เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก - ตอนที่ 241 รูป / ตอนที่ 242 รอโจมตีจากด้านหลัง
ตอนที่ 241 รูป
สวีอิ๋งอิ๋งกินข้าวเสร็จก็เดินตามเหยียนเฟิงออกมา
คุณแม่เหยียนเห็นว่าสวีอิ๋งอิ๋งไม่ได้ไม่พอใจอะไรในตัวเหยียนเฟิงก็วางใจ
ในหลายครอบครัวที่พี่น้องแก่งแย่งทรัพย์สมบัติกัน มีจำนวนเกินครึ่งที่โดนภรรยายุยงส่งเสริม เมื่อเห็นว่าสวีอิ๋งอิ๋งและเหยียนเฟิงเข้ากันได้ดี คุณแม่เหยียนก็วางใจว่าต่อไปเหยียนเค่อและเหยียนเฟิงจะพูดคุยกันได้อย่างสงบ
สวีอิ๋งอิ๋งเดินตามเหยียนเฟิงออกมา เร่งฝีเท้าขึ้นเพื่อตามเขาให้ทัน
“เหยียนเฟิง ช้าหน่อยสิ”
เหยียนเฟิงหยุดเดินแล้วหันกลับไปมองเขา คิ้วขมวดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ผู้หญิงคนนี้อยากจะบอกคนทั้งโลกว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ลับๆ กันหรืออย่างไร ทำไมถึงโง่เง่าได้ถึงขนาดนี้
“ในที่สุดพี่ก็หยุด” สวีอิ๋งอิ๋งคว้าแขนของเขาไว้
เหยียนเฟิงเบี่ยงหลบอย่างเบื่อหน่าย “เธอรู้ไหมว่าเราต้องคอยหลบ ถ้าพ่อแม่ฉันเห็นแล้วพวกท่านจะว่ายังไง”
“พี่อย่าโกรธสิ” สวีอิ๋งอิ๋งเห็นสีหน้านิ่งขรึมของเขา ก็กลัวจนถอยหลังไปสองก้าว เอ่ยขึ้นอย่างน้อยอกน้อยใจ “ฉันเข้าใจแล้ว จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”
เหยียนเฟิงเห็นท่าทางของเธอจึงเพิ่งรู้ตัวว่าปฏิกิริยาของตนรุนแรงเกินไปจนเกือบจะแสดงสิ่งที่อยู่ภายในใจออกมา จึงยกมือขึ้นลูบหัวเธอแล้วแสร้งทำเป็นหึงหวง “เธอไม่ต้องกลัวฉันหรอก ฉันก็แค่คิดถึงตอนที่เธอต้องแต่งงานกับเหยียนเค่อแล้วก็ห้ามตัวเองไม่อยู่น่ะ”
“พี่หึงเหรอเนี่ย” สวีอิ๋งอิ๋งได้ยินเช่นนี้ก็มองเขาอย่างประหลาดใจแล้วดึงแขนเขาไว้
เหยียนเฟิงเบือนหน้าหนีอย่างขัดเขิน ไม่ให้เธอได้สบตากับเขา
สวีอิ๋งอิ๋งอ้อมไปด้านหน้าเพื่อมองหน้าเขา ก่อนจะแย้มยิ้ม “หึงจริงๆ เหรอเนี่ย”
“หยุดพูดเลย ถ้าพูดอีกฉันจะโกรธแล้วนะ” เหยียนเค่อโมโหกลบเกลื่อนความเขินอายแล้วดันหัวเธอออก “ไปแล้วนะ กลับบริษัทแล้ว”
สวีอิ๋งอิ๋งเดินตามอยู่ด้านหลังปิดปากลอบยิ้ม เห็นแผ่นหลังสูงใหญ่ของเขาแล้ว ก็รู้สึกหวานชื่นในใจ
เมื่อเหยียนเฟิงหันหลังให้เธอแล้วมุมปากก็เรียบตึง ความเหยียดหยามพาดผ่านในดวงตา สีหน้ารำคาญเป็นอย่างมาก
ตอนที่เซ่าหมิงฟ่านได้รับรูปภาพเหล่านั้นก็หัวเราะลั่น
ผู้ช่วยหวังที่ยืนอยู่ด้านข้างแอบตำหนิในใจ ‘นี่เพื่อนคุณจริงหรือเปล่าครับเนี่ย’
เหยียนเค่อเป็นคนที่ฮ็อตที่หมู่สาวๆ มากที่สุดในพวกเขาห้าคน แถมยังเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไปอีกด้วย ตอนนี้มีคนประหลาดอย่างสวีอิ๋งอิ๋งเข้ามา แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องที่สมควรโดนพวกเขาหัวเราะเยาะ
“เอารูปพวกนี้ไปให้ประธานเหยียนของพวกคุณเถอะ ให้เขารีบหายไวๆ”
ตอนที่ผู้ช่วยหวังใช้ให้คนเอารูปไปให้เหยียนเค่อนั้น เขาก็กำลังนั่งดูของขวัญชุดใหญ่ที่ได้มาโดยไม่ต้องเสียเงินจากเสิ่นจิ้งเฉินอยู่
เหยียนเค่อจ้องโทรศัพท์ของเสิ่นจิ้งเฉิน ไม่ได้สนใจซองจดหมายที่ผู้ช่วยเอาวางไว้บนโต๊ะ
รูปซย่าเสี่ยวมั่วในโทรศัพท์กอดคอผู้ชายคนหนึ่งอยู่ ศีรษะชนกัน แต่ผู้ชายคนนั้นไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรเลย รูปก่อนหน้าเอาแต่หลุบตามองต่ำไม่รู้ว่ามองอะไรอยู่ รูปสุดท้ายจึงเหลือบตาขึ้นมองอย่างไม่ใส่ใจนัก น่าจะจับภาพไว้ได้ทันพอดี หลังจากมองกล้องแล้วเห็นว่าไม่มีอะไรน่าสนใจแล้วก็ก้มหน้าก้มตาต่อ
“คนนี้ใคร” เหยียนเค่อถามเสียงขรึม หล่อกว่าเขาเสียอีก เขาต้องหาคนไปทำให้นายนี่เสียโฉมเสียแล้ว
เสิ่นจิ้งเฉินเก็บโทรศัพท์กลับมา เห็นท่าทางราวกับคนเสียสติของเขาแล้วก็พูดปลอบใจ “ผู้ชายคนนี้มีแฟนแล้ว ไม่สนใจซย่าเสี่ยวมั่วหรอก”
เพียงแต่แฟนสาวที่ว่านั่นไม่ใช่คนก็เท่านั้น
เหยียนเค่อหยิบซองจดหมายบนโต๊ะมาแล้วเทรูปภาพลงบนพื้น
เสิ่นจิ้งเฉิน “นายเกลียดสวีอิ๋งอิ๋งขนาดไหนวะเนี่ย ไม่ให้เกียรติเธอเลย”
เหยียนเค่อมองเพียงชั่วครู่ก็เบนสายตาออกอย่างไร้ซึ่งความสนใจ “นายส่งรูปซย่าเสี่ยวมั่วให้ฉันสักสองสามรูปสิ”
“นายไม่สงสัยเหรอว่าฉันกับซย่าเสี่ยวมั่วเป็นอะไรกัน” เสิ่นจิ้งเฉินเห็นท่าทางเขาไม่เหมือนคนที่ไม่สนใจเลยสักนิด แต่ทำไมไม่ถามกันล่ะ
เหยียนเค่อส่ายหัวแล้วเปิดบลูทูธ “ถ้าเขาเป็นคนของบ้านเสิ่นถึงฉันสืบหาก็หาไม่เจอหรอก แต่ถ้าจะถามก็มีความเสี่ยง เพราะนายคงไม่บอกฉันหรอก”
เสิ่นจิ้งเฉินตบบ่าเขา แล้วพูดออกมาสามคำอย่างจริงใจ “นายพูดถูก”
เหยียนเค่อไม่พอใจ พูดแค่นี้จะพูดทำไมเนี่ย
ตอนที่ 242 รอโจมตีจากด้านหลัง
สวีอิ๋งอิ๋งเดินตามเหยียนเฟิงเข้าไปด้านในแล้วคิดในใจ สักวันหนึ่งเธอจะต้องเข้ามาในฐานะนายหญิงได้อย่างสง่าผ่าเผย ไม่ใช่ขึ้นลิฟต์ตรงไปห้องทำงานอย่างเช่นตอนนี้
เหยียนเฟิงเองรู้ว่าในใจของเธอคิดอะไรอยู่ก็ไม่ได้ปริปากพูดอะไร ปล่อยให้เธอเพ้อฝันต่อไป
“พี่งานยุ่งจัง” สวีอิ๋งอิ๋งนั่งเฉยๆ ก็รู้สึกเบื่อ
เหยียนเฟิงโดนขัดขึ้นก็อารมณ์เสีย “ช่วยเงียบหน่อยได้ไหม”
“ค่ะ” สวีอิ๋งอิ๋งเหมือนกับภรรยาที่ต้องรองรับอารมณ์อย่างไรอย่างนั้น นั่งดูเขาทำงานเงียบๆ ไม่กล้าส่งเสียง
ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเหยียนเฟิง คิ้วขมวดขึ้นเจือความหงุดหงิดเล็กน้อยนั่น ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ดูมาดแมน
สวีอิ๋งอิ๋งนั่งมองเขาอย่างเคลิบเคลิ้ม ส่วนเหยียนเฟิงก็ไม่ได้สนใจสายตาที่มองมาของเธอเลยสักนิด ทำงานของตัวเองต่อไป
คราวก่อน เหยียนกรุ๊ปต้องเสียแหล่งเงินทุนจากบริษัทหนึ่งให้กับ YAN เอนเตอร์เทนเม้นต์ คราวนี้ YAN ซื้อบริษัทที่มีเงินทุนมากที่สุดของเหยียนกรุ๊ปไป แถมยังทำลายแหล่งเงินทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเหยียนกรุ๊ปอีก
เขากดต่อสายเรียกผู้จัดการเข้ามาด้านในอย่างร้อนใจ
“ค่ะท่านประธาน” ‘เบลล์’ ผู้จัดการของเหยียนเฟิงเดินเข้ามาด้านใน
หญิงสาวทรวดทรงพราวเสน่ห์ หน้าตาสะสวยในชุดกระโปรงของพนักงาน ปลายแขนเสื้อเชิ้ตพับขึ้นหนึ่งทบ ทั้งดูลวกๆ ไม่เป็นระเบียบแต่ก็ดูเรียบร้อยเช่นกัน
สวีอิ๋งอิ๋งหน้าเปลี่ยนสี เห็นเหยียนเฟิงยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้นแล้วยื่นเอกสารให้เขา “ลำบากหน่อยนะ ในส่วนนี้ต้องหาบริษัทอีก เราจะขาดแหล่งเงินทุนหมุนเวียนไปไม่ได้ แล้วอย่าให้ประธานใหญ่รู้ล่ะ”
“ค่ะ” เบลล์ขยิบตาให้เธออย่างซุกซน ตอนรับเอกสารมาก็แอบสัมผัสนิ้วของเขา
สวีอิ๋งอิ๋งที่ถูกบังอยู่ด้านหลังผู้หญิงคนนั้นไม่เห็นว่าพวกเขาแอบสัมผัสกัน ทำได้เพียงเก็บงำความไม่พอใจไว้เงียบๆ
เบลล์รับเอกสารมาแล้วก็หันตัวเดินออกไปอย่างปราดเปรียว ไม่ชายตามองสวีอิ๋งอิ๋งแม้แต่น้อย
มีผู้หญิงรอบกายเหยียนเฟิงมากมาย สวีอิ๋งอิ๋งก็เป็นแค่หนึ่งในนั้น
เหยียนเฟิงเองก็แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นท่าทางฉุนเฉียวของสวีอิ๋งอิ๋ง จัดการงานของตัวเองต่อ
สวีอิ๋งอิ๋งใช้สายตาจับจ้องเหยียนเฟิงอยู่นาน แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงสายตาของเธอเลยแม้แต่นิด สุดท้ายจึงคว้ากระเป๋าแล้วผลักประตูห้องออกไปอย่างโมโห
จนกระทั่งประตูถูกปิดลง เหยียนเฟิงจึงเงยหน้าขึ้นมาบีบนวดขมับ ถ้าวันนี้เธอเดินออกประตูใหญ่ ก็คงจะรู้แล้วว่าเธออยู่ห่างไกลจากเหยียนกรุ๊ปมากเพียงใด เขาอยากดูว่าสวีอิ๋งอิ๋งจะมีความอดทนอดกลั้นมากแค่ไหน เขารำคาญที่จะรับมือกับเธอเต็มทนแล้ว
“ประธานเหยียนคะ คุณสวีออกไปทางประตูใหญ่ค่ะ” น้ำเสียงไพเราะของเบลล์ดังลอดออกมาจากโทรศัพท์
“อืม ลบภาพวงจรปิดให้หมด” เหยียนเฟิงลูบคอของตน เอนตัวพิงกับพนักเก้าอี้แล้วเอ่ยอย่างเกียจคร้าน “คืนนี้ไปบ้านผมนะ”
“ค่ะ” เบลล์ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังเช่นเดิม ไม่มีความสั่นไหวใดๆ
เหยียนเฟิงพึงพอใจในตัวเบลล์มาโดยตลอด ไม่เคยทะนงตัวเพราะได้รับความรัก จัดการปัญหาได้ดีและเอาตัวรอดเก่ง ถึงแม้ว่าบางครั้งเขาจะรู้สึกเฟลอยู่บ้าง แต่นี่เป็นผู้หญิงที่เขาต้องการ ไม่ใช่ผู้หญิงไร้สมองอย่างสวีอิ๋งอิ๋ง
เมื่อสวีอิ๋งอิ๋งเดินผ่านทุกห้องทำงานบนชั้นนั้นก็ได้รับสายตาจำนวนนับไม่ถ้วนที่จับจ้องมา เมื่อลงลิฟต์แล้วออกไปยังห้องโถงใหญ่ของบริษัทก็ต้องเจอกับสายตาของผู้คนมากมายที่มองมา พนักงานของ
เหยียนกรุ๊ปไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้โผล่ออกมาจากไหน
สวีอิ๋งอิ๋งเห็นว่ามีคนมองเธอก็ถลึงตาจ้องกลับไป สะพายกระเป๋าแล้วก็เดินเชิดหน้าอกผายไหล่ผึ่งออกไป สักวันหนึ่งเธอจะทำให้พนักงานของเหยียนกรุ๊ปทุกคนรู้ถึงการมีอยู่ของสวีอิ๋งอิ๋งคนนี้เอง
เหยียนเฟิงมองสวีอิ๋งอิ๋งเดินออกจากประตูใหญ่ของเหยียนกรุ๊ปแล้วก็เหยียดยิ้ม ก็แค่ใช้ประโยชน์ของกันและกันเท่านั้น หมากตานี้ของสวีอิ๋งอิ๋งก็ใช้ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น สักวันหนึ่งเธอจะคงยอมแพ้ไปเอง