เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 950 พาไปดู
ตอนที่ 950 พาไปดู
หยางโปไม่ได้รู้สึกว่าเขามีภาระผูกพันกับโจวซินมากนัก พวกเขาก็แค่เจอกันโดยบังเอิญ
แม้ว่าโจวซินและเยว่จวิ้นเหยาจะรู้จักกัน และถึงแม้อาจารย์ของเยว่จวิ้นเหยาจะโทรมาเองก็ตาม หยางโปก็ยังไม่มีความรู้สึกว่าตัวเองต้องมารับผิดชอบอะไร
ตอนที่ได้รับโทรศัพท์จากโจวซิน หยางโปก็รู้สึกแปลกๆ และรู้สึกว่าเรื่องนี้ค่อนข้างที่จะซับซ้อน ดังนั้นเขาจึงรีบไปมาหา แต่พอมาเห็นฉากตรงหน้านี้ เขาอยากจะหันหลังกลับและเดินจากไปจริงๆ !
ในเวลานี้ จานชามในห้องระเนระนาดไปหมด โจวซินโอบกอดหญิงสาวสองคนไว้ในอ้อมแขน กำลังดื่มเหล้าอยู่ ฉากตรงหน้าไม่น่าดูเอาซะเลย
หลูตงซิงที่ยืนอยู่ข้างๆยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เขาหันหน้ามองไปที่หยางโป
” เกิดอะไรขึ้น ? ” หยางโปส่ายหัว ” ช่างเถอะ พวกเราอย่าไปสนใจเลย ” หลูตงซิงถึงกับอึ้งไปเลยทันที เขารู้ดีว่าหยางโปผู้นี้เป็นคนใจดีมีเมตตา เขารีบมาหาทันทีหลังจากได้รับโทรศัพท์จากโจวซิน ตอนนี้พอมาอยู่ถึงประตูแล้ว เขากลับคิดที่จะถอยหนี นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? เสวียนจงก็งงเช่นกัน
เขาหันกลับไปมองหน้าหยางโป ” คุณหยาง นี่คุณคิดที่จะไม่สนใจเขาแล้วใช่ไหม ? ”
หยางโปไม่พูดอะไร เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรหาเยว่จวิ้นเหยาอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้เป็นเยว่จวิ้นเหยาที่เป็นคนรับสาย ตอนที่เธอรับสาย ดูจะตื่นเต้นไม่น้อย
“ พี่ใหญ่โป คุณสบายดีไหม ? ”
“ ฉันสบายดี ! ” หยางโปหัวเราะ รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาก เขาคิดไม่ถึงว่าเยว่จวิ้นเหยาจะรับจริงๆ
“ พี่ใหญ่โป อาจารย์ของฉันบอกว่าเคยโทรหาคุณมาก่อนหน้านี้แล้ว บอกว่าคุณต้องโทรกลับมาแน่นอน และให้ฉันรออยู่ที่นี่ ! ” เยว่จวิ้นเหยากล่าว
หยางโปพยักหน้า “ ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง ? ฝ่าด่านได้หรือยัง ? ”
“แน่นอน ก็ฉันเป็นอัจฉริยะไง ตอนนี้คุณคงตามฉันไม่ทันแล้วล่ะ ! ” เยว่จวิ้นเหยายิ้มพร้อมทั้งกล่าวไปด้วย
หยางโปถือโทรศัพท์ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เขาดีใจแทนเยว่จวิ้นเหยาเช่นกัน ตอนที่เขาพบกับ
เยว่จวิ้นเหยาเธออยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของขั้นหยิ่นชี่แล้ว หลังจากขัดเกลาอย่างยากลำบากมาปีสองปี ในที่สุดตอนนี้ก็ฝ่าด่านได้แล้ว มันพบได้ยากมากจริงๆ !
“ เธอเป็นอัจฉริยะจริงๆ ! ” หยางโปยิ้มพร้อมทั้งพูดไปด้วย
เยว่จวิ้นเหยาดูมีความสุขมาก ” คุณก็อย่าได้ขี้เกียจ เมื่อไหร่ที่คุณตามฉันทัน ฉันจะพาคุณมาเที่ยวเอ๋อเหม่ยซาน แม้ว่าที่นี่จะน่าเบื่อไปหน่อย แต่ทิวทัศน์ในภูเขาก็สวยงามมากจริงๆ ! ”
หยางโปยิ้ม “ ดีเลย งั้นฉันคงต้องสู้ๆแล้วล่ะ ”
ไม่ได้เจอกันนานอีกทั้งยังไม่ได้คุยโทรศัพท์กันเลย เยว่จวิ้นเหยาดูตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด
ถามนั้นถามโน้นไม่หยุด สอบถามสถานการณ์ของเขา
หยางโปยืนถือโทรศัพท์อยู่ในลานบ้าน ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตอบคำถามของเขา ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ประตูห้องถูกเปิดออก โจวซินเดินออกมาจากในห้อง ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ดูเหมือนจะค่อนข้างเมา
เขาเงยหน้าขึ้นมองไปทางหยางโป พร้อมกับเดินออกมา
หยางโปลืมตาขึ้นมองไปที่เขา แต่ไม่กลับไม่สนใจใยดีกับเขาจากนั้นก็คุยโทรศัพท์ต่อ
หลังจากนั้นไม่นาน เยว่จวิ้นเหยาถึงได้จำที่อาจารย์สั่งไว้ได้ “ พี่ใหญ่โป ศิษย์พี่โจวซินดูเหมือนจะลงมาจากภูเขาไปแล้ว อาจารย์ของฉันให้เขาไปที่หยูหาง โดยบอกไปว่าเขามีโอกาสอยู่ที่นั่น
แต่ก่อนศิษย์พี่โจวซินดีกับฉันมาก ฉันเลยเล่าเรื่องของคุณให้เขาฟัง คุณเจอกับเขาแล้วใช่ไหม ? ”
หยางโปเหลือบมองโจวซินและพยักหน้า ” ฉันพบกับเขาแล้ว โจวซินก็อยู่บนเอ๋อเหม่ยซานด้วยใช่ไหม ? ”
“ เขาไม่ใช่ เขาเป็นลูกชายเอ๋อเหม่ยซานน่ะ แต่ก่อนเขามักจะช่วยฉันนำของอร่อยและของเล่นจากล่างเขาขึ้นมาให้ฉัน ถ้าคุณเจอเขา ช่วยดูแลเขาให้ฉันหน่อยนะ ! ” เยว่จวิ้นเหยากล่าว
หยางโปอึ้งไปครู่หนึ่ง เขาคิดไม่ถึงว่าเยว่จวิ้นเหยาจะอ้อนเป็นกับเขาด้วย ถ้าเป็นแต่ก่อน
เธอไม่มีทางพูดอะไรแบบนี้ออกมาแน่
หยางโปรู้สึกค่อนข้างสับสน “ อาจารย์ของเธออยู่ข้างๆใช่ไหม ? ”
“ อาจารย์ไม่อยู่ ” เยว่จวิ้นเหยาตอบ
หยางโปขมวดคิ้ว เดิมทีเขาตั้งใจที่จะเล่าเรื่องสถานการณ์ทางนี่ให้กับอาจารย์ของเธอฟัง
ในเมื่ออีกฝ่ายไม่อยู่ ถ้าอย่างนั้นเขาก็ไม่มีทางยอมพูดเรื่องนี้กับเยว่จวิ้นเหยาแน่นอน
“ อ้อ ไม่อยู่เหรอ ? ถ้าอย่างนั้นก็ช่างเถอะ โจวซินเกิดเรื่องนิดหน่อยะ ฉันเลยมาเคลียร์ให้หน่อยน่ะ ” หยางโปกล่าว
“ เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอ ? ” เยว่จวิ้นเหยาถาม
หยางโปส่ายหน้า “ ไม่มีอะไร ไม่ได้มีปัญหาใหญ่โตอะไร ฉันจัดการแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว ”
เยว่จวิ้นเหยาไม่ได้ถามอะไรมาก “ งั้นก็ช่างเถอะ เขาเป็นคนไร้สมอง คุณก็ช่วยเขาหน่อยล่ะกัน ! ”
หยางโปยิ้ม “ ตกลง ฉันต้องไปทำธุระแล้ว ถ้าเธอมีเวลาก็โทรหาฉันบ่อยๆก็แล้วกัน ! ”
“ อืม บนภูเขาไม่มีสัญญาณ วันนี้อาจารย์พาฉันลงเขามา ฉันถึงโทรหาคุณได้ ต่อไปฉันจะลงจากเขามาบ่อยๆก็แล้วกัน ” เยว่จวิ้นเหยายิ้มกรุ่มกริ่มพร้อมทั้งเอ่ยปากพูด
หยางโปเกิดสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย “ วันหลังเธอยังจะลงเขามาอีกไหม ? ”
“ มาสิ แน่นอนต้องมาสิ แต่ตอนนี้ฉันเพิ่งฝ่าด่านมาได้ไม่นาน ยังคงต้องการฟื้นตัวให้แข็งแรง
เกรงว่าคงต้องใช้เวลาสักระยะ ” เยว่จวิ้นเหยากล่าว
หยางโปตอบรับ และพูดคุยกันอีกสองสามคำ จากนั้นก็วางสายไป
หยางโปเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองไปทางโจวซิน เมื่อเห็นใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยอาการตั้งตารอคอย ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “ เมื่อกี้คุณกำลังทำอะไรอยู่ ? ”
โจวซินยิ้มแห้งๆ ” ผมเหรอ ? เมื่อกี้ผมรู้สึกกลัดกลุ้มใจเล็กน้อย ก็เลยเล่นสนุกครู่หนึ่งน่ะ ! ”
หยางโปเหลือบมองโจวซิน ” เล่นพนันเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ ? ”
โจวซินตกตะลึงไปครู่หนึ่ง “ เพิ่งเรียนน่ะ ”
“ ห้าสิบล้านเนี่ยนะ ? ” หยางโปจ้องหน้า
โจวซินพยักหน้า รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาดูค่อนข้างอึดอัด “ พอแพ้เข้ามากๆก็เลยเป็นกังวล
ถ้าไม่ใช่เพราะประธานเสวียนเตือนสติผมไว้ ผมคงเสียไปมากกว่านี้แน่ ! ”
หยางโปเหลือบมองหน้าโจวซิน อดไม่ได้ที่จะหยักคิ้วขึ้น ” บ่อนอยู่ที่ไหน ? ”
โจวซินถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมาทันที เขาจะเอาเงินที่ไหนมาได้มากขนาดนี้
ในเมื่อหยางโปถามแบบนี้ งั้นก็หมายความว่าจะจ่ายหนี้ให้เขา ” เดียวผมพาคุณไปที่นั่นเอง ! ”
หยางโปพยักหน้า ” ไปสิ พวกเราไปดูด้วยกัน ”
หลูตงซิงยืนนิ่งอยู่ด้านข้าง ” นายมีเงินติดตัวพอไหม ? ฉันพอจะมีอยู่นิดหน่อย ”
หยางโปยกมือขึ้นห้ามเขาไว้ ” ไม่เป็นไร คุณสบายใจได้ ผมมีเงินพออยู่ ”
หลูตงซิงจึงไม่พูดอะไรมาก ฐานะทางสังคมตอนนี้ของหยางโปสูงกว่าเขาด้วยซ้ำ แค่เวลานี้
หยางโปไม่เห็นเงินอยู่ในสายตาเท่านั้น เงินห้าสิบล้านสำหรับเขาแล้วไม่ใช่เรื่องยากอะไร
แต่หลูตงซิงก็ยังเหลือบมองโจวซิน เมื่อสักครู่ตอนที่หยางโปคุยโทรศัพท์เลยไม่ทันสังเกตเห็น
แต่เขาสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีผู้หญิงสองคนอยู่ในห้องของโจวซิน ถ้วยชามในห้องเลอะเทอะกระจัดกระจาย เห็นได้ชัดว่าตอนที่พวกเขารีบมาที่นี่กัน โจวซินกำลังหาความสุขใส่ตัวอยู่ !
เสวียนจงที่อยู่ด้านข้างก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน
ไม่นาน กลุ่มของเขาก็พากันมาถึงที่โรงแรมแห่งหนึ่ง โจวซินชี้ไปที่โรงแรมแล้วพูดว่า ” อยู่ที่นี่ ”
หยางโปมองสำรวจโรงแรมและขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ ทำไมกล้าทำอะไรโจ่งแจ้งขนาดนี้ ?
เล่นพนันในโรงแรม ไม่มีใครแจ้งความกันเลยเหรอ ? ”
โจวซินเดินเข้าไปข้างในและอธิบายว่า ” ผมพาคุณไปที่นั่นเดี๋ยวก็รู้เอง ” หยางโปขมวดคิ้วและเดินตามเข้าไป
พอเดินเข้ามาก็พบว่าโรงแรมแห่งนี้มีความไฮโซมาก ตรงล็อบบี้มีโคมระย้าหรูหราห้อยอยู่
ภายในตกแต่งอย่างหรูหรามากด้วยเช่นกัน เมื่อเดินตามโจวซินผ่านโรงแรม เดินผ่านทางเดินหนึ่งมา และเดินมาจนถึงหน้าประตูหนึ่งที่อยู่ทางด้านข้าง ทั้งหมดก็พากันหยุดลง