เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 892 เสื้อเกราะล้ำค่า
ตอนที่ 892 เสื้อเกราะล้ำค่า
หยางโปเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมาก ทันทีที่ใช้เท้าถีบเข้าไป ก็โดนท้องของมิยามะเข้าอย่างจัง
พระมิยามะเหมือนถูกกระสุนปืนใหญ่ยิง เขาก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็ว
“ ปัง ”
พระมิยามะชนเข้ากับกำแพง ถึงได้หยุดอยู่แค่นั้น แต่เขาเอามือกุมท้องและคุกเข่าลงบนพื้น จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองหยางโปด้วยใบหน้าที่เต็มไปความเหลือเชื่อ !
พระมิยามะไม่คิดมาก่อนเลยว่าแรงจากเท้าของหยางโปแค่ครั้งเดียว มันจะรุนแรงขนาดนี้ !
“ คุณยังคิดว่าโอกาสหายากอีกไหม ? ” หยางโปถาม
พระมิยามะกุมท้องเอาไว้ และค่อยๆลุกขึ้นยืน ดูเหมือนว่าไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เขาหันมามองหน้าหยางโปและอดไม่ได้ที่จะระแวดระวังตัวขึ้นมา
เขาไม่ได้พูดอะไร แต่เดินตรงเข้ามา จ้องเขม็งมองไปที่หยางโป ก้าวท้าวเดินมาอย่างช้าๆดูเหมือนว่าเขาจะระแวดระวังป้องกันตัวมากขึ้น !
ทางด้านหยางโปกำลังจ้องมองเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่บนตัวพระมิยามะ เขารู้แรงจากเท้าของตัวเองดี แต่เขาคิดไม่ถึงว่า มิยามะดูเหมือนจะไม่ได้รับการกระทบกระเทือนเท่าไหร่ เมื่อเป็นแบบนี้
น่าจะเป็นผลมาจากการป้องกันของเขา !
หยางโปมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าบนเนื้อตัวของพระมิยามะ มีเสื้อเกราะสีขาวสวมอยู่ เสื้อเกราะดูเหมือนจะทอจากผ้าไหม แต่มันไม่ใช่ผ้าไหมธรรมดาอย่างแน่นอน !
พระมิยามะเดินเข้าไปใกล้ ” คุณเป็นใครกันแน่ ? “
หยางโปจ้องมองพระมิยามะ “ เสื้อเกราะของคุณดูดีมาก วัดนันเซ็นจิก็ไม่เลว แต่คุณใช้สถานที่ได้ไม่ถูกต้อง ดูสภาพของคุณสิ ไม่มีพื้นฐานในการฝึกฝนเลย คุณเป็นคนที่โชคดีที่ได้รับของพวกนี้มาอย่างงั้นเหรอ ? ”
สีหน้าของพระมิยามะเปลี่ยนไปเล็กน้อยเ เพราะเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่า หยางโปจะพูดแทงใจดำด้วยคำคำเดียว !
ไม่มีใครรู้เรื่องที่เขาสวมเสื้อเกราะ ไม่มีใครรู้แน่ชัดด้วยว่าเขาถูกลอบสังหารและถูกยิงมากี่ครั้งแล้ว เป็นเพราะเสื้อเกราะที่ทำให้เขารอดพ้นจากอันตรายมาได้ แต่เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะถูก
หยางโปพูดแทงใจดำ !
“ คุณเป็นใครกันแน่ ? ” พระมิยามะถามออกมาด้วยเสียงอันดังอีกครั้ง !
หยางโปส่ายหน้า ” มันไม่สำคัญว่าผมเป็นใคร ตอนนี้คุณควรคิดทบทวนดูนะ ว่าจะปลีกตัวออกมาจากอันตรายได้ยังไง ? “
“ หลายปีมานี้ คุณมาอยู่ในวัดนันเซ็นจิอย่างผิดกฎ และน่าจะทำเงินได้มากทีเดียว นอนกับผู้หญิงมามากมายนับไม่ถ้วน มันถึงเวลาที่จะหยุดได้แล้ว อย่าดันทุรังและหมกหมุ่นอยู่อีกเลย ! ”
พระมิยามะมีสีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาเงยหน้าขึ้นมองหยางโป “ คุณเป็นลูกหลานของวัดจู๋ซานใช่ไหม ? ”
” วัดจู๋ซาน ? ” หยางโปหันมามองหน้ามิยามะ ” วัดจู๋ซานน่าจะอยู่ในป่าไผ่สีม่วงใช่ไหม ? “
พระมิยามะจ้องไปที่หยางโปเขม็ง “ ถ้าผมมอบเสื้อเกราะให้ คุณจะปล่อยผมไปได้รึเปล่า ? ”
หยางโปยิ้ม “ ได้ ถ้าคุณมอบเสื้อเกราะให้พร้อมกับหญ้ามงคลพันปีที่อยู่ในมือของคุณ
ส่งมอบมาให้พร้อมกันก็พอ ! ”
” หญ้ามงคลพันปี ? ” พระมิยามะส่ายหน้า ” ที่นี่ไม่มีหญ้ามงคลพันปี “
พระมิยามะดูเหมือนจะรู้ว่าเขาไม่สามารถเอาชนะหยางโปได้จึงรีบถอดจีวรออก จากนั้นก็ถอดเสื้อคลุมสีขาวออกอีก ถึงจะเผยให้เห็นเสื้อเกราะ !
มีเทียนอยู่ในอารามด้านข้าง แสงไฟสลัว ในขณะที่เสื้อเกราะถูกเปิดเผยออกมา หยางโปถึงกับตกตะลึงอึ้งไปทีเดียว !
เดิมทีเสื้อเกราะที่เขาเห็นในตอนแรกเป็นสีขาว แต่ภายใต้แสงเทียน มันกลับส่องแสงเปล่งประกายสีเงินระยิบระยับ ดูเหมือนว่าผ้าไหมทั้งผืนจะเป็นสีเงิน !
นี่มันคือแสงเจิดจ้าเป็นประกายของสมบัติล้ำค่า !
หยางโปจ้องไปที่เสื้อเกราะไม่วางตา และทันใดนั้นก็สัมผัสได้ถึงลมแรงที่พัดโหมกระหน่ำเข้ามา เขาตอบสนองกลับทันที ถอยหลังกลับอย่างรวดเร็ว จากนั้นพอเขาเงยหน้าขึ้นมองก็เห็น
พระมิยามะเคลื่อนไหวอย่างว่องไว โดยไม่รู้ว่าชักมีดออกมาจากที่ไหนพุ่งแทงมาทางเขา !
หยางโปหลบออกไปด้านข้างเล็กน้อย และเหยียดมือขวาออก คิดที่จะจับแขนของพระมิยามะเอาไว้ พระมิยามะก็ว่องไวมีไหวพริบมาก หลบออกไปได้อย่างรวดเร็วมากเช่นกัน !
เพียงแต่หยางโปตอบสนองได้เร็วกว่า เขาคว้ามือของอีกฝ่ายได้อีกครั้ง จับมือขวาที่ถือมีดของ
พระมิยามะได้ และตบลงไปบนไหล่ของเขาเสียงดัง “ พลั้ว ” พระมิยามะก็ล้มลงกับพื้นทันที !
ถึงแม้จะสวมเกราะล้ำค่า แต่อวัยวะภายในก็ยังคงได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง
ทำให้ใบหน้าของพระมิยามะซีดเผือดไปทันที !
ในเวลานี้ ไอซ์โกะฟุคุดะได้หยิบกุญแจประตูวัดนันเซ็นจิออกมาจากมุมเปิดประตูใหญ่
เดินโซซัดโซเซพาลัวย่าวหัวเข้ามา ประจวบเหมาะกับได้เห็น หยางโปตบลงไปบนไหล่อย่างสวยงาม !
ไอซ์โกะฟุคุดะเอามือปิดปาก ห้ามไม่ให้ตัวเองส่งเสียงกรีดร้องออกมา !
ลัวย่าวหัวรีบพุ่งตัวเข้ามาจับมืออีกข้างของพระมิยามะไว้และทำการ ล๊อคตัวเขาเอาไว้ จากนั้นถึงได้ถามไปว่า ” เกิดอะไรขึ้น ? “
หยางโปบุ้ยปากไปทางเตียงข้างๆเขา ลัวย่าวหัวจึงหันศีรษะมองตามเขาไป ทันใดนั้นก็ตกใจมากเมื่อเห็นผู้หญิงเปลือยกายนอนอยู่บนเตียง “ เฮ้ย คิดไม่ถึงมาก่อนเลยว่าวัดนันเซ็นจิที่มีชื่อเสียงโด่งดังแบบนี้จะมีแต่พระลามกอยู่ ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกแกไม่ให้คนอื่นเผยแพร่เรื่องราวของวัดออกไป ที่แท้ก็กลัวว่าเรื่องราวจะมีเบาะแสและถูกเปิดเผยออกมานี่เอง ! ”
หยางโปก้มตัวลงยื่นมือออกไปถอดเสื้อเกราะของพระมิยามะออกมา จากนั้นได้ลูบไปที่บริเวณขาของพระมิยามะอีกครั้งเพื่อยืนยันว่ามีเพียงเกราะล้ำค่าตัวนี้อยู่เท่านั้น เขาถึงจะรู้สึกโล่งใจ
ลัวย่าวหัวกลับอยากจะอาเจียน ” นายสนใจผู้ชายเหรอ นี่ยังจะไปลูบไล้สัมผัสเขาอีก ! “
หยางโปส่ายหน้าโดยไม่อธิบายอะไร เพราะตอนที่ลัวย่าวหัวเข้ามา เสื้อเกราะก็ไม่มีแสงเจิดจ้าเปล่งออกมาแล้ว นี่คือขุมทรัพย์ล้ำค่าที่ซ่อนอยู่ ! ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ลัวย่าวหัวจะไม่รู้ถึงความล้ำค่าของเสื้อเกราะล้ำค่าที่ซ่อนอยู่ !
“ นายแจ้งความไปหรือยัง ? ” หยางโปถาม
ลัวย่าวหัวพยักหน้า ” แน่นอนว่าโทรแจ้งความไปแล้ว ! “
หยางโปขมวดคิ้วเขาเห็นบอดี้การ์ดวิ่งตามกันเข้ามา ถึงได้เอ่ยปากพูดว่า ” นายอยู่ที่นี่คอยจับตาดูเขาเอาไว้ ฉันจะไปค้นหาดูว่ามีของอะไรอยู่อีกไหม ! “
ลัวย่าวหัวก็ไม่ได้สนใจมากนักเช่นกัน ” ที่นี่เล็กออกขนาดนี้ มันจะไปมีของดีอะไรอยู่อีก ? “
หยางโปไม่สนใจ เดินออกไปทันที !
วัดนันเซ็นจินั้นมีขนาดเล็กมากอยู่ก็จริง มีเพียงลานภายในแห่งเดียว ด้านในมีอารามหลังใหญ่อยู่ ดูเหมือนจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก
แม้ว่าหยางโปจะเคยเห็นมานักต่อนักแล้ว แต่เขาก็ยังต้องการที่จะยืนยันอีกครั้ง
ในอารามใหญ่มีสิ่งของอยู่ไม่มาก ไม่นานหยางโปก็ค้นหาจนทั่ว จากนั้นเขาก็เดินไปที่ห้องหนึ่งทางด้านหลังของอารามใหญ่ ที่นี่ถูกล็อคเอาไว้ หยางโปจึงถีบเปิดประตูอย่างแรง
เขาได้ตรวจสอบดูสถานที่แห่งนี้แล้ว ที่นี่น่าจะเป็นสถานที่พำนักของพระมิยามะ มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ครบครันทุกชนิด ตกแต่งอย่างหรูหรา โดยปกติจะถูกปิดไว้ไม่ให้ผู้แสวงบุญเข้ามา !
เมื่อเดินเข้ามาในห้อง ด้านในถูกเก็บกวาดอย่างสะอาดและเป็นระเบียบมาก ดูเหมือนว่าจะมีผู้หญิงอยู่ ไอซ์โกะฟุคุดะไม่รู้ว่าเดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอจ้องมองเข้าไปในห้องและพูดว่า
“ นี่คือที่ที่เขาพักอาศัยอยู่ ผู้หญิงครึ่งหนึ่งของวัดนันเซ็นจิเป็นนางบำเรอของเขา ! ”
“ วัดนันเซ็นจิเปิดประตูไว้ทุกวัน เขามักจะจับสลากเลือกใครคนใดคนหนึ่งเหลือเอาไว้นอนด้วย
แต่บางครั้งเขาก็ไม่เลือกใครสักคน นี่น่าจะเจอกับสถานการณ์แบบเดียวกับในวันนี้ ! ”
หยางโปเหลือบมองไอซ์โกะฟุคุดะ ” คนอื่นๆก็ตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวพอๆกับคุณ ? “
ไอซ์โกะฟุคุดะส่ายหน้า “ ตอนที่ฉันอายุ 18 ปี เพราะความอยากรู้อยากเห็น จึงเดินทางมาที่
วัดนันเซ็นจิและได้เห็นพระพุทธรูปไผ่สีม่วงเข้า เลยรู้สึกชอบมาก เขาจึงถือโอกาสนี้พาฉันไปดูไผ่สีม่วง ตอนนั้นเขาจึงได้ขืนใจฉันที่นั่น ถ้านับกันแล้วมันก็สิบกว่าปีผ่านมาได้แล้ว ! ”
เมื่อหยางโปได้ยินเสียงไซเรนของรถตำรวจที่ดังอยู่ข้างนอก เขาจึงหันไปมองไอซ์โกะฟุคุดะและถามขึ้นมาว่า ” สิ่งที่ มิยามะหวงแหนมากที่สุดคืออะไร ? “