เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 984 รับภารกิจ
ตอนที่ 984 รับภารกิจ
ซุนคุนหลินโกรธมาก เขาจ้องมองผู้เฒ่าชุยตาเขม็ง แต่กลับไม่กล้าพูดอะไร ชายชราผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่าเขา แค่กลุ่มเพื่อนร่วมรบของชายชราก็สามารถสาปแช่งให้เขาตายได้แล้ว !
ซุนคุนหลินฮึดฮัดไม่พอใจ หันหลังเดินออกไป
หยางโปและชายชราเดินออกไป เขาเหลือบมองหน้าชายชรา และเอ่ยปากพูดว่า “ ปู่ เรื่องนี้มันค่อนข้างมีลับลมคมใน ปู่ให้ผมไปดูเถอะนะ ”
“ แกเพิ่งเรียนรู้ทักษะมาได้ไม่เท่าไหร่ ปีกกล้าขาแข็งแล้วใช่ไหม ? ” ชายชราพูดด้วยความโมโหเดือดดาล
หยางโปไม่มีทางเลือก มันก็เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่เข้าใจ เพราะเขาเรียนรู้ความสามารถกับ
อวี้เหวินมามากมายแล้ว เขาเลยทำได้เพียงตอบกลับไปว่า “ ปู่วางใจได้ ผมไม่เป็นอะไรหรอก ! ”
ชายชรายังคงไม่ค่อยพอใจ สะบัดแขนโยนนามบัตรใส่เขา “ ในเมื่อแกปีกกล้าขาแข็งแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ไปเถอะ ! ”
พอพูดจบ ชายชราก็หันหลังเดินจากไป
หยางโปมองตามร่างเดินกะเผลกของชายชรา ก็รู้สึกรักอย่างสุดหัวใจ ความหมายของชายชราเขารู้ดี แต่เขารู้สึกว่าเรื่องนี้มันค่อนข้างจะแปลกจริงๆ เขาก้มลงเก็บนามบัตรขึ้นมา และเดินกลับเข้าไปในห้อง เหล่าหูยังคงอยู่ด้านในรอเขาอยู่
ซุนคุนหลินยืนอยู่ไม่ไกล มองดูหยางโปด้วยรอยยิ้มจางๆ ลูกชายของเขาติดคุก เขาไม่มีทางให้
หยางโปอยู่อย่างเป็นสุขเช่นกัน แค่ให้เขาเดินทางไปที่พื้นที่เขตเสฉวน-กุ้ยโจว คิดว่าคงรอดกลับมายาก
เหล่าหูมาถึงจุดนี้ได้ คงไม่ใช่คนที่เดินผ่านไปผ่านมาแค่นั้น ระดับขั้นของเขายังสูงกว่าชุยซื่อหยวนไปหนึ่งขั้น มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยในการทำงาน เขาส่งเอกสารมอบรายละเอียดชุดหนึ่งให้หยางโป และสั่งกำชับไปว่า “ ทางเราจะจัดคนให้คอยช่วยเหลือนาย หลังจากนายไปถึงที่เกิดเหตุ จะต้องระมัดระวังตัวด้วย ”
หยางโปพลิกดูเอกสาร พยักหน้าและเอ่ยขึ้นว่า “ วางใจได้ ”
เมื่อกลับมาถึงเรือนสี่ประสาน หลินหลินก็ทำอาหารรอเต็มโต๊ะแล้ว หยางโปรู้สึกลังเลเล็กน้อย
เขาเรียกลัวย่าวหัวให้เข้าไปหาที่ห้องหนังสือ จากนั้นเขาก็หยิบกล่องใบหนึ่งออกมาจากลิ้นชัก
และส่งมันให้ลัวย่าวหัวพร้อมกับพูดว่า “ ของชิ้นนี้ นายช่วยฉันเอาไปส่งให้อวี้เหวินที ”
ลัวย่าวหัวมองไปที่กล่อง “ นี่คืออะไร ? ทำไมห่อไว้ดีแบบนี้ ”
“ นี่คือโสมคนพันปี ” หยางโปตอบ “ นายวางใจได้ ของนายกับหลูตงซิงฉันแบ่งไว้ให้พวกนายแล้ว นี่คือส่วนของฉัน ถ้าให้คนอื่นเอาไปส่งให้ ฉันไม่วางใจ ”
ลัวย่าวหัวตาโต เขาหันไปมองหยางโป “ ยังเหลือไว้ให้ฉันด้วยใช่ไหม ? ”
หยางโปพยักหน้า “ การดึงพลังลมปราณเข้ามาในร่างกาย มันเป็นขั้นตอนหนึ่งที่ซับซ้อน ส่วนตำราลับฉันได้ส่งมอบให้นายไปแล้ว รอหลังจากที่ไปถึงที่อเมริกาแล้ว นายก็เอา ( คัมภีร์มวยไท่เก๊ก )ออกมาให้อวี้เหวินดู แล้วให้เขาช่วยปรับบางส่วนให้ดีขึ้น นี่เป็นส่วนที่ฉันทำไม่ได้ ”
ใบหน้าของลัวย่าวหัวเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “ ดีเลย แล้วจะให้ฉันไปเมื่อไหร่ ? ”
“ วันนี้ตอนบ่าย นายรีบไปเลย ! ” หยางโปตอบ
พลังของหยางโปดำเนินมาถึงขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว ถ้าต้องการเข้าสู่ระดับต่อไปจริงๆ ก็ทำได้เพียงขัดเกลามันอย่างช้าๆ เขาไม่จำเป็นต้องใช้โสมอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะส่งมอบโสมให้ ตอนนี้เขากำลังจะไปที่เขตพื้นที่เสฉวน-กุ้ยโจวเร็วๆนี้ไม่รู้ว่าจะคลี่คลายสถานการณ์ได้เมื่อไหร่
เวลานี้จึงต้องให้ลัวย่าวหัวไปเป็นธุระให้เท่านั้น
ลัวย่าวหัวไม่ทันนึกถึงเรื่องพวกนี้เลย เมื่อเขาคิดขึ้นมาได้ว่าหยางโปแบ่งโสมไว้ให้เขา ก็อดที่จะมีสีหน้าเต็มไปด้วยความดีใจไม่ได้
หลังจากกินข้าวกลางวัน หยางโปก็ส่งคนไปส่งลัวย่าวหัว เมื่อเห็นแม่และฮัวชิงหยุนกำลังคุยกันอยู่ เขาจึงเข้าไปนั่งด้วยแต่จู่ๆ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
หลินหลินดูออกว่าหยางโปกลัดกลุ้มใจ จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถาม ” เมื่อเช้าคุณปู่เรียกหาลูกเรื่องอะไร ? ”
หยางโปมีอาการลังเลเล็กน้อย “ คุณปู่มอบหมายงานให้ผมมางานหนึ่ง อยากให้ผมไปแถวเขตพื้นที่เสฉวน-กุ้ยโจวดูสักครั้ง ”
“ เขตพื้นที่เสฉวน-กุ้ยโจว ? ” หลินหลินรู้สึกประหลาดใจ “ ทำไมถึงได้มอบหมายงานแบบนี้ให้ลูก ? เขาต้องการให้ลูกไปทำอะไร ? ”
หยางโปลังเลเล็กน้อยและเอ่ยตอบไปว่า “ รายละเอียดเรื่องเป็นยังไง เขาก็ไม่ได้แจ้งมาอย่างชัดเจน แค่บอกว่าจะมีคนมารับผมเมื่อไปถึงที่นั่น จากนั้นถึงจะบอกกับผม ”
ฮัวชิงหยุนที่นั่งข้างๆ ” ฉันจะไปกับนาย บางทีอาจช่วยอะไรได้ ”
หยางโปส่ายหน้า “ เรื่องนี้ต้องเก็บเป็นความลับ ฉันยังไม่ทราบรายละเอียด เธออยู่เป็นเพื่อนแม่ที่บ้านเถอะ สองสามวันฉันคงจะกลับมาแล้ว ”
ฮัวชิงหยุนเอ่ยขึ้นว่า ” ฉันไม่ไปถ่วงแข้งถ่วงขาคุณหรอก ”
หยางโปส่ายหน้า “ ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันก็กลับมา ”
ฮัวชิงหยุนอ้าปาก ยังอยากจะพูดมากกว่านี้ แต่ก็ถูกหลินหลินคว้าตัวเธอไว้และส่ายหน้าชิงพูดก่อน ” ช่างเถอะ ”
หลินหลินหันไปมองหยางโป ” ในเมื่อคุณปู่สั่งมา แม่ก็จะไม่พูดอะไรมาก แล้วลูกจะไปเมื่อไหร่ ? ”
“ บ่ายนี้ ” หยางโปตอบ
แม้ว่าหลินหลินจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะรีบร้อนมากขนาดนี้ เธออดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ “ ครั้งนี้มีอันตรายไหม ? ”
“ แม่ไม่ต้องห่วง ” หยางโปพูดพร้อมทั้งส่งยิ้มให้
หลังจากเก็บข้าวของ หยางโปก็ลากกระเป๋าเดินทางขึ้นรถ เหยียนหรูหยูก็ขึ้นรถตามไปด้วย
เมื่อฮัวชิงหยุนเห็นเหยียนหรูหยูขึ้นรถ ก็มีสีหน้าบึ้งตึง แต่สุดท้ายแล้ว เธอก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
หลังจากส่งหยางโปไปแล้ว ฮัวชิงหยุนก็ไม่สามารถรักษารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอไว้ได้อีกต่อไป ใบหน้าของเธอดูบึ้งตึงมาก
หลินหลินรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เธอแอบตำหนิหยางโปอยู่ในใจ แต่ปากกลับแก้ต่างให้ “ ชิงหยุน หนูไม่ต้องกังวลไป ครั้งนี้ปู่ใช้ให้เขาไปทำงาน เขาไม่มีทางทำอะไรตามใจชอบหรอก ”
ฮัวชิงหยุนหันมามองหลินหลิน พยักหน้าและไม่พูดอะไร
เมื่อเครื่องบินมาถึงจินเฉิง ท้องฟ้าก็มืดแล้ว เมื่อลงจากเครื่องบิน หยางโปทั้งสองก็ถูกพาไปอยู่ต่อหน้าคนกลุ่มหนึ่ง คนที่เป็นหัวหน้าอายุประมาณสี่สิบกว่าปี ดูท่าทางสง่างามมาก เขาเดินออกมาจับมือกับหยางโปและเอ่ยปากทักทาย ” สวัสดี ผมชื่อเหลียงหรงจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจินเฉิง ต่อจากนี้พวกเราจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยเหลืองานของคุณ ”
หยางโปพยักหน้า ” สวัสดี หวังว่าพวกเราจะร่วมมือกันอย่างมีความสุข ”
เหลียงหรงยิ้มและเอ่ยออกมา ” นี่ก็ดึกมากแล้ว ผมได้จัดเตรียมงานเลี้ยงรับตามประเพณีไว้แล้ว พวกเราไปกินข้าวกันก่อน กินอิ่มแล้วพักผ่อนให้สบาย พรุ่งนี้กว่าจะถึงที่หมายคงอีกนาน ”
พยักหน้าพยักหน้า “ กินง่ายๆก็ได้ ”
หยางโปเดินตามเหลียงหรงออกไป จากนั้นก็มีคนเข้ามารับกระเป๋าสัมภาระของพวกเขาไป
เมื่อเดินมาได้สักระยะหนึ่ง หยางโปก็ได้ยินเสียงบ่นตามหลังมา
“ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเด็กหนุ่มที่ขนยังไม่ขึ้นเต็มตัว เฮ้อ เบื้องบนอยากให้คนปิดทองหลังพระก็ไม่น่าจะจัดการเรื่องแบบนี้นะ ”
“ โชคร้ายจริงๆที่คดีนี้ตกมาอยู่ในมือของฉัน หวังแค่ว่าจะสามารถไขคดีและกลับบ้านได้เร็วๆนะ ”
หยางโปขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไร
เหลียงหรงค่อนข้างจะสุภาพ หยางโปไม่อยากดื่มเหล้า เขาก็ไม่พูดอะไรมาก ทั้งกลุ่มกินข้าวกันง่ายๆ และส่งหยางโปกลับไปที่โรงแรมเพื่อศึกษาแฟ้มคดีต่อไป
เรื่องนี้ดูมีลับลมคมใน เมืองเมืองหนึ่งแต่กลับเกิดคดีเด็กหายติดต่อกัน หลังจากที่ตำรวจได้รับรายงาน ก็ดำเนินการตรวจสอบและสอบสวนเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่พบเบาะแส แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ก่อนหน้านี้สักระยะหนึ่ง จู่ๆก็มีคนพบศพเด็กที่หายตัวไปบนภูเขาที่ห่างไกล แค่คาดคิดไม่ถึงตรงที่ว่าศพพวกนี้ต่างก็ถูกควักหัวใจออกไป !
รัฐบาลท้องถิ่นกลัวว่าจะเกิดความจลาจลวุ่นวายขึ้น ดังนั้นจึงปกปิดข้อเท็จจริง แต่เรื่องต่อจากนี้มันยิ่งทำให้พวกเขาประหลาดใจกันมากขึ้น