เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 964 หน้าด้านไร้ยางอาย
ตอนที่ 964 หน้าด้านไร้ยางอาย
เมื่อหยางโปได้ฟังคำพูดของพ่อหยาง ก็รู้สึกว่าอุณหภูมิในรถลดลงอีกครั้ง เขารีบหันไปพูดกับ
เหยียนหรูหยูว่า “ อย่าใจร้อน ไม่ต้องกังวลไป เขาแค่พูดจาไร้สาระ ! ”
พ่อหยางรีบพูดขัดขึ้นว่า ” ฉันไม่ได้พูดจาไร้สาระ ฉันจริงจัง ! ”
เมื่อหยางโปเห็นเหยียนหรูหยูชักสีหน้า เขาก็รู้สึกว่าคงหมดหนทางช่วยชีวิตชายแก่ที่เรียกร้องหาความตายคนนี้ได้แล้ว เขาจึงเงียบทันที โดยที่ไม่พูดไม่จาอะไร
เหยียนหรูหยูหันมองไปทางด้านหลัง โดยที่ไม่พูดอะไร
หยางโปถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว เขายังคิดว่าเหยียนหรูหยูสั่งสอนพ่อหยาง แต่คิดไม่ถึงว่าจะมองแค่แวบเดียวเท่านั้น
ไม่นาน เหยียนหรูหยูก็หันหน้ากลับมา แต่ก็ยังคงไม่พูดอะไร
หยางโปยิ้ม และคิดที่จะสตาร์ทรถขับออกไปจากที่แห่งนี้ แต่จู่ๆเขาถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว
เพราะเขารู้สึกว่าหลังรถเงียบมาก เขาจึงอดไม่ได้ที่จะหันไปมองทางเบาะหลัง เมื่อเห็นพ่อหยางที่นั่งอยู่เบาะหลังตาแข็งทื่อ และเอาแต่จ้องมองมาทางด้านหน้า ด้วยสีหน้าท่าทีที่หวาดกลัว !
“ คุณทำอะไรเขา ? ” หยางโปหันไปมองเหยียนหรูหยู
เหยียนหรูหยูเหลือบมองหน้าหยางโป “ ฉันก็แค่ทำให้เขาหุบปากเท่านั้น ”
หยางโปหันหน้ากลับมาอีกครั้ง แต่กลับเห็นพ่อหยางหน้าซีดขาว กระหืดกระหอบออกมาอย่างแรง
หยางโปไม่ได้พูดอะไร และถึงกับไม่ถามอะไรมาก เขานึกถึงปฏิกิริยาของลัวย่าวหัวเมื่อวาน จู่ๆเขาก็อยากเห็นดวงตาของเหยียนหรูหยูขึ้นมา แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ไม่ได้ดู
ไม่นาน หยางโปก็ขับรถกลับมาถึงที่ร้าน และเห็นว่าจำนวนคนในร้านลดน้อยลงไปมาก
หลิวเหลียงอวี้กำลังนั่งอยู่ที่หน้าโต๊ะด้วยใบหน้าที่ค่อนข้างจะกดดันเอามากๆ
เมื่อเห็นหยางโปเดินกลับเข้ามา หลิวเหลียงอวี้ก็รีบเอ่ยถามทันที “ เป็นยังไงบ้าง ? คนไม่เป็นไรใช่ไหม ? ”
หยางโปส่ายหน้า “ ไม่เป็นไร ”
หยางโปปล่อยให้พ่อหยางลงจากรถตอนที่อยู่ข้างนอกแล้ว เพื่อให้เขาไปตามหาหยางหลาง
ส่วนตัวเขาเองย้อนกลับมาสะสางเรื่องที่ค้างคาทางนี้
“ เป็นยังไงบ้าง ? ยังเหลืออยู่กี่คน ? ” หยางโปหันไปสอบถามหลิวเหลียงอวี้
หลิวเหลียงอวี้ส่ายหัว วางของในมือลงและหันไปพูดกับทุกคนว่า ” รอสักครู่นะ ผมขอไปปรึกษากับเขาสักสองสามคำ ทุกท่านอย่าได้ร้อนใจไป จะต้องได้รับเงินคืนแน่นอน ”
มีอีกห้าหกคนที่กำลังต่อแถวอยู่ พวกเขาดูค่อนข้างกังวลใจมาก ถึงแม้พวกเขาจะรู้จัก
หลิวเหลียงอวี้ดี แต่ก็ยังคงบ่นว่าให้ ” เถ้าแก่หลิว คุณต้องรีบหน่อยนะ ! พวกเรารออยู่ที่นี่มานานมากแล้ว ! ”
หลิวเหลียงอวี้หัวเราะและขอโทษขอโพยกันไปสองสามคำ จากนั้นถึงได้ดึงหยางโปออกไปอีกด้าน ” ไม่ไหวนะ พวกเขาไม่ได้ทำบัญชีไว้เลย ดังนั้น ผมก็ไม่รู้ว่าของพวกนี้มีมูลค่าอยู่เท่าไหร่
พวกเขาเสนอราคากันสูงมาก เงินที่มีอยู่ที่นี่คงไม่พอแน่นอน ”
หยางโปมองเข้าไปข้างในร้าน ยังเหลือคนอยู่ห้าหกคนด้านใน เขาขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“ ไม่เป็นไร คุณคืนเงินไป เก็บใบเสร็จที่พวกเขาเขียนด้วยลายมือไว้ให้ดี ผมจะไปเบิกเงินมาให้ ! ”
หลิวเหลียงอวี้พยักหน้า “ งั้นคุณก็รีบไปรีบมาล่ะ ! ”
หยางโปไปที่ธนาคารใกล้ๆ และใช้บริการตู้วีไอพีกดเงินสดมาสองแสนหยวน โชคดีที่มีจำนวนตัวเลขที่เขียนไปให้ไม่มากนัก จึงจ่ายคืนไปให้เพียงห้าหมื่นหยวนเท่านั้นก็เคลียร์ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย
หยางโปถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เมื่อมองดูของเก่าในห้องที่เต็มไปหมด เขาถึงกับขมวดคิ้วขึ้นจางๆ ของพวกนี้เป็นของปลอมทั้งหมด อีกทั้งยังเป็นของปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์ !
คิดไม่ถึงว่าคนแก่พวกนี้จะหลอกได้ง่ายมากขนาดนี้ อาศัยแค่ชื่อๆหนึ่ง ก็สามารถหลอกลวงพวกเขาทั้งหมดได้แล้ว อีกทั้งยังมีคนอีกจำนวนมากที่ถึงขั้นยอมควักเงินหลายหมื่นหยวนออกมาซื้อของกันอีกด้วย !
หยางโปมองไปทางหลิวเหลียงอวี้ “ วันนี้ต้องขอบคุณคุณมากๆเลยนะ ! ถ้าไม่ใช่คุณที่โทรบอกผม เกรงว่าผลที่ตามคงไม่ต้องนึกถึงกันเลย ”
หลิวเหลียงอวี้ส่ายหน้า “ ผมก็แค่บังเอิญพบเข้า ผมยังคิดเลยว่าคุณกลับมาแล้ว เลยเดินเข้ามาสอบถาม โทรไปถามคุณเรื่องนี้ทีหลัง คิดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ”
หยางโปรู้สึกค่อนข้างที่จะอับอายขายขี้หน้า การมีคู่พ่อและพี่ชายที่แปลกประหลาดแบบนี้
มันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะเลือกได้ แต่เมื่อต้องมาเผชิญกับเรื่องแบบนี้ มันก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
หลิวเหลียงอวี้พูดพร้อมรอยยิ้ม “ คุณก็อย่าไปคิดอะไรมากอีกแล้ว ในเมื่อเรื่องก็คลี่คลายลงแล้ว
ก็ปิดร้านต่อไปเถอะ ไม่ต้องให้พวกเขายืมแล้ว ”
หยางโปพยักหน้า “ วางใจได้ ต่อไปจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก ”
กำลังจะพูดคุยกันมากกว่านี้ จู่ๆเหยียนหรูหยูก็เดินออกมา จากนั้นเธอก็มองเข้าไปในห้อง ทางด้านหลิวเหลียงอวี้ที่ไม่เคยพบกับเธอมาก่อน จึงเอ่ยปากถามไปว่า “ แม่สาว ที่นี่ไม่ขายของแล้ว ”
“ คนๆนี้เป็นเพื่อนของผมเอง เข้ามาดูสิ ” หยางโปรีบเอ่ยปากอธิบาย
หลิวเหลียงอวี้หันไปมองหยางโปด้วยรอยยิ้มเหยเก แต่ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร
หยางโปกำลังจะเอ่ยปากอธิบาย พอเงยหน้าก็เห็นพ่อหยางและหยางหลางทั้งสองคนเดินเข้าประตูใหญ่มา พ่อหยางเดินเอามือไขว่หลังเข้ามาอย่างสบายอารมณ์ ดูหยิ่งผยองมาก ดูไม่เหมือนถูกไล่ออกไปเลยสักนิด
หยางหลางเดินตามมาด้านหลัง ก็เหมือนเดิมแบบนี้แหละ เขายิ้มจางๆเดินเข้ามา
พ่อหยางเหลือบมองไปที่โต๊ะ เมื่อเห็นว่ามีเงินสดเหลืออยู่บนโต๊ะแสนกว่า ก็ตาโตขึ้นมาทันที
“ หยางโป แกก็น่าจะรู้ดีนะ ช่วงนี้เสี่ยวหลางมีชีวิตที่ไม่ดีมากนัก พวกเราจะทำธุรกิจนี้ มันก็ไม่ง่ายดาย ของเก่าและของตกแต่งในร้านขายของโบราณวัตถุนี้ล้วนถูกพวกเราซื้อมาในราคาแพง ฉันคิดว่าภายภาคหน้าแกอาจจะกลับมาเปิดร้านใหม่อีกแน่นอน เอางี้ละกัน ของพวกนี้ยกให้แกทั้งหมดก็แล้วกัน ! ”
หยางโปเหลือบมองพ่อหยาง ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความแปลกใจ “ ยกให้ผม ? ถ้างั้นคุณคิดที่จะขายเท่าไหร่ ? ”
หยางหลางก้าวมาข้างหน้า “ พวกเราเป็นพี่น้องกัน มาพูดเรื่องเงินมันทำร้ายจิตใจกันเกินไป ! ”
ในระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้น หยางหลางก็เดินเข้าไปประชิดตัวเหยียนหรูหยูแล้ว เขาจ้องมอง
เหยียนหรูหยูไม่วางตา “ สวัสดีสาวสวย ทิ้งเบอร์โทรติดต่อไว้ให้กันหน่อยสิ ! ”
เหยียนหรูหยูชายตามองเขา แต่ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร พ่อหยางก็รีบเขาไปดึงเขากลับมาอย่างทุลักทุเล “ แกทำอะไรน่ะ ? ”
หยางหลางหันไปหาพ่อ “ พ่อ ? พ่อไม่ใช่ว่ารบเร้าผมให้หาแฟนมาตลอดหรือไง ? นี่ผมจีบผู้หญิงคนหนึ่งทำตามที่พ่อสั่งไว้เลยนะ ! ”
พ่อหยางส่ายหน้า ด้วยใบหน้ายังคงหวาดกลัว “ ใครก็ได้ แต่เธอคนนี้ไม่ได้ ! ”
“ ทำไมล่ะ ? หรือว่าเขาเป็นแฟนของเสี่ยวโป ? ” หยางหลางรู้สึกไม่ค่อยจะพอใจ
พ่อหยางค่อนข้างที่จะโมโห “ ฉันไม่สนใจหรอกว่าเธอจะเป็นใคร แต่แกจีบเธอไม่ได้ ! ”
หยางหลางค่อนข้างจะแปลกใจ แต่เวลานี้ เขาก็พูดอะไรมากไม่ได้
พ่อหยางเหลือบมองไปทางเหยียนหรูหยู จากนั้นก็หลบไปทางด้านข้าง จากนั้นถึงได้มองไปทาง
หยางโป เขาชี้ไปบนโต๊ะ “ ที่นี่ตกแต่งเสียเงินไปสองแสนกว่าหยวน แกเอาเงินที่อยู่บนโต๊ะให้พวกเรา พวกเราก็จะคืนที่นี่ให้แก ยิ่งไปกว่านั้น พวกเราก็ยังขาดทุนไปมากโขอยู่ ”
หยางโปมองหน้าพ่อหยาง แต่ไม่พูดว่าอะไร เขารู้สึกว่าพ่อหยางดูเหมือนจะไม่รู้ว่าอะไรคือความหน้าด้านไร้ยางอาย
การซ่อมแซมตกแต่งที่นี่พวกเขาตกแต่งหรือยังไงกัน ? นี่มันของตกแต่งเดิมที่มีอยู่แล้ว พวกเขาแค่ซื้อของเก่าในตลาดมา ชั้นวางของสองสามตัว ซื้อโต๊ะและเก้าอี้มาอย่างละตัว ร่วมกับภาพวาด เครื่องลายครามปลอมพวกนั้น มากสุดก็แค่ลงทุนไปไม่กี่พันหยวน ! จะเป็นแสนหยวนไปได้ยังไงกัน
“ พวกคุณไม่จบกันใช่ไหม ? ” หยางโปจ้องหน้าพ่อหยางและเอ่ยปากถาม
พ่อหยางถึงกับนิ่งอึ้งไปทันที เขารู้ดีอยู่แก่ใจ หยางโปเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบพูด ถึงขั้นที่ว่าไม่ว่าเขาจะเอ่ยปากขออะไร หยางโปก็ไม่เคยปฏิเสธ แต่ทำไมรอบนี้เขาถึงพูดแบบนี้ออกมาได้