เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 869 บีบบังคับให้รับคารวะเป็นอาจารย์
ตอนที่ 869 บีบบังคับให้รับคารวะเป็นอาจารย์
ลัวย่าวหัวกลับไม่คิดว่าการจับตัวหยางเต๋อเชิงเป็นเรื่องใหญ่ หลังจากการสอบสวน ก็สั่งให้คนนำตัวเขากลับไปขังเหมือนเดิม
เมื่อหยางโปไปจากที่นี่ แต่เขายังคงต้องดูแลอวี่เหวินอยู่ ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกค่อนข้างเบื่อหน่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอวี่เหวินที่นอนจากฝึกญาณก็เอาแต่นอน และมีเวลามาพูดคุยด้วยไม่กี่คำ
หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก ลัวย่าวหัวก็เริ่มสนใจห้องของหยางโปขึ้นมา เขาเดินออกไปอย่างกระตือรือร้น และคิดที่จะเดินลงไปชั้นล่างเพื่อเข้าไปในห้องของหยางโป แต่ยังไม่ทันลงไปชั้นล่าง ลัวย่าวหัวก็เห็นใครบางคนทำลับๆล่อๆออกมาจากห้องของหยางโป ในอ้อมแขนมีของนูนออกมา ราวกับว่ากำลังถืออะไรบางอย่างอยู่ !
ลัวย่าวหัวขมวดคิ้ว แม้ว่าชายคนนั้นจะเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่เขาก็ยังจำอีกฝ่ายได้ คนคนนั่นคือ
หยวนเฉิงเฟย !
หยวนเฉิงเฟยเข้าไปในห้องของหยางโป คิดที่จะเอาอะไร ?
ลัวย่าวหัว รู้สึกงุนงงมาก ของหลายอย่างในห้องของหยางโปมีแต่ของล้ำค่า แต่หยวนเฉิงเฟยมีเงินมากมาย ไม่น่าจะสนใจของพวกนั้นหรอกนะ ?
หรือมันเป็นของสำคัญอะไร ?
ลัวย่าวหัว ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและต่อสายโทรออกหาหยางโป
” โทรศัพท์ที่คุณโทรหาปิดเครื่อง… “
หลังจากต่อสายโทรหาสองครั้งติดต่อกัน หยางโปก็ไม่รับสาย ลัวย่าวหัวไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากลงไปชั้นล่างแล้วเดินเข้าไปในห้องของหยางโป และลงมือค้นหาของอย่างระมัดระวัง
หลังจากค้นหาอยู่นาน ลัวย่าวหัวก็ไม่พบเบาะแสใดๆ เขาคิดอยู่สักพักและต่อสายโทรออกหา
หยางโป แต่เขาไม่รู้ว่าทำไมโทรศัพท์ของหยางโปถึงปิดเครื่องอยู่ตลอดเวลา
จนถึงตอนเย็น ลัวย่าวหัวก็ไม่สามารถโทรหาหยางโปติด ซึ่งทำให้เขารู้สึกค่อนข้างแปลกใจ
แต่หยวนเฉิงเฟยกลับรีบกลับมาพร้อมกับนำข่าวดีเรื่องโสมเขียวกลับมาด้วย !
ลัวย่าวหัว เคาะโต๊ะเบาๆอย่างระมัดระวัง ปลุกให้อวี่เหวินตื่นจากการฝึกตบะและนำข่าวที่นำโสมเขียวกลับมาแจ้งให้อวี่เหวินทราบ
อวี่เหวินรู้สึกแปลกใจมาก ” หยางโปไปประเทศญี่ปุ่นไม่ใช่เหรอ ? แล้วทำไมกลับมาเร็วขนาดนี้ ? “
” หยางโปไม่ได้นำโสมเขียวกลับมา แต่เป็นหยวนเฉิงเฟยที่นำกลับมา ” ลัวย่าวหัวอธิบาย
อวี่เหวินขมวดคิ้ว และรู้สึกแปลกใจมาก “ เป็นไปไม่ได้ ในเมื่อหยางโป รีบไปที่ประเทศญี่ปุ่น
งั้นก็หมายความว่า เขาจะนำมันกลับมาได้อย่างแน่นอน ทำไมมันถึงมาโผล่อยู่ที่นี่ได้ ? ”
“ พวกเราไปดูกัน ก็จบแล้วไหม ? ” ลัวย่าวหัวกล่าว
อวี่เหวินไม่ขัดข้องลุกขึ้นและเดินออกไปข้างนอกทันที
เมื่อเดินกลับมาที่ห้องรับแขก หยวนเฉิงเฟยได้ใช้ให้ทุกคนออกไปกันแล้ว หยวนต๋านั่งอยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นอวี่เหวินเดินเข้ามาก็รีบเข้าไปทักทายทันที
อวี่เหวินมองไปบนโต๊ะก็เห็นกล่องไม้จันทน์กล่องหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ เขาจึงหันมองไปที่กล่อง
” อยู่ข้างใน ? “
หยวนเฉิงเฟยพยักหน้า “ ใช่คุณอวี่เหวิน ผมนำโสมเขียวกลับมาให้คุณแล้ว หลังจากกินโสมเขียวแล้ว ร่างกายของคุณก็น่าจะดีขึ้นใช่ไหม ? ”
อวี่เหวินดูดีใจอย่างเห็นได้ชัด “ มันต้องดีขึ้นมาก ถ้าดีขึ้นมาจริงๆ จะต้องจดจำคุณงามความดีของคุณครั้งนี้ไว้แน่นอน ! ” ใบหน้าของหยวนเฉิงเฟยมีแต่รอยยิ้ม “ คุณอวี่เหวิน ในเมื่อมีคุณงามความดี น่าจะได้รับรางวัลสักหน่อยใช่ไหม ? ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของอวี่เหวินจางลงไปเล็กน้อย ” อ้อ ? คุณต้องการรางวัลอะไรล่ะ ? “
” พั๊ฟ ! ” หยวนเฉิงเฟยคุกเข่าลงตรงหน้าอวี่เหวิน ” คุณอวี่เหวิน รางวัลอย่างอื่นผมไม่เอาทั้งนั้น
หวังเพียงว่าคุณอวี่เหวินจะรับผมเป็นศิษย์และสอนผมฝึกบำเพ็ญตบะ ! “
” คุณต้องการฝึกญาณ ? ” อวี่เหวิมองหน้าหยวนเฉิงเฟย
หยวนเฉิงเฟยก้มศีรษะคารวะลงบนพื้น ” ครับ ! “
อวี่เหวินเหลือบมองไปที่กล่องไม้จันทน์ จากนั้นก็หันไปมองหน้าหยวนต๋า “ แล้วอาจารย์ของคุณล่ะ ? ”
หยวนเฉิงเฟยหันกลับไปมองหยวนต๋าพร้อมด้วยสีหน้าที่วินวอนขอร้อง ” อาจารย์ ได้โปรดเห็นใจด้วย ! “
หยวนต๋าเหลือบมองไปที่หยวนเฉิงเฟยและถอนหายใจเบาๆ “ เพียงแค่คุณอวี่เหวินยินดีที่จะรับเป็นลูกศิษย์ ผมก็ไม่ขัดข้อง ”
แต่อวี่เหวินอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ การยอมรับหยางโปและส่งต่อวิทยายุทธให้ ถือว่าเป็นกรณีพิเศษแล้ว นี่เขายังจำเป็นต้องรับหยวนเฉิงเฟยเข้ามาเป็นลูกศิษย์ในสำนักอีกเหรอ ? สำนักเซียวหยาทุกรุ่นรับศิษย์ไม่เกินหนึ่งคน หากรับหยวนเฉิงเฟยเป็นศิษย์ขึ้นมาจริงๆ ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะไม่มีทางรับศิษย์ได้อีก มันเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเขาอย่างไม่ต้องสงสัย !
อวี่เหวินไม่ได้มองหยวนเฉิงเฟยในแง่ดี เขารู้สึกว่าหยวนเฉิงเฟยต้องการผลประโยชน์มากเกินไป คนแบบนี้ไม่สามารถก้าวหน้าไกลได้ในเส้นทางแห่งการฝึกฝนตบะ เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ไม่ได้พิจารณาถึงสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้มาก่อน ถ้ารับหยางโปเป็นศิษย์ตั้งแต่เริ่มแรกมันคงจะดีกว่านี้ไหม ?
เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับการคุกคามของหยวนเฉิงเฟยอวี่เหวินก็ครุ่นคิดอยู่นาน ” ฉันขอดูโสมเขียวก่อน ! “
การรับศิษย์ กลับกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายไปโดยปริยาย ซึ่งทำให้อวี่เหวินรู้สึกค่อนข้างลังเลใจ
แต่หยวนเฉิงเฟยกลับไม่รู้สึกเลยแม้แต่น้อยบางทีเขาอาจจะคุ้นเคยกับการแลกเปลี่ยนเพื่อผลประโยชน์แบบนี้มากเกินไป !
เมื่อเปิดกล่องไม้จันทน์ออกมา ในห้องก็อบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำหอมชนิดหนึ่ง กลิ่นหอมนี้มันสุดที่จะพรรณนาออกมาได้ แต่เมื่อได้กลิ่น กลับทำให้คนรู้สึกท้องร้อง
ลัวย่าวหัวเห็นโสมสีเขียวเป็นครั้งแรก โสมต้นนี้เขียวทั้งต้น เมื่อหยิบมันขึ้นมาก็จะพบว่าโสมเขียวดูเหมือนจะโปร่งใสจนมองทะลุผ่านได้ ถึงขั้นที่ว่าสามารถมองเห็นด้านตรงข้ามได้เลือนลาง
ผ่านผิวบางๆ ภายในผิวบางๆ ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นน้ำใสไปหมด !
อวี่เหวินจ้องไปที่โสมเขียวไม่วางตา เขารู้ว่าด้านในมันไม่ใช่น้ำใส แต่เป็นเนื้อโสมข้น ที่แข็งตัวร่วมกันแล้ว !
” ตกลง ฉันจะรับนายเป็นศิษย์ รออาการบาดเจ็บฉันดีขึ้น ฉันจะสอนวิธีฝึกบำเพ็ญตบะให้ ! “
อวี่เหวินเอ่ยปาก
หยวนเฉิงเฟยคุกเข่าลงบนพื้นและก้มศีรษะคารวะลงสามครั้ง ” อาจารย์ ! “
อวี่เหวินหยิบโสมเขียวขึ้นมาโดยไม่ได้สนใจสีหน้าท่าทางเจ็บปวดของหยวนต๋าเลย
จากนั้นก็เดินตรงกลับไปที่ห้องพักเพื่อรักษาอาการให้หายป่วยโดยเร็วที่สุด !
ลัวย่าวหัว มองไปที่ หยวนเฉิงเฟยเขารู้ดีว่า หยวนเฉิงเฟยได้ผลประโยชน์เล็กๆน้อยๆที่ไม่สมควรจะได้รับ และได้ฝึกฝนบำเพ็ญตบะกับอวี่เหวิน นี่คือสิ่งที่เขาปรารถนามาตลอด แต่อวี่เหวินไม่ยินยอมที่จะสอนเขาตอนนี้หยวนเฉิงเฟยได้คารวะเป็นลูกศิษย์อวี่เหวินแล้ว เขาก็ยิ่งไม่มีโอกาส !
หลังจากพิธีไหว้ครูเสร็จสิ้นลง หยวนเฉิงเฟยก็หันมองไปที่หยวนต๋าด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความลำบากใจ ” อาจารย์ เมื่อสักครู่ผมก็ใจร้อนไป ท่าน… “
อย่างไรก็ตามก่อนที่หยวนเฉิงเฟยจะพูดจบหยวนต๋าก็โบกมือ “ ฉันแก่แล้ว เกษียณตัวออกมาแล้ว ฉันคงไม่สนใจอะไรมากแล้ว ”
พอพูดจบ หยวนต๋าก็เดินกลับไปที่ห้อง ร่างที่หลังค่อม และเสียงฝีเท้าที่เดินกะโผลกกะเผลก
ดูหงอยเหงาอย่างเห็นได้ชัด !
แต่สีหน้าหยวนเฉิงเฟยกลับเต็มไปด้วยความสุข ในสายตาเขาเห็นเพียงผู้มาใหม่ที่มีสีหน้ายิ้มแย้ม
มีหรือจะได้ยินเสียงคนเก่าที่ร้องไห้ด้วยความระทมทุกข์ !
ลัวย่าวหัวเหลือบมองหยวนเฉิงเฟย จากนั้นก็หันตัวเดินจากไป
หลังจากที่หยางโปนั่งฝึกฝนตบะเสร็จ ถึงได้เหลือบมองไปที่โทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์ของเขาแบตหมด เขาจึงต้องนำที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือออกมาชาร์จ เมื่อเห็นลัวย่าวหัวโทรมาหาเขากว่า 20 สาย เขาก็รีบโทรกลับทันที
เมื่อลัวย่าวหัวได้รับสายโทรเข้ามาจากหยางโป ก็อดไม่ได้ที่จะบ่นว่าให้ ” นี่นายกำลังทำอะไรอยู่ ?ทำไมถึงไม่รับโทรศัพท์ห่ะ ? ” ” โทรศัพท์แบตหมด ไม่ต้องห่วง เรื่องทางนี้เป็นไปด้วยดี ฉันไม่ได้รับอันตราย ” หยางโปตอบ เขานึกว่าลัวย่าวหัว เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของเขา
” เป็นไปด้วยดีมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว หยวนเฉิงเฟยได้โสมเขียวมาแล้วและมอบให้อวี่เหวินไปแล้ว ตอนนี้เขาบังคับให้อวี่เหวินตอบตกลงรับเขาเป็นศิษย์ไปแล้ว ” ลัวย่าวหัวบอกเล่าให้ฟัง
หยางโปตกใจนิ่งอึ้งไป “ อะไรนะ ? หยวนเฉิงเฟยทำการคารวะอาจารย์และถูกรับเข้าเป็นศิษย์แล้ว ?
แถมอวี่เหวินยังตกปากรับคำไปแล้วอีกด้วย เขาตกปากรับคำไปได้ยังไง ?