เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 376
ตอนที่ 376 พบกันอีกครั้ง
หลิวเจื่อฉวนส่งรายงานข่าวเรื่องงานแถลงข่าวตอนบ่ายวันนี้กลับมาที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ หัวหน้าบรรณาธิการตอบเขาว่า บทความไม่จำเป็นต้องแก้อะไรแล้ว นี่ทำให้เขาระบายลมหายใจอย่างโล่งอก
รายงานข่าวเรื่องนี้น่าจะลงสื่อได้พรุ่งนี้ ความเร็วนี้เมื่อเทียบกับสื่ออินเตอร์เน็ตแล้วนับว่าช้ากว่ากันมาก แต่หลิวเจื่อฉวนไม่มีวิธีอะไรที่จะเปลี่ยนมันได้ ตอนนี้เขากำลังรออยู่ที่นอกโรงแรม นั่งอยู่ในรถยนต์ ขณะเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะกระวนกระวายขึ้นมา
เมื่อจบงานแถลงข่าวตอนบ่าย นักข่าวก็ทยอยจากไป แต่เขาคิดว่าคนที่ครอบครองตราหยกสืบบัลลังก์จะต้องอยู่ที่โรงแรมอย่างแน่นอน เขาจึงคิดที่จะรออยู่ที่โถงใหญ่ของโรงแรม หวังว่าจะสามารถหาข่าวของอีกฝ่ายได้ ที่นั่นมีนักข่าวจำนวนไม่น้อยที่มีความคิดแบบเดียวกับเขา เพียงแต่หลังจากรอมาชั่วโมงกว่า คนส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่ทยอยกันจากไป
คาดไม่ถึงว่าตอนนี้ กลับมีทหารกลุ่มหนึ่งเร่งรีบมาที่โรงแรม ก่อนจะไล่นักข่าวสองสามคนที่เหลือออกไป ดวงตาหลิวเจื่อฉวนสว่างเจิดจ้าขึ้นมา เขารู้สึกว่าเรื่องนี้น่าจะมีความคืบหน้าอะไรใหม่ๆ แล้ว !
และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ถัดจากนั้นทหารพวกนี้ไม่ได้กลับออกไป แต่ได้ปิดล้อมสถานที่อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มีรถขับเข้ามา เขาเห็นรถเก๋งสีดำสามคันแล่นตามกันเข้ามา เมื่อเห็นยี่ห้อรถ หลิวเจื่อฉวนรู้สึกว่าร่างทั้งร่างสั่นเทิ้ม ! มีคนใหญ่คนโตมาที่นี่แล้ว !
หลิวเจื่อฉวนคาดเดาได้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป แน่นอนว่าคนใหญ่คนโตจะต้องนำเงื่อนไขมาเสนอ เพื่อที่จะได้นำตราหยกสืบบัลลังก์ไปวางใส่ไว้ในพิพิธภัณฑ์ ตราหยกสืบบัลลังก์จะกลายเป็นทรัพย์สินร่วมกันของประชาชนทั้งประเทศ ! ในเมื่อคนใหญ่คนโตมาเองอย่างนี้ อีกแป๊บเดียวก็คงจะจบเรื่องได้แล้วแน่ๆ !
หลิวเจื่อฉวนนั่งอยู่ในรถ รออยู่เกือบสองสามชั่วโมง กลับไม่เห็นใครออกมา เขาถึงตระหนักได้ว่าเรื่องนี้ไม่ง่ายเลย !
แต่เขาก็ไม่อาจปล่อยไปง่ายๆ ได้ !
รอจนถึงสี่ทุ่มกว่า หลิวเจื่อฉวนก็ทนไม่ไหวลงจากรถไปซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขณะที่กำลังกินซู๊ดซ๊าดอยู่นั้น ทันใดนั้นเขาก็เห็นพวกทหารกลับออกมา ไม่นานก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งยกกล่องไม้ใบหนึ่งออกมาจากด้านใน !
หลิวเจื่อฉวนรู้สึกว่าทุกคนล้วนดูแข็งเกร็งเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็พลันตื่นเต้นดีใจ กล่องไม้นั่นก็คือกล่องไม้ที่ปรากฏในงานแถลงข่าว ! เรียบร้อยแล้วสินะ !
เขารีบหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา เสียง ” แชะ ” ดังขึ้น หลิวเจื่อฉวนถ่ายภาพถ่ายล้ำค่ามาได้หนึ่งใบ ในใจของเขาคิดถึงมูลค่าภาพถ่ายภาพนี้ แต่ว่าไม่นานเขาก็พบว่าทางนั้นมีคนสังเกตเห็นถึงด้านนี้
หลิวเจื่อฉวนสตาร์ทรถยนต์ คิดจะเผ่นหนี กลับมีทหารมายืนอยู่ข้างหน้าต่างรถแล้ว ก่อนจะเคาะกระจกรถ !
หลิวเจื่อฉวนเปิดกระจกรถ หัวเราะแหะแหะ ” สวัสดีครับ ! “
ทหารคนนั้นก็ไม่พูดอะไร เพียงแต่ยื่นมือออกมา หลิวเจื่อฉวนหัวเราะแหะแหะ ใบหน้าแข็งทื่อ ก่อนจะหยิบบุหรี่มวนหนึ่งออกมา
ทหารสะบัดมือ บุหรี่จึงตกลง ใบหน้าหลิวเจื่อฉวนเต็มไปด้วยความฝาดขม ได้แต่หยิบกล้องถ่ายรูปออกมาส่งให้ จากนั้น เขาก็เห็นทหารเอาเมมโมรี่การ์ดด้านในออกมา !
ใบหน้าหลิวเจื่อฉวนประดับยิ้มเฝื่อน ” พี่ชาย จะ…จะทิ้งไว้ให้ผมไม่ได้เหรอ ? “
ทหารคนนั้นมองแวบหนึ่ง ก่อนจะหมุนกายจากไป
หลิวเจื่อฉวนนั่งอยู่ในรถอยากจะร้องไห้แต่ก็ไร้น้ำตา จากนั้นเขาก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมา เขารู้สึกว่าคนกลุ่มนั้นก็คือผู้ครอบครองตราหยกสืบบัลลังก์ เพียงแต่กล้องของเขาใช้ไม่ได้แล้ว !
……
พวกหยางโปมองเงาหลังของจี้กั๋วเฉิงที่จากไปก่อนจะผ่อนลมหายใจ แต่ไม่นานทุกคนก็ส่งเสียงร้องด้วยความดีใจออกมา เงื่อนไขพวกนั้นถูกรับไว้ทั้งหมดแล้ว !
หยางโปดีใจเป็นอย่างมาก เขาหันไปมองชุยซื่อหยวน เรื่องนี้จะนับไปแล้ว คนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดไม่ใช่พวกเขาสี่คน แต่เป็นชุยซื่อหยวนกับลัวซือเต๋อสองคน ต้องรู้ไว้ว่าวงการราชการเป็นโครงสร้างแบบพีระมิด ยิ่งเดินขึ้นไป ก็ยิ่งลำบาก !
ชุยซื่อหยวนเหมือนจะรู้สึกตัว เขาหันกายมามอง ก่อนจะพูดกับหยางโปว่า ” เรื่องของครอบครัวซุน ลูกห้ามอวดดีเด็ดขาด แล้วก็อย่าไปยุ่งอีก ตาแก่คนนี้จะจัดการเอง ! “
ไม่นานชุยซื่อหยวนก็จากไป
ลัวซือเต๋อก้าวเข้ามา มองหยางโปแล้วกล่าวว่า ” ตาแก่บ้านชุยยิ่งแก่ยิ่งแข็งแรงแฮะ ตาแหลม แถมยังเด็ดขาดอีกต่างหาก ! “
หยางโปมองไปทางชุยซื่อหยวน ก็ได้ยินลัวซือเต๋อพูดต่อว่า ” ตำแหน่งรองลงมาก็เรียบร้อยแล้ว ได้เป็นระดับรัฐมนตรี ไหนเลยจะแลกเปลี่ยนกันง่ายดายขนาดนี้ได้ ? นี่เป็นของปูนบำเหน็จที่ท่านประธานาธิบดีมอบให้กับตระกูลชุย ! เดิมทีชุยซื่อหยวนก็มีโอกาสจะได้เลื่อนขั้นอยู่แล้ว ครั้งนี้ก็เป็นเพียงการผลักเรือตามน้ำแต่ทางฉันกลับได้เปรียบเป็นอย่างมาก ! “
หยางโปประหลาดใจ ก่อนจะส่ายหัวพลางยิ้มทันที นี่ล้วนเป็นพวกจิ้งจอกเฒ่าทั้งนั้น !
แต่หยางโปก็ปล่อยวางได้ในทันที ที่ดินทั้งสี่แปลงนับได้ว่าทุกแปลงล้วนมีราคาเป็นร้อยล้าน รออีกสองสามปี มีความเป็นไปได้มากว่าที่ดินจะมีมูลค่าสูงถึงหลายร้อยล้าน ! อีกอย่างการเลื่อนขั้นของลัวซือเต๋อขึ้นอยู่กับเรื่องนี้ พวกเขาสี่คนล้วนสามารถได้รับฐานะไม่เลว ก็นับว่าได้กำไรแล้ว !
เมื่อออกมาจากโรงแรม ทุกคนต่างก็ผ่อนคลายลงได้
ลัวย่าวหัวดึงหยางโป ยืนยันว่าจะไปนวดผ่อนคลายกันสักหน่อย ตัวหยางโปไม่อยากจะรับคำ แต่ตาอ้วนหลิวเองก็จะไปด้วย พวกเขาทั้งสามคนเลยไปนวดด้วยกัน
วันต่อมา พวกหยางโปสามคนก็ลงนามในหนังสือซื้อขายที่ดิน ก่อนจะได้บัตรทำงานมา ประสิทธิภาพในการทำงานอย่างนี้นับว่ารวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง !
ไม่นาน หยางโปก็ได้รับโทรศัพท์จากหลิ่วมีดเดียว ผลงานของเขาผ่านรอบแรกของการแข่งขันแกะสลักแล้ว หยางโปจึงได้แต่รีบไปที่ร้านของเขา
เมื่อไปถึงร้าน หลิ่วมีดเดียวก็เดินออกมาจากหลังคอมพิวเตอร์ ” เรื่องที่นายรับเอาไว้ครั้งที่แล้วยังทำไม่เสร็จ รีบทำให้เสร็จเร็วเข้า ! “
หยางโปหมุนกายก็เห็นหูชิงชิงนั่งอยู่บนที่นั่ง กำลังแกะสลักอยู่ เมื่อเห็นเขาเข้ามา ก็ไม่แม้จะมองสักแวบ
หยางโปไม่รู้ว่าตัวเองไปล่วงเกินหูชิงชิงเข้าที่ตรงไหน เขาหันไปตอบหลิ่วมีดเดียวคำหนึ่ง ก่อนจะหยิบมีดแกะสลักขึ้นมา ตอนนี้เองเขาถึงคิดขึ้นมาได้ว่าแขนขวาของตัวเองได้รับบาดเจ็บ และไม่สามารถที่จะแกะสลักได้โดยสิ้นเชิง !
หลิ่วมีดเดียวเองก็เหมือนจะตระหนักถึงจุดนี้ เขาลุกขึ้น ก่อนจะจ้องผ้าก๊อซที่แขนขวาของหยางโป ” นี่มันอะไรกัน ? จะจัดการยังไง ? นี่นายไม่รู้ว่าร่างกายของตัวเองเป็นชามข้าวของนายรึไง ? แขนขวาบาดเจ็บ นี่ถือเป็นการทุบชามข้าวตัวเองเลยทีเดียว ! “
หยางโปจนปัญญา ” แล้วจะทำยังไงดีครับ ? น้ำเต้าอายุยืนที่ผมรับปากเอาไว้คงไม่มีทางแกะได้แล้ว ! “
หลิ่วมีดเดียวมองแวบหนึ่ง ได้แต่พูดอย่างจนปัญญาว่า ” ยังไม่รีบส่งมาให้ฉันอีก ? ฉันจะแกะสลักเอง ! “
หยางโปมองอีกฝ่าย ใบหน้าปรากฏความตกใจระคนดีใจ ระดับของหลิ่วมีดเดียวย่อมไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถเทียบเคียงได้ ถ้าหลิ่วมีดเดียวลงมือทำเอง อีกฝ่ายคงไม่มีทางที่จะคิดเล็กคิดน้อยแน่ !
หยางโปรีบเอาหินหยกส่งให้หลิ่วมีดเดียว แล้วยังใช้มือข้างเดียวเตรียมเครื่องมือที่หลิ่วมีดเดียวใช้ประจำมาอย่างเพียบพร้อม
” วางเอาไว้ข้างๆ รอฉันทำของชุดนี้เสร็จค่อยว่ากัน ! ” หลิ่วมีดเดียวกล่าว
พูดจบ หลิ่วมีดเดียวก็ดูต่อไป ฉับพลันเขาก็ตระหนักถึงปัญหา ” แขนของนายเมื่อไหร่ถึงจะหายดี ? ยังเข้าร่วมการแข่งรอบชิงได้รึเปล่า ? “
หยางโปมองอีกฝ่าย ” รอบชิงแข่งเมื่อไหร่ครับ ? “
” น่าจะต้นเดือนพฤษภาล่ะมั้ง ! ” หลิ่วมีดเดียวกล่าว
” ตอนนั้นน่าจะได้แล้วล่ะครับ แค่กระดูกหัก ตอนนี้ยังมีเวลาอีกประมาณห้าสิบวัน ! “
หลิ่วมีดเดียวส่ายหัวก่อนจะถอนหายใจเสียงเบาๆ ” เฮ้อ ไม่ทะนุถนอมร่างกายตัวเองเลยจริงๆ ! “
หยางโปหาเก้าอี้นั่งลง หูชิงชิงหันมามองทางเขาแวบหนึ่ง อยากจะพูดแต่ก็ไม่พูด ในขณะที่หยางโปจะเอ่ยปากถาม ก็มองเห็นผู้เฒ่าเยว่เจิ้งที่มาวันนั้นมาถึงพอดี ข้างหลังของเขายังมีอีกคนตามมาด้วย คนคนนั้นเป็นผู้ที่หยางโปรู้จักเป็นอย่างดี คุณหัวที่เคยพบกันที่จินหลิง !