เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 961 มวยเทียนหลัว
ตอนที่ 961 มวยเทียนหลัว
“นายไม่ได้สังเกตเห็นจริงๆเหรอ ว่าดวงตาของเหยียนหรูหยูทั้งใหญ่และแวววาว ดวงตาทั้งคู่เหมือนโคมไฟที่เปล่งประกาย ตอนที่ฉันจ้องมองดวงตาคู่นั้นของเธอเมื่อสักครู่ รู้สึกว่ามันสวยมากจริงๆ !” ลัวย่าวหัวพูดไปพร้อมรอยยิ้ม
หยางโปส่ายหัวและยิ้มอย่างขมขื่น เขาคิดว่าลัวย่าวหัวจะพูดอะไร ไม่คิดว่าจะเป็นเนื้อหาพวกนี้
“ เอาล่ะ นายไปพักผ่อนเถอะ ! ”
หยางโปไล่ให้ลัวย่าวหัวออกไปและกลับไปที่ห้อง แต่เขากลับไม่รู้จักตัวตนของเหยียนหรูหยูเลย
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้ว่าเหยียนหรูหยุไม่ได้เป็นอันตราย
หยางโปวางกระจกแสงจันทร์บนโต๊ะข้างเตียง จากนั้นถึงได้เริ่มนั่งสมาธิบนเตียงและค่อยๆฝึกฝนบำเพ็ญเพียร
พลังบางๆค่อยๆไหลมาอยู่วนเวียนรอบตัวเขา และแทรกซึมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หยางโปมองจุดตันเถียนจากความรู้สึกภายใน และอดยิ้มน้อยๆออกมาไม่ได้ หากบอกว่าเป็นโอกาสและโชคชะตาที่จะได้พบกับเหยียนหรูหยูในครั้งนี้แล้วละก็ นั่นก็แสดงว่าที่เขาได้ฝึกฝนและดูดซับพลังจำนวนมากในทะเลสาบในเวลานั้น ก็ถือว่าเขาได้รับโอกาสและโชคชะตาแล้ว !
เวลานี้ พลังในจุดตันเถียนของหยางโปก็มีขนาดเกือบเท่าไข่แล้ว โดยพื้นฐานแล้ว เขามั่นใจได้แล้วว่า แค่ขัดเกลาต่อไปอีกชั่วระยะเวลาหนึ่ง เขาก็สามารถเข้าสู่ขั้นฝึกฝนได้ แน่นอนว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน ตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน !
หลังจากจิตใจสงบลง หยางโปก็ค่อยๆดูดซับพลังที่มีอยู่รอบตัวเขา วันนี้ไม่รู้ว่าทำไม เขารู้สึกว่าเหมือนมีพลังกระจายตัวอยู่ในอากาศเข้มข้นและยังกระฉับกระเฉงมาก ทำให้เขาดูดซับพลังได้เร็วมากขึ้น
เช้าวันรุ่งขึ้น หยางโปผลักประตู กำลังจะออกไปออกกำลังกายตอนเช้า แต่กลับเห็นตัวย่าวหัวนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ตาทั้งคู่ดำเป็นหมีแพนด้า เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หยางโป
” นายจะออกไปข้างนอกเหรอ ?”
“ นายไม่ได้นอนมาทั้งคืนเลยใช่ไหม ? ” หยางโปรู้สึกค่อนข้างประหลาดใจ
ลัวยาวหัวพยักหน้า “ ของที่นายให้ฉันมา มันลึกล้ำเกินไป ฉันอ่านมันทั้งคืนแต่ก็ไม่เข้าใจนายพอมีเวลาที่จะช่วยอธิบายให้ฉันฟังสักรอบไหม ? ”
“ ความสามารถในการเข้าใจของนายแข็งแกร่งมาก ไม่ต้องรีบร้อน ลองดูอีกครั้ง ” หยางโปพูดล้อเลียน
ลัวย่าวหัวส่ายหน้า “ ไม่ได้การแล้ว ฉันค้นพบว่าความรู้ทั้งหมดในชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ใช้ไม่ได้ อย่างน้อยต้องระดับปริญญาเอก ฉันถึงจะทำได้ ”
“ อ้อ แต่นายได้คะแนนเต็มเลยนะ ” หยางโปพูดพร้อมรอยยิ้ม
ลัวย่าวหัวมองหน้าหยางโป “ ฉันทนไม่ไหวแล้ว ฉันจะไปอาบน้ำและนอนสักหน่อย ทนฝืนต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ”
ลัวยาวหัวลุกไปอาบน้ำ หยางโปก็ไม่พูดอะไร จากนั้นก็หันหลังเดินออกห้องไป
ในขณะที่เปิดประตู และหยางโปกำลังจะปิดประตูอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงของเหยียนหรูหยูดังมาจากทางข้างหลัง “ รอฉันก่อน ฉันจะออกไปกับคุณ ”
หยางโปหันกลับไปก็เห็นเหยียนหรูหยูเดินมาในชุเดรสขาว ดูเหมือนเธอจะรักชุดเดรสกระโปรงขาวตัวนี้มาก !
คงไม่ใช่เพราะไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนหรอกนะ ?
หยางโปชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ก็ได้สติกลับมา เขาแค่ซื้อชุดนอนสีชมพูให้อีกฝ่าย เริ่มแรกเหยียนหรูหยูรังเกียจมันมาก ไม่ยอมใส่ เดิมที่หยางโปก็ไม่ได้ตั้งใจจะพาเธอไปด้วย แต่เมื่อคิดได้แบบนี้ พาเธอออกไปซื้อเสื้อผ้ามาเปลี่ยนใส่สัก 2 ตัวก็ดี
ทั้งสองออกไปด้วยกันและเดินไปจนถึงริมทะเลสาบในสวนสาธารณะใกล้ๆ หยางโปก็เริ่มฝึกมวยเยว่เจีย ในขณะที่เหยียนหรูหยูนั่งลงด้านข้าง คอยมองดูเขา ดูเหมือนเธออยากรู้อยากเห็นมาก
“ เว่อร์เกินไป น่าเกลียดจริงๆ !” จู่ๆเหยียนหรูหยูก็เอ่ยปากพูดออกมา
เป็นธรรมดาที่หยางโปจะได้ยิน แต่เขาไม่สนใจทำเป็นไม่ได้ยิน ศิลปะการต่อสู้นี้เขาได้รับถ่ายทอดมาจากปูของเยวจนเหยา เขาไม่รู้จักศิลปะการต่อสู้อื่น จริงๆก็เป็นปกติที่จะไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงมันได้เหมือนกัน
เมื่อเหยียนหรูหยูเห็นว่าหยางโปไม่สนใจ เธอก็อึ้งไปเล็กน้อย และไม่พูดอะไรอีก
พอหยางโปฝึกมวยไท่เก๊กเสร็จ สุดท้ายเหยียนหรูหยูก็เอ่ยปากพูด “ ฉันจะสอนศิลปะการต่อสู้แขนงหนึ่งให้คุณ ถือเป็นค่ารักษาพยาบาล ! ”
หยางโปตัวแข็งที่อไปทันที เขามองเหยียนหรูหยูขึ้นลงอย่างพินิจพิเคราะห์ ” คุณ ? คุณจะสอนผมงั้นเหรอ ?”
เหยียนหรูหยูพยักหน้า ” คุณไม่อยากเรียนเหรอ ? ”
หยางโปจ้องมองเหยียนหรูหยู “ คุณจะสอนอะไรผม ? ”
“ มวยเทียนหลัวแข็งแกร่งกว่าวิชาป้องกันตัวของคุณมาก ” เหยียนหรูหยูกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
หยางโปค่อนข้างที่จะสงสัย “ ศิลปะการต่อสู้นี้ใช้ได้จริงๆเหรอ ? ”
เหยียนหรูหยูทำเสียงไม่พอใจ และเข้ามาประชิดตัวแล้ว หยางโปตกใจจนถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัสถึงความอำมหิตจากเหยียนหรูหยู และยังไม่ทันที่จะก้าวถอยหลัง
เหยียนหรูหยูก็มาประชิดอยู่ด้านข้างของเขาแล้ว
หยางโปรู้สึกได้ถึงลมที่พัดเข้ามาปะทะ มือเย็นๆมือหนึ่ง สัมผัสมือของเขา จากนั้น เขายังไม่แม้แต่จะตอบสนองกลับ ก็ล้มลงบนพื้นแล้ว !
“ นี่คือมวยเทียนหลัว ” เหยียนหรูหยูกล่าว
หยางโปรู้สึกเหมือนถูกทุ่มลงพื้น เขาเจ็บปวดมาก เขาเงยหน้าขึ้นมองเหยียนหรูหยู “ ตกลง !
เหยียนหรูหยูพยักหน้า “ ดี ! ”
ต่อจากนั้น เหยียนหรูหยูก็สาธิตมวยเทียนหลัวและอธิบายรายละเอียดให้ฟังรอบหนึ่ง จากนั้นถึงได้ชำเลืองมองไปทางหยางโป ” ทำเป็นแล้วใช่ไหม ? ”
หยางโปพยักหน้า “ ผมขอทำให้ดูก่อนสักรอบหนึ่งนะ คุณช่วยผมแก้ไขให้ถูกต้องหน่อยนะ ”
ความจำของหยางโปดีมากส่วนใหญ่จำได้ทั้งหมด ไม่นานก็ฝึกฝนเรียนรู้มวยเทียนหลัวได้
หลังจากที่เหยียนหรูหยูแก้ไขไปสองรายละเอียด ถึงได้พยักหน้าให้
หยางโปฝึกฝนมวยเทียนหลัว ช่วงเริ่มแรกเขายังไม่ค่อยที่จะเห็นด้วย แต่ในขณะที่เขาฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่า หยางโปก็สัมผัสได้ถึงความลึกล้ำของมวยเทียนหลัว ทุกกระบวนท่าและทุกรูปแบบสามารถถ่ายถอดองค์ประกอบหลักที่สำคัญออกมาได้ หลังจากเอามารวมกันแล้วความยากก็จะทวีคูณเป็นสองเท่า !
พอฝึกทำตามกระบวนท่าของของมวยเทียนหลัว หยางโปก็สัมผัสได้ถึงความเร็วของพลังที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด และเขายังรู้สึกได้ถึงพลังงานโดยรอบที่พุ่งเข้ามาทางทิศที่เขาอยู่อย่างเบาๆ ศิลปะการต่อสู้นี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะช่วยเรื่องการฝึกฝนได้จริงๆ !
หยางโปประหลาดใจมาก หลังจากที่เขาเก็บกระบวนท่า ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางเหยียนหรูหยู เขางุนงงเป็นอย่างมาก ค่ารักษาพยาบาลก็ไม่ได้มากมายอะไร ทำไมอีกฝ่ายถึงมอบของขวัญราคาแพงขนาดนี้ให้เขาด้วย ?
ถ้าพูดถึงเรื่องบุญคุณที่ช่วยชีวิตไว้ แม้แต่ตัวของหยางโปเองยังไม่กล้ายอมรับเลย เพราะเขารู้ดีว่า ถ้าหากอีกฝ่ายนำเอามวยเทียนหลัวออกมาให้ได้จริงๆ นั่นก็หมายความว่า อีกฝ่ายจะไม่มีอันตรายถึงชีวิตตอนที่อยู่ในทะเลสาบ !
เมื่อเผชิญหน้ากับใบหน้าที่ประหลาดใจของหยางโป เหยียนหรูหยูกลับไม่ได้อธิบายอะไร
เธอจ้องไปที่หยางโป จู่ๆก็เอ่ยปากถามออกมาว่า ” ทำไมกระจกเทียนหลัวถึงมาอยู่ในมือของคุณได้ ? ?
หยางโปตกตะลึงไปครู่หนึ่ง “ กระจกเทียนหลัว กระจกเทียนหลัวคืออะไร ? ”
จู่ๆเธอก็หลุดพูดออกมาอย่างรวดเร็ว แต่หยางโปกลับใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเพราะเขาตระหนักได้ถึงปัญหาหนึ่ง เขามีกระจกอยู่ในมือจริงๆ แต่ถูกเขาเรียกว่ากระจกแสงจันทร์มาโดยตลอด
เวลานี้มันก็อยู่ที่กระเป๋าหน้าอกของเขา !
เหยียนหรูหยุไม่ได้พูดอะไร เธอแค่จ้องมองไปที่หน้าอกของหยางโป
หยางโปแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น “ อ้อ วันนี้อากาศดีมาก ผมพาคุณไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะเอาไหม ? ”
เหยียนหรูหยุยังคงไม่พูดไม่จา แต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่หน้าอกของหยางโป
ทำเอาหยางโปทำอะไรไม่ถูก ในขณะที่กำลังจะสารภาพ จู่ๆโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เขาก้มลงมอง ปรากฏว่าเป็นสายโทรเข้าของหลิวเหลียงอวี่ พวกเขาไม่ได้ติดต่อกันมานานมากแล้ว
หลิวเหลียงอวี่มีเรื่องอะไรถึงได้โทรหาเขา ?
* หยางโป ทำไมคุณเปิดร้านขายวัตถุโบราณใหม่แล้วล่ะ ? คุณอยู่ที่ร้านหรือเปล่า ? ”
หลิวเหลียงถาม
หยางโปรู้สึกค่อนข้างที่จะแปลกใจ “ ร้านขายวัตถุโบราณกลับมาเปิดใหม่แล้ว ? ชื่อป้ายที่ประตูเขียนว่าชื่อร้านอะไร ? ”
“ ยังคงเป็นสืออี้ถางนะ ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ! ” หลิวเหลียงอวี่กล่าว
หยางโปเข้าใจขึ้นมาในทันที “ ผมจะไปหาเดี๋ยวนี้ ! ”