เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 914 กลับบริษัท
ตอนที่ 914 กลับบริษัท
ชายชราส่ายหน้า “ ถ้าแกสัญญากับฉันได้ว่าชีวิตนี้จะไม่ออกจากเมืองจิงอีก แกอยากแต่งงานเมื่อไหร่ก็แต่งเมื่อนั้น”
หยางโปรู้สึกจนปัญญา เพราะเขารู้ดีว่าครั้งนี้ชายชราโกรธเข้าแล้วจริงๆ ในเมื่อมันก็ไม่ใช่ครั้งแรก ครั้งก่อนเขาก็ถูกตระกูลวอล์คเกอร์ของอเมริกาตามไล่ฆ่า ชายชราต้องลงทุนลงแรงส่งเขาไปอยู่ในกองทัพ ให้เขาได้ซ่อนตัวไปอยู่พักหนึ่ง
แต่ดีที่ครั้งนั้นมีเรื่องตื่นตกใจแต่ก็ไม่ได้รับอันตราย ชายชราก็ไม่รู้รายละเอียดของการไล่ล่าที่แน่ชัด รู้แค่มีเรื่องราวนี้ แต่ครั้งนี้มันต่างกัน ครั้งนี้เกิดขึ้นที่ระดับความสูงหนึ่งหมื่นเมตรกลางอากาศ
ไม่มีแม้แต่ที่ให้หลบซ่อนเลย ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้น ก็จะตายกันยกลําเครื่องบิน มันยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะรอดมาได้ !
ถึงแม้จะพอเข้าใจความรู้สึกของชายชรา แต่หยางโปก็ยังรู้สึกว่ามันกระทันหันเกินไป
ชายชราไม่ให้โอกาสเขาคัดค้านเลย เขาหันไปหาชุยอี้ผิงทันที ” อี้ผิง เรื่องนี้มอบหมายให้แกไปจัดการ ถ้าสามารถหาคนที่มีความรู้สึกได้ก็จะยิ่งดี แบบเดียวกับสาวน้อยฮัวชิงหยุนนั่นก็ไม่เลวนะ หลังจากนั้นเขายังพาเยว่จริ้นเหยากลับมาด้วยไม่ใช่เหรอ ? แบบนี้ก็ได้ !”
“ ถ้าเขาไม่ยินยอม ก็ให้เขาหาเอาจากในบริษัท พวกแกไม่ใช่มีบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์หรอกหรือไง มีสาวสวยออกจะมากมาย จะต้องมองหาคนประเภทที่ไร้เดียงสาหน่อย ที่กําลังเข้ามาทํางานในสายอาชีพนี้ ”
ก่อนหน้านี้ชุยอี้ผิงยังคงจมอยู่กับอาการตกใจที่เกิดจากกระบี่หยก จู่ๆเมื่อได้ยินหัวข้อการสนทนาเปลี่ยนไปเป็นการบังคับแต่งงาน เขาจึงไม่ได้พูดอะไร เพราะเขาและหงซิ่วซิ่วยังไม่ได้แต่งงานกัน คนอย่างเขาที่แต่งงานช้าไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดอะไร แต่ต่อจากนั้นก็คาดคิดไม่ถึงว่าชายชราจะมอบหมายเรื่องนี้ให้เขาจริงๆ !
คิดไม่ถึงว่าจะให้เขาตามหาเอาจากในบริษัท ดูจากเงื่อนไขพวกนี้ ไม่เหมือนบังคับให้แต่งงาน
แต่เหมือนคัดเลือกสาวงามซะมากกว่า !
ชุยอี้ผิงมีท่าที่ลังเลใจ “ คุณปู่ ทําแบบนี้มันไม่ดูโหดร้ายไปหน่อยเหรอ” ชายชราส่ายหน้า
“ มีอะไรโหดร้ายกัน ให้เวลาเขามามากพอแล้ว ตัวเองไม่สร้างความสัมพันธ์ที่ดีจะมากังวล เอาตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์ !”
” มีกําหนดเวลาไหม ? “ ชุยอี้ผิงถาม
ชายชราลังเลเล็กน้อย “ ตอนนี้ก็ปลายเดือนเมษายนแล้ว จะเป็นการดีที่สุดถ้าแกยืนยันแน่ชัดในช่วงเดือนมิถุนายนและแต่งงานในช่วงเดือนกรกฎาคม !”
“ แต่งงานเดือนกรกฎาคม !” หยางโปมีสีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ “ คุณปู่ ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้นก็ได้”
“ ฉันคิดว่าพอดี ไม่ได้รีบร้อนเป็นพิเศษ ตอนนั้นองค์กรของพวกเราจัดการแนะนําตัวให้
ปกติแล้วครึ่งเดือนก็สามารถแต่งงานกันได้แล้ว มีเหรอจะเหมือนตอนนี้ ต้องคบกันก่อนหลายปี ทําอย่างกับวิ่งมาราธอน ! ” ชายชรากล่าว
หยางโปรู้สึกหมดหนทาง “ คุณปู่ ยุคสมัยมันต่างกัน ตอนนี้มันต่างออกไปจากอดีตแล้ว”
ชายชราส่ายหัว “ ยุคสมัยต่างกัน แต่ความรู้สึกจริงใจมีเหมือนกัน”
พอพูดจบ ชายชราก็มองตรงไปที่ซุยอี้ผิง” อี้ผิง เรื่องที่ฉันใช้ให้แกไปทําได้ยินชัดเจนแล้วใช่ไหม ? ”
ชุยอี้ผิงยิ้มตาหยี ” คุณปู่ ไม่ต้องกังวล ปู่อยากให้หาหลานสะใภ้แบบไหน ผมจะหาแบบนั้นมาให้
ดูโทรทัศน์เมื่อไหร่ ถ้าคิดว่าผู้หญิงคนไหนสวย ผมช่วยนัดเจอกับหยางโปให้ได้หมด !”
หยางโปตกตะลึงอ้าปากค้าง เขามองหน้าชุยอี้ผิงตาเขม็ง “มีใครเป็นเหมือนนายกัน ? “
ชายชราโบกมือ “ เรื่องราวก็เอาตามนี้ ฉันจะไม่พูดอะไรมาก พวกแกวางแผนให้ดี ฉันจะรอดื่มเหล้าแสดงความยินดีในงานแต่งงานในวันที่ 1เดือนกรากฎาคมก็แล้วกัน ! ”
ชุยอี้ผิงพยักหน้า “ เอาล่ะ ผมจะพยายามทําเรื่องนี้ให้ดีที่สุดก็แล้วกัน !”
หยางโปยังอยากจะเถียง แต่กลับถูกชุยอี้ผิงลากตัวออกไป
“ นี่นายกําลังทําอะไร นายยังไม่ได้แต่งงานเลย ฉันจะรีบร้อนหาอะไร ? ” หยางโปพูดอย่างเสียไม่ได้
ชุยอี้ผิงหัวเราะฮ่าๆ “ สมน้ําหน้านายแล้วล่ะ คุณปูคงคิดว่านายหาเรื่องเก่ง ถ้านายอยู่เงียบๆ ไม่ไปไหน ไม่มีอันตรายอะไร เขาคงไม่บังคับให้นายแต่งงานหรอก”
หยางโปส่ายหัวจนปัญญาไม่พูดอะไรมาก
ชุยอี้ผิงชายตามองไปที่หยางโป ” ภารกิจนี้ลําบากมาก แต่ปัญหาหลักคือนาย นายว่ามาดีกว่าฉันควรจะทํายังไงดี ? ตอนนี้นายจะไปหาผู้หญิงเอง หรือให้ฉันเปาประกาศ หาสาวดีๆในแวดวงให้มาคบกับนายดี ? ”
“ ในแวดวง ? นายมีผู้หญิงดีๆที่ไหนกัน ? ” หยางโปถาม
ชุยอี้ผิงส่ายหน้า “ นายวางใจได้ ตราบใดที่ฉันแนะนําให้นายรู้จักจะต้องเช็คดูก่อนแน่นอน
นายสบายใจได้ !”
“ อย่า อย่า ! ขอฉันคิดดูก่อน” หยางโปกล่าว
ชุยอี้ผิงตบไหล่ของหยางโป” อันที่จริง ฉันคิดว่าฮัวชิงหยุนเป็นหญิงสาวที่ดีคนหนึ่ง นายลองพิจารณาดูหน่อยสิ ”
หยางโปรู้สึกจนปัญญามาก “ ได้ พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน !”
หลังจากใช้เวลาอยู่ที่บ้านเก่ามาสองสามชั่วโมง ฟ้าก็เริ่มมืดลงแล้ว ชายชราถึงขนาดที่ไม่ใช้ให้อยู่กินข้าวด้วย
เมื่อกลับมาถึงบ้าน หลินหลินก็นั่งกินข้าวที่โต๊ะอาหารเย็นคนเดียวแล้ว เมื่อเห็นหยางโปกลับมา
ก็รู้สึกแปลกใจมาก “ ทําไมลูกถึงไม่กินข้าวเย็นที่บ้านเก่า ?”
หยางโปรู้สึกหมดทางออก “ อย่าพูดถึงมันอีกเลย คุณปูบังคับให้ผมแต่งงาน ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างโกรธเอาด้วย”
“บังคับให้แต่งงาน ? ” หลินหลินรู้สึกค่อนข้างแปลกใจ “อ้อ อี้ผิงไม่เด็กแล้ว ควรแต่งงานได้แล้ว ”
“ ไม่ใช่เขา แต่เป็นผมที่ต้องแต่งงาน ความหมายของเขาคือ อยากให้ผมเริ่มเตรียมตัวตอนนี้
ยังไงซะ ก่อนสิ้นเดือนมิถุนายนจะต้องจัดการให้เรียบร้อยภายในวันที่ 1 กรกฎาคมจะต้องแต่งงาน ! ” หยางโปพูดด้วยความทุกข์ใจ
หลินหลินมองหยางโปสํารวจขึ้นลง อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “ ถ้าอย่างนั้นมันก็ดีมากไม่ใช่เหรอ ? แม่คิดว่าแต่งงานแต่เนิ่นๆจะดีมาก รีบมีเจ้าตัวเล็กตัวอ้วนๆเร็วๆ แม่จะช่วยลูกเลี้ยงเอง”
“ แต่ทําไมถึงต้องรีบร้อนขนาดนั้น !” หยางโปเอ่ยออกมาอย่างช่วยไม่ได้
หลินหลินยิ้มและพูดว่า “ เอาล่ะ ปัญหาทุกอย่างมีทางออกเสมอ บางทีบุพเพสันนิวาสอาจจะมาถึงในเร็วๆนี้ ลูกหิวแล้วใช่ไหม เดี๋ยวแม่จะไปทําอาหารเพิ่มอีกสักสองอย่างให้”
หยางโปโบกมือทันที “ แม่ไม่ต้องยุ่งยากแล้ว อาหารพวกนี้ก็พอแล้ว”
วันที่สอง หยางโปได้เดินทางไปที่บริษัทสื่อบันเทิงของเขา
บริษัทสื่อบันเทิงแห่งนี้เป็นทรัพย์สินของเขา แต่เขากลับมาที่นี่น้อยมาก นี่เป็นครั้งที่สองที่เขามาที่บริษัท ครั้งแรกมาเมื่อตอนที่ทําการเปิดตัวบริษัท
หยางโปเดินเข้ามาในบริษัท ดูเหมือนหญิงสาวที่แผนกต้อนรับจะจําเขาไม่ได้ “ สวัสดีค่ะ คุณผู้ชาย คุณมาหาใครค่ะ ? ”
“ ผมมาหาชุยอี้ผิง” หยางโปตอบ
หญิงสาวที่แผนกต้อนรับมีใบหน้าที่สวยงาม แต่งหน้าอย่างละเอียดอ่อน เธอมองหยางโปขึ้นลงอย่างสํารวจตรวจตรา ” คุณได้นัดเอาไว้ไหม ?
“ งั้นผมขอนัดหมายหน่อยก็แล้วกัน ” หยางโปกล่าว
หญิงสาวแผนกต้อนรับกําลังที่จะเอ่ยปากพูด ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา เธอสวมแว่นตาสีดําขนาดใหญ่ปกปิดใบหน้าเกือบทั้งหมด ผิวของเธอขาวเนียนราวกับหิมะ จมูกโด่งสูง ริมฝีปากที่บอบบางและงดงามปรากฏออกมา ดูแล้วน่าจะเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่ง
เธอเดินผ่านแผนกต้อนรับและเหลือบมองไปทางหยางโป ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจ แต่เธอก็ก้าว ถอยหลังมาทันทีและหันกลับมามอง “ ประธานหยาง ? ”
หยางโปที่กําลังจะกดสายโทรออกก็เงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นกงเสี่ยวเจิ้งถอดแว่นตาดําออกก็เผย ให้เห็นใบหน้ารูปไข่ที่สวยงาม ใบหน้าของเธอแดงระรื่นเล็กน้อย ดูเหมือนจะค่อนข้างตื่นเต้น “ ประธานหยาง ใช่คุณจริงๆด้วย !”
หยางโปยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับคําเรียกขานนี้ เขาพยักหน้า “เสี่ยวเจิ้ง จะไปถ่ายหนังเหรอ ? ”
กงเสี่ยวเจิ้งเดินเข้ามาพอดี ” ไม่ วันนี้บริษัทได้จัดหาครูสอนบุคลิกภาพมาให้ เลยต้องเรียนเต้น “
“ อาศัยที่ยังเด็กอยู่ ต้องเรียนรู้ให้มากๆนะ” หยางโปกล่าว
“ประธานหยาง คุณจะเข้าไปไหม ? ” กงเสี่ยวเจิ้งถาม
หยางโปพยักหน้า “ถูกห้ามเอาไว้อยู่น่ะ ”
ในเวลานี้ แผนกต้อนรับก็จําตัวตนของหยางโปได้ในที่สุด “ ประธานหยาง ต้องขอโทษด้วยจริงๆฉันเพิ่งมาใหม่ ยังไม่เคยพบกับคุณมาก่อน !”
หยางโปยิ้มและโบกมือให้ “ไม่เป็นไร”