เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 881 ทายาท
ตอนที่ 881 ทายาท
ในงานเงียบกริบ ทุกคนต่างจ้องมองไปที่อู่อี !
อู่อีค่อยๆก้าวเข้ามาภายใต้แสงจันทร์ราวกับเทพธิดาแห่งแสงจันทร์ ทำให้ผู้คนขยับตามฝีเท้าของเธอโดยไม่รู้ตัว !
ทานิกาวะมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม จ้องมองไปทางอู่อี แล้วสาวเท้าก้าวไปข้างหน้า !
ไม่นานจนกระทั่งอู่อีเดินมาถึงหน้าเวที และมายืนอยู่กับทานิกาวะ จากนั้นทานิกาวะก็เคาะไมโครโฟน ในงานถึงได้รู้สึกโล่งใจ !
ทานิกาวะอดที่จะหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เขาจับแขนของอู่อีขึ้นมาแล้วพูดว่า
“ มีหลายคนเคยถามผมว่า อู่อีเป็นใครกันแน่ ทำไมคุณถึงรักเธอมากขนาดนี้เป็นเพราะเธอหน้าตาสวยมากใช่ไหม คุณถึงได้มีความคิดอื่นอยู่ ? ”
ทุกคนในงานต่างพากันหัวเราะ เพราะคำถามนี้ก็เป็นสิ่งที่หลายคนต้องการที่จะถามเช่นกัน
ทานิกาวะยิ้มและพูดว่า “ วันนี้ผมจะบอกทุกคนที่อยู่ที่นี่ อู่อีเป็นลูกสาวของผม เธอเป็นลูกสาวของผม ! ” เกิดความโกลาหลขึ้นในงาน แม้ว่าทุกคนจะเดาว่าเป็นคำตอบนี้มานานแล้วก็ตาม
และแม้กระทั่งจากช่องทางข่าวสารต่างๆทุกคนต่างก็ยืนยันข่าวนี้ แต่พอทานิกาวะยืนยันเรื่องนี้ด้วยปากตัวเอง มันก็ทำให้ทุกคนรู้สึกตกใจ !
ทานิกาวะยอมรับข่าวลือนี้ นี่กำลังคิดจะทำอะไรกันแน่ ?
ทานิกาวะตบไมโครโฟนเบาๆ “ สามารถหนีออกมาจากเงื้อมมือของมัจจุราชครั้งนี้ได้ ทำให้ผมเข้าใจเรื่องราวมากมาย ในอดีตผมเคยให้ความสำคัญกับเรื่องบางอย่าง แต่ไม่ได้คิดว่ามันจะมีค่าขนาดนั้น แต่มีของบางอย่าง กลับมีคุณค่ามากในชีวิต ตอนนี้ผมขอบคุณพระเจ้ามาก ที่ปล่อยให้ลูกสาวกลับมาอยู่เคียงข้างผมในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด ! ”
“ เธอเป็นคนที่ทำให้ผมมีความมั่นใจและกล้าที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ ! และยังเป็นเธอที่พาหมอเทวดาข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากสหรัฐอเมริกาเพื่อมาช่วยชีวิตผมเอาไว้ ! กล่าวได้ว่า สิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตของผมคือ อู่อีลูกสาวของผม ! ”
เสียงปรบมือดังขึ้นในงาน
หลายคนต่างจ้องมองมาที่ทานิกาวะ คำพูดที่เขาพูดมาทั้งหมดนี้ เคยพูดกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งแต่ผู้หญิงคนนั้นกลับไม่อยู่ในงาน มันน่าแปลกมากที่ในเวลาแบบนี้ นามิไม่สมควรออกมาปรากฏตัวหรอกเหรอ ?
ในงานส่วนใหญ่เป็นผู้นำระดับสูงในกลุ่มอินากาวะ บางคนก็เป็นทายาทของผู้นำอาวุโสที่ล่วงลับไปแล้วก็มี พวกเขามองว่านามิเป็นเจ้านาย จึงเป็นเรื่อปกติที่ในเวลานี้พวกเขาจึงพากันตะโกนถามว่า ” นามิล่ะ ? คุณนามิอยู่ไหน ? “
ทานิกาวะหันไปพูดกับฝูงชนที่ส่งเสียงดัง ” นามิรู้สึกไม่ค่อยสบาย จึงไปพักผ่อนแล้ว ” หลังจากอธิบายเสร็จ ทานิกาวะก็รีบพูดขึ้นว่า “ ผมคิดว่าต้องมีคนจำนวนมากในงานที่กำลังสงสัยว่าทำไมผมถึงมาป่าวประกาศเรื่องพวกนี้ ! ”
” เช่นนั้น ตอนนี้ผมก็จะบอกกับทุกคนว่า ถึงผมจะตายไปผมก็จะส่งต่อกิจการนี้ให้อู่อี ! “
ทานิกาวะยกมือของอู่อีขึ้น และประกาศเสียงดังให้ทุกคนได้ยิน เสียงของเขาดังผ่านลำโพงและกระจายออกไปไกล
ทุกคนในงานช็อกไปทันที !
เพราะไม่มีใครคิดถึงว่าทานิกาวะจะป่าวประกาศเรื่องแบบนี้ออกมาจริงๆ นี่คือการกำหนดทายาทที่แท้จริง !
อันที่จริง องค์กรอย่างกลุ่มอินากาวะประเภทนี้ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการสืบทอดมรดกของลูกชายจากผู้เป็นบิดา หากมีความสามารถมากพอ และสามารถพอที่จะบีบสถานะของทายาทออกไปได้ เช่นเดียวกับกลุ่มอินากาวะเมื่อแรกเริ่ม เดิมทีกลุ่มอินากาวะมีผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้สืบทอดแล้ว แต่หลังจากทานิกาวะแต่งงานกับนามิและแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันที่มีอย่างเพียงพอ ท้ายที่สุดก็ประสบความสำเร็จในการเข้ามารับตำแหน่งในที่สุด !
แต่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าทานิกาวะจะเปิดตัวทายาทที่แท้จริงในเวลาแบบนี้ !
ในแง่ตำแหน่งของทานิกาวะ การที่เขาเปิดเผยทายาท จะต้องมีความสามารถในการแข่งขันที่สูงที่สุด สาเหตุที่ทานิกาวะสามารถผงาดขึ้นมาในตำแหน่งนี้ได้ ก็มาจากการสนับสนุนของประธานคนเก่าด้วยเช่นกัน !
“ ผมขอคัดค้าน ! ”
ทันใดนั้นก็มีเสียงคัดค้านหนึ่งดังขึ้นในงาน มีชายหนวดเคราคนหนึ่งก้าวขึ้นมาด้านหน้า
“ ท่านประธาน การคัดเลือกทายาทเป็นประเพณีของกลุ่มอินากาวะที่สืบทอดต่อกันมา ทุกคนล้วนมีสิทธิ์ แต่อู่อีเป็นเพียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ผมกลัวว่าเธอจะไม่มีทางทำภารกิจสำคัญนี้ได้ ! ”
“ เขาพูดถูกและผมก็ขอคัดค้านด้วยเช่นกัน ! ”
” ผมคิดว่าเราควรเลือกทานากะดีกว่า ! เขาเป็นคนดีมากและเคารพพวกเรามากด้วย ! “
” ใช่ ทานากะก็ไม่เลว เขาเป็นชายหนุ่มที่มีเป้าหมาย “
ในงานมีเสียงคัดค้านดังขึ้นสี่เสียง ทานิกาวะทอดสายตามองไปในงาน แต่ไม่เอ่ยปากพูดอะไร
แค่มองดูเงียบๆเท่านั้น
ในงานดูค่อนข้างวุ่นวายเล็กน้อย แต่เห็นได้ชัดว่ามีเพียงไม่กี่คนที่ต่อต้าน ส่วนมากจะเป็นพวกที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทานากะ และหวังว่าเขาจะขึ้นมารับตำแหน่งในวัยหนุ่ม พวกเขาคัดค้านก็เพื่อที่จะยกระดับทานากะให้สูงขึ้นมา !
แต่ตอนนี้ทานากะไม่ได้อยู่ในงาน จึงไม่มีใครตอบรับ มันจึงทำให้พวกเขาค่อนข้างเขินอายอย่างเห็นได้ชัด
ผู้คนในงานส่วนมากจะเป็นผู้สูงอายุในกลุ่ม พวกเขาเคยสัมผัสกับเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว
จึงค่อนข้างคุ้นเคย ในขณะที่คนบางกลุ่ม ก็เหมือนกับ เสาเข็มที่ปักลงกลางทะเล ไม่ว่าเบื้องบนจะเปลี่ยนไปอย่างไร มันก็ไม่ได้มีผลกระทบถึงพวกเขาเลยด้วยซ้ำ !
ดูเหมือนทานิกาวะจะนึกถึงความคิดเห็นแบบนี้มานานแล้ว เขาเปิดปากและพูดว่า
“ มีหลายคนที่ยินดีจะสนับสนุนทานากะ แต่เกรงว่าทุกคนคงจะยังไม่รู้แน่ชัด เมื่อสองชั่วโมงก่อนหน้านี้ ทานากะได้เปิดเผยข้อมูลลับของบริษัท จึงถูกกรมบังคับคดีนำตัวไปแล้ว ! ”
สีหน้าของหลายคนในงานเปลี่ยนไปทันที เห็นได้ชัดว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้ข่าวคราวนี้ ! กรมบังคับคดีเป็นองค์กรที่ดูแลระเบียบวินัยที่สำคัญของกลุ่มอินากาวะ เมื่อเข้าไปในกรมบังคับคดี
อย่างน้อยก็ต้องถูกถลกหนังออกมาก่อนถึงจะออกมาได้ !
” ทำไมต้องเอาตัวทานากะไป เขาเป็นแบบอย่างคนรุ่นหนุ่มของกลุ่ม นำตัวเขาไปอย่างน้อยก็ต้องให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลกับพวกเราด้วย ! ” ชายชราคนหนึ่งลุกขึ้นยืน ท่านนี้คือเพื่อนรักของพ่อทานากะ !
ดูเหมือนทานิกาวะจะคาดเดาสถานการณ์นี้ออกนานแล้ว เขายิ้มจางๆ “ กรมบังคับคดีนำตัวคนไป ต่อให้เป็นผม ก็เข้าไปยุ่งมากไม่ได้ ! ”
ลัวย่าวหัวยืนอยู่ด้านล่างเวที ฟังที่หยางโปแปล ในที่สุดเขาก็พอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เขาอดไม่ได้ที่หันไปมองอู่อี “ อู่อี ? สาวสวยคนนี้จะต้องสืบทอดกิจการของพ่อเธอ ? งี้ก็ดีสิ ! ”
ลัวย่าวหัว อดไม่ได้ที่จะปรบมือให้ “ ความสัมพันธ์ของนายกับอู่อีออกจะดีขนาดนี้ ต่อไปในอนาคตถ้าเธอได้เป็นประธานของอินากาวะ เธอจะดูแลฉันสักหน่อยไหมนะ ”
หยางโปหันไปชำเลืองมองลัวย่าวหัว ” เธอจะดูแลนายยังไง ? ” ลัวย่าวหัวยิ้ม ” พวกเราไม่ใช่ว่ามีโรงประมูลเป็นของตัวเองหรอกเหรอ ? สามารถมาจัดงานประมูลวัตถุทางวัฒนธรรมในประเทศญี่ปุ่นและยังสามารถซื้อโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมที่ถูกลักลอบนำเข้าไปได้ สรุปสั้นๆคือ พวกเรายังมีโอกาสอีกมากมายสำหรับความร่วมมือกับอู่อี ! “
” นายดูก่อนว่าเธอจะสามารถขึ้นมานั่งในตำแหน่งนี้ได้ก่อนหรือเปล่า ! ” หยางโปกล่าว
ทันทีที่หยางโปพูดจบ จู่ๆ ประตูด้านนอกก็เปิดออก และมีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาจากด้านนอก หยางโปหันไปมองทางนั้น ทันใดนั้นก็ถึงกับต้องตะลึงนิ่งอึ้งไป !
คนที่วิ่งพุ่งกันเข้ามาล้วนคลุมหมวกตาข่ายสีดำบนหัว ในมือพวกเขาถือปืนอยู่ เมื่อเห็นทานิกาวะยืนอยู่ในท่ามกลางฝูงชน ทันใดนั้นก็เล็งปืนมาแล้วยิงไปทางทานิกาวะทันที !
ทานิกาวะที่ยืนอยู่บนเวที เป็นเป้าหมายที่อันตรายมาก เขาหันไปตะโกนใส่อู่อีทันที
” รีบหนีไปเร็ว ระวังตัวด้วย ! “
เมื่ออู่อีได้ยินเสียงตะโกนเสียงดังของทานิกาวะ เธอก็หมอบลงกับพื้นทันที
หยางโปและลัวย่าวหัวที่ยืนอยู่รอบนอกวงล้อมของฝูงชน ตอนนี้วิ่งด้วยความเร็ว พอหันตัวกลับมาก็พบมุมหนึ่ง หยางโปและลัวย่าวหัวจึงถือโอกาสสาวเท้าสองสามก้าวเข้าไปหลบในกำแพง
ถึงได้รู้สึกปลอดภัยขึ้นมาหน่อย