เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 275
ตอนที่ 275 ความขุ่นเคืองในอดีต
หลูตงซิงมองไปที่อาจารย์ฉิน ” ผมไม่อยากได้ยินอะไรจากคุณมาก ปัญหาในตอนนี้คือ พวกเราควรจะทำยังไงต่อไป ? “
อาจารย์ฉินหัวเราะขึ้น ” ทำตามที่เขาต้องการ ! “
มือถือของหลูตงซิงดังขึ้น เขาไม่ได้หลบเลี่ยงทุกคนเช่นเคย จึงรีบรับสาย ” เจอแล้วเหรอ ? “
” คนที่ซื้อแหวนทองคำนี้ ชื่อว่า จือมู่ เป็นชาวอี้ งั้นหรือ ? ” ทันใดนั้นเสียงของหลูตงซิงก็ดังขึ้น ” โอเค ฉันเข้าใจแล้ว “
ทุกคนล้วนแต่หันไปมอง หลูตงซิงพูดกับทุกคนว่า ” จือมู่ เป็นคนซื้อแหวนทองคำนั้นไป “
” จือมู่เหรอ ? ทำไมถึงเป็นเขาได้ ? ” ลัวย่าวหัวมองด้วยความเหลือเชื่อ
หลูตงซิงหัวเราะขึ้นมา ” ทำไมถึงไม่ใช่เขาล่ะ ? “
ลัวย่าวหัวหยุดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็จ้องมอง ” จือมู่เป็นสมุนที่เป็นหูเป็นตาของซูหนี ! แต่ว่า พวกเขาก็ได้รับโบราณวัตถุของอาณาจักรเย่หลางมากมาย หมายความว่าพวกเขาควรรู้ที่ตั้งของหลุมฝังศพโบราณแห่งอาณาจักร เย่หลาง แล้วทำไมพวกเขาต้องทำแบบนี้ด้วย ? “
ในเวลานี้ ทุกคนเต็มไปด้วยความสงสัย ทุกคนต้องการพบซูหนีโดยเร็วที่สุด และหาเขาเพื่อถามสถานการณ์ที่ชัดเจนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ !
แต่ว่า ทันทีที่คิดถึงเวทมนตร์ของซูหนี หยางโปและคนอื่นๆก็ลังเลขึ้นมาอีกครั้ง หยางโปมองไปที่ฉินโถว
” อาจารย์รู้จัก ซูหนีดีไหม ? อาจารย์รู้รึเปล่าว่า ความโชคร้ายอะไรจะเกิดขึ้น ? “
ฉินโถวอธิบาย ” นั่นเป็นเวทมนตร์คุณไสยของชาวยี่ ! ต้นกำเนิดลึกลับมักเป็นที่รู้จักกันโดยเฉพาะซูหนีเท่านั้น !
แต่ชีวิตของซูหนีส่วนใหญ่อาจไม่ได้ใช้เพียงครั้งเดียว คุณไสยแบบนี้มันจะต้องเจ็บปวดอย่างแน่นอน ! “
” เขาใช้สื่ออะไรที่ใช้ในการแพร่กระจาย ? ” หยางโปถามอีกครั้ง
ฉินโถวลังเลขึ้นมา ใช้เวลาคิดอยู่สักพักแล้วจึงกล่าว ” ไม่จำเป็นต้องกระจายสื่อ นี่เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดและบางครั้งก็ไม่ชัดเจนว่า เขาแพร่กระจายยังไง “
พูดจบ ฉินโถวเงยหน้ามองทั้งสี่คน ” ผมอยากเห็นซูหนีของหมู่บ้านชื่อสุ่ย พวกคุณพาผมไปที่นั่นหน่อย ! “
” ถ้าถึงตอนนั้นเขาทำคุณไสยใส่เรา แล้วพวกเราจะทำยังไง ? ” ตาอ้วนหลิวเอ่ยปากถาม
ฉินโถวกล่าวอย่างไม่ลังเล ” พวกคุณวางใจเถอะ ผมจะไม่ปล่อยให้เขามีชีวิตต่อไปในวันพรุ่งนี้ นี่เป็นเวลาหลายปีที่ผมมีชีวิตอยู่ เพื่อวันหนึ่งที่ผมจะได้พบกับซูหนีอีกครั้ง ! “
หยางโปรู้สึกหวาดผวา เขามองไปที่ฉินโถว เมื่อเห็นใบหน้าอันดุดันของเขาเหมือนว่าเขาและชูหนีจะมีความ
โกธรแค้นบาดหมางกัน อย่างกับถูกพรากพ่อ พรากเมียไปยังไงอย่างนั้น
” คุณมีอะไรเกลียดชังกับเขารึเปล่า ? ” ลัวย่าวหัวถามอย่างรอบครอบและระมัดระวัง
ฉินโถวเงยหน้าขึ้นมองและยิ้มกว้าง ” ผมเจอที่นี่แล้ว การไปที่หมู่บ้านชื่อสุ่ยในครั้งต่อไป แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องให้พวกคุณช่วย ! “
ทุกคนมองไปที่ฉินโถว และต่างก็ขมวดคิ้ว แต่หลูตงซิงก็ยังพยักหน้า ” โอเค พวกเราเชื่อคุณ ! “
พูดจบ หลูตงซิงก็นำหน้าทุกคนขึ้นรถไป
เป็นเพราะจากคำทักทายของ ชุยอี้ฝาน และเงินสด สองแสนที่ถูกกดออกมาอย่างรวดเร็ว
ทุกคนไม่สามารถถามอะไรฉินโถว เพิ่มเติมได้ ทุกคนไม่รอช้าขึ้นรถแล้วมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านชื่อสุ่ยทันที
ชุยอี้ฝานมองหยางโปและคนอื่นๆจากไป แล้วหันมาพยักหน้าให้จ่าหม่าซั่ว ” ไป พวกเราก็ไปด้วย ตามอยู่ห่างๆ อย่าเข้าไปใกล้มากเกินไป อย่าให้พวกเขาจับได้ “
จ่าหม่าซั่ว ” ครับผม ! “
หลังจากขึ้นรถแล้วมือถือของ ชุยอี้ฝานก็ดังขึ้น เขาก็หยิบมันขึ้นมาดู
” สวัสดีครับ อารอง “
” สวัสดี ตอนนี้เขาไปกันแล้ว … ที่เผ่านั้นลึกลับมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งซูหนีในเผ่าเป็นที่น่าเคารพนับถือและเป็นที่พึ่งของคนทั้งหมู่บ้าน มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะโดนคุณไสย “
” อารอง อาวางใจเถอะ ตอนนี้ผมกำลังรีบตามไป ตั้งแต่ที่เขามาหาผมที่นี่ ผมจะปกป้องเขาอย่างเต็มที่อย่างแน่นอน ผมจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายเขาได้เลยแม้แต่น้อย ! “
มือถือของหลู่ตงซิงก็แทบจะไม่ได้หยุดใช้งาน
” อืม ฉันรู้แล้ว…พวกแกมัดพวกมันเอาไว้แล้วสอบถามให้ได้ความล่ะ ! “
หลูตงซิงวางสาย แล้วหันไปกล่าวกับทุกคน ” บอดี้การ์ดของฉันพบว่ามีคนขายวัตถุโบราณของอาณาจักร
เย่หลางสามคนที่ข้างนอก ฉันขอให้พวกเขาถามว่าพวกมันมาจากหมู่บ้านชื่อสุ่ยหรือเปล่า
” ถ้าเป็นอย่างที่พูด อย่างนั้นพวกเขาพบสมบัติของอาณาจักรเย่หลางแล้วรึยัง ? ” หยางโปถามทันที
ทุกคนต่างก็คิดถึงเรื่องนี้ ตาอ้วนหลิวกล่าว ” นี่ดูเหมือนว่า น่าจะเป็นแบบนั้น “
ในรถเงียบสงบลงชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนกำลังคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป นึกถึงการติดต่อกับซูหนี หยางโปอดคิดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เมื่อเขาทำให้ชาวบ้านทุกคนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก แต่เขากลายเป็นคนโลภมาก
สภาพอากาศค่อนข้างมืดมนลมเย็นและเมฆมืดครึ้มกำลังมา ถนนบนภูเขาสูงชันมาก แม้ว่าจะไม่ได้ใช้สัญญาณไฟจราจร แต่การขับขี่ยังคงช้า
ใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงและเกือบสองชั่วโมงเพื่อให้ทุกคนมาถึงหมู่บ้านชื่อสุ่ย
มือถือของหยางโปก็ดังขึ้น เขามองดู เป็นเบอร์แปลกที่โทรมาจากปักกิ่งแต่ก็ไม่รับสาย เขาเลยกดวางสาย
มีหมอกและฝนตกปรอยๆ ปกคลุมพื้นที่ ลัวย่าวหัวถือกระเป๋าบรรจุเงิน สองแสนหยวน ปล่อยฉินโถวเอาไว้ในรถ ทุกคนปีนขึ้นไปบนภูเขา
เมื่อเข้าไปในหมู่บ้านแล้ว หยางโปก็เห็นอาหลี อาหลีใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแล้วหันไปโปกมือให้หยางโป
หยางโปยิ้มตอบกลับ เขาคิดในใจ เกรงว่าจะไม่มาที่หมู่บ้านนี้อีกแล้ว
เขาเข้าไปเคาะประตูบ้านของซูหนี ครู่หนึ่ง ก็เห็นซูหนีเดินออกมาอย่างสบายๆ
ลัวย่าวหัววางกระเป๋าเงินเอาไว้ที่พื้น ” พวกเรามาคุยกัน นี่คือเงินสดสองแสนหยวน “
ซูหนีมองลัวย่าวหัวรูดซิปกระเป๋า เมื่อเขาเห็นเงินสดสองแสนหยวนในนั้นดวงตาของเขาก็ลุกวาว เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้ม ” โอเค พวกคุณรักษาสัญญาที่ให้ไว้ ! “
” ซูหนี พวกเราอยากรู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อไป ? ” หลู่ตงซิงถาม
หยางโปยืนอยู่ใกล้ๆ รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ตั้งแต่มาถึงที่นี่พวกเขาไม่มีทางควบคุมโชคชะตาของตัวเองเลย
ทำได้เพียงเชื่อฟังคำสั่งของซูหนีซึ่งเป็นศัตรูของพวกเขาเท่านั้น
ซูหนีหัวเราะ ” พวกคุณมั่นใจได้เลย แค่มาดื่มน้ำมนต์หนึ่งชามทุกปัญหาก็จะหมดไป ! “
พูดจบ ซูหนีหันเข้าไปในห้องหยิบเหล้าหนึ่งขวดแล้วเดินไปหาทั้งสี่คน ” นี่คือขั้นตอนสุดท้ายแล้ว “
เมื่อจ้องไปที่ขวดเหล้าในมือของซูหนี ทันใดนั้นทั้งสี่คนก็เป็นอันว่าเข้าใจแล้ว ว่าทำไมคนเหล่านั้นถึงตาย !
ซูหนีเดินไปที่กลางลาน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่แสนหวาน เสียงของเขาต่ำและดูใจดีมาก
” ดื่มมันเลย ! “
” ชื้อสุ่ยปี้หมอ แกยังจำฉันได้ไหม ? “
ทั้งสี่คนกระเถิบออกจากหน้าประตู ฉินโถวเดินเข้ามา ดวงตาของเขาแดงก่ำและจ้องตรงไปที่ซูหนี และเรียกเขาว่า ” ชื้อสุ่ยปี้หมอ ! ” ปี้หมอและซูหนีมีความหมายเดียวกัน
ซูหนีก็ตกตะลึงทันที เขาเหล่ตามอง ” ดูเหมือนฉันจะจำแกได้ ดูเหมือนจะคุ้นเคยเล็กน้อย “
ฮ่า ฮ่า ฉินโถวหัวเราะ ” ยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ที่แกหนีไป หนีจนมาถึงภูเขาและสันเขาที่แห้งแล้งที่นี่ ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีวันนี้ ? “