เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 910 สัญญาเช่า
ตอนที่ 910 สัญญาเช่า
ในอดีตหยางโปเคยมอบโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมคืนไปแล้ว ทําให้บางครั้งรู้สึกมีสํานึกในภารกิจ ที่จะต้องส่งมอบโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมกลับคืนสู่ประเทศ และมีความรู้สึกภาคภูมิใจเช่นกัน
แต่มันก็แค่นั้น เขาไม่ค่อยมีความรู้สึกสะเทือนใจมากนัก
เช้าตรู่ หยางโปได้ไปที่สวนสาธารณะใกล้ๆ เพื่อออกกําลังกายตอนเช้า เขากําลังยืนอยู่ในตําแหน่งที่เขาเคยชิน และวางกระบวนท่าทางมวยเยว่เจียเฉวียนอยู่นั้น เขาก็พบว่ารอบๆตัวมีผู้สูงอายุมารายล้อมอยู่จํานวนไม่น้อย
ทุกคนมารวมตัวกันอยู่รอบๆหยางโป คอยจับจ้องมองดูการเคลื่อนไหวของเขา เหมือนเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เดิมที่หยางโปก็ไม่ได้จริงจังมากนัก แต่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคนก็ดังเข้าหูมาเป็นระยะๆ
“ ฉันเหมือนจะจําพ่อหนุ่มคนนี้ได้ แต่ก่อนเขาเคยมาที่นี่บ่อยๆ ก่อนหน้านั้นเขาเคยมาฝึกฝนอยู่ตรงนี้และเป็นบุคคลคนแรกที่นําโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมกลับคืนสู่ประเทศ เขาทําได้ดีมากจริงๆ !”
“ คนหนุ่มสาวสมัยนี้เก่งมากจริงๆ ในสถานการณ์ที่อันตรายขนาดนั้น และยังพบเจอเรื่องราวมากมายแบบนั้น คิดไม่ถึงว่าจะยังสามารถยืนหยัดอยู่ต่อไปได้ ฉันแก่แล้วสู้ไม่ไหว ถ้าฉันอายุอ่อนกว่านี้สัก 20 ปี ฉันจะร่วมมือช่วยสู้กับเขาเหมือนกัน !”
6 ประเทศของเราอ่อนแอมาหลายร้อยปีแล้ว เป็นเพราะขาดคนวัยหนุ่มสาวแบบนี้ พวกเขาสามารถหนุนหลังประเทศได้ในตอนที่ประเทศเพียบพร้อมและเข้มแข็งเกรียงไกร สามารถทําในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนให้สามารถมีส่วนร่วมในสังคมได้ เขาทําได้ดีมากจริงๆ ! ”
มีเสียงชื่นชมมากมายดังขึ้นในสถานที่เกิดเหตุ ทําเอาหยางโปที่กําลังวางท่วงท่ามาครึ่งค่อนวัน
ไม่สามารถฝึกฝนต่อไปได้ เขาหยุดการเคลื่อนไหว เดินไปที่ฝูงชน ยิ้มและพูดขึ้นว่า
“ ขอบคุณทุกท่านที่สรรเสริญเยินยอ ผมต้องตั้งชามเคาะฆ้องไหมเนี่ย ?”
ทุกคนที่ออกกําลังกายอยู่ในสวนสาธารณะล้วนอายุมากแล้ว ส่วนใหญ่ผมหงอกขาว
เมื่อได้ยินหยางโปพูดเล่น ก็มีชายชราหัวเราะออกมาและพูดขึ้นว่า “ คุณชื่อหยางโปใช่ไหม
พ่อหนุ่ม ถ้าคุณตั้งชาม ฉันจะกลับไปเอาสมุดบัญชีมาเดี๋ยวนี้ พวกเราต่อสู้กันมาตลอดชีวิตเพื่อการปฏิวัติ ตอนนี้ประเทศเจริญรุ่งเรืองและเข้มแข็งเกรียงไกรแล้ว ต้องสนับสนุนการสร้างชาติและสนับสนุนการนํามรดกทางวัฒนธรรมกลับมาด้วยอย่างแน่นอน !”
“ใช่ หนุ่มน้อย คุณทําได้ดีมาก ! พวกเราจะสนับสนุนคุณ !”
พอหยางโปถูกสรรเสริญยกย่องจากทุกคนอยู่สักพัก มันก็ทําให้เขารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นครั้งแรก คาดคิดไม่ถึงว่าจะมีคนสนับสนุนเขามากมายขนาดนี้ !
แต่พอพูดออกมาว่าเป็นไอดอลของคนวัยกลางคนและผู้สูงอายุ ทําไมมันถึงฟังดูไม่ค่อยดีนัก?
หยางโปดีใจมาก เขาอยู่พูดคุยกับทุกคนสักพัก เมื่อเห็นว่าสายมากแล้ว เขาถึงได้กลับไปยังเรือนสี่ประสาน
หลินหลินได้เตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้ว อาหารเต็มโต๊ะมากมาย มีขนมชนิดต่างๆร่วมกันแล้วมากกว่าสิบอย่าง หยางโปจ้องมองไปที่ขนมพวกนี้ “ แม่ ที่บ้านมีแค่เราสองคน ทําไมถึงเตรียมของกินเยอะขนาดนี้ ? ทางโรงแรมเพิ่งส่งมาให้เหรอ ยังร้อนๆอยู่เลย !”
หลินหลินเหลือบมองหยางโป ” แม่เพิ่งไปเรียนช่วงนี้ มีบะหมี่ห้วยหยาง และมีอาหารเช้าแบบกวางตุ้ง”
หยางโปเงยหน้าขึ้นมองหลินหลิน ” แม่ยุ่งมากขนาดนี้ ไม่ต้องหาเวลาว่างไปเรียนรู้ของพวกนี้แล้ว “
หลินหลินส่งยิ้มให้ “ แม่วางมือจากธุรกิจแล้ว เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ตอนนั้นแม่อยากมีอาชีพเป็นของตัวเองก็เพื่อลูก อยากให้ลูกได้สืบทอดต่อในอนาคต แต่กิจการของลูกตอนนี้ดีขนาดนี้ไม่ต้องให้แม่เป็นห่วงเลย แม่แค่หาเงินค่าขนมเล็กๆน้อยๆมาใช้จ่ายก็พอแล้ว ก็เหมือนไปเรียนทําอาหารอย่างทุกวันนี้ มันทําให้แม่รู้สึกว่าทุกวันมีแต่ความสุข ! ”
หยางโปมองไปที่หลินหลิน ที่มุมตาของหลินหลินมีรอยตีนกาขึ้นแล้ว แต่สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข ดูอารมณ์ดีมาก !
หยางโปไม่ได้พูดอะไรมาก เพราะเขารู้ดีว่าแม่ทําทุกอย่างเพื่อพยายามที่จะชดเชยให้เขาถึงได้ไปลงเรียนทําอาหาร อาหารเป็นสิบๆกว่าอย่างแบบนี้ เกรงว่าคงตื่นนอนมาทําตั้งแต่เช้าตรู่เป็นแน่ๆ
“ แม่ ความตั้งใจที่แม่มีให้ ผมเข้าใจดี แต่ที่บ้านมีแค่เราสองคน ครั้งหน้าแม่ก็ไม่ต้องทําอะไรมากขนาดนี้แล้ว กินไม่หมดมันก็สิ้นเปลืองไปเปล่าๆ ช่วงนี้ผมจะอยู่ที่บ้านสักพัก เอาแบบนี้ดีไหม
ผมจะกลับบ้านมากินข้าวที่บ้านทุกวัน ” หยางโปรรายงานตัว
หลินหลินดูดีใจมาก “ ถ้างั้นดีเลย แม่จะเชิญผู้จัดการมืออาชีพมารับผิดชอบดูแลงาน
เพราะยังไงซะบริษัทก็ไม่ได้มีเรื่องมากมายอะไรให้ทํา ตอนเที่ยงลูกก็กลับมากินข้าวที่บ้านก็แล้วกัน ! ลูกดูตัวเอง ตอนนี้ผอมแบบนี้ สาวคนไหนจะมาชอบกัน ?”
หยางโปก้มหน้าลงมอง เขาไม่ได้ผอม แค่กล้ามเนื้อและซิกแพคแน่นไปหน่อยเท่านั้น แต่เขาก็ไม่ได้แก้ตัว ยิ้มและพูดขึ้นมาว่า “ ผมมีแฟนแล้ว แม่ไม่ต้องกังวลไป !”
หลังจากได้ยินคํานี้ หลินหลินก็อยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที “ เฮ้ พูดถึงเรื่องแฟนลูกไม่ได้ติดต่อ
ฮัวชิงหยุนนานแล้วสิ ? ผู้หญิงคนนั้นไม่เลวนะ ยังมีเยวจวิ้นเหยา ผู้หญิงคนนั้นออกจะไร้เดียงสา แบบนั้น ลูกคงไม่ทิ้งเธอไปแล้วหรอกนะ ?”
หลินหลินยังคงพูดจู้จี้ “ ลูกชอบสาวคนไหน แม่ก็ไม่ว่า แค่เด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นคนดีก็พอ ส่วนภูมิหลังครอบครัวหรืออะไรไม่ต้องไปสนใจ ลูกมีคุณสมบัติขนาดนี้ คงไม่มีที่ดีไปกว่าลูกแล้วแน่ๆ ดังนั้นเราก็อย่าเลือกเลย”
หยางโปหัวเราะ “ แม่ สองปีนี้ยังไม่ต้องรีบก็ได้มั้ง ? ”
หลินหลินยิ้มและพูดว่า ” เอาล่ะ งั้นแม่จะไม่พูดถึงมันแล้ว ลูกก็ดูเอาเองก็แล้วกัน ! ”
หลังจากกินข้าวเช้า หยางโปก็ไม่ได้รีบร้อนออกไปไหน แต่เฉาหยวนเต๋อกลับมาหาเขาเองที่บ้านแล้ว มีชายคนหนึ่งอยู่ด้านหลังของเขา เขาจึงพายมือไปที่ชายข้างหลังและเอ่ยแนะนําขึ่นว่า
“ ท่านนี้นายรู้จักใช่ไหม ? ”
“ ท่านนี้คงจะเป็นภัณฑารักษ์ฉางของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติใช้ไหม ! ” หยางโปยิ้มและเข้าไปจับมือกับอีกฝ่าย
ภัณฑารักษ์ฉางดูเหมือนจะอยู่ในวัยห้าสิบกว่าๆ เส้นผมค่อนข้างบาง เขาหัวเราะฮ่าๆ จากนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า “ ผมว่าแล้ว หยางโปไม่มีวันลืมผมแน่ๆ !”
เฉาหยวนเต๋อพยักหน้า “ ภัณฑารักษ์ฉางมาหาฉันตั้งแต่เช้า บอกว่าถ้ามาหาแล้วกลัวจะถูกปฏิเสธ อยากให้ฉันช่วยมาแนะนําให้หน่อย ตอนนั้นฉันเลยบอกเขาไปว่า หยางโปความจําดีมากจะปฏิเสธได้ยังไง “
หยางโปเชิญทั้งสองให้นั่งลงและรินน้ำชาอีกครั้ง
ภัณฑารักษ์ฉางอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากพูดขึ้นว่า “ หยางโปผมขอพูดตรงๆเลยก็แล้วกัน ผมมาที่นี่มีความหมายอย่างชัดเจน เมื่อคืนเหล่าเฉาโทรหาผม บอกว่าคุณต้องการจะให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติยืมหัวงูทองสัมฤทธิ์ ตอนนั้นผมอยากจะมาหาเลย แต่ติดตรงที่คุณเพิ่งกลับมาจากอเมริกา ผมกลัวว่าจะมารบกวนการพักผ่อนของคุณก็เลยยังไม่มา !”
หยางโปหัวเราะ “ ภัณฑารักษ์ฉางในเมื่อผมพูดออกไปแล้ว มันก็ต้องเป็นไปตามคํามั่นสัญญา
คุณไม่ต้องกังวลไป ! ”
ภัณฑารักษ์ฉางหัวเราะดังออกมา “ มันไม่ใช่ว่าผมขี้เหนียวนะ แต่คุณก็รู้ดี เปาลี่พวกเขาได้รวบรวมหัวสัตว์ทองสัมฤทธิ์ไว้หลายหัวแล้ว ครั้งนี้ผมเกรงว่าพวกเขาจะมาก่อนแล้วได้ไปก่อน ! ”
“ คุณวางใจได้ ไม่มีทางแน่นอน !” หยางโปยิ้มและกล่าวว่า “ หากคุณไม่มั่นใจจริงๆ วันนี้พวกเราสามารถเซ็นสัญญากันเอาไว้ก่อนก็ได้ !”
ภัณฑารักษ์ฉางยิ้มและพูดว่า “ งั้นก็ดีเลย ผมเอาสัญญามาด้วยแล้ว ยังกลัวเลยว่าคุณจะไม่ยินยอมซะอีก ! ”
หยางโปจนปัญญา เขาหันกลับมามองหน้าเฉาหยวนเต๋อ “ ผมว่านะ พวกคุณคงวางแผนไว้นานแล้วใช่ไหม ? ”
ภัณฑารักษ์ฉางหลุดหัวเราะออกมา “ ทั้งหมดก็เพื่องาน หวังว่าคุณคงจะเข้าใจ ! ”
หยางโปพยักหน้า เขาพอจะเข้าใจภัณฑารักษ์ฉาง เพราะท้ายที่สุดแล้วเมื่อเซ็นสัญญาไปแล้ว
ก็ไม่ได้ส่งมอบให้ภัณฑารักษ์ฉางดูแลเป็นการส่วนตัว แต่กลับถูกส่งไปยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ภัณฑารักษ์ฉางคนนี้เป็นคนที่ทุ่มเทกับหน้าที่การงาน ก่อนหน้านี้ก็เคยมาหาหยางโป แต่แค่ครั้งนั้น หยางโปไม่ได้ตอบตกลง
“ เรื่องนี้ต้องถูกเก็บเป็นความลับ ไม่ควรเปิดเผยสัญญา” เฉาหยวนเต๋อพูดเตือนสติ