เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 990 หายไปอีกคน
ตอนที่ 990 หายไปอีกคน
ทุกคนในที่เกิดเหตุมองหน้ากันเลิ่กลั่กทันที ถือแก้วเหล้ายืนอยู่ตรงหน้าเหยียนหรูหยู บรรดาคนที่อยากชนแก้วด้วยพวกนั้น ต่างมองไปทางเหลียงหรง เขามีสถานะสูงสุดที่นี่ ตามกฎการดื่ม มันควรจะเป็นเขาที่เป็นคนพูด !
เหลียงหรงจ้องทุกคนด้วยสีหน้าที่โกรธจัด ” กลับไปนั่งที่ ! คืนนี้ห้ามใครดื่มเหล้า ! กินข้าวอิ่มแล้ว คนที่ควรไปทำหน้าที่ล่วงเลยเวลาก็ไป คนที่ไม่ต้องทำงานล่วงเวลา เวลานอนตอนกลางคืนให้เฝ้าอยู่หน้าโทรศัพท์ เผื่อเกิดเรื่องฉุกเฉิน ทุกคนต้องรีบมาทันที ! ”
เหลียงหรงมีสีหน้าซีเรียส ดูเหมือนจะพูดกับคนพวกนั้น
คนที่จะไปชนแก้วด้วยในที่เกิดเหตุล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ในตำบล พวกเขารีบพากันวางแก้วเหล้าลง
บรรยากาศในสถานที่ค่อนข้างจะตึงเครียด ทุกคนต่างพากันก้มหน้ากินข้าว ไป่ชูซินรู้สึกเสียหน้ามาก เขาอยากที่ขอโทษเหลียงหรง แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดว่ายังไง
หลายคนในที่เกิดเหตุเงยหน้าขึ้นมองหลินซุนเป็นระยะๆ พวกเขาแปลกใจมากว่าชายหนุ่มคนนี้มีภูมิหลังความเป็นมายังไงกันแน่ ทำไมถึงกล้าเอ่ยคำพูดแบบนี้ออกมาได้ ?
แต่หลินซุนกลับไม่สนใจพวกเขาเลย เขาปอกเปลือกกีวีเสร็จ วางใส่จาน แล้วยกไปให้เหยียนหรูหยู ” คุณเหยียน นี่เป็นกีวีที่คุณชอบ ”
เหยียนหรูหยูก้มหน้าลงมองและขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนเธอจะไม่อยากกินของพวกนี้ แต่จู่ๆ เธอก็นึกถึงคำแนะนำของหยางโป และมีอาการลังเลเล็กน้อย จากนั้นเธอจึงหยิบกีวีขึ้นมากินชิ้นหนึ่ง
หลินซุนมีสีหน้าดีใจมาก นี่เป็นก้าวแรกที่เขาทำสำเร็จ ประสบการณ์ของเขามีมาอย่างโชกโชนถ้าเมื่อใดที่หญิงสาวยอมรับไมตรีครั้งแรก นั่นก็หมายความว่าสามารถทะลวงด้านป้อมปราการได้แล้ว !
หลายคนต่างมองไปที่หลินซุน แต่ทุกคนไม่ได้พูดอะไร แค่มองไปที่เหลียงหรงเป็นครั้งคราว
ใบหน้าของเหลียงหรงดูค่อนข้างบึ้งตึง เขารู้สึกว่าหลินซุนมีความเป็นไปได้ยากมากที่จะประสบความสำเร็จ มันทำให้เขารู้สึกลำบากใจมากกับการเดินทางมาครั้งนี้
เมื่อไม่ได้ดื่มเหล้ากัน ก็เลยกินข้าวกันเร็วมาก หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็มีคนมาจัดการให้พวกเขากลับไปที่ห้องใครห้องมัน
หยางโปกำลังเดินกลับไปที่ห้อง แต่กลับเห็นหลินซุนวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าเหยียนหรูหยู
“ คุณเหยียน แสงจันทร์ส่องสว่างเจิดจ้าราวกับน้ำ แสงจันทร์งดงามมากแบบนี้ ในสภาพแวดล้อมที่สดชื่นแบบนี้ คุณอยากไปเดินเล่นกับผมไหม ? ”
เหยียนหรูหยูที่แต่เดิมไม่ได้สนใจเขาอยู่แล้ว ปิดประตูใส่ดัง ” ปัง ” ทันที
พอหลินซุนถูกปฏิเสธ เขาจึงยกมือขึ้นจะเคาะประตู แต่กลับถูกเหลียงหรงห้ามไว้
“ หลินซุนอย่ารบกวนคนอื่น แกรีบกลับไปพักผ่อนซะ ! ” เหลียงหรงกล่าว
หลินซุนทำอะไรไม่ถูก จึงทำได้เพียงกลับไปที่ห้องของตัวเอง
หยางโปเหลือบมอง และอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ห้องของเหยียนหรูหยู เขาคิดมาเสมอว่าเหยียนหรูหยูจะไม่สามารถทนได้ คิดไม่ถึงว่าเธอจะสามารถทนได้
พอกลับมาถึงที่ห้อง หยางโปก็หยิบกระจกแสงจันทร์ออกมา นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง และเริ่มฝึกบำเพ็ญเพียร
ผ่านไปได้ไม่นานนัก จู่ๆหยางโปก็รู้สึกแปลกๆ เพราะเขารู้สึกว่าพลังรอบตัวเขาเบาบางลง และดูเหมือนว่าจะมีหลุมดำขนาดใหญ่หนึ่ง ดึงดูดพลังออกไปหมด ! สัมผัสได้อย่างบางเบา หยางโปก็ถึงกับตกตะลึงไปเลย เพราะทิศทางที่พลังมาบรรจบกันนั้น เป็นห้องของเยียนหรูหยูพอดี
ประสิทธิภาพในการฝึกฝนของหยางโปต่ำกว่ามาก แต่เขาก็ไม่ได้สนใจมากนัก แต่กลับพยายามขัดเกลาพลังในร่างกายของตัวเองอย่างอดทน
“ เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแล้ว มีเด็กหายไปอีกแล้ว ! ”
หยางโปกำลังฝึกฝน และจู่ๆก็ได้ยินเสียงตะโกนดังมาจากด้านนอก จึงอดไม่ได้ที่จะหยุดฝึกฝนต่อ ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งไปมาอย่างตื่นตระหนกด้านนอก หยางโปจึงขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเดินออกไป
หยางโปเห็นคนจำนวนมากเดินเข้ามาโอบล้อมกัน เหลียงหรงจ้องชายหนุ่มชุดเครื่องแบบตำรวจ นายหนึ่ง “ มันเกิดขึ้นที่ไหน ? เมื่อไหร่ ? หายไปกี่คน ? ”
“ พวกเราเพิ่งจะได้รับแจ้งว่า มีเด็กผู้ชายจำนวน 5 คนในหมู่บ้านหลงเว่ยหายตัวไป ” นายตำรวจกล่าว
เหลียงหรงขมวดคิ้ว “ หมู่บ้านหลงเว่ย ? ”
เฉียนกุ้ยยืนอยู่ด้านข้างหยางโปพอดี กระซิบเสียงเบาว่า ” นั่นคือที่ที่พวกเราไปมา ! ”
” หลงซูโกว ? หมู่บ้านหลงเว่ย ? ” หยางโปขมวดคิ้ว ” ชื่อสถานที่แห่งนี้มีที่ไปที่มาอย่างเฉพาะเจาะจงมากไหม ? ”
เฉียนกุ้ยส่ายหน้า ” ชื่อของสถานที่แห่งนี้มีมานานมากแล้ว ว่ากันว่าในอดีตกาลสถานที่แห่งนี้มังกรเลื่อนผ่านมา นี่เป็นเพียงแค่ตำนาน เป็นคำพูดที่น่าขบขันและไม่มีแหล่งที่มาก็เท่านั้น ! ”
ไป่ชูซินดูเหมือนจะได้ยินคำพูดนี้เข้า ก็หันมามองอย่างรวดเร็ว “ นี่ไม่ใช่คำพูดที่น่าขบขันและไม่มีแหล่งที่มา ในอดีตมีผู้คนมากมายเคยเห็นมังกรมาก่อน ! ”
เหลียงหรงยืนอยู่ต่อหน้าฝูงชนและพูดอย่างเฉียบขาด “ ไป่ชูซิน คุณในฐานะผู้นำของหลงซูโกว
ในเวลาแบบนี้ ทำไมถึงเชื่อคำพูดที่น่าขบขันและไม่มีแหล่งที่มานี้อีก ? ”
“ ตอนนี้ให้ทุกคนมารวมตัวกัน พวกเราจะไปดูที่หมู่บ้านหลงเว่ยว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยกัน ! ”
เหลียงหรงกล่าว
เวลานี้ไม่มีใครนอนหลับกันแล้ว หลายวันมานี้ทุกคนพักทำงานกันอยู่ที่นี่ ทำให้ได้ขึ้นรถไปด้วยกันพอดี
เดิมทีหยางโปคิดว่าเหยียนหรูหยูจะไม่ออกมา แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะออกมาจริงๆ สะกิดหยางโปแล้วเขยิบตาไปทางด้านข้างเล็กน้อย
หยางโปชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็เดินตามออกไป
“ ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ” เหยียนหรูหยูกล่าว
หยางโปรู้สึกค่อนข้างแปลกใจ “ มีอะไรผิดปกติเหรอ ? ”
เหยียนหรูหยูส่ายหน้า โดยที่ไม่อธิบายอะไร สีหน้าท่าทีที่แสดงออกมาดูแปลกมาก
ในไม่ช้า ทั้งกลุ่มก็พากันขึ้นรถ เหลียงหรงกวาดตามองสำรวจ ” หลินซุนล่ะ ? หลินซุนอยู่ไหน ? ”
“ หลินซุนเมาเหล้า ลุกไม่ขึ้นครับ ” มีใครบางคนตอบแทนมา
เหลียงหรงมีสีหน้าไม่ค่อยพอใจ “ พวกเราออกเดินทาง ! ”
รถเปิดไฟหน้า ขับเคลื่อนไปด้วยความเร็วที่ช้ามาก ทั้งกลุ่มมาถึงที่หมู่บ้านหลงเว่ย เวลานี้ในหมู่บ้านก็สว่างไสวไปด้วยโคมไฟ กว้างไกลสุดสายตาสว่างไปด้วยคบไฟ
หลังจากลงจากรถ หยางโปก็เห็นผู้ใหญ่จ้าวนั่งอยู่ตรงนี้ ดูเหมือนค่อนข้างที่จะเศร้าโศกเสียใจ
ไป่ชูซินเดินไปตบไหล่ผู้ใหญ่จ้าว และพูดคุยกับเขาสักสองสามคำ คิดไม่ถึงว่าผู้ใหญ่จ้าวจะชักสีหน้าใส่ทันที เขาจ้องไปที่ไป่ชูซินตาเขม็ง และพูดด้วยอารมณ์โกรธเคือง “ มันเป็นความผิดของพวกเขา เป็นเพราะคนนอกอย่างพวกเขาที่นำโชคร้ายมาให้ ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขา หลานสาวของผมก็จะไม่หายตัวไป ! ”
หยางโปที่ยืนอยู่ด้านข้าง ขมวดคิ้วเล็กน้อย โดยที่ไม่พูดอะไร
เหลียงหรงก็หันไปมองหยางโป ” พวกคุณมีเรื่องกับเขาแล้วใช่ไหม ? ”
“ ลูกชายของเขามาขอความรักจากคุณเหยียนและถูกปฏิเสธ ” หยางโปอธิบาย พอพูดจบเขาก็มองออกไปยังสถานที่กว้างไกลสุดสายตาอีกครั้ง “ ก่อนที่เราจะจากไป พวกเขาจะทุบรถของเราแล้วยังเอาปืนลูกซองมายิงใส่ เกือบจะยิงโดนพวกเราแล้ว ! ” หยางโปอธิบาย
เหลียงหรงทำหน้าตกใจ “ อะไรนะ ? พวกเขาเอาปืนมายิงเหรอ ? ”
หยางโปพยักหน้า
“ บัดซบ ! ” เหลียงหรงสบถด่าออกมาคำหนึ่ง และเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
หยางโปไม่ถือสาเหลียงหรง เขามองไปทางภูเขาที่กว้างไกลสุดสายตา บนภูเขาเต็มไปด้วยคบไฟ ไม่รู้ทิศทางที่แน่นอนเลย เขาขมวดคิ้วจางๆ นึกภาพไม่ออกเลยจริงๆ ทำไมเด็กๆที่นี่ถึงได้หายตัวไปติดต่อกัน ?
ไม่รู้ว่าเหลียงหรงพูดอะไร ผู้ใหญ่จ้าวก็กระโดดยืนตัวตรงขึ้น ” เป็นไปไม่ได้ ! เว้นแต่คุณจะให้ผู้หญิงคนนั้นแต่งงานกับลูกชายของผม ! ”
เหลียงหรงตกใจและตะโกนเสียงดัง ” แกร้องตะโกนหาอะไร ? คุณเหยียนเป็นคนที่ลูกชายของคุณจะสามารถเข้ามาพัวพันได้ด้วยไหม ? ”
ผู้ใหญ่จ้าวพูดอย่างไม่พอใจ ” ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ? ”
“ คุณเอารูปถ่ายเด็กมาให้เราดูหน่อย ” ไป่ชูซินกล่าว
ผู้ใหญ่จ้าวส่ายหน้า “ ไม่มี ครอบครัวของผมยากจน เด็กๆจึงไม่มีรูปถ่ายมาตั้งแต่เด็กแล้ว ! ”
หยางโปจ้องหน้าผู้ใหญ่จ้าว และทันใดนั้นก็เอ่ยปากพูดขึ้นว่า ” ผมว่าไม่ได้มีคนที่ว่ามานี้อยู่ในครอบครัวของคุณหรอก ! ”