เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 379
ตอนที่ 379 ราชวงศ์ชิงตอนกลาง
” ภาพอักษรพู่กันภาพนี้เป็นภาพที่ตกทอดของตระกูล เมื่อก่อนบ้านของฉันเป็นเจ้าที่ดิน ต่อมาเนื่องจากเหตุการณ์พิฆาตสี่เก่า ภาพนี้จึงถูกพ่อของฉันแอบเอาไว้ในเล้าหมู โชคดีที่มันยังอยู่ เมื่อดูภาพนี้ฉันอดไม่ได้ที่จะคิดถึงวันเวลาเหล่านั้น ตอนนั้นลำบากจริงๆ ! ข้าวก็กินไม่อิ่ม ! “
พ่อเย่ยกชาขึ้นดื่ม ตามองไปยังนอกหน้าต่าง แววตาสับสนเล็กน้อย ดูเหมือนว่ากำลังหวนคิดถึง
หยางโปพยักหน้า จ้องมองไปยังภาพอักษรนั้น นี้คือ เขาอู๋ชิงซาน บทประพันธ์บทหนึ่งของนักกวีหลินปู” เขาอู๋ชิงซาน เขาเยวี้ยชิงซาน ยอดเขาทั้งสองฝั่ง ต้อนรับทักทายซึ่งกันและกัน ใครจะรู้ว่ารักแยกจาก น้ำตาของชายหญิงหลั่งริน กลายเป็นกระแสน้ำเข้าไหลสู่ป่า “
ภาพอักษรตรงหน้านี้ตัวอักษรบางแต่แข็งแรงมั่นคงมาก ดูแล้วไม่ธรรมดา หยางโปไม่เคยเห็นผลงานภาพอักษรของหลินปูมาก่อน แต่ก็รู้ว่าควรจะเป็นลักษณะประมาณนี้
ในใจหยางโปรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย คิดในใจ ที่ฉันเห็นอยู่อาจจะเป็นผลงานของหลินปูจริงๆ !
ผลงานภาพอักษรของราชวงศ์ซ่งเก็บรักษาเอาไว้ได้ยาก ถึงแม้ว่าผลงานอักษรของหลินปูมีเพียงสามชิ้น แต่ส่วนใหญ่ถูกเก็บเอาไว้ในพิพิพิธภัณฑ์ในเมืองหลวงและเกาะทั้งสองแห่ง
หยางโปอธิบายไปพลาง มองภาพอักษรตรงหน้าไปพลาง แสงสว่างสุกวาวนับไม่ถ้วนลอยออกมาจากภาพอักษร และค่อยๆ รวมกันบนภาพวาดอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นช่อง,รูรับแสง
ในขณะที่เห็นช่องรับแสงนั้น ทันใดนั้นหยางโปก็ตกใจ เขาจ้องไปยังช่องรับแสงครู่หนึ่ง จนมั่นใจว่าความหนาของช่องรับแสงเพิ่มขึ้นอีก เขาจึงจะนั่งลงไป
ในใจหยางโปรู้สึกงงงวย อำนาจทางการเงินของบ้านตระกูลเย่เป็นแบบนี้ ไม่น่าจะนำของปลอมออกมา แต่ภาพตรงหน้าคือภาพคัดลอกในช่วงสมัยราชวงศ์ชิงตอนกลางอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นว่าหยางโปมีสีหน้าประหลาดใจ พ่อเย่จึงรีบถามทันทีว่า ” เป็นอะไรไป ? นายเจออะไรไหม ? “
หยางโปส่ายหน้ายิ้ม เขาจ้องไปยังภาพอักษร และตอบไปว่า ” ผมขอดูอีกครั้ง อาจารย์เหอจิ้งไร้ลูกเมีย มีคุณธรรมสูงส่ง บทกลอนเหล่านี้อยู่ในภาพอักษร ก็ควรจะดูออกแล้ว “
พ่อเย่พยักหน้า ” หลังจากอาจารย์เหอจิ้งเสียชีวิต ก็ถูกฝังเอาไว้ที่ทะเลสาบชีหู ต่อมาสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ เมืองหยีหางได้กลายเป็นเมืองหลวง ฮ่องเต้รับสั่งให้บูรณะซ่อมแซมพระอารามหลวงบนภูเขากู่ สุสานเดิมทีที่อยู่บนภูเขาก็ถูกย้ายออกไปหมด เหลือเพียงแต่สุสานของหลินปู และเพราะเหตุนี้จึงนำเภทภัยมาแก่หลินปู หลังจากราชวงศ์ซ่งใต้ล้มสลาย มีโจรปล้นสุสานคิดว่าหลินปูเป็นทหารที่มีชื่อเสียง มีทรัพย์สมบัติจำนวนมากที่ฝังอยู่ในหลุมฝังศพ จึงไปขุดหาสมบัติ แต่เมื่อระหว่างขุด คาดไม่ถึงว่าจะมีเพียงแท่นฝนหมึกและปิ่นหยกเท่านั้น “
แท่นฝนหมึกนี้เป็นแท่นฝนหมึกที่ล้ำค่า นั้นเป็นสิ่งของที่หลินปูใช้ แต่ปิ่นหยกล่ะ ? เพราะในอดีตหลินปูนั้นไม่เคยแต่งงาน นั่นทำให้เขาท้อแท้หมดกำลังใจในวัยหนุ่มของเขา
พ่อเย่มองไปยังหยางโป ไม่พูดอะไร
หยางโปยืนยันอีกครั้ง ภาพอักษรรูปนี้เป็นภาพคัดลอกในช่วงสมัยราชวงศ์ชิงตอนกลาง แต่ความคิดของพ่อเย่มันชัดเจนมาก ! เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้หยางโปเชื่อมโยงปิ่นหยกกับบทกลอนนี้ !
” มีนักตรวจสอบและประเมินราคาหลายท่านล้วนก็กล่าวว่าบทกลอนนี้เป็นบทกลอนรัก ควรจะเขียนเกี่ยวกับรักครั้งแรกของเขา ปิ่นหยกด้ามนั้นควรจะเป็นของหญิงสาวในบทกลอน ” พ่อเย่ตอบ
ความนัยของอีกฝ่ายชัดเจนมากยิ่งขึ้น หยางโปเหลียวมองพ่อเย่ ในที่สุดก็ยังคงส่ายหน้าตอบ ” ภาพอักษรรูปนี้ไม่น่าจะใช่การเขียนของอาจารย์เหอจิ้ง “
” ทำไมละ ? ” พ่อเย่ร้อนรน
” บนภาพอักษรมีข้อบกพร่องที่ใหญ่หนึ่งแห่ง นั้นก็คือพระสมัญญานามของอาจารย์เหอจิ้ง หลังจากเขาเสียชีวิตจักรพรรดิซ่งเหรินจงเป็นผู้แต่งตั้ง ก่อนหน้านั้นที่เขามีชีวิตอยู่จะสามารถลงนามนี้ได้ยังไง ” หยางโปตอบ
ทันใดนั้นเย่เหวยหลินก็ตกตะลึง เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ ไม่ขยับเขยื้อน เขาเข้าใจเรื่องราวหนึ่งอย่างชัดเจน ภาพอักษรนี้พ่อของเขาดูมาหลายสิบปีแล้ว ต้องเข้าใจรายละเอียดทุกอย่างแน่นอน ! แต่เรื่องที่นำภาพออกมาเพื่อหาคนตรวจสอบและประเมินราคาเพิ่งจะไม่กี่ปี เขาคิดมาตลอดว่าภาพอักษรนี้เป็นของจริง นักตรวจสอบและประเมินราคาทุกคนก็ล้วนแต่ยืนยันแบบนี้
มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ!
ตอนนี้เมื่อดูๆ แล้ว ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องตลกขบขัน แม้แต่รายละเอียดพื้นฐาน หลายคนก็ไม่เข้าใจความแตกต่าง แต่ตอนนี้บางคนไม่เพียงแต่ไม่เข้าใจความแตกต่าง อีกทั้งพวกเขายังไม่ยินยอมที่จะทำ !
เย่เหวยหลินหันหน้าไปทางพ่อของเขา รู้สึกกังวลเมื่อจะเรียกเขา แต่กลับเห็นพ่อของเขาหัวเราะออกมา
” กล่าวได้ถูกต้อง ! ภาพอักษรนี้เป็นของปลอม แต่ไม่ใช่ภาพคัดลอกในสมัยราชวงศ์ชิงตอนกลาง ! “
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หยางโปก็รู้สึกเสียใจ หลินปูเป็นจิตรกรและนักอักษรในยุคราชวงศ์ซ่งที่มีผลงานเหลือน้อยมาก เพียงแค่พบแค่ภาพเดียว นั้นก็เป็นทรัพย์สมบัติที่มีมูลค่ามหาศาล แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ภาพวาดของหลินปูนั้นมีราคาสูงแต่กลับไม่เคยปรากฏในตลาด !
ตามที่หยางโปคาดการณ์ ถ้าหากผลงานของหลินปูปรากฏในตลาด ต้องก่อให้เกิดความวุ่นวายอย่างแน่นอน
แต่น่าเสียดาย ภาพอักษรภาพนี้เป็นภาพคัดลอก ช่างน่าเสียดายจริงๆ
พ่อเย่มองไปยังหยางโป ” เสี่ยวโปเก่งมาก แค่เพียงระยะเวลาสั้นๆ ก็สามารถตรวจสอบและประเมินออกมาได้ มีบางคนตรวจสอบตลอดทั้งชีวิต ท้ายที่สุดก็ยังคงสับสน ประจบสอพลอไปเพื่ออะไร ? หรือพวกเขาคิดว่าภาพอักษรของฉันถ้าขายในตอนนี้ จะสามารถขายได้ราคาสูงกว่าของจริงกัน ? “
เย่เหวยหลินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย หันหน้าไปทางพ่อเย่ ” พ่อ เข้าใจเรื่องราวเร็วขนาดนี้เชียวเหรอ “
พ่อเย่มองไปทางเย่เหวยหลิน พยักหน้า ” ภาพอักษรนี้บรรพบุรุษของพวกเราคัดลอกออกมาจากนักเขียนอักษรพู่กันจีนท่านหนึ่ง ดังนั้นลายมือตัวอักษรจึงเหมือนเป็นอย่างมาก ! เพียงแต่ว่าในเวลานั้นเขายังคงมีข้อบกพร่อง เพียงพอที่จะให้สามารถผู้ที่วินิจฉัยและประเมินค่าตรวจสอบและประเมินออกมาได้ “
หยางโปพยักหน้า เพิ่งจะเข้าใจ ” แต่จริงๆ แล้วมีการเลียนแบบมากมายที่ปลอมได้เหมือนจริงมากๆเลยทีเดียว ! “
พ่อเย่มองไปทางหยางโป เต็มไปด้วยความชื่นชม ” ช่างเป็นชายหนุ่มที่ดีไม่เลวเลยคนหนึ่ง เหวยหลินในอนาคตต้องเรียนรู้เพิ่มเติมจากเสี่ยวโปแล้ว ! “
เย่เหวยหลินหัวเราะ ” ถูกแล้วล่ะ ต้องเรียนรู้จากเขาแล้ว ! “
กินข้าวเที่ยงด้วยกันแล้ว เย่เหวยหลินมุ่งมั่นที่จะพาหยางโปออกไปผ่อนคลาย หยางโปกำลังจะปฏิเสธ
ทว่าพ่อเย่กลับขัดขวาง ” นายก็ตามเหวยหลินออกไปรอบๆ วางใจได้ ถ้าเขาพานายไปสถานที่ที่ไม่เข้าท่าอะไรพวกนั้น กลับมาฉันจะตีขาของเขาให้หักเอง ! “
หยางโปรีบส่ายหัว ” ไม่ ไม่ใช่ ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น “
เย่เหวยหลินหัวเราะ ” ในเมื่อไม่ได้หมายความอย่างนั้น ถ้างั้นนายยังปฏิเสธอะไรอีกล่ะ ? “
หยางโปพูดไม่ออก เขาไม่ค่อยเข้าใจความหมายของพวกเขาพ่อลูก
พ่อเย่หัวเราะ ” รีบไปเถอะ บางทีอาจมีสิ่งที่ดีกำลังรอนายอยู่คืนนี้อยู่ก็ได้ ! “
หยางโปมองไปทางพ่อเย่ จำใจต้องแยกจากพ่อของเย่เหวยหลินแล้ว เขาไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วควรแปลกใจอะไรแบบนี้รึเปล่า ?
ยังไงก็ตาม เมื่อหยางโปเดินทางมาถึงสถานที่แสดงสินค้าพร้อมกับเย่เหวยหลิน มองไปยังชีวิตที่หมกหมุ่นอยู่กับสถานเริงรมย์ เห็นด้านนอกประตูเขียนไว้ว่า” สวรรค์บนดิน “
หยางโปก็ตกตะลึง เขาไม่เคยคาดคิดว่าอีกฝ่ายจะพาเขามาที่นี่ !
หยางโปหันมองไปทางเหวยหลิน ” นี่… “
เย่เหวยหลินหัวเราะขึ้นมา ” วางใจได้ ฉันได้รายงานสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดแล้ว “
ระหว่างพูด เย่เหวยหลินก็เดินเข้าไปข้างใน !