เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 293
ตอนที่ 293 ถูกขวางก่อนขึ้นเครื่องบิน
วันต่อมาหยางโปกำลังจัดเก็บข้าวของ ลัวย่าวหัวก็วิ่งเข้ามา
เห็นหยางโปกำลังจัดเก็บของโบราณหลายสิบชิ้น ลัวย่าวหัวก็พลันตกตะลง ” นายคงจะไม่ไปยกเค้าร้านไหนมาหรอกใช่ไหม ? “
หยางโปพยักหน้า ” งั้นนายคิดว่าเป็นแบบไหนล่ะ ? “
ลัวย่าวหัวจ้องมองของโบราณตรงหน้า ” ไอ้เจ้านี่ ตั้งแต่นายย้ายมาอยู่ที่นี่ก็ต้องไปจับของที่พานเจียหยวนมาแน่นอน ซื้อของมามากขนาดนี้จะต้องจ่ายเงินไปไม่น้อยแน่ ถ้ายังไงนายเอาไปขึ้นประมูลที่โรงประมูลของพวกเราทั้งหมดเลยไหม ? “
” ไม่ ไม่ต้องพูดถึงโรงประมูลแล้ว นายคิดว่าถ้าหากอาศัยฉันเพียงคนเดียว จะสนับสนุนทั้งโรงประมูลได้รึไง ? ยังไงก็ให้พวกพนักงานขายวิ่งรอกสักหน่อย ผ่านไปสักสองปีพอมีชื่อเสียงแล้ว จะต้องไม่ลำบากขนาดนั้นแน่ ” หยางโปกล่าว
ลัวย่าวหัวยิ้มขื่น ” นายนี่ไม่เข้าใจค่าใช้จ่ายจำเป็นเลยนะ ถ้าพนักงานขายออกไปก็ต้องการค่าเดินทาง พวกนี้เป็นค่าใช้จ่ายทั้งนั้นเลยนะ ! “
” อย่าบอกนะว่าต่อไปนายไม่จำเป็นต้องฝึกฝนทีมแล้ว ” หยางโปมองลัวย่าวหัว ” รีบมาช่วยฉันแพ็คของเร็ว ฉันจะเอาของพวกนี้กลับไป ! “
ลัวย่าวหัวจนปัญญา จำต้องลงมือช่วยหยางโปแพ็คของ
ใช้เวลาไปตลอดทั้งเช้า ในที่สุดหยางโปก็แพ็คของเรียบร้อย เรียกผู้เชี่ยวชาญมาห้าหกบริษัทแล้ว จ่ายเงินไปก้อนนึง ของพวกนี้ก็จะไปถึงจินหลิงช้ากว่าเขาก้าวนึง
ลัวย่าวหัวมาส่งหยางโปถึงสนามบินแล้วก็เอ่ยกับหยางโปว่า ” เดิมทีก็คิดจะกลับไปพรุ่งนี้ แต่ว่าสองวันนี้มีธุระนิดหน่อย ฉันจะกลับไปช้าหน่อยนะ “
” ไม่เป็นไร ยังไงโรงประมูลก็ไม่มีเรื่องอะไรมากแล้ว ปรับปรุงใหม่มาตลอด นายโทรฟังรายงานก็พอแล้ว กลับไปถ้าฉันมีเวลาก็จะไปดูสักหน่อย ” หยางโปกล่าว
” งั้นก็ดี ” ลัวย่าวหัวถึงค่อยวางใจลง
บินจากเมืองหลวงไปจินหลิงใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง ระยะเวลาสั้นมาก หยางโปทำตามขั้นตอนเรียบร้อย เข้าไปรอในโถงรอบิน ตอนที่กำลังจะปิดโทรศัพท์ จู่ๆ ก็ได้รับสายจากตาอ้วนหลิว
” ทางฉันเจอเรื่องใหญ่ นายอยู่ที่ไหน ? “
น้ำเสียงของตาอ้วนหลิวร้อนรนเล็กน้อยทำให้หยางโปตกใจมาก ” เกิดอะไรขึ้น ? นายเจอเรื่องอะไร ? “
” มีลายแทงสมบัติแคว้นเย่หลางปรากฏขึ้นอีกแผ่นหนึ่ง ! ” ตาอ้วนหลิวกล่าว
หยางโปได้ยินคำพูดนี้ ทันใดนั้นเขาก็ใจเย็นไม่ไหว ก่อนหน้านี้พวกเขาตั้งใจถ่อไปที่เฉียวโจว แต่ก็เก็บเกี่ยวอะไรไม่ได้เลย อีกอย่างลายแทงสมบัติแผ่นก่อนในที่สุดก็มอบให้ซูหนีไปแล้ว ท้ายที่สุดพวกเขาก็หาไม่เจอ
” ยังเป็นแผนที่ทางการทหารของเมืองไหม ? ” หยางโปเอ่ยถาม
” นั่นยังไม่ชัดเจน แต่ข่าวแว่วมาว่า ครั้งนี้จะจัดการแลกเปลี่ยนที่ทุ่งหญ้าหม่านเมิง ” ตาอ้วนหลิวกล่าว
หยางโปลังเลเล็กน้อย ทางนั้นก็กำลังจะให้ทุกคนเริ่มขึ้นเครื่องบินแล้ว แต่ข่าวสารตรงหน้านี้ เขาก็ลังเลขึ้นมา เขาแปลบันทึกก่อนหน้านี้ไปครึ่งหนึ่งแล้ว ข้างในมีอธิบายถึงแคว้นเย่หลางเล็กน้อย ทำให้เขาประหลาดใจ แต่ก็เดาเนื้อหาในบันทึกไปไม่น้อย แถมไม่แม่นยำเลย
ลายแทงแผนใหม่อาจจะมีเนื้อหาเพิ่มเติมอีกแน่ แน่นอนว่าหยางโปก็คิดจะสำรวจความลึกลับของแคว้นเย่หลางที่สาบสูญด้วยเหมือนกัน !
” นายรอเดี๋ยวนะ ฉันจะรีบไปตอนนี้เลย ! ” หยางโปเอ่ยขึ้นมาทันที
หลังจากลัวย่าวหัวได้ข่าวแล้วก็ยูเทิร์นรถกลับไปรับหยางโป ทั้งสองคนรีบไปทางที่อยู่ของตาอ้วนหลิว
ไม่นานทั้งสามก็มารวมตัวกัน หยางโปเอ่ยถามขึ้นทันที ” เริ่มการแลกเปลี่ยนเมื่อไหร่ ? “
” พรุ่งนี้ก็จะเริ่มแล้ว ดังนั้นคืนนี้พวกเราต้องเร่งขับรถไปทั้งคืน อ้อ รถก็ต้องขับข้ามประเทศหรือไม่ก็เป็นรถจิ๊บ ต้องเอาปืนไปด้วย ตอนกลางคืนอาจจะเจออันตรายได้ ” ตาอ้วนหลิวกล่าว
” โอเค พวกนี้ยกให้ฉัน ” ลัวย่าวหัวเอ่ยอย่างไม่ทุกข์ร้อน
ไม่มีเวลาให้เอ่ยถามมากนัก เมื่อเปลี่ยนรถแล้วทั้งกลุ่มก็รีบมุ่งหน้าไปที่ทุ่งหญ้าหม่านเมิง
นั่งอยู่ในรถแล้วถึงได้มีโอกาสถามรายละเอียด
” ตาอ้วนหลิว นายได้ข่าวเร็วขนาดนี้มาได้ยังไง ? ” หยางโปเอ่ยถาม ” ฉันส่งข่าวกันยังไงล่ะ ? “
ตาอ้วนหลิวเอ่ยตอบ ” พวกนี้เป็นความสามารถพิเศษของฉัน ความลับใช้ทำมาหากิน ฉันบอกไม่ได้ ! “
” พูดจาเหลวไหล นายรู้จักคนมากสักหน่อยชัดๆ หยางโปไม่ต้องฟังเขาโม้ ความจริงแล้วก็เป็นแบบนั้น คนพวกนี้เขาจะอยู่ในกลุ่มเดียวกัน หลังจากมีคนได้ข่าวแล้วก็จะแจ้งออกไป ถ้าหากมีคนไปก็จะโอนเงินเข้าบัญชีของคนประกาศทันที ! ” ลัวย่าวหัวกล่าว
หยางโปถึงได้กระจ่าง มองเห็นตาอ้วนหลิวแล้วหัวเราะฮ่าฮ่า แล้วเขาก็เอ่ยถามต่อว่า ” ถ้าหากมีคนใช้ข้อมูลแล้วไม่จ่ายเงินล่ะ ? “
” ถ้างั้นก็จะโดนแบน จะถูกแบนจากทั้งในวงการ ทำให้เขาทำงานต่อไปไม่ได้ ! ” ลัวย่าวหัวกล่าว
หยางโปพยักหน้า ” กลับไปแล้วดึงฉันเข้าไปได้ไหม ? “
ตาอ้วนหลิวไม่พูดจามาตลอด พอได้ยินคำพูดนี้ก็รีบส่ายหน้า ” ไม่ ไม่ได้ เพราะว่าพวกเราส่วนมากเป็นเพื่อนเก่าที่รู้จักกันมานานหลายปี บุ่มบ่ามมีคนใหม่เข้าไปก็ยากที่จะได้รับความไว้ใจ นายรอให้ฉันเอาข่าวมาบอกนายเถอะ ! “
” กลุ่มแบบนี้ก็มีแบ่งแยกด้วยเหรอ ! ” หยางโปเอ่ยถาม
” แบ่งแยกสิ แต่ว่าบางครั้งก็ควรจะแบ่งแยกในกลุ่มนะ ” ตาอ้วนหลิวเอ่ยอธิบาย
ด้านนอกรถค่อยๆ มืดลง ลัวย่าวหัวจำต้องลดระดับความเร็วลง หยางโปก็ขนของมาไม่น้อย ไม่นานเขาก็ไม่สนใจ ก่อนจะอ้าปากหาว
กว่าค่อนคืน พวกเขาก็รีบมาถึงเมืองนึง เข้าไปพักในโรงแรมแล้วถึงค่อยมีเวลาพักผ่อนจัดข้าวของสักหน่อย เพราะว่าการประมูลจัดขึ้นก่อนรุ่งสาง ดังนั้นพวกเขายังมีเวลาพักผ่อนอีกชั่วโมงสองชั่วโมง
เอนหลับบนหมอนอยู่พักหนึ่ง หยางโปก็ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก เขาพลันม้วนตัวลุกขึ้นแล้วก็วิ่งไปดึงพวกของลัวย่าวหัวสองคน
หยางโปขับรถพอทั้งสามเข้าไปในทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ ทุ่งหญ้ากว้างไกลสุดลูกหูลูกตา มองได้ไม่ชัดเจน ตาอ้วนหลิวจึงโทรศัพท์หาอีกฝ่ายเพื่อยืนยันสถานที่
ไม่นานพวกเขาก็หากระโจมหลังหนึ่งเจอ ด้านนอกกระโจมมีเสายาวสูงแท่งหนึ่ง บนเสาห้อยหนังหมาป่า โบกสะบัดไปตามลม ส่งเสียงดังฟึบฟับ
ตรวจสอบฐานะแล้วหยางโปถึงค่อยเข้าไปด้านใน
ภายในกระโจมจุดฟืน อบอุ่นมาก ภายในมีคนนั่งอยู่ห้าหกกลุ่มแล้ว พวกเขานั่งรออยู่อย่างเบื่อหน่าย ตรงหน้าพวกเขามีหม้อใบหนึ่ง ภายในก็คือชานมที่กำลังเดือด ชานมร้อนๆ ถ้วยหนึ่งส่งมา ดื่มลงไปแล้วร่างกายก็พลันอบอุ่นขึ้นมา
ดื่มชานมแล้ว หยางโปก็รู้สึกว่ามีคนมองมา เขารีบหันไปมองไม่นานเขาก็มองเห็นว่ามีคนยิ้มให้เขา เขาชะงักไป เพราะว่าคนนั้นก็คือคนที่พบกันเมื่อการประมูลคราวก่อน เขาจำได้ขึ้นใจ อีกฝ่ายก็เคยประมูลลายแทงสมบัติ !
หยางโปดึงตาอ้วนหลิวแล้วก็ส่งสัญญาณไปทางอีกฝ่าย ตาอ้วนหลิวพลันเข้าใจ แล้วเอ่ยเสียงเบาว่า
” คนนั้นคือเทพของจริง เขาเข้าไปในสุสานใหญ่มาแล้วมากมาย แม้แต่สุสานของจักรพรรดิหญิงอู่เจ๋อเทียน เขาก็เกือบจะขุดเจอแล้ว “
หยางโปตกใจมาก หันหลังไปมองอีกครั้งหนึ่งก็เห็นเส้นผมของคนนั้นยาวประบ่า รูปร่างผอมบาง ดูแล้วรูปร่างรุ่มร่ามเล็กน้อย ถ้าหากเจอกันอีกข้างนอก หยางโปก็อาจจะไม่สังเกตเห็นอีกฝ่ายเลย