เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 400
ตอนที่ 400 พิษร้ายแรง
ทุกคนต่างพากันมองไปที่รูปปั้นคนใช้ก่อนที่จะหันไปมองโลงศพที่อยู่ตรงกลาง
โลงศพไม้ในเวลานี้ถูกหยางโปเตะไปอยู่ที่พื้นแล้วแถมกระดูกก็กลิ้งกระจายออกมาพร้อมกับเครื่องประดับหยกและทองคำที่อยู่ตรงหน้า
” รีบเก็บเร็วเข้า แล้วเอาไปวางรวมกันที่ข้างบันไดวนก่อน ขากลับตอนที่จะออกไปค่อยนำของพวกนี้ออกไปด้วย ” อาจารย์ฉินพูด
อวี่เหวินก้าวเท้ามาด้านหน้าพร้อมกับยกมือห้ามทุกคน ” เดี๋ยวก่อน ! “
ทุกคนเกิดความสงสัยขณะที่หันไปมองอวี่เหวิน
อวี่เหวินไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้นแต่เขาเดินไปข้างหยางโปและหยิบคทามาไว้ในมือ เขาเดินตรงไป
ที่ด้านข้างโลงศพก่อนที่จะใช้หัวคทาตีไปบนโลงศพจนเศษไม้ถูกเปิดออก
หยางโปเงยหน้ามองด้วยท่าทางตกตะลึงอย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่
” เป็นไปได้ยังไงกันเนี่ย ? “ลัวย่าวหัวเองก็ตกใจไม่แพ้กัน
หลูตงซิงหน้าเปลี่ยนสีก่อนที่จะรีบถอยออกไปสองก้าว
อาจารย์ฉินในเวลานี้ก็มีสีหน้าตกใจเช่นเดียวกัน ” ปะ…เป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน ! “
โลงไม้ที่ผุพังเปิดออก ภายใต้โลงศพมีแขนที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ปรากฏขึ้นต่อหน้าสายตาของทุกคน !
แขนข้างนี้ฝ่อและแห้งไปนานแล้ว ทว่าสภาพของกระดูกนี้ก็ยังน่าแปลกใจอยู่ดีเมื่อเทียบกับกระดูกชิ้นอื่นๆที่อยู่รอบๆ
ทำไมถึงมีเพียงแขนข้างเดียวที่ยังคงอยู่อย่างสมบูรณ์ ?
อวี่เหวินเปิดโลงศพก่อนที่จะขมวดคิ้วเข้าหากัน หลังจากนั้นเขาก็พังโลงศพอื่นที่อยู่ข้างๆทว่าก็พบเพียงแค่กระดูกและหินหยก แต่กลับไม่พบอย่างอื่นเลย ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้น ทว่าเขาก็ยังยกมือให้กับทุกคนภายในนี้ ” ช่างเถอะ เราลงไปดูข้างล่างกันต่อดีกว่า “
หยางโปมองไปรอบๆก่อนที่จะเดินตามอวี่เหวินไปโดยที่ไม่ได้สนใจหยกหรือทองที่กระจายอยู่ที่พื้นเหล่านั้นเลย
หลูตงซิงและอาจารย์ฉินองก็เช่นกัน มีเพียงเจ้าอ้วนหลิวที่ยังลังเลอยู่แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะทิ้งสมบัติเอาไว้ด้านหลังเช่นเดียวกันกับคนอื่นๆ
หลังจากลงมาอีกชั้นก็พบว่าภายในนี้มีการจัดเรียงไม่ได้ต่างอะไรกับชั้นบนเลยเพราะมีโลงศพถูกวางอยู่ตรงหน้า ทุกคนต่างพากันมองไปที่อวี่เหวิน การเดินทางครั้งนี้ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกสงสัยในตัวอวี่เหวินมาก แต่ท่าทางของเขากลับทำให้ทุกคนรู้สึกยกย่องและนับถือเขาขึ้นมา
อวี่เหวินใช้คทาเคาะไปที่โลงศพเหมือนเดิมก่อนที่จะเดินหลบไปด้านหลัง
เมื่อเห็นว่าภายในโลงไม่มีอะไรโต้ตอบกลับมาเขาก็ชะโงกหน้าไปดูด้านใน
ซิงเหย๋ชิ้งและจิ่งซ่างหยางจือในที่สุดก็เดินทางมาถึงยอดเขาเช่นกัน พวกเขาพบกับถ้ำที่อยู่ด้านใต้หินขนาดใหญ่ ทั้งสองคนหันไปสบตากันพร้อมกับยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้น ! การเดินทางครั้งนี้…ในที่สุดพวกเขาก็ไม่ได้มาเสียเที่ยวแล้ว !
เขาจ่ายเงินให้กับไกด์นำเที่ยวเพื่อที่จะมาถึงที่นี่ หลังจากที่มาถึงซิงเหย๋ชิ้งก็หันไปมองชาวญี่ปุ่นคนอื่นๆที่เขาพามาพร้อมกับความรู้สึกตื่นเต้นที่เกิดขึ้นภายในใจของเขา
” เราอยู่ในประเทศจีนเป็นเวลาสามปี ไม่ว่าจะเป็นทุ่งหญ้า ภูเขา หิมะหรือแม่น้ำ ที่ราบสูงหรือทะเลสาบแต่หนึ่งในสามของดินแดนในประเทศจีนก็จะต้องมีรอยเท้าของพวกเราประทับตราไว้ ! การที่เราเดินมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ! “
ซิงเหย๋ชิ้งจ้องมองไปที่ตรงหน้า ” สิ่งนี้เป็นสิ่งแรกที่เราทำเมื่อสามปีที่แล้วและมันอาจจะเป็นกำไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราหลังจากที่เข้าประเทศจีน ถ้าหากครั้งนี้เราได้กอบโกยมากพอ ฉันคิดว่าหลังจากนี้พวกเราไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ที่จีนอีกต่อไปแล้ว และพวกเราก็สามารถที่จะกลับประเทศไปเสวยสุขได้อย่างสุขสบายเลยล่ะ ! “
” ครั้งนี้ขอให้ทุกคนทำอย่างเต็มที่ ! เราจะนำของมีค่าออกมาให้หมด !!! “
” เฮ้ !!! “
ทุกคนเปล่งเสียงออกมาจนทำให้ซิงเหย๋ชิ้งรู้สึกหึกเหิมมากขึ้น
” หัวหน้าซิงเหย๋ ดูเหมือนว่าจะมีคนเข้าไปในนี้ก่อนหน้าพวกเราแล้วนะ ! ” คำพูดของหยางจือทำให้ซิงเหย๋ชิ้งชะงักไป
” อะไรนะ ? จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกัน ? ซุนหนีก็ตายไปแล้ว ไม่มีใครรู้ที่นี่ได้แน่ๆ ยังไงก็ไม่มีใครมาที่นี่ได้หรอก ! ” ซิงเหย่ชิ่งกระทืบเท้าและยืนหยัดในความคิดของตัวเอง
หยางจือชี้ไปที่หินก้อนใหญ่ ” ก็หินใหญ่ก้อนนั้นเพิ่งจะถูกคนลากให้ขยับไปด้านข้างเองนะ “
” บางทีอาจจะเป็นตอนที่พวกเขาออกมาคราวก่อนแล้วลืมปิดกลับไปเป็นเหมือนเดิมก็ได้ ! ” ซิงเหย๋ชิ้งแม้จะพูดแบบนั้นแต่ในใจของเขาก็อดนึกถึงกลุ่มคนที่เขาเจอที่หมู่บ้านไม่ได้ ถ้าหากเป็นคนพวกนั้นจริงๆ เขาเองก็กลัวว่าตัวเองอาจจะถูกตัดหน้าไปแล้ว !
ทว่าหมอนั่นไม่มีบันทึกหนิ จะเจอที่นี่ได้ยังไงกัน ?
ภายในใจของซิงเหย๋ชิ้งกำลังประมวลผลทว่าเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะกลัวว่าจะกระทบกับขวัญและกำลังใจของคนอื่นๆที่เหลือ
หลังจากลงมาที่ชั้นล่างและพบกับรอยเท้า ซิงเหย่ชิงก็หัวเราะร่าออกมาพร้อมกับอธิบาย ” ที่นี่จะต้องเป็นร่องรอยที่ซุนหนีและคนพวกนั้นทิ้งเอาไว้แน่ๆ ! แต่ซุนหนีนี่ก็จริงๆเลยนะไม่คิดที่จะทิ้งของอะไรเอาไว้ที่นี่เลยสักนิด ! “
ซิงเหย๋ชิ้งกวาดตาสำรวจไปรอบๆก็ไม่พบอะไรที่มีราคา เขาจึงเดินนำคนอื่นๆลงไปชั้นล่าง
เมื่อมาถึงชั้นถัดมาก็พบว่าโลงศพถูกทำลายลงจนกระดูกกระจัดกระจายไปทั่ว แถมยังมีแก้วแหวนเงินทองกระจายอยู่ที่พื้นด้วย !
สีหน้าของซิงเหย๋ชิ้งเปลี่ยนสีเล็กน้อย เขาหันไปหาหยางจือ ” หยางจือ…ฉันบอกแล้วว่าไม่มีใครมาก่อนพวกเรา ที่นี่ยังมีสมบัติหลงเหลืออยู่เต็มไปหมด ถ้ามีคนมาที่นี่จริงๆ มีเหรอที่คนพวกนั้นจะทิ้งของพวกนี้ไว้ที่นี่น่ะ ? “
หยางจือรู้สึกผ่อนคลายลง ” นั่นสินะ ครั้งนี้พวกเรารวยเละแน่ ! แต่เราก็ยังไม่รู้ว่าจะมีคนอยู่ด้านหน้ารึเปล่ายังไงเราก็ต้องระวังตัวเองไว้ให้ดี “
คนที่อยู่ด้านหลังในเวลานี้ต่างพากันเก็บของมีค่าใส่กระเป๋าผ้าโดยไม่รอคำสั่ง ระหว่างที่กำลังเก็บของเหล่านั้นพวกเขาก็เหลือบไปเห็นแขนสีดำข้างหนึ่งจนเกิดอาการหวาดผวาขึ้นมาทว่าพวกเขาก็ยังไม่หยุดที่จะเก็บของมีค่าเหล่านั้นรวมไปถึงแขนข้างนั้นด้วย !
พวกเขาไม่คิดที่จะเหลือของในนี้แม้แต่ชิ้นเดียวต่อให้เป็นแขนพวกเขาก็จะเก็บออกไปเพราะมันมีโอกาสที่จะมีมูลค่าสูงหากพวกเขานำมันไปขาย !
” อ๊ากกกกก ” ทันใดนั้นเสียงก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงที่กึกก้องไปทั่วทั้งชั้นจนทำให้ซิงเหย๋ชิ้งหน้าถอดสี
เขารีบหันกลับไปดูก็พบว่าคนที่กำลังถือถุงผ้าอยู่อ้าปากค้างพร้อมกับใบหน้าที่บิดเบี้ยว เส้นเลือดของเขาปูดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ท่าทางของเขาดูเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ทันใดนั้นแขนข้างหนึ่งของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นสีดำภายในชั่วพริบตาเดียวพร้อมกับแสงที่ประกายออกมาจากผิวสีดำนั้นราวกับเป็นเวทมนต์ !
พรวด !
เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วทันทีที่ซิงเหย๋ชิ้งใช้มีดในมือของเขาตัดไปที่แขนข้างนั้นภายในชั่วพริบตาเดียว !
ทุกคนต่างพากันตกตะลึงจนสติแทบจะกระเจิงไปในทันที
ซิงเหย๋ชิ้งตะโกน ” จะยืนอึ้งกันอีกนานไหม ? รีบไปช่วยห้ามเลือดให้เขาเร็วเข้าสิ ! “
หยางจือได้ยินแบบนั้นก็รีบหยิบผ้าพันแผลออกมาแล้วรีบยื่นไปให้คนที่อยู่ข้างๆที่กำลังยืนอึ้งอยู่ ทันใดนั้นชายคนที่ถูกตัดแขนก็เปล่งเสียงคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวด ร่างของชายกำยำก่อนหน้านี้ได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นสีม่วง ในขณะที่คนที่อยู่ข้างๆไม่มีใครกล้าที่จะก้าวเท้าเข้าไปช่วยเขาแม้แต่คนเดียว !
พิษร้ายแรงขนาดนี้ใครจะไปกล้าเข้าไปกันล่ะ !
ซิงเหย๋ชิ้งจ้องมองไปที่ชายคนนั้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายแววตาแสดงถึงความอ่อนแอและกำลังจะหมดแรงเขาก็รีบพูดขึ้นมาว่า ” นายไม่ต้องห่วง หลังจากกลับไปแล้ว เงินที่นายควรจะได้ฉันจะส่งให้ถึงมือครอบครัวนายเลย เงินที่สัญญาไว้ก่อนหน้านี้ฉันก็จะให้เหมือนกัน ทุกคนเป็นพยานได้ ! “
สิ้นสุดเสียงของซิงเหย๋ชิ้ง ชายคนนั้นก็ดูเหมือนว่าจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวสุดท้ายดวงตาของเขาก็ปิดลงพร้อมกับโลกที่มืดสนิทไปในชั่วพริบตาเดียว !