เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 294
ตอนที่ 294 คทา
ลัวย่าวหัวจู่ๆ ก็ดึงหยางโปแล้วพยักเพยิดไปทางที่อยู่ไม่ไกล ” นายดูสิ ทางนั้นใช่คนญี่ปุ่นไหม ? “
หยางโปรีบเงยหน้าขึ้นมองแล้วก็เห็นทางมุมตะวันตกเฉียงเหนือมีคนนั่งอยู่สามคน พวกเขานั่งอยู่อย่างเงียบเชียบในมุม ไม่ได้เอ่ยปากสนทนากับคนที่นั่งอยู่ด้านข้าง
ถ้าหากไม่ใช่ลัวย่าวหัวเอ่ยทักขึ้นมาหยางโปก็ไม่ได้สังเกต ตอนนี้มองไปอย่างละเอียดแล้วก็ย่อมมองได้ว่าผู้ชายสองคนที่นั่งนำไปเล็กน้อยนั้นเป็นคนญี่ปุ่น และอีกคนหนึ่งที่รูปร่างผอมสวมแว่นตามีท่าทีประจบประแจงนั่งอยู่ด้านข้างนั้นน่าจะเป็นล่าม
” หึ ! ” หยางโปแค่นเสียงหึ ” ที่แบบนี้ให้คนญี่ปุ่นเข้ามาได้ยังไง ? “
” ใช่แล้ว ต่อไปดูสิว่าคนจัดงานจะไล่พวกเขาไหม ! ” ลัวย่าวหัวเอ่ยเห็นด้วย
ตาอ้วนหลิวที่นั่งอยู่ด้านข้างได้ยินคำพูดของทั้งสองก็อดที่จะปาดเหงื่อข้างขมับไม่ได้ แล้วเอ่ยเสียงเบาว่า
” ทั้งสองคน พวกเราเบาเสียงลงเล็กหน่อย “
หยางโปหันไปมองก็ได้ยินตาอ้วนหลิวเอ่ยขึ้นข้างหูว่า ” พวกนายไม่ค่อยเข้าร่วมตลาดมืดแบบนี้ อาจจะไม่เข้าใจสถานการณ์โดยละเอียดนัก โดยเฉพาะหยางโป นายมาจากจินหลิง ที่นั่นต่อต้านคนญี่ปุ่นมาก แต่ว่าทางเหนือ หลายปีมานี้ยังมีคนญี่ปุ่นเข้าร่วมไม่น้อย ! “
หยางโปตะลึงเล็กน้อย ” เมื่อเป็นแบบนี้แล้วจะไม่เกิดเรื่องวัตถุโบราณรั่วไหลเหรอ ? “
ตาอ้วนหลิวส่ายหน้ายิ้มขมขื่น ” เรื่องแบบนี้ควบคุมได้ที่ไหนกัน อีกอย่างสำหรับคนขายส่วนใหญ่แล้ว ขอแค่ขายของออกไปได้ในราคาแพง พวกเขาก็ไม่สนใจแล้วว่าคนซื้อไปจะเป็นผีหรือคน ! “
หยางโปมองไปทางมุมตะวันตกเฉียงเหนือนั้น ในใจโมโหเล็กน้อย แต่กลับจนปัญญาจะทำอะไร เขาทำได้แค่พยายามวางกับดักล่อคนญี่ปุ่นให้ตกลงไปให้ดีที่สุด !
ไม่นานชายฉกรรจ์สวมชุดชนเผ่ามองโกลคนหนึ่งก็เดินเข้ามา รูปร่างของเขาสูงใหญ่ น้ำเสียงก็หยาบกระด้าง
” ผมชื่อว่าอูปา เวลาไม่คอยท่า พวกเรารีบเริ่มกันเถอะ จากนั้นก็ตามกฎเดิม คนที่ราคาสูงก็ได้ไป ! “
กล่าวจบแล้วเขาก็ไม่ได้พูดไร้สาระอะไรอีก ชายคนนั้นปรบมือครั้งหนึ่งก็มองเห็นชายคนหนึ่งยกถาดใบหนึ่งเดินเข้ามาแล้ววางเอาไว้บนโต๊ะ
เปิดผ้าคลุมออกแล้วอูปาก็กล่าว ” มีดมองโกลเล่มหนึ่ง ราคาเริ่มต้นที่หนึ่งแสนห้าหมื่นหยวน ! “
หยางโปเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นมีดเล่มหนึ่งวางอยู่กลางถาด ภายนอกของมีดมีปลอกไม้ น่าจะยุคสมัยยาวนานมาก ปลอกไม้กลายเป็นสีดำแล้ว ด้านนอกของปลอกมีดแกะสลักเอาไว้อย่างประณีต ด้ามมีดพันด้วยเชือกสีแดง อีกด้านหนึ่งคือเหล็ก ด้านนอกเหล็กก็ทำมาจากเงิน
ทั้งหมดดูแล้วจะสร้างอย่างประณีตมาก หยางโปมองอีกแวบหนึ่ง ลำแสงก็ปรากฏขึ้นม้วนเป็นวง นี่ก็คือมีดมองโกลสมัยราชวงศ์ชิงตอนกลาง
ในที่นี่มีคนมากมายที่ทยอยลุกขึ้นไปตรวจดูคุณภาพสินค้า แต่หยางโปไม่ได้เคลื่อนไหว
ไม่นานทุกคนก็นั่งลง ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ด้านข้างหยางโปเอ่ยทันที ” หนี่งแสนแปดหมื่นหยวน ! “
” สองแสนหยวน ! “
” สองแสนห้าหมื่นหยวน ! “
หยางโปหันไปมองก็เห็นล่ามตัวผอมที่นั่งอยู่ในมุมตะวันตกเฉียงเหนือนั้นเอ่ยบอกราคา
หยางโปขมวดคิ้วน้อยๆ คิดจะเพิ่มราคาสูงอีกหน่อยขวางเอาไว้สักครั้ง ไหนเลยจะคิดว่าลัวย่าวหัวจะถึงกับเอ่ยอย่างทนรอไม่ไหว ” สี่แสนหยวน ! “
รอบด้านพลันเงียบสงัด หยางโปนั่งอยู่ด้านข้างดึงลัวย่าวหัวแล้วเอ่ยเสียงเบาว่า ” ราคานี้แพงไปแล้ว “
ลัวย่าวหัวชะงักไป ” นายไม่รีบบอกฉันล่ะ ? “
หยางโปส่ายหน้าอย่างจนปัญหา อูบาที่อยู่ตรงหน้าปรบมือ ” ขาย ! “
” เพื่อป้องกันวัตถุโบราณรั่วไหว เสียแค่นี้ไม่นับเป็นอะไร ! ” ลัวย่าวหัวเอ่ยอย่างต่อสู้เพื่อความถูกต้องดีงาม
ลัวย่าวหัวได้รับสินค้าเปิดงาน หยางโปก็มองไปทางตาอ้วนหลิว ” นายแน่ใจนะว่าครั้งนี้มีลายแทงจริงๆ ? “
ตาอ้วนหลิวหัวเราะเหอะเหอะ ” เรื่องแบบนี้เป็นข่าวลือของพวกเขา ข่าวที่พวกเราได้รับย่อมไม่แน่ไม่นอน “
หยางโปไม่ได้พูดจา หันหน้ามองไปด้านหน้า เวลานี้บนโต๊ะวางป้านชานิกเกิลสลักลายมังกรชิ้นหนึ่ง บนป้านชาสีเงินมีลายสลักมังกร ดูแล้วค่อนข้างดุดัน แต่มีจุดที่แตกต่างกับรูปแบบภาพของภาคกลางมาก
ลัวย่าวหัวมองไปทางหยางโป ” เอาไหม ? “
” นายมีเงินเยอะเหรอ ? “
ลัวย่าวหัวจึงหุบปากสงบคำ เพราะว่าถ้าหากนับเรื่องเงินทุนจริงๆ พวกเขาไม่ได้มีเงินมากเลย ยิ่งไปกว่านั้นที่มาครั้งนี้พวกเขาก็มีเป้าหมาย ย่อมใช้เงินหมดเกลี้ยงเร็วขนาดนี้ไม่ได้
ป้านชาเงินในที่สุดก็ขายไปในราคาสองแสนแปดหมื่นหยวน
ของต่อไปหลายชิ้นล้วนเป็นวัตถุโบราณที่มีลักษณะของเผ่ามองโกล หยางโปถึงขนาดมองออกได้ว่าบนของบางชิ้นมีรอยขุดออกมาจากดินใหม่ๆ แต่ว่าเรื่องพวกนี้เขาย่อมไม่สะดวกที่จะพูดอะไร
คนญี่ปุ่นแสดงท่าทีถ่อมตัวมาก หลังจากครั้งแรกที่แพ้ไปก็เงียบไปนาน ในที่สุดก็ได้เครื่องประดับแขวนเงินฝังปะการังชิ้นหนึ่งไป เครื่องประดับแขวนประณีตมาก ลัวย่าวหัวไม่ได้เอ่ยปาก ในที่นี่มีชายคนที่เคยพบก่อนหน้านั้นชิงบอกราคาไปสองครั้ง แล้วถึงค่อยปล่อยให้คนญี่ปุ่นซื้อไป
หยางโปมองไปทางคนนั้นแล้วก็เอ่ยถามตาอ้วนหลิว ” คนนั้นชื่อว่าอะไร ? “
” อวี่เหวิน เป็นแซ่สองพยางค์ แต่เขาประหลาดมาก มีแซ่ไม่มีชื่อ บางทีอาจจะมีชื่อแต่ว่าไม่ให้คนนอกรู้มั้ง ว่ากันว่าเขาเชี่ยวชาญศาสตร์ฮวงจุ้ยมาก ” ตาอ้วนหลิ่วกล่าว
หยางโปมองไปทางนั้นแวบหนึ่งแล้วก็ประหลาดใจมาก แต่เขารู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดมาก จำต้องหุบปากไม่พูดอะไร
ประมูลไปอีกสองชิ้น บรรยากาศรอบด้านก็ค่อยๆ ระอุขึ้นมา ทุกครั้งที่คนญี่ปุ่นยกมือก็จะถูกแย่ง ทำให้พวกเขามีเงินก็ใช้ไม่ได้ แต่ว่าอูปาผู้ทำการประมูลกลับยินดีจนยิ้มปากจะถึงหู
ไม่นานคทาด้ามหนึ่งก็ถูกหยิบขึ้นมา คทานั้นมีหัวอินทรีสลักมาจากเงินเป็นหัวคทา ดูแล้วน่าเกรงขามมาก
อูปายกคทาขึ้นเหนือหัว สีหน้าเคารพแล้วค้อมกราบไปทางทิศเหนือ ” สวรรค์ปกปักษ์ตลอดกาล ! “
หลังจากอูปาคุกเข่าลงไป หยางโปก็มองเห็นตอนที่คำนับ หน้าผากของเขาส่งเสียงกระแทกกับพื้น
ผู้คนที่อยู่ในที่นี่ต่างก็ประหลาดใจ แต่ว่าทุกคนก็ประนมมือค้อมศีรษะตาม ทำท่าทางของการกราบไหว้ออกมา
อูปาลุกขึ้นยืน ยกคทาขึ้นสูง เอ่ยแนะนำว่า ” คทาเล่มนี้เป็นของที่หลงเหลือของราชครูปาเยแห่งราชวงศ์หยวนรุ่นที่ 7 เป็นสัญลักษณ์ของศักดิ์สิทธิ์สูงสุด เป็นความศรัทธาของพวกเราเผ่ามองโกล ! “
ขณะที่กล่าว ใบหน้าของอูปาก็มีสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความเคารพบูชา
” คทานี้ประเมินค่าไม่ได้ ! ” อูปาตะโกนเสียงดัง
รอบด้านพลันเงียบสงบ นับจากอูปาเริ่มก้มลงกราบ รอบด้านก็เริ่มนิ่งงัน ผิดปกติไปอย่างมาก เวลานี้ก็ยิ่งไม่มีใครกล้าบอกราคา !
หยางโปประหลาดใจเล็กน้อย มองไปรอบด้าน เขามองเห็นทุกคนคิ้วตาหลุบต่ำ ถึงขนาดไม่มองไปสักครั้ง ก็พลันเข้าใจว่าคนจำนวนมากมีข้อห้าม ไม่ยินดีซื้อของแบบนี้ไป เพราะว่าสิ่งของที่เป็นแทนของความศรัทธา บางครั้งมักจะแฝงอายประหลาดด้วย
” ห้าแสนหยวน ! ” ล่ามผอมของคนญี่ปุ่นยกมือประมูล
หยางโปไม่ได้ตอบกลับ เขาจ้องมองคทา ภาพตรงหน้าพร่าเลือนเล็กน้อย เขาถึงกับมองเห็นเงาทรงน้ำวนสีดำบนคทาสีดำ น้ำวนดูดซับแสงทุกอย่างเข้าไป หยางโปจ้องเขม็งไป ถึงกับไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่น้อย ร่างกายแข็งเกร็ง สิ่งนี้ทำให้ในใจเขาตื่นตระหนกขึ้นมา !