฉันซื้อในราคาแพงได้นะ “
หยางโปมองเห็นสีหน้าของเด็กหนุ่มที่เป็นหัวหน้าพลันยินดี อาซานกลับสีหน้าเลิ่กลั่ก ” ปู่บอกว่าอ่างไม่เป็นมงคล ให้ผมเอาไปโยนทิ้ง ! “
” ปู่เป็นใคร ? ” หยางโปเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ
อาซานกล่าว ” ปู่ก็คือซูหนี ! “
หยางโปที่หนีบหนังสัตว์ร่างพลันแข็งค้าง เขารู้ได้ถึงไอเย็นวูบหนึ่งจากบนหนังสัตว์ กระจกแสงจันทร์ที่อยู่ตรงหน้าอกก็ดูดซับไปอย่างรวดเร็ว เขารีบวางแผ่นหนังสัตว์ลงบนโต๊ะ
ทุกคนต่างมองหน้ากันและกัน สังเกตเห็นท่าทีของหยางโปที่แปลกใจก็อดกังวลใจขึ้นมาไม่ได้