เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 394
ตอนที่ 394 ทางคดเคี้ยว
ซิงเหย๋ชิ้งกลิ้งไปกลับพื้นทว่าปากของเขาก็ยังคงปิดสนิท
ลัวย่าวหัวขมวดคิ้วเข้าหากัน ตอนที่เขากำลังจะเตะเข้าไปที่ร่างของอีกฝ่ายอีกครั้ง หยางโปก็พบว่ามีชายคนหนึ่งกำลังเดินออกมาจากหมู่บ้าน รูปร่างของชายคนนั้นสูงโปร่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความซื่อตรงและชายคนนั้นก็คือเซอเจ๋อพี่ชายของจือมู่
ก่อนหน้านี้หยางโปเคยได้ยินจากชุยอี้ฝานว่าเซอเจ๋อได้กลายเป็นหัวหน้าหมู่บ้านไปแล้ว ดังนั้นทันทีที่เห็นอีกฝ่ายหยางโปก็รีบโบกมือเรียกทันที
เซอเจ๋อรีบวิ่งมาทันทีอย่างไม่รีรอ ตั้งแต่ที่จื่อมู่ตาย หยางโปและคนอื่นๆก็มาที่นี่เพื่อแจ้งเรื่องให้เขาทราบและแน่นอนว่าเขายังจำมันได้ขึ้นใจ แม้ว่าภายหลังมานี้มันจะวุ่นวายจนเขาไม่ได้รู้สึกมีความสุขแต่เขาก็รู้สึกได้ว่า
หยางโปเป็นคนดี ทันทีที่มาถึงก็พบว่าซิงเหย๋ชิ้งนอนอยู่ที่พื้น เขาก็แอบรู้สึกตกใจขึ้นมา
หยางโปเดินเข้าไปจับมือทักทายเซอเจ๋อก่อนที่จะถามไปตรงๆโดยไม่อ้อมค้อม ” ผู้ชายคนนี้มาทำอะไรที่หมู่บ้านเหรอ ? “
เซอเจ๋อหันไปมองซิงเหย๋ชิ้ง ” เมื่อวานเขามาตามหาหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับเผ่าอี้ แล้วก็อยากจะรู้เรื่องเกี่ยวกับซุนหนีด้วย “
” ซุนหนี ? ” หยางโปชะงักไปก่อนที่จะหันมามองคนอื่นๆที่เหลือด้วยใบหน้าแข็งทื่อ
” อ่อ…แล้วเขาถามอะไรบ้างล่ะ ? แล้วพวกนายพูดอะไรกับเขาไปบ้าง ? ” หยางโปถามอย่างละเอียด
เซอเจ๋อตอบกลับมาอย่างไม่ปิดบัง ” เขาอยากได้หนังสือข้อมูลเหล่านั้นน่ะ แต่ฉันไม่ได้บอกอะไรกับเขาไป นายไม่ต้องห่วงหรอก “
หยางโปหันไปมองซิงเหย๋ชิ้ง ครั้งก่อนเขาถูกซิงเหย๋ชิ้งตัดโอกาสไปตอนที่อยู่มองโกเลีย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าครั้งนี้อีกฝ่ายจะทำเรื่องแบบนี้ด้วยการรีบเดินทางมาที่นี่ ทว่าครั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายในประเทศ ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ไม่ยอมให้อีกฝ่ายได้สมหวังแน่ !
หยางโปคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะหันไปหาลัวย่าวหัว ” ซิงเหย๋ชิ้งสำรวจหลุมฝังศพที่ถูกปล้นภายในประเทศแต่ถูกพวกเราดักจับเอาไว้ได้ ในฐานะของผู้มีความรู้ พวกเราจะพาเขาไปส่งตำรวจ ! “
ลัวย่าวหัวยิ้ม ” ใช่ ! หมอนี่ยังมีผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย เราจะต้องสืบหาเบาะแสและตามจับมันให้ได้ “
คำพูดของทั้งสองคนกำลังตั้งข้อหาให้กับซิงเหย๋ชิ้ง หลักฐานหลังจากนี้จะไม่ใช่เรื่องของสองคนแล้วและแน่นอนว่าจะต้องมีคนอื่นถูกโดนหางเลขไปด้วย !
ซิงเหย๋ชิ้งถูกบอดี้การ์ดลากลงไปในทันที
หยางโปหันมาหาเซอเจ๋อ ” รีบพาพวกเราไปบ้านซุนหนีเร็วเข้า ! “
เซอเจ๋อหันไปมองรอบๆก็พบกับอาจารย์ฉิน เขาส่ายหน้าและพูด ” ซุนหนีหายไปแบบไร้ร่องรอย ฉันว่าพวกนายอย่าไปเลยจะดีกว่า เพราะถ้าของในบ้านหายขึ้นมาคงจะมีปัญหาแน่ๆ “
หยางโปรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา เมื่อเห็นว่าเซอเจ๋อยังคงยืนยันคำตอบของตัวเองเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาว่า ” นายเองก็พูดถึงวัตถุประสงค์ของซิงเหย๋ชิ้งเหมือนกัน เมื่อวานเขามาที่นี่แล้ว ถ้างั้นวันนี้เขาจะมาทำอะไรล่ะ ? แล้วนายคิดว่าเขาจะไม่มีผู้สมรู้ร่วมคิดรึไง ? “
เซอเจ๋อได้ยินแบบนั้นหน้าก็เปลี่ยนสีไปทันที ” ไม่หรอก เมื่อเช้าฉันเห็นว่ามีแค่เขามาแค่คนเดียว แล้วก็ไม่ได้เข้าไปในบ้านซุนหนีด้วย เขาไม่มีทางขโมยของหรอก “
” ถ้าเขาไม่ได้เข้าไปในบ้านของซุนหนี ถ้างั้นเขาไปไหนล่ะ ? ” หยางโปถาม
” ไม่รู้สิ ” เซอเจ๋อส่ายหน้า
หยางโปรีบลากแขนเซอเจ๋อ ” เร็วเข้า ! พวกเรารีบไปดู ฉันว่าต้องมีปัญหาแน่ๆ ! “
เซอเจ๋อลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ถูกลัวย่าวหัวดึงตัวไปในขณะเดียวกันหยางโปและคนอื่นๆก็วิ่งไปที่บ้านซุนหนีด้วยเช่นเดียวกัน
หลังจากเดินเข้ามาในหมู่บ้านก็พบว่าภายในนี้ไม่ได้มีผู้คนมากเท่าไหร่นัก หลังจากช่วงปีใหม่คนหนุ่มสาวภายในหมู่บ้านก็กลับไปทำงานกันหมดแล้วจึงเหลืออยู่แค่ไม่กี่คนที่อยู่ภายในหมู่บ้านในเวลานี้
ตอนที่เดินมาถึงหมู่บ้านก็พบว่าประตูใหญ่ถูกเปิดอ้าเอาไว้ เซอเจ๋อเห็นแบบนั้นก็ชะงักไปในทันที
หยางโปเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เขาหันไปหาอาจารย์ฉินก็พบว่าอีกฝ่ายเองก็มีสีหน้าไม่ต่างอะไรกับเขา หลูตงซิงยกมือขึ้นก่อนที่จะสั่งให้บอดี้การ์ดเข้าไปด้านใน
ทันทีที่เข้ามาด้านในบ้านก็พบว่าภายในบ้านเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงจนทำให้เซอเจ๋อแทบจะช็อคไปในทันที
หยางโปเห็นแบบนั้นก็พูด ” นายลองคิดดูซิว่าภายในหมู่บ้านมีใครที่จะสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้มากที่สุด ? “
เซอเจ๋อลังเล ” ไม่รู้สิ “
” นายลองคิดดูดีๆสิ ! ” ลัวย่าวหัวพูดอีกครั้ง
เซอเจ๋อส่ายหน้า ” ซุนหนีเป็นผู้นำของเราและภายในหมู่บ้านก็เป็นเหมือนกับเทพเจ้า ไม่มีใครกล้าหักหลังเขาหรอก ! ถึงแม้ว่าเขาจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยแต่ภายในหมู่บ้านก็ไม่มีใครกล้าที่จะทำแบบนั้น “
” แล้วนี่มันคืออะไรกันล่ะ ? ” ลัวย่าวหัวถาม
เซอเจ๋อส่ายหน้า ” อย่าถามฉันเลย ฉันเองก็ไม่รู้จริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น ! “
หยางโปเดินดูรอบบ้านพร้อมกับพยายามหาร่องรอยของผู้ต้องสงสัย
” ทุกคนรีบออกไป อย่าทำลายหลักฐานภายในนี้ ! ” ลัวย่าวหัวรีบพูดขึ้นก่อนที่จะตะโกนบอกทุกคน
ทุกคนได้ยินแบบนั้นก็รีบเดินทยอยออกไปในทันที
เจ้าอ้วนหลิวมองเข้าไปในบ้าน ” เซอเจ๋อ…นายเองก็ต้องรู้ด้วยนะว่าถ้าเรื่องไปถึงตำรวจและถูกจับได้ขึ้นมามันจะเป็นข้อหาลักทรัพย์และบุกรุก และมีโทษด้วยนะ นายไม่คิดอยากจะปกป้องคนๆนั้นหน่อยเหรอ ? “
เซอเจ๋อไม่ได้พูดอะไรแต่กลับเอาแต่จ้องไปที่ประตูใหญ่ตรงหน้า เห็นได้ชัดว่าประตูใหญ่นั้นถูกเตะจนเปิดออก บนประตูไม้นั้นมีร่องรอยของไม้ที่แตกหัก และไม้นั้นก็เป็นสีขาวที่เห็นได้อย่างชัดเจน
อวี่เหวินที่ยืนอยู่ด้านนอกเดินวนรอบบ้านก่อนที่จะพูดขึ้นว่า ” พวกนายรีบหน่อยนะ ถ้าหากช้ากว่านี้ต่อให้เจอผู้บุกรุกแต่ก็อาจจะไม่เจอสมุดบันทึกนั่นแล้วก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นคงหมดประโยชน์แน่ ! “
ทุกคนได้ยินแบบนั้นก็หันไปจ้องเซอเจ๋ออีกครั้งตอนนี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่จะสามารถเปิดปากพูดออกมาได้
” ติ๊ดๆๆ “
ตอนที่หยางโปกำลังจะเอ่ยปากถาม โทรศัพท์ของหลูตงซิงก็ดังขึ้น
” ฮัลโหล ? ว่าไงนะ ? ! ซิงเหย๋ชิ้งหนีไปแล้วเหรอ ? “
คำพูดของหลูตงซิงทำให้ทุกคนต่างพากันตกตะลึงไปในทันที นี่ขนาดมีบอดี้การ์ดคุมตัวไปแต่ก็ยังหนีไปได้อีกเหรอ ?
” อีกฝ่ายมีปืน ! ” หลูตงซิงหันมาหาทุกคน ” เป็นชาวญี่ปุ่นอีกคนนึง ตอนนี้ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว รีบปิดประตูใหญ่ของหมู่บ้านซะ ! อย่าให้ขโมยหนีออกไปได้ ! “
อาจารย์ฉินพยักหน้า ” มีทางเดียวเท่านั้นแหละ ! “
หลูตงซิงให้บอดี้การ์ดสองคนไปคุมตัวซิงเหย๋ชิ้ง ส่วนอีกสองคนที่เหลือก็รีบตามไปเช่นกัน เพราะถ้าหากปล่อยให้ไปสองคนคงจะไม่พอแน่ ทุกคนจึงต้องรีบตามไปด้วยความร้อนใจ
ทันทีที่มาถึงหน้าหมู่บ้านก็ไม่พบว่ามีใครออกไปด้านหน้า เจ้าอ้วนหลิวจึงพูดขึ้นมาว่า ” ตอนนี้ทำได้แค่หาเบาะแสเท่านั้น พวกเราแบ่งออกเป็นสองกลุ่มแล้วกัน กลุ่มแรกเฝ้าที่นี่เอาไว้ ส่วนอีกกลุ่มออกตามหาเบาะแสภายในหมู่บ้าน ! มีวิธีเดียวเท่านั้น…รบกวนเซอเจ๋อหน่อยนะ “
เซอเจ๋อยังคงไม่หายจากอาการตกใจเขาก็รีบพยักหน้าตอบ ” ก็คงต้องเป็นแบบนี้แล้วแหละ “
เซอเจ๋อเห็นชายชราคนหนึ่งกำลังเดินออกมาจากหมู่บ้าน เขาก็รีบถามขึ้นมาว่า ” คุณปู่ เมื่อกี้คุณปู่เห็นใครออกไปจากหมู่บ้านบ้างไหม ? “
” อะไรนะ ? ออกไปจากหมู่บ้านงั้นเหรอ ? ” ชายชราดูเหมือนกำลังงุนงง ” เมื่อกี้ฉันเห็นอากว่อเพิ่งวิ่งลงเขาไปนะ งานการก็ไม่ทำวันๆทำแต่อะไรก็ไม่รู้ ขี้เกียจสันหลังยาวจริงๆ ! “
ทุกคนได้ยินแบบนั้นก็ชะงักไปในทันทีก่อนที่จะรีบมองออกไปนอกหมู่บ้าน ทว่าก็ไม่เจอเงาของใครเลยแม้แต่ปลายผม
” งั้นแบ่งอีกส่วนลงไปที่ตีนเขา เดี๋ยวฉันจะโทรไปให้คนที่อยู่ด้านล่างช่วยอีกแรง ” หลูตงซิงพูด
หยางโปมองลงไปด้านล่างก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า เพราะเขาไม่รู้เลยว่าทางที่คดเคี้ยวขนาดนี้พวกเขาจะสามารถหยุดการหลบหนีของอากว่อได้รึเปล่า