เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 953 เนื้อเข้าปากเสือ
ตอนที่ 953 เนื้อเข้าปากเสือ
เสวียนจงที่นั่งอยู่ข้างๆ หน้าถอดสีไปทันที เขาชำเลืองมองหวังเต๋า เพียงแต่หวังเต๋าไม่หันมามองหน้าเขาเลย
หยางโปหันไปพูดกับหวังเต๋าว่า “ เมื่อวานเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ? ”
หวังเต๋าพยักหน้า “ วันนี้ผมได้รับรายงานจากลูกน้อง เลยสั่งให้ไปตรวจสอบดูคร่าวๆ พวกเขาเปิดดูกล้องวงจรปิดของเมื่อวาน เมื่อวานตอนที่เพื่อนท่านนี้เล่นพนันอยู่ มีคนมาตีสนิทด้วย จากนั้นก็พาเขาไปที่ห้องวีไอพี ในระหว่างนั้นก็มีเรื่องบังเอิญเกิดขึ้น และได้เจอกับเพื่อนโป๊กเกอร์สองสามคนเข้าโดยบังเอิญ พวกเขาเลยเล่นไพ่ด้วยกัน ”
“ กล่าวอีกนัยหนึ่ง คนที่เล่นไพ่กับโจวซินทั้งหมดเป็นพวกเดียวกันใช่ไหม ? ” หยางโปถาม
หวังเต๋าพยักหน้า “ เป็นพวกเดียวกัน แน่นอนว่าพวกเขายังยุยงให้โจวซินมายืมเงินจากบ่อนอีก เพราะมีชุมนุมยุทธภพเป็นคนรับประกันให้ ดังนั้นทางบ่อนจึงไม่ลังเล เลยให้ยืมเงินไป ”
หยางโปเหลือบมองหวังเต๋า ” แล้วหลังจากนั้นล่ะ ? หลังจากยืมเงินห้าสิบล้านไปแล้วล่ะ ? ”
“ หลังจากยืมเงินห้าสิบล้าน บ่อนคาสิโนคิดว่ามันมีความเสี่ยง จึงได้ติดต่อไปที่ชุมนุมยุทธภพ
เวลานั้นชุมนุมยุทธภพบอกว่าจำนวนเงินมากเกินไป พวกเขาไม่ยอมค้ำประกันให้ ต่อมาถึงได้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น ” หวังเต๋าชี้แจง
ในระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้น โทรศัพท์ของหวังเต๋าก็ดังขึ้น เขาหันไปส่งซิกให้หยางโปเล็กน้อย
รับโทรศัพท์ และพูดสั้นๆไม่กี่คำ จากนั้นหวังเต๋าก็หันมามองหยางโป “ เป็นสายโทรเข้าจากพ่อของคุณพอดีเลย ”
หยางโปพยักหน้าจากนั้นเขาก็รับสาย
ชุยซื่อหยวนกล่าว ” หวังเต๋าเป็นเพื่อนที่โตมากับฉันตั้งแต่ยังเด็ก แกต้องเรียกเขาว่าลุง ก่อนหน้านี้เขาโทรหาฉัน บอกว่ามีเรื่องขัดแย้งกับแกนิดหน่อย เรื่องมันเป็นมายังไง ? ”
“ ไม่มีเรื่องอะไร แค่เพื่อนคนหนึ่งของผมเป็นหนี้เขาอยู่นิดหน่อย ตอนนี้ตกลงกันได้แล้ว ” หยางโปกล่าว
ชุยซื่อหยวนก็ไม่ได้ถามอะไรมาก ” เวลาไปทำอะไรนอกบ้าน สำคัญที่สุดคือต้องรู้จักที่จะปรองดอง การยอมแพ้จะทำให้เรื่องสงบ ถ้าไม่ยอมแพ้เรื่องก็จะวุ่นวาย ”
หยางโปพยักหน้า รู้สึกค่อนข้างที่จะไม่พอใจ “ ไม่เป็นไร ผมรู้หมดแล้ว ”
“ ฉันยังพูดไม่จบประโยคท่อนหลัง ถ้าเจอเข้ากับปัญหาจริงๆ ก็อย่ากลัว แกจำไว้นะแกยังมีฉันและปู่คอยหนุนหลังแกอยู่ ทำมันอย่างกล้าหาญและมั่นใจ ! ” ชุยซื่อหยวนกล่าว
หยางโปอึ้งไปครู่หนึ่ง เขาไม่นึกเลยว่าชุยซื่อหยวนจะพูดแบบนี้เป็นด้วย เขารู้สึกค่อนข้างตื้นตันใจ“ อืม ผมเข้าใจแล้ว ! ”
“ ถ้าอย่างนั้นแกก็ทำธุระต่อไปเถอะ เรื่องที่ปู่ของแกบังคับให้แกแต่งงาน แกก็ไม่ต้องกังวลไป
อย่าไปให้ความร่วมมือ หาคนที่ตัวเองชอบ และชอบแกด้วย ต่อให้สุดท้ายแล้วหาคนที่ดีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เรื่องจิ๊บๆแค่นี้อยู่จีนสักปี แค่แกมีทายาทสืบทอดให้ได้ ต่อไปต่อให้แกอยากจะทำอะไรก็ได้ทั้งหมด ! ” ชุยซื่อหยวนกล่าว
เมื่อหยางโปฟังประโยคครึ่งท่อนแรก ก็ยังรู้สึกว่าไม่เลวเลย แต่พอมาฟังท่อนหลัง ก็เหมือนกับถูกบีบบังคับทางอ้อมนิดๆ “ ตกลง ผมเข้าใจแล้ว พ่อสบายใจได้ ”
ชุยซื่อหยวนบอกว่าจะวางสาย แต่ก็ยังพร่ำบ่นไปอีกยกใหญ่ จากนั้นถึงได้วางสายไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
หวังเต๋ายิ้มและมองไปทางหยางโป ” ความสัมพันธ์ของคุณกับราชาพนันเหอเป็นยังไงบ้าง ? ”
หยางโปพยักหน้า “ ก็ดีนะ ”
หวังเต๋าหัวเราะ “ อย่างนั้นเหรอ ผมได้ยินมาว่าราชาพนันกำลังวางแผนที่จะสร้างเกาะเซียวเหยาบนชายหาดในมาเลย์ เพื่อก่อสร้างบ่อนคาสิโนใหม่ นี่เป็นโครงการใหญ่เลยทีเดียว ไม่ทราบว่าคุณพอจะรู้เรื่องไหม ? ”
หยางโปมองอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ แต่ก็พยักหน้าให้เล็กน้อย “ ผมรู้เรื่องแผนการเกาะเซียวเหยา ! ”
หวังเต๋าหัวเราะ “ ไม่ทราบว่าคุณเข้าร่วมด้วยหรือเปล่า ? โครงการนี้มีโอกาสพัฒนาและก้าวหน้าไปอีกไกลมาก ผมอยากมีส่วนร่วมด้วยมาตลอด แต่ผมไม่ได้ติดต่อสัมพันธ์อะไรกับราชาพนันเหอ ดังนั้นเลยอยากจะขอให้คุณช่วยแนะนำให้รู้จักสักหน่อย ”
แม้ว่าชุยซื่อหยวนจะบอกว่าเขากับหวังเต๋าโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก แต่หยางโปก็ไม่ได้ไว้หน้าอีกฝ่ายมากนัก “ เถ้าแก่หวัง ประมาณปีก่อน ผมเคยจัดงานระดมทุนขึ้นที่เมืองหลวง ประเด็นหลักๆในเวลานั้นคือระดมทุนสำหรับโครงการนี้ ”
หวังเต๋าตกตะลึงไปครู่หนึ่ง “ มีเรื่องแบบนี้อยู่ด้วยเหรอ ? ผมอยู่ที่หยูหางมาตลอด
มีเพียงช่วงเทศกาลปีใหม่เท่านั้น ที่กลับไปเมืองหลวง ทำไมผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลยล่ะ ? ”
หยางโปยิ้มและพูดว่า “ คุณไปลองสอบถามดูก่อนก็ได้ เริ่มแรกมีการระดมเงินกันจำนวนหนึ่ง ต่อมา เงินทุนที่จำเป็นสำหรับโครงการเกาะเซียวเหยาก็เพียงพอแล้ว เกรงว่าตอนนี้จะไม่ขาดแคลนเงินทุนอะไรแล้ว ถ้าคุณติดต่อผมมาก่อนหน้านี้ก็คงจะดี ”
หวังเต๋าส่ายหัวเล็กน้อยและถอนหายใจออกมาเบาๆ ” เป็นแบบนี้นี่เอง ! ”
หยางโปรู้สึกอึดอัดกับเรื่องของโจวซินอย่างพูดไม่ออก เขาไม่อยากพูดคุยกับหวังเต๋ามากไปกว่านี้ จึงเอ่ยปากตัดบทไปว่า “ เอาแบบนี้ล่ะกัน พวกเราแลกเบอร์โทรติดต่อกันไว้ดีไหม เดี๋ยวผมจะช่วยถามราชาพนันเหอให้ ถ้าหากยังมีช่องว่างอยู่ ผมจะติดต่อคุณมา ”
“ ดีเลย ดีดี ! ” หวังเต๋ารีบตอบรับ
ทั้งสองได้แลกเปลี่ยนข้อมูลการติดต่อซึ่งกันและกัน จากนั้นก็แยกทางกัน หยางโปถึงหันไปมองหน้าโจวซิน ” เมื่อสักครู่ที่เถ้าแก่หวังพูดมา ทั้งหมดเป็นเรื่องจริงใช่ไหม ? ”
โจวซินทำหน้าไม่ถูก เมื่อสักครู่ที่หวังเต๋าพูดมาทั้งหมด เขาก็คิดไตร่ตรองดูแล้ว แต่ตอนนี้มาคิดๆดูอย่างละเอียดอีกครั้ง ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องจริง ดูเหมือนว่าเขาจะถูกคนอื่นหลอกใช้ตั้งแต่แรกแล้ว !
แต่โจวซินก็ยังคงรู้สึกว่ายากที่จะรับได้ เขาส่ายหน้าแล้วเอ่ยออกมาว่า ” ไม่น่าจะใช่นะ ? ”
หยางโปไม่สนใจเขา เขาหันไปทางเสวียนจง ” ประธานเสวียน คุณคิดยังไงกับเรื่องนี้ ? ”
เสวียนจงเหมือนจะใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เมื่อถูกหยางโปเรียกชื่อ เขาก็ถึงกับตกตะลึงไปครู่หนึ่ง “ ศิษย์พี่หยาง เรื่องนี้แล้วแต่ศิษย์พี่จะจัดการ ”
หยางโปเหลือบมองเสวียนจง ด้วยแววตาที่ค่อนข้างล้ำลึกอย่างเห็นได้ชัด อันที่จริงเขาสงสัย
เสวียนจง แต่แค่ไม่มีหลักฐานอะไรอื่นเท่านั้น !
“ เอาล่ะ เรื่องนี้มอบหมายให้ประธานเสวียนไปจัดการก็แล้วกัน ! ” หยางโปกล่าว
เสวียนจงมีสีหน้าดีใจ “ คุณหยางวางใจได้ ผมจะจัดการให้เรียบร้อยแน่นอน ”
หยางโปพยักหน้า จากนั้นเขาก็หันไปทางโจวซิน “ วันนี้ อาจารย์ของคุณโทรมาหาผม บอกว่าคุณตกอยู่ในอันตราย คุณกลับไปก็อย่าลืมโทรไปรายงานว่าไม่เป็นอะไรหน่อยก็แล้วกัน ”
ใบหน้าโจวซินเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก “ พวกเธอรู้กันหมดแล้วเหรอ ? ”
หยางโปไม่แยแส แต่หันไปมองหน้าเสวียนจงแทน “ ประธานเสวียน เรื่องนี้ต้องรบกวนคุณแล้ว ! ”
เสวียนจงรีบพูดทันที ” เรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่ผมควรทำ ในฐานะที่โจวเต๋าโยวเป็นสมาชิกชองชุมนุมยุทธภพ เกิดเรื่องขึ้นแบบนี้ในศูนย์บัญชาการของชุมนุมยุทธภพ มันเป็นความผิดพลาดของผมเอง ผมจะต้องค้นหาความจริงให้ได้โดยเร็วที่สุด ! ”
หยางโปพยักหน้า “ ถ้างั้นก็ดี ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ทุกคนกลับไปพักผ่อนเถอะ ! ”
เสวียนจงเชิญหยางโปพักอยู่ที่ทำการสมาคม หยางโปอ้างว่าไม่อยากวิ่งไปมา จึงทำการเปิดห้องในโรงแรมนอน
หลูตงซิงรู้สึกค่อนข้างแปลกใจ “ นายไม่คิดว่าชุมนุมยุทธภพมีปัญหาหรือไง ? ฉันรู้สึกว่าที่พวกเขาอยากให้โจวซินอยู่ต่อเพราะมีจุดประสงค์ ”
หยางโปเหลือบมองหลูตงซิง และตอบกลับไปว่า ” คนอย่างคุณกับผม ต่างถือว่าเป็นผู้ฝึกฝนอยู่อย่างสันโดษ ไม่มีตำราหรือเคล็ดลับการฝึกอบรมที่สมบูรณ์ และยังไม่มีอาจารย์ที่เชี่ยวชาญมาคอยอยู่ชี้แนะ ดังนั้นเมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับเส้นทางการบำเพ็ญเพียรที่ยากลำบากในแต่ละประเภท เป็นเรื่องยากที่จะมีคนมาตอบคำถามให้ ดังนั้นพวกเขาจึงมีความปรารถนาอย่างแรงกล้ากับตำราลับของลัทธิเต๋าของจริง ! ”
หลูตงซิงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ” ความหมายของนายคือ พวกเขาต้องการวางแผนล้วงความลับของ
โจวซิน ? อยากได้วิทยายุทธของเขา ? ”
หยางโปพยักหน้า “ นี่เป็นแค่การคาดเดาเท่านั้น ยังต้องการหลักฐานมาพิสูจน์อยู่ ”
“ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้างั้นนายรีบให้โจวซินไปกับเสวียนจงทำไม นี่มันไม่ใช่เอาเนื้อเข้าปากเสือหรอกหรือไง ? ” หลูตงซิงถาม