เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 979 ปลอมตัวเป็นผู้กระทําความผิด
ตอนที่ 979 ปลอมตัวเป็นผู้กระทําความผิด
เวลานี้บอดี้การ์ดก็เดินเข้ามา เขามองไปที่หลินหลินด้วยสีหน้าเศร้าเสร้อย เขากระซิบเสียงเบา
” คุณผู้ชาย เด็กผู้หญิงสองคนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส หนึ่งในนั้นช่วยชีวิตไว้ไม่ได้ ”
หยางโปตกตะลึง “ เธอเสียแล้วงั้นเหรอ ? ”
บอดี้การ์ดพยักหน้าและไม่พูดอะไรอีก
หยางโปโบกมือ “ แล้วอีกคนล่ะ ? ”
“ บาดเจ็บเล็กน้อย ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ ” บอดี้การ์ดกล่าว
หยางโปมองเข้าไปข้างใน ด้วยความรู้สึกที่สับสน จากนั้น เขาเห็นประตูห้องผ่าตัดเปิดออก พยาบาลดันเตียงผ่าตัดเดินออกมา บนเตียงผ่าตัดมีผ้าขาวคลุมปิดอยู่ มองเห็นร่างใต้ผ้าขาวได้คลุมเครือ
หยางโปรู้สึกสับสนมาก อยากเข้าไปเปิดผ้าออกดู แต่ก็กลัวว่าตัวเองจะอดโมโหไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะมีบอดี้การ์ดมาด้วย เกรงว่าคงที่นอนอยู่ที่นี่คงจะเป็นหลินหลินไปแล้ว !
“ คุณเป็นญาติผู้ป่วยใช่ไหม ? ” พยาบาลสอบถาม
หยางโปมีอาการลังเลเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงทุ่มต่ำ “ ผมขอดูหน่อยได้ไหม ? ”
พยาบาลเหลือบมองเขาโดยไม่พูดอะไร
หยางโปก้าวไปข้างหน้า เขาค่อยๆเปิดผ้าคลุมสีขาวออกช้าๆ เห็นใบหน้าที่บอบบางของเด็กหญิงวัยสิบสองสิบสามปี ดวงตาของเธอเบิกกว้าง เหมือนจ้องมองหยางโปอยู่แบบนั้น !
หยางโปรู้สึกปวดใจ เขาเอื้อมมือค่อยๆลูบตาเธอปิดลง ถ้าเป็นแต่ก่อนเขาไม่มีทางทำแบบนี้แน่
แต่วันนี้เขารู้สึกว่าตัวเองควรทำแบบนี้ เพราะเด็กผู้หญิงคนนี้มารับเคราะห์แทนหลินหลิน !
แต่พอฝ่ามือของหยางโปลูบลง ดวงตาของเด็กหญิงตัวเล็ก ก็ยังคงเบิกโพลง !
พยาบาลที่ยืนอยู่ด้านข้าง กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ” ยังเด็กอยู่เลย ”
หยางโปมองเด็กหญิงตัวน้อย “ หนูจากไปอย่างสบายใจเถอะนะ ไม่ต้องกังวล ฉันไม่ปล่อยผู้กระทำความผิดไปแน่ ! ”
ในขณะพูด หยางโปก็ค่อยๆปิดตาของเด็กหญิงตัวเล็กอีกครั้ง ในที่สุดเธอก็ปิดตาลงและจากไปอย่างสงบ
พยาบาลคลุมผ้าขาวอีกครั้ง ตรงกลางผ้าขาวเต็มไปด้วยรอยเลือด มันดูบาดตามาก !
เมื่อเตียงถูกเข็นออกไป หยางโปก็ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งมากันอย่างรีบเร่งดังมาจากด้านนอก ชั่วครู่ก็มีเสียงร้องไห้บีบหัวใจดังเข้ามาไม่ไกล ลูกคนหนึ่งก็คืออนาคตและความคาดหวังของครอบครัวหนึ่ง !
หยางโปเดินกลับไปที่ห้องผู้ป่วย เห็นหลินหลินพันแผลเสร็จแล้ว เธอหันมองมาอย่างร้อนใจ
“ เสี่ยวโป สาวน้อยสองคนนั้นเป็นยังไงบ้าง ? พวกเธอไม่เป็นไรใช่ไหม ? ”
หลินหลินจ้องมองหยางโปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล น้ำตาเอ้อล้นอยู่ในเบ้าตา
เกือบจะร่วงหล่นลงมา
หยางโปลังเลเล็กน้อย ส่ายหน้าแล้วเอ่ยออกมาว่า “ ไม่เป็นไร แม่สบายใจได้ ”
หลินหลินส่ายหน้า เธอชี้ออกไปข้างนอก ” ลูกไม่ต้องมาโกหกแม่หรอก เสียงร้องไห้ด้านนอกดังขนาดนั้น แม่จะไม่รู้ได้ยังไง ? ”
หยางโปก้าวไปข้างหน้าอย่างช่วยอะไรไม่ได้ ตบไหล่แม่เบาๆ “ แม่ไม่ต้องเสียใจ เรื่องนี้ต้องลงโทษผู้กระทำความผิดอย่างหนัก เพื่อช่วยพวกเขาเรียกร้องความยุติธรรมกลับคืนมา ! ”
หลินหลินยืนขึ้นและเดินออกไปข้างนอก ระหว่างทางเดิน เธอเห็นพ่อแม่ของเด็กร้องไห้อย่างขมขื่นและเจ็บปวด พ่อแม่ของเด็กดูเหมือนจะอายุสามสิบกว่า พวกเขากอดร่างของเด็กสาวไว้
แล้วร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด !
เมื่อหลินหลินเห็นฉากนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตา เธอหันกลับมามองหยางโป ” เห็นพวกเขาแล้วทำให้แม่นึกขึ้นมาได้ ตลอดหลายปีมานี้ ทุกครั้งที่แม่คิดถึงลูก แม่ก็อดน้ำตาตกไม่ได้เหมือนกัน ! ”
หยางโปยืนอยู่ข้างกาย กอดแม่เอาไว้ “ แม่ ! ”
พ่อของเด็กได้สติกลับมาก่อน เขาดึงแม่ของเด็กไว้ “ จะต้องให้ผู้กระทำความผิดมารับโทษให้ได้ พวกเราไปที่สถานีตำรวจกันเดี๋ยวนี้ จะต้องเห็นพวกเขาจับผู้กระทำผิดมาด้วยตาตัวเองให้ได้ ! ”
แม่ของเด็กร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลอย่างเจ็บปวด “ เสี่ยวซียังเด็กมาก ทำไมเธอถึงจากไปแบบนี้ ! เสี่ยวซี ลูกอย่าทิ้งพวกเราไป ! ”
หลังจากร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดไปได้ไม่นาน ทันใดนั้นแม่ของเด็กก็เสียงเงียบหายไป
ทุกคนจึงมากรูกันเข้ามาดู และเห็นว่าเธอเป็นลมไปแล้ว
ยุ่งกันอยู่อีกพักหนึ่ง แพทย์ก็กดไปที่จุดใต้จมูก จนช่วยชีวิตแม่ของเด็กให้ฟื้นกลับมาได้
เธอเงยหน้าขึ้นและมองไปรอบๆ “ ฉันอยู่ที่ไหน ? ”
ทุกคนที่รายล้อมอยู่ อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา ความเจ็บปวดจากการสูญเสียลูกสาว คงเจ็บปวดรวดร้าวใจมากจริงๆ !
พ่อของเด็กขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ” ฉันจะต้องให้คนร้ายมารับโทษอย่างหนักให้ได้ จะต้องให้คนร้ายมารับโทษอย่างหนักให้ได้ ! ”
ในขณะที่พูดอยู่นั้น ก็หันไปโค้งตัวก้มหน้าแสดงความเคารพต่อหมอ ” รบกวนทุกท่านช่วยดูแลให้ผมด้วย ผมจะไปที่สถานีตำรวจ ขอบคุณทุกท่านมากครับ ! ”
เขาวิ่งออกไปด้านนอกอย่างไม่ลังเลเลย !
หลินหลินที่ยืนอยู่ข้างๆ เห็นทุกการกระทำ เธอหันไปผลักหยางโป ” ลูกไม่ต้องสนใจแม่ ลูกรีบไปช่วยเถอะ จะต้องช่วยเขาให้ได้นะ ! ”
หยางโปได้สติกลับมา หันมาพูดกับฮัวชิงหยุน “ ดูแลแม่ดีๆนะ ฉันจะไปดูทางนั่นก่อน ! ”
ฮัวชิงหยุนพยักหน้า ” นายก็ระวังตัวด้วย คนพวกนั้นไม่ใช่คนดี ! ”
หยางโปพยักหน้าทันที “ ไม่ต้องกังวล ”
หยางโปรีบเดินออกไป ลัวย่าวหัวเองก็ไม่ลังเล รีบวิ่งตามออกไป เหยียนหรูหยูเองก็ตามออกไปด้วยเช่นกัน
ฮัวชิงหยุนมีสีหน้าไม่ค่อยชอบใจ เธอจ้องมองมองตามแผ่นหลังของเหยียนหรูหยู ด้วยสีหน้าที่ช้ำใจแต่ต้องฝืนทนไว้
หลินหลินตบมือของฮัวชิงหยุน ” ชิงหยุน อย่ากังวลไปเลย ผู้หญิงคนนี้เย็นชาเกินไป หนูไม่รู้สึกเหรอว่าเธอไม่กินข้าวเลย ? ”
ฮัวชิงหยุนหันมองไปทางหลินหลิน ” คุณป้า ถ้าหนูพูดอะไรอย่าถือสานะคะ ”
หลินหลินเอ่ยถาม “ มีเรื่องอะไรเหรอ ? ”
ฮัวชิงหยุนมองตามหลังเหยียนหรูหยูที่เดินจากไป และกระซิบเสียงเบาว่า ” ทุกครั้งที่หนูเห็นผู้หญิงคนนั้น เธอจะไม่กินข้าวเลย ”
หลินหลินตกตะลึงทันที แต่ก็ยังพูดปลอบโยนไปว่า ” หนูอย่าไปคิดมาก เรื่องนี้ให้หยางโปไปจัดการเองเถอะนะ ! ”
ฮัวชิงหยุนยังคงลังเลใจ แต่ก็ทำได้เพียงต้องอดกลั้นเอาไว้
หยางโปตามไม่ทันชายคนนั้น พอเขาลงมาที่ชั้นล่างตึก ชายคนนั้นก็ขึ้นไปนั่งอยู่ในรถแท็กซี่แล้ว
หยางโปจึงต้องพาลัวย่าวหัวและเหยียนหรูหยูขึ้นรถไล่ตามรถแท็กซี่ไป บนท้องถนนรถค่อนข้างที่จะติด โชคดีที่หยางโปมีทักษะในการขับขี่ที่ดีจึงสามารถที่จะไล่ตามมาทัน
เมื่อหยางโปและพรรคพวกหยุดรถและเข้าไปในสถานีตำรวจ พวกเขาก็ได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวายดังมาจากในสถานีตำรวจ หลังจากเข้าไปแล้ว หยางโปก็เห็นชายคนนั้นกำลังฉุดกระชากอีกคนหนึ่งไว้และตะโกนเสียงดังว่า “ ทั้งหมดมันเป็นความผิดของแก เป็นเพราะแกลูกสาวของฉันถึงต้องตาย ! ”
“ จางลี่หยง คุณปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะ ! ” ตำรวจรวมตัวกันเข้ามาดึงชายคนนั้นออกไป
จางลี่หยงจ้องมองอีกฝ่ายตาเขม็งด้วยความโกรธจัด “ เป็นเพราะแก ที่ทำให้ครอบครัวของฉันบ้านแตกสาแหรกขาด ! ”
หยางโปเงยหน้าขึ้นมองผู้กระทำความผิด อีกฝ่ายดูจะอายุราวๆสี่สิบกว่าปี เอาแต่ก้มหน้าไม่พูดไม่จา
ตำรวจคนหนึ่งคว้าตัวจางลี่หยงเอาไว้ ” เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ ? เด็กถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไปแล้ว อาการเป็นยังไงบ้าง ? ”
“ เด็กตายแล้ว ” จางลี่หยงพูดด้วยความเจ็บปวด
ตำรวจสีหน้าเต็มไปด้วยอาการตกใจ เขามองหน้าจางลี่หยง ” ขอแสดงความเสียใจด้วย ! ”
หยางโปก้าวมาข้างหน้า เขามองมาทางตำรวจแล้วเอ่ยถามว่า “ รถคันที่ชนคนยี่ห้ออะไร ? ”
ตำรวจเหลือบมองหน้าหยางโป ” คุณคือ ? ”
“ แม่ของผมก็อยู่ในที่เกิดเหตุด้วยเวลานั้น เกือบถูกชนเข้าให้แล้ว แต่เธอโชคดีหน่อย ที่คนอื่นกระชากตัวออกไปก่อนเลยบาดเจ็บแค่เล็กน้อย หลังเห็นเด็กหญิงเสียชีวิต พ่อของเด็กผู้หญิงเลยรีบวิ่งออกมา แม่ของผมกลัวจะเกิดอะไรขึ้นกับพ่อของเด็ก เลยให้ผมตามมาดู ” หยางโปกล่าว
ตำรวจพยักหน้าและรู้สึกประทับใจต่อหยางโปมากขึ้น จึงอธิบายให้ฟังว่า ” เป็นรถเฟอร์รารี่สีแดง ”
ลัวย่าวหัวที่ยืนข้างๆ ชี้ไปที่ผู้กระทำความผิดและสอบถามว่า ” ผมคิดว่าควรตรวจสอบตัวตนของผู้กระทำความผิดให้ละเอียด ผมคิดว่าเขาไม่มีทางมาขับรถเฟอร์รารี่ได้แน่ๆ ! ”