เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 974 ทะเลาะกันเรื่องขึ้นก
ตอนที่ 974 ทะเลาะกันเรื่องขึ้นก
หยางโปนั่งรออยู่แต่ในห้องนั่งเล่น และรออยู่นานมาก เขาไม่รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวใดๆ นี่ไม่เพียงทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ เขาจึงเปิดหน้าต่าง และมองออกไปด้านนอก ด้านนอกเงียบกริบไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนอย่างที่คาดการณ์ไว้
หรือว่าเขาอ่อนไหวเกินไป ?
หยางโปตกตะลึง เขาอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมอง แต่มองแค่แวบเดียว เขาก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปเลย เพราะเขาเห็นเงามืดมิดอยู่เหนือศรีษะของเขา มันอยู่เหนือยอดตึกไปหลายสิบเมตรกลางอากาศ นกและแมลงกลุ่มหนึ่งเรียงแถวกันอย่างเรียบร้อยบนหลังคา ดูเหมือนพวกมันกำลังจ้องมองเหยื่ออยู่ แต่พวกมันแค่ก้มหน้ามองลงมาด้านล่าง แต่พวกมันไม่กล้าบินลงมา !
หยางโปจ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านบนศีรษะ และถึงกับตกตะลึงไปเลย เมื่อสักครู่เขายังคิดอยู่เลยว่า ครั้งนี้คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ไหนเลยจะคิดไม่ถึงว่า จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น !
เขารีบไปปิดหน้าต่าง แต่ในใจก็กำลังคิดว่า หนอนแมลงพวกนี้จะเข้ามาชนหน้าต่างของเขาเหมือนครั้งก่อนอยู่อีกไหม ?
โชคดีเรื่องที่หยางโปเป็นกังวลไม่เกิดขึ้น รอจนกระทั่งหลูตงซิงฝึกฝนจนสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี หยางโปถึงได้เปิดหน้าต่างออกมาอีกครั้ง หนอนแมลงที่อยู่ด้านนอกต่างก็กระจายหายไปแล้ว
เมื่อหลูตงซิงเห็นหยางโปรออยู่ด้านอกตลอดเวลา ก็รู้สึกซาบซึ้งใจมาก “ นายรีบไปพักผ่อนเถอะ ! ”
หยางโปพยักหน้า “ คุณไปล้างหน้าบ้วนปากหน่อย และก็รีบไปพักผ่อนเถอะ ! ”
“ ไม่เป็นไร ผมจะกลับไปตอนนี้ คนขับรถยังรอผมอยู่ที่ชั้นล่างของตึก ! ” หลูตงซิงเอ่ยปากปฏิเสธ
เมื่อหยางโปเห็นว่าหลูตงซิงเหงื่อชุ่มไปทั้งตัว และดูเหมือนจะมีกลิ่นตัว เขาจึงอดที่จะส่ายหน้าไม่ได้ “ อาบน้ำก่อนแล้วค่อยกลับเถอะ ! ”
หลูตงซิงโบกมือ และหันหลังเดินออกไป
หยางโปก็ไม่ได้เอ่ยปากเตือนมาก เดินกลับเข้าห้องและนั่งสมาธิต่อ
เช้าตรู่วันที่สอง หยางโปกำลังจะเตรียมตัวไปออกกำลังกาย จู่ๆ เหยียนหรูหยูก็มาปรากฏตัวอยู่ด้านหลังเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขากลับไปไม่ได้พูดอะไรมาก พาเหยียนหรูหยูเดินออกไปด้วย
แต่เพิ่งจะมาถึงชั้นล่างของตึก หยางโปก็ต้องตกตะลึงไปทันที เพราะเขาเห็นมีผู้คนจำนวนมากยืนอยู่ด้านล่างตึก ชายชราและหญิงชราในที่อาศัยอยู่ในเขตชุมชมจำนวนมากต่างพากันยืนอยู่ในสวนสาธารณะขนาดเล็ก กำลังพูดคุยกันเสียงดัง
“ นี่มันเกิดเรื่องวิบัติอะไรขึ้นกันเนี่ย ทำไมถึงได้มีขี้นกเยอะขนาดนี้ ? เมื่อวานตอนเย็นฉันตากผ้าห่มไว้ลืมเก็บ พอเช้าวันนี้มาดูอีกทีบนผ้าห่มก็เต็มไปด้วยขี้นกแล้ว ! ”
“ ของคุณก็แค่ผ้าห่มผืนเดียว แต่เสื้อผ้าของลูกสะใภ้ฉันนี่สิ ซื้อมาในราคาหลายพันหยวน มีขี้นกเต็มไปหมดเลย ! ”
“ ปีนี้มันเป็นปีหายนะอะไรกันเนี่ย ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ ? นกพวกนี้บินมาจากไหนตั้งเยอะแยะ ? ฉันตื่นมาตอนเช้าก็เหยียบโดนขี้นกแล้ว ! ”
“ เหล่าซุน พวกคุณยังพอจะจำเขาได้ไหม ? วันนี้เช้าตอนที่ออกมา เขาเดินเหยียบใส่ขี้นกจนหกล้มขาหักไปแล้ว ! ”
หยางโปเดินผ่านไปทางด้านข้าง เมื่อได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์แบบนี้ ก็อดที่จะรู้สึกขอโทษไม่ได้ แต่เวลาแบบนี้ เขาก็คงไม่มีทางโดดออกไปบอกว่าเรื่องนี้เป็นความผิดของเขา ต่อให้เขาอยากจะยอมรับแค่ไหน คนอื่นเขาจะเชื่องั้นเหรอ ?
เมื่อหยางโปก้มหน้าลงมองก็เห็นว่าใต้เท้าเต็มไปด้วยขี้นก เขาจึงทำได้พียงเดินเขย่งเท้าออกไป
แต่ต่อให้จะเป็นแบบนี้ มันก็ยากที่เขาจะเดินออกไปได้
หลังจากกระโดดออกไปได้ระยะหนึ่งแล้ว หยางโปถึงได้หนีจากบริเวณที่รายล้อมของขี้นกออกมาได้ เขาหันไปมองด้านหลังและไม่รู้ว่า เหยียนหรูหยูออกมาได้ยังไง ถึงได้มายืนอยู่ข้างหลังเขาได้
หยางโปไม่อยากถามจ้ำจี้จ้ำไชมาก เพราะเขาอยากจากไปให้เร็วที่สุด ในตอนที่กำลังจะออกไปจากที่นั่น ก็มีกลุ่มคนมาล้อมตัวชายวัยกลางคนคนหนึ่งเอาไว้
“ ศาสตราจารย์หวางมาแล้ว เขาเป็นนักชีววิทยาที่มีชื่อเสียง หวังว่าเขาจะสามารถสรุปผลที่น่าเชื่อออกมาให้ได้ ! ”
“ ผมได้เชิญนักข่าวจากสถานีโทรทัศน์ของเมืองมาด้วย ยังมีนักข่าวที่รายงานข่าวค่ำของจินหลิงมาด้วย เรื่องนี้จะต้องจัดการให้เรียบร้อย ! ”
“ ใช่ จะต้องให้ความเป็นธรรมกับเรา ! ”
เมื่อหยางโปได้ยินเรื่องราวพวกนี้ ก็หยุดอยู่กับที่ และหันหน้ากลับไปมองทางด้านหลัง
หยางโปเห็นนักข่าวรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ในที่เกิดเหตุ และยื่นไมโครโฟนสัมภาษณ์ให้ศาสตราจารย์หวาง พร้อมทั้งทำการสัมภาษณ์ “ ศาสตราจารย์หวาง เรื่องนี้มันคือปรากฏการณ์อะไรกันแน่ คุณพอที่จะอธิบายรายละเอียดให้ฟังได้ไหม ? ”
ศาสตราจารย์หวางสวมแว่นกรอบทอง เขาฉีกยิ้มส่งให้จางๆ ” เมื่อเช้านี้ตอนที่ได้รับโทรศัพท์
ผมก็รู้สึกประหลาดใจมาก เพราะเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นที่จินหลิงของเรามาก่อน หมายถึงปรากฏการณ์ที่กลุ่มนกมารวมตัวกันทางกายภาพ ”
“ ตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้รับแจ้งข่าวสารอื่นๆ ไม่มีการอพยพของนกขนาดใหญ่ในเมืองใกล้เคียง
แต่ถ้าดูจากปริมาณมูลนกที่นี่แล้ว น่าจะมีนกมารวมกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่หาได้ยากมาก ผมก็ได้รายงานปรากฏการณ์ดังกล่าวขึ้นไปแก่เบื้องบนแล้ว ในอนาคตอันใกล้ พวกเราจะเพิ่มการบันทึกและตรวจสอบการอพยพของนกอพยพที่อยู่โดยรอบมากขึ้น หวังว่าจะค้นหาสาเหตุได้ในเร็ววัน ”
หยางโปที่ยืนอยู่ด้านข้างเมื่อได้ฟังคำอธิบายของผู้เชี่ยวชาญ ก็ส่ายหน้าเล็กน้อย แต่ก็ไม่พูดอะไรมาก เขาหันหลังและเดินจากไป
แต่คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ หลังจากที่นักข่าวสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว จะหันมา ไล่ตามไปหยุดอยู่ตรงหน้าหยางโป ” คุณผู้ชาย คุณเป็นเจ้าของอาคารนี้ใช่หรือเปล่า ? ”
หยางโปตกใจทันที แต่ก็ยังยอมรับตอบกลับไป “ ใช่ ผมเป็นเจ้าของตึกนี้ ”
“ สวัสดีค่ะ ขอสอบถามหน่อยนะคะ เรื่องเมื่อคืนวานคุณได้รับความเสียหายอะไรไหม ?
คุณคิดว่าเรื่องนี้มีสาเหตุความเป็นไปได้คืออะไรค่ะ ? ” นักข่าวสอบถาม
หยางโปครุ่นคิดสักพัก “ ผมเก็บของของผมเข้าห้องหมดแล้ว ดังนั้นเลยไม่มีอะไรเสียหาย
แค่เข้าออกไม่สะดวกเท่านั้น แต่สำหรับสาเหตุ ผมคิดว่าที่มูลนกมากระจุกตัวอยู่ด้วยกัน
บางทีอาจเป็นแค่เรื่องบังเอิญก็ได้ ”
เมื่อศาสตราจารย์หวางได้ยิน ก็รีบอธิบายและโต้กลับไปอย่างรวดเร็ว “ นี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน จากที่ผมดู มูลนกพวกนี้เป็นของนกสายพันธุ์เดียวกัน จึงมีความเป็นไปได้สูงมากที่นกจะอพยพ สำหรับการวิจัยนกอพยพของเราแล้ว มันเป็นทิศทางการวิจัยที่ดีมาก ”
หยางโปโบกมือ “ ผมก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ถ้าอย่างนั้นพวกคุณก็เชิญตามสบายนะ ! ”
พอพูดจบ หยางโปก็ไม่พูดอะไรอีก แต่ได้ยินศาสตราจารย์หวางพูดต่อไปว่า “ ในเมื่อเขาเป็นเจ้าของ แต่พวกเขากลับไม่เข้าใจถึงข้อเท็จจริง ยังคงต้องให้พวกเราโน้มน้าวอธิบายความจริงให้พวกเขาฟังอยู่ ! ”
ในระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้น จู่ๆศาสตราจารย์หวางก็รู้สึกว่าร้อนๆบนใบหน้า เขานิ่งอึ้งไปทันที จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองไปมา แต่ก็ไม่เห็นอะไรเลย แต่ทางด้านนักข่าวถึงกับนิ่งเงียบไปเลย
ศาสตราจารย์หวางรู้สึกค่อนข้างที่จะเสียใจ เขาเอื้อมมือไปแตะหน้าตัวเอง และยิ้ม
“ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ”
จากนั้นเขาก็ลดมือจากใบหน้าลงมา ศาสตราจารย์หวางถึงกับอึ้งไปเลย ดำปนขาว คิดไม่ถึงว่าจะเป็นขี้นก !
“ จะเป็นไปได้ยังไง ? ทำไมมีขี้นกอยู่อีก ! ” พอศาสตราจารย์หวางเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นนกตัวหนึ่งบินออกไปไกล !
หลายคนในที่เกิดเหตุต่างพากันหัวเราะฮ่าๆเสียงดัง จู่ๆศาสตราจารย์หวางก็รู้สึกว่าเขาขายหน้ามาก !
หยางโปเหลือบไปมองทางด้านหลัง แต่กลับไม่ได้แยแส จากนั้นเขาก็เดินตรงไปด้านหน้า
พอเดินออกมาได้สักระยะ จนกระทั่งข้างกายไม่มีใครอยู่ หยางโปถึงได้หันไปมองเหยียนหรูหยู
” เมื่อตะกี้คุณทำใช่ไหม ? ”
เหยียนหรูหยูมองไปรอบๆ “ อะไรงั้นเหรอ ? ”
“ ผมถามว่า คุณเป็นคนให้นกขี้ใส่หน้าเขาใช่ไหม ? ” หยางโปถาม
เหยียนหรูหยูส่ายหน้า “ ฉันจะทำเรื่องอุบาทแบบนั้นได้ยังไง ? ”
หลังจากลังเลอยู่สักพัก หยางโปก็มองไปที่เหยียนหรูหยูอีกครั้ง “ เมื่อคืน ผมเห็นนกจำนวนมากบินมาหยุดอยู่บนท้องฟ้า พวกมันดูเหมือนจะกระโจนบินลงมา แต่ดูเหมือนว่ากำลังกลัวอะไรบางอย่าง อยู่ ? เป็นฝีมือคุณใช่ไหม ? ”