เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 875 แผนลับ
ตอนที่ 875 แผนลับ
รอจนบอดี้การ์ดเดินกลับมา หยางโปถึงหันไปถามกับบอดี้การ์ดว่า ” ตอนนี้บอกมาได้แล้วว่าชายขี้เมาคนเมื่อสักครู่เข้ามาได้ยังไง ? “
บอดี้การ์ดหันมองไปทางอู่อี เมื่อเห็นว่าเธอไม่พูดไม่จา จึงต้องเอ่ยออกมาว่า ” อิชิดะขวางพวกเราเอาไว้และปล่อยให้เขาเข้ามา “
อู่อีทำเสียงไม่พอใจ “ แล้วทำไมพวกนายถึงไม่ขวางเอาไว้ ? ”
หยางโปรีบดึงอู่อีไว้ ” ที่ขวางไว้ไม่ได้ก็ถือเป็นเรื่องปกติ ส่วนชายขี้เมาที่บุกเข้ามาต้องลงโทษให้หนักๆกว่านี้หน่อย เธอรู้ใช่ไหม ? “
หลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้น ทั้งสองคนก็ไม่มีอารมณ์อยู่ต่อ ลุกขึ้นแล้วพากันเดินออกไปทันที
เห็นได้ชัดว่าอู่อีรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย อันที่จริงเธอได้รับการแต่งตั้งจากทานิกาวะให้ดูแลกิจการในโตเกียว แต่ในเวลาเพียงสิบกว่าชั่วโมง ก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น มันจะต้องมีใครบางคนคอยสร้างปัญหาขึ้นอย่างแน่นอน และกำลังคิดที่จะพยายามทดสอบท่าทีของเธออยู่ !
สิ่งนี้ทำให้ อู่อีรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เธอสัมผัสได้ว่า ความคิดของทานิกาวะเปลี่ยนไป เขาอยากฝึกฝนให้เธอกลายมาเป็นคนสืบทอดตำแหน่ง แต่สุขภาพของทานิกาวะก็ดีขึ้นมากแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นนามิก็ท้องแล้วด้วย และสถานะของเธอในตอนนี้ก็จะคลุมเครือขึ้นมา !
หลังจากลงจากรถ แต่ไม่ได้กลับไปที่ห้อง อู่อีได้พาหยางโปไปเดินเล่นอยู่ด้านนอก
ตอนนี้มันเป็นเวลาตีหนึ่งตีสองแล้ว ด้านนอกก็หนาวมาก ทางด้านหยางโปไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก แต่เขาดูทรมานเล็กน้อยเมื่อเห็นชุดบางๆที่อู่อีสวมใส่
“ ทำไมเธอต้องคิดอะไรมากมายด้วย เรื่องนี้พวกเขาก็แค่ทดสอบเธอดูก็เท่านั้น อิชิดะเป็นเพียงตัวละครเล็กๆ เขาถือตัวเองมากเกินไปก็เท่านั้น คิดไปว่าตัวเองสามารถที่จะแย่งตำแหน่งกับเธอได้ ! ” หยางโปกล่าว
ตอนที่อู่อีถอดใจ ก็รู้สึกว่าระหว่างปลายจมูกกับริมฝีปากร้อน “ นายคิดว่าใครเป็นคนทำ ? ”
หยางโปหัวเราะออกมา “ เรื่องนี้ไม่ว่าใครจะเป็นคนทำ ฉันก็ไม่รู้สึกแปลกใจเลย เธอแค่จัดการกับ
อิชิดะซะ ถ้าเธอได้รับตำแหน่ง ต่อมาจะต้องมีคนแอบมารายงานเกี่ยวกับที่ไปที่มาของอิชิดะแน่ๆ ” หยางโปหันไปมองหน้าอู่อี “ สถานะของเธอเป็นกำลังที่สำคัญที่สุด ตราบใดที่ทานิกาวะยังอยู่ จะต้องมีคนมาพึงพาอาศัยเธออย่างแน่นอน ! ”
อู่อีพยักหน้า “ แต่ก่อนนายก็ไม่เคยได้อยู่ในแวดวงของมาเฟียนี่ ? ทำไมฉันรู้สึกว่า
นายมีความคุ้นเคยมากกว่าฉันซะอีก ? ” หยางโปยิ้ม “ ฉันก็ไม่ได้คุ้นเคยมากนัก นี่มันเป็นเพียงแค่เรื่องที่ผู้คนส่วนใหญ่มีไว้เพื่อหนุนหลังและทำการคัดค้านก็เท่านั้น ”
อู่อีหัวเราะ “ โอเค ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ฉันจะเข้าไปรับตำแหน่ง ! ”
วันที่สองหยางโปยังคงฝึกฝนตบะอยู่ในห้องจนถึงเที่ยง หยางโปถึงได้มาพบกับอู๋เฉียงพี่น้อง
เพราะเมื่อวานนามิมาหา อู๋เยว่จึงพูดจาอย่างระมัดระวัง มันทำให้หยางโปรู้สึกรักและเอ็นดู
เขาดึงอู๋เฉียงเดินมาจนถึงห้องที่อยู่ด้านข้างจากนั้นถึงได้เปิดปากถามว่า “ อู๋เยว่ไปรักษาอาการป่วยกับพระอาจารย์ฝ่าซวนจนหายแล้วไม่ใช่หรือไง ? ทำไมถึงได้เกิดขึ้นอีกครั้งล่ะ ? ”
อู๋เฉียงส่ายหน้า “ ผมก็ไม่รู้แน่ชัด จู่ๆ อาการของเธอก็กำเริบขึ้นมา เริ่มแรกผมก็ไม่เชื่อ โชคดีที่ผมรีบกลับไปทันเวลา ”
หยางโปขมวดคิ้ว “ ถ้าเป็นปกติทั่วไป มันไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน ! ”
เมื่อครุ่นคิดไปมา หยางโปก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า “ นายไปเรียกอู๋เยว่เข้ามา ฉันจะสอบถามด้วยตัวเอง ”
ไม่นาน อู๋เยว่ก็เดินเข้ามา
หยางโปลูบศีรษะของอู๋เยว่ไปมา และถามด้วยเสียงที่อ่อนโยนว่า “ ช่วงนี้ จำได้ไหมว่าไปใกล้ชิดกับคนแปลกหน้าที่ไหนบ้างไหม ? ” อู๋เยว่เงยหน้าขึ้นมองหยางโปด้วยความมึนงง
“ ที่พี่หยางถามหมายความว่า กู่พิษที่อยู่ในตัวหนู มีคนแปลกหน้ามาเข้าใกล้แล้ววางพิษใส่หนูหรือเปล่า ? ” อู๋เฉียงอธิบาย
อู๋เยว่ส่ายหน้า ” หนูก็ไม่รู้ ช่วงนี้อยู่แต่ที่โรงเรียนตลอดเวลา ไม่ได้ติดต่อกับคนแปลกหน้าที่ไหนเลย ! “
หยางโปขมวดคิ้ว เขาจ้องมองไปที่อู๋เยว่ตาเขม็ง มองดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน อู๋เยว่ อาศัยอยู่ในบ้านของเขา ทำไมมีแค่เธอคนเดียวที่สัมผัสกับกู่พิษ นี่มันไม่สมเหตุสมผล !
อู๋เยว่ถูกหยางโปมอง จนทำให้เธอมีสีหน้าหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย ใบหน้าเล็กๆ แสดงท่าทางขมขื่น
หยางโปมองอู๋เยว่อย่างพินิจพิเคราะห์ แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ ดังนั้นจึงทำได้แต่เพียงพูดปลอบใจเธอไปสองสามคำและปล่อยให้เธอไปเล่น
อู๋เฉียงมีสีหน้าที่ดูกังวล หันมาถามกับหยางโปว่า ” ไปหาพระอาจารย์ฝ่าซวนให้ช่วยรักษาอาการอีกครั้งได้ไหม ? สภาพของเธอเป็นแบบนี้ ผมไม่สามารถทำงานด้วยความสบายใจได้จริงๆ “
หยางโปโบกมือ “ เรื่องนี้ต้องวางแผนกันในระยะยาวสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องหาแหล่งที่มาของกู่พิษให้ได้ก่อน เพื่อกำจัดมันให้สิ้นซาก ครั้งก่อนก็ถือว่ารักษาที่จุดกำเนิดแล้ว แต่กู่พิษก็ได้กลับมาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง นี่ถือว่ายังไม่ได้ผล ” อู๋เฉียงพยักหน้า แต่ใบหน้าก็ยังคงเต็มไปด้วยความกังวลใจ
ในช่วงเย็น อู่อีเข้ามาหาหยางโปอย่างอารมณ์ดี ” นายพูดถูกจริงๆมีคนคอยชักใยอยู่เบื้องหลังจริงๆ นายเดาสิว่าคนนั้นเป็นใคร ? “
หยางโปลังเลเล็กน้อย ” นามิ ? ” อู่อีส่ายหน้า ” คือทานากะ ! “
หยางโปแปลกใจมาก ” ทานากะน่าจะเป็นกลุ่มคนหนุ่มสาวเลือดร้อน เขาก็กำลังตามจีบเธออยู่อีกด้วย ทำไมเขาถึงทำแบบนี้กัน ” อู่อีส่ายหน้า ” ฉันก็ไม่รู้เหตุผลที่เฉพาะเจาะจง แต่มีทานากะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย ! “
” สองวันนี้ไม่เจอเขาเลย เขาไปไหน ? ” หยางโปถาม
อู่อียังคงส่ายหน้า “ เขาเป็นเลขาของทานิกาวะ นายควรไปถามเขา ฉันมักจะรู้สึกว่าที่นี่มีอันตราย ทุกคนดูลึกลับชอบกล ” หยางโปยิ้ม “ เพราะยังไงซะที่นี่ก็เป็นฐานธุรกิจ ถ้าถูกตรวจค้น จะถูกตำรวจญี่ปุ่นจะจัดการไหม ? ” “ หรือนายไม่สนใจเลย ? ด้านนอกมีตำรวจนอกเครื่องแบบเยอะมาก ! ” อู่อีพูดขึ้น
หยางโปส่ายหน้า บ่งบอกว่าเขาไม่สนใจ
ต่อจากนั้นอีกหลายวัน อู่อีก็ค่อยๆปรับตัวได้ ทุกวันมีแต่ข่าวดีมาให้
ทางด้านของหยางโปก็มุ่งเน้นอยู่แต่การบำเพ็ญตบะ พี่น้องอู๋เฉียงจากไปหลังจากพักผ่อนอยู่ที่นี้ได้สองวัน
ในช่วงเวลานี้ หยางโปได้ทำการฝังเข็มให้ทานิกาวะอีกครั้ง เนื้องอกในสมองของเขาก็มีขนาดเล็กไปอีก ครั้งนี้หยางโปควบคุมพลังลมปราณ และหยุดมือในเวลาที่เหมาะสมได้ทันท่วงทีโดยที่ไม่ก่อให้เกิดผลเสีย แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะครั้งแรกที่เอาชนะความยากลำบากได้ ผลลัพธ์ของครั้งที่สองก็ยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้น
พักอยู่ในวิลล่า หยางโปก็พบว่านามิดูเหมือนจะไม่ค่อยกระปรี้กระเปร่า เวลาที่พบหน้ากัน
ส่วนใหญ่เธอจะชักสีหน้าและไม่พูดไม่จา สิ่งนี้มันทำให้หยางโปรู้สึกงุนงงอย่างไม่ทราบสาเหตุ ไม่ได้เป็นหนี้เธอสักหน่อย ทำไมถึงหน้างอตลอดเวลานัก !
ในช่วงเย็น หยางโปไปเดินเล่นที่ริมทะเลสาบใกล้ๆคนเดียว แสงระเรื่อของพระอาทิตย์ตกกระทบกลางทะเลสาบ ทำให้ทั่วทั้งทะเลสาบกระเพื่อมขึ้นเล็กน้อยอย่างสวยงาม
หยางโปพบสถานที่อันเงียบสงบในป่า นั่งไขว่ห้างสูดอากาศและหายใจออกมา มีเพียงสถานที่แบบนี้เท่านั้น การฝึกพลังลมปราณถึงจะราบรื่นขึ้น
ตอนนี้หยางโปยังคงฝึกฝนอยู่ในด่านแรก พลังลมปราณภายในจุดตันเถียนขาดไปเพียงหนึ่งในห้า มีขนาดเกือบเท่าไข่ไก่ แต่นี่เป็นหนึ่งในด่านสุดท้าย ที่ยิ่งถ่ายทอดออกมายากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าต้องการบุกทะลวงเข้าไป จำเป็นต้องสะสมเพิ่มมากขึ้นไปอีก !
พลังลมปราณในอากาศค่อยๆมาร่วมตัวกัน หยางโปจดจอสมาธิอยู่กับการฝึกฝนบำเพ็ญตบะ และค่อยๆเงียบสงบลง
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน หยางโปก็ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบดังมาจากข้างหูของเขา
“ ไอ้แก่ตายยากคนนั่น อาการใกล้ดีขึ้นแล้วจริงๆ ! เมื่อวานฉันไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเขา
เนื้องอกมีขนาดเล็กลงแล้ว หมอผีห่าซานตานคนนั้น คิดไม่ถึงว่ามันจะมีฝีมืออยู่จริงๆ ”
” อาการดีขึ้นแล้ว ? ถ้างั้นเราก็รอดูกันไปก่อน ตอนนี้ปีกของผมยังไม่แข็งพอ ประสบการณ์ก็ยังน้อย รอผมปีกกล้าขาแข็งแล้วผมก็จะสามารถขึ้นไปแทนที่ได้ ! “
” คุณนี่มันคู่เวรคู่กรรมกับฉันจริงๆ ทำไมถึงไม่นึกถึงความรู้สึกของฉันบ้าง ? ฉันทนอยู่กับเขามานาน 20 กว่าปีแล้ว และก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ! พวกเราต้องรีบลงมือโดยเร็ว… “