เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 381
ตอนที่ 381 คำเตือนที่อ้อมค้อม
หยางโปมองหลิวยียี จากที่เขาสังเกตเส้นทางสู่ความสำเร็จนั้นมีมากมาย มันไม่จำเป็นต้องเลือกเส้นทางนี้เลย แต่ในเมื่ออีกฝ่ายได้เลือกเส้นทางนี้ไปแล้ว เขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี
เมื่อเห็นหยางโปเงียบ หลิวยียีก็ดูเหมือนจะตระหนักว่าหยางโปไม่ค่อยสนับสนุนวิธีการของเธอ เธอจึงเงียบไม่พูดมาก แต่เธอก็ยังไม่ได้จากไป เธออยู่ลิ้มรสไวน์แดงชาโต้ ลาฟีต อย่างช้าๆ
หลังจากดื่มไวน์หมดไปหนึ่งแก้ว หลิวยียีมองไปที่หยางโป ฉันจะไปเติมไวน์แล้ว ขอบคุณสำหรับไวน์ของคุณ !
หยางโปยิ้ม ” ไม่ต้องขอบคุณหรอก “
หลิวยียี ถือแก้วเปล่าลุกขึ้นยืน เธอลังเลเล็กน้อยมองไปที่ หยางโปแล้วพูดเสียงกระซิบว่า
คุณวางใจได้ ฉันจะดูแลตัวเองให้ดีและจะใส่ใจกับความปลอดภัยให้มากๆ
หยางโปเหลือบมองไปที่หลิวยียีและพยักหน้า แต่เขาไม่เชื่ออย่างนั้นเลย ในสถานที่แบบนี้ คนดีและคนเลวผสมปนเปกันอยู่ เมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งล่อลวงใจต่าง ๆนาๆ ถ้าเด็กผู้หญิงคนหนึ่งสามารถหลุดพ้นจากโคลนตมและไม่ถูกโคลนเปรอะเปื้อนได้ มันก็เป็นเรื่องที่ยากมากเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
หลิวยียี จมหายไปท่ามกลางฝูงชนอย่างรวดเร็ว
ข้างกายหยางโปก็เงียบขึ้นมา เขาเงยหน้าขึ้น ก็เห็นการเต้นที่ร้อนระอุบนเวที ร่างกายที่ยั่วยวนของนักเต้น ทำให้ความคิดของเขาได้ผุดขึ้นมามากมาย
ต่อมามีมีผู้หญิงสองสามคนมาถามอีก แต่หยางโปรู้สึกไม่มีอารมณ์ร่วม เขาได้แต่ปฏิเสธทุกคนไป
….
ซุนเหอจั๋วนั่งอยู่ตรงมุมแฝงตัวอยู่ท่ามกลางฝูงชน ถ้าตามฐานะเขาควรจะขึ้นไปชั้นบน แต่เขาชอบความคึกคักที่อยู่ชั้นล่าง ความคึกคักนี้ทำให้เขาดูออกจะโดดเดี่ยวเดียวดายและเงียบเหงา ทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนักกวี
ความเงียบเหงาได้ถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว ชายร่างเตี้ยวัยกลางคนตัวอ้วนท้วมเดินมาหา เขายิ้มแล้วเดินเข้ามาโค้งคำนับให้ซุนเหอจั๋ว ” คุณชายจั๋ว คุณมาก็ไม่บอกใครสักคน ห้องไพรเวทรูมชั้นบนกำลังรอคุณอยู่ !
ซุนเหอจั๋วเหลือบมองและส่ายหัว ” ถังพังจื้อ ช่างเถอะ ไม่ต้องจัดการแล้ว ฉันชอบความคึกคักแบบนี้ ฉันไม่เอาห้องไพรเวท รูมแล้ว “
ถังพังจื้อหัวเราะจ้องมองไปที่ซุนเหอจั๋ว เห็นแขนขวาของเขาแข็งทื่อ ก็รู้ว่าข่าวลือนั้นเป็นความจริง เจ้าของสโมสรแรกใน ตี้จิง มีปัญหาแล้ว ! ไม่น่าละที่เขามาที่ไนต์คลับแห่งแรกในตี้จิงก็เพื่อใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์คล้ายความกลัดกลุ้มใจนี่เอง !
คุณชายจั๋ว บนโลกใบนี้ไม่มีอุปสรรคไหนที่ไม่สามารถจะก้าวผ่านไปได้ ! ถ้งพังจื้อเอ่ยปากพูด
ไม่รอให้ ถังพังจื้อพูดมาก ก็ถูกซุนเหอจั๋วขัดจังหวะ ถังพังจื้อนี้ไม่ถือว่าเป็นอุปสรรคนะ!
เสียงดัง” เพี้ยะ “ถังพังจื้อตบปากตัวเองหนึ่งที คุณชายจั๋ว ผมช่างเป็นคนหยาบคายจริงๆ พูดเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้ว ขอคุณชายอย่าได้ถือสา!
คุณชายจัว พยักหน้า ช่างมันเถอะ เรื่องนี้ช่างมันไม่เป็นไร
ตอนนี้กิจการเป็นยังไงบ้าง ? คุณชายจัวแกว่งแก้วไวน์แดงและพูดกับถังพังจื้อ
ถังพังจื้อยิ้ม คุณชายจั๋วยังไม่รู้ใช่ไหม ?ช่วงนี้กิจการดีมาก ชื่อเสียงถือว่าพอใช้ได้แล้ว วันนี้ช่วงเย็นบัญชีเพิ่งจะสรุปยอดออกมา พรุ่งนี้ผมจะโอนส่วนแบ่งก้อนนั้นให้คุณชายจั๋วทันที !
ซุนเหอจั๋วพยักหน้าอย่างภาคภูมิใจ ไม่มีใครคิดถึงว่า เขาจะเป็นเถ้าแก่ผู้อยู่เบื้องหลังเจ้าของ สรรค์บนดิน ตอนนี้ร้านนี้ทำกำไรได้มากทุกเดือน นอกจากนี้บัญชียังแสดงการขาดทุน ดังนั้นการที่เขาไม่ต้องจ่ายภาษีและค่าธรรมเนียม ด้วยวิธีนี้กำไรก็ยิ่งสูงขึ้น เขามีหุ้น 60% ทุกครั้งจะได้เงินปันผลเยอะที่สุด !
พังจื้อ ทำดีๆ ร้านนี้ฉันให้นายเป็นคนดูแล ! เพราะฉันวางใจนาย !นายมั่นใจได้เลยว่า รางวัลสำหรับสิ้นปีนี้ คำนวณจากยอดขายแน่นอน เพียงแค่ประสิทธิภาพงานดี นายก็จะได้รับหลายสิบล้านต่อปีก็เป็นไปได้ ! “คุณชายจั๋ว ตบไหล่ของ ถังพังจื้อ แล้วพูด
ถังพังจื้อรีบ พยักหน้า ขอบคุณคุณชายจั๋วมาก ! ขอบคุณ คุณชายจั๋วมาก !
การกระทำของ ถังพังจื้อ ดึงดูดความสนใจของผู้หญิงหลายคนรอบตัวเขา ในสายตาของพวกเธอแล้วถังพังจื้อชอบขูดรีดทั้งโหดร้ายและขี้เหนียว คาดไม่ถึงว่าจะมีการกระทำเช่นนี้ นี่จึงทำให้คนตกตะลึงได้จริงๆ !
ซุนเหอจั๋วจ้องไปที่ถังพังจื้อ รีบไปได้แล้ว !
ถังพังจื้อรู้ว่าที่นี่ไม่ค่อยจะเหมาะที่จะหลบซ่อนตัวได้ เขาจึงรีบออกไป
รอจนถังพังจื้อเดินออกไปไกลแล้ว ไม่รอให้ผู้หญิงที่มานั่งดื่มเป็นเพื่อนเข้ามา ซุนเหอจั๋วก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่อื่น เขาไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของเขาได้ !
ซุนเหอจั๋วพบตำแหน่งอื่นอย่างรวดเร็ว เขานั่งบนเก้าอี้ หลังจากสั่งค็อกเทล เขาก็มองไปรอบ ๆ
เขาก็รูจมูกขยาย สีหน้าตื่นตระหนกตกใจ คาดไม่ถึงว่าเขาจะเห็นหยางโป !
ไอ้คนจรจัดคนนั้นที่ทำให้เขามีเรื่องอื้อฉาว ! ไอ้คนคนนั้นที่แขนของเขาต้องถูกทุบจนหัก ! ไอ้คนคนนั้นที่ทำให้เขาไม่สามารถออกไปพบเจอผู้คนได้ !
ซุนเหอจั๋วโกรธปะทุอยู่ในใจ เขาหันกลับไปมอง กำลังคิดที่จะเรียกบอดี้การ์ดไปกระทืบสักรอบ แต่ก็คิดได้ว่า เขาไม่ได้พาบอดี้การ์ดมาด้วย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่นี่ก็ไม่ฟังเขา เขาจ้องมองดูหยางโป เห็นหญิงสาวที่กำลังสนทนาอย่างมีความสุขกับหยางโปเดินออกไป สีหน้าของเขาก็เยาะเย้ยและยืนขึ้นทันที
ซุนเหอจั๋ว หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรหาถังพังจื้อ ฉันเห็นว่าแขกที่นั่งโต๊ะห้าสิบสามดูเหมือนจะดื่มไวน์แดง ดูเหมือนว่าจะเป็นไวน์แดงชาโต้ ลาฟีต ของปี 82 ช่วยฉันยืนยันหน่อย
ถังพังจื้อ พูดอย่างรวดเร็ว คุณชายจั๋ว รอสักครู๋ เดี๋ยวผมจะตรวจสอบ … ใช่ ไวน์ แดงชาโต้ ลาฟีต ปี 82
ฉันจำได้ว่าแกกำหนดราคาของมันไม่ได้ถูกเลย ฉันเคยเห็นผู้ชายคนนั้น เขาเป็นคนโกหก ชอบดื่มกินฟรี ! แกไปบอกให้มันจ่ายเงินกับแกซะ ! ซุนเหอจัวกล่าว
ถังพังจื้อตกตะลึงไปเล็กน้อย ในใจคิดกับตัวเองว่า ซุนเหอจั๋ว ไม่เคยจะสนใจเรื่องแบบนี้มาก่อน แม้ในใจจะมีข้อสงสัย แต่เขาก็ยังคงไปคุยกับบริกรคนหนึ่งที่เก็บเงิน และไปคุยกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนที่อยู่ไม่ไกล
ถังพังจื้อคาดเดาว่าชายคนนั้นคงเป็นศัตรูกับ คุณชายจั๋ว เขารู้สึกว่าโอกาสของตัวเองมาถึงแล้ว และไม่ได้คิดอะไรมากเขาก็รีบออกไป เขาต้องไปที่เกิดเหตุเพื่อเก็บเงินมาให้ได้ !
หลังจากวางสายโทรศัพท์ ซุนเหอจั๋วก็ยิ้มเยาะเย้ย แกอยากมาสู้กับฉัน แกอย่าคิดว่าแกจะทำอะไรได้ !
เขาเงยหน้ากระดกเหล้า แล้วเดินเข้าไปที่ฝูงชน เขามีเป้าหมายอยู่ที่นั้น !
บริกรได้รับคำสั่งจากเถ้าแก่ แต่เขาก็ไม่ได้คิดมาก เพราะตามกฎระเบียบ เขามีค่าคอมมิชชั่นอยู่ ไวน์ขวดนี้ได้รับค่าคอมมิชชั่นมากกว่า 5,000 หยวน สำหรับการเก็บเงินทำให้เขามีความสุขมาก !
เขาเดินไปถึงข้างหยางโป บริการเข้าไปกระซิบเบาๆกับ หยางโป สวัสดีครับท่านลูกค้า ไวน์แดงชาโต้ ลาฟีต ขวดนี้ราคา 588,000 หยวน
หยางโปมองไปที่บริกรก็รู้สึกงุนงง ก่อนหน้านี้ก็มีบริกรพูดประโยคนี้ไปแล้วไม่ใช่เหรอ ?
ฉันรู้ หยางโปพูด
บริกรที่กำลังถือถาดไวน์อยู่เขารู้สึกกลัดกลุ้มใจขึ้นมาทันที หรือว่าอีกฝ่ายไม่ได้ยินความหมายแฝงของประโยคนี้เหรอ ?
” ท่านครับ ไวน์แดงชาโต้ ลาฟีต ขวดนี้ของท่านราคาแพงมาก ดังนั้นทางเราจึงมีบริการชุดเครื่องดื่มร่วมที่นี่ ถ้าท่านดื่มไม่หมด สามารถเก็บมันเอาไว้กับเราที่นี่ได้ เมื่อมาดื่มครั้งต่อไป ” บริกรกล่าว
หยางโปพยักหน้า ” อืม ฉันเข้าใจแล้ว “
บริกรท้อแท้ใจเล็กน้อย การบริการจะต้องเก็บเงิน
” อืม เข้าใจแล้ว “
บริกรชายมองไปที่ หยางโป เขาพูดอะไรไม่ออกในที่สุด