เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก - ตอนที่ 555 ฝากชีวิตหมา / ตอนที่ 556 ปัญหายากที่จะแก้
ตอนที่ 555 ฝากชีวิตหมา
“ตอนนี้นายยุ่งขนาดนั้นเลยเหรอ” ซย่าเสี่ยวมั่วเห็นใจชายหนุ่มได้แปปเดียวก็นึกถึงชีวิตของเจ้าโกลเด้นที่น่ารักของตัวเองในตอนนี้ ก็เริ่มเปลี่ยนใจกลับมาขอร้องอีกครั้ง “หมาฉันจะไม่รอดอยู่แล้วนะ นายช่วยมันอีกสักชีวิตได้ไหม”
“ตกลง” นอกจากตอบตกลงฉินซื่อหลานก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว “ตอนนี้ฉันยุ่งอยู่ ค่ำๆค่อยไปรับได้ไหม”
“ได้ๆ แต่ว่านายยังยุ่งอยู่อีกเหรอ ฉันได้ยินอันหรานบอกว่าช่วงนี้เมือง N สงบเงียบมาก หล่อนอยากจะอยู่ที่บาหลีไม่อยากกลับทำงานมาแล้ว”
ฉินซื่อหลานยิ้มเย็น ใช่ตอนนี้เมือง N เรียบร้อยดีทุกอย่าง เหยียนเค่อสามารถจัดการพวกซีเฉิงล่วงหน้าได้ แต่เขาคงไม่อาจรักษาคนไข้ที่ยังไม่ได้แม้แต่เข้ามาโรงพยาบาลได้ก่อนภายในวันเดียวหรอกนะ
“ช่วงนี้มีแต่โรคอะไรก็ไม่รู้ คนไข้เต็มโรงพยาบาลไปหมด ฉันแทบไม่มีเวลาเลย” ฉินซื่อหลานรู้ว่าอธิบายไปหล่อนก็ไม่เข้าใจ จึงได้แต่กำชับอย่างเป็นห่วง “อยู่ข้างนอกก็ระวังตัวด้วย”
“โอเค” ซย่าเสี่ยวมั่วแก้ไขปัญหาน่าปวดหัวได้แล้วจึงโล่งใจ ผ่อนคลายไปทั้งตัว เล่าให้ฉินซื่อหลานฟังถึงบรรยากาศที่เธออยู่ “ถ้านายมีเวลาก็มาเที่ยวได้ แต่ฉันว่าตอนนี้ถ้านายมาคงอยากจะกระโดดจากหน้าผาลงไปเลยมากกว่า”
“อือ” ฉินซื่อหลานทำได้แค่อิจฉาหล่อนแต่เขาไม่มีทางไปได้หรอก “ไว้คราวหลังจะไป”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่กวนนายแล้ว” ซย่าเสี่ยวมั่วไม่อยากสร้างความลำบากใจ เวลาที่ฉินซื่อหลานคุยกับหล่อน เขาน่าจะเอามันไปเป็นเวลาพักผ่อนได้สักพักหนึ่ง
“บายบาย ถ้าฉันไปรับมันแล้วจะโทรหาเธออีกที”
“เป็นพระคุณมาก กลับไปฉันจะเอาของดีที่นี่ไปฝาก ไก่กับห่านที่นี่ขึ้นชื่อมากเลย”
ฉินซื่อหลานถอนหายใจเฮือกใหญ่ อยากจะให้เหยียนเค่อเผด็จหล่อนให้ไวๆเสียจริง คิดได้ถึงขนาดว่าจะเอาไก่กับห่านกลับมา
“ขอบใจนายมากนะ ไม่ต้องคิดถึงฉันล่ะ”
หลังจากที่ทั้งคู่วางสายแล้ว ฉินซื่อหลานก็ตรวจคนไข้ต่อ พอให้เวลาได้เวลาแล้ว จึงจะไปรับหมาของหญิงสาวที่สถานรับเลี้ยง ถ้ายิ่งช้าอากาศจะยิ่งเย็นเขายิ่งไม่อยากออกไป
ตอนที่ฉินซื่อหลานเข้าไปที่สถานรับเลี้ยงสัตว์เพื่อรับหมาพนักงานมองเขาราวกับเป็นผู้ช่วยชีวิต พอได้ยินว่าเขาจะมารับเจ้าโกลเด้นกลับไปก็ดีใจกันใหญ่
“มันป่วยมากเลยเลย” ฉินซื่อหลานรูปไปที่หัวของเจ้าโกลเด้น สัมผัสที่ได้รับไม่นุ่มลื่นเลย
เจ้าโกลเด้นจ้องไปที่ฝ่ามือของเขา จ้องเขาตาแป๋ว จากนั้นก็คลานหนีลงไป
พนักงานรับดูแลส่ายหน้า “ไม่ได้เป็นเพราะป่วยหรอกค่ะ แค่เพราะว่าอยู่ห่างจากเจ้าของเลยปรับตัวไม่ได้ ไม่ยอมกินอะไรเลย”
ฉินซื่อหลานฟังซย่าเสี่ยวมั่วอธิบายมาก่อนคร่าวๆแล้ว พอได้ฟังอย่างละเอียดก็พยักหน้ารับ “อย่างนั้นผมรับมันกลับเลยแล้วกัน รบกวนพวกคุณแล้ว”
ฉินซื่อหลานรู้สึกว่าพอหมาตัวนี้เห็นหน้าตนแล้วเหมือนกับว่ามันจะผิดหวัง เดินตามหลังเขามาตามเลยจูงของเชือก ไม่มีปฏิสัมพันธ์อะไรกับเขาทั้งสิ้น
“แบบนี้นี่ปกติไหมครับ” หลังจากพนักงานจัดการเอกสารให้เรียบร้อย ฉินซื่อหลานก็ชี้ไปที่เจ้าโกลเด้นอย่างไม่แน่ใจ
พนักงานรับฝากก็เหมือนจะไม่ค่อยแน่ใจ “ดูจากที่มันยอมตามคุณไปก็แสดงว่ามันไว้ใจคุณ แต่ที่มันไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองนั้น เราก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรค่ะ”
ฉินซื่อหลานเริ่มกังวลใจหน่อยๆ “แล้วถ้าผมเอามันกลับไปมันจะอดอาหารอีกไหมครับ”
“ฉันก็ไม่แน่ใจค่ะ แต่ถ้ามีอีกแนะนำว่าให้คุณรีบติดต่อให้คุณซย่ารีบกลับมาจะดีที่สุดค่ะ”
“ครับ”
ระหว่างทางฉินซื่อหลานโทรหาซย่าเสี่ยวมั่ว อยากจะรายงานสถานการณ์ให้รับรู้ แต่สัญญาณทางฝั่งของหล่อนดูแย่มาก พูดได้สองประโยคสัญญาณก็หาย สุดท้ายก็เงียบสนิท
ชายหนุ่มถอนหายใจ ลูบหัวเจ้าโกลเด้นที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับ ไม่ต้องไปหวังอะไรกับซย่าเสี่ยวมั่วแล้ว เขาต้องรับกรรมเป็นคนดูแลเจ้าตัวนี้แทนไปสินะ
ตอนที่ 556 ปัญหายากที่จะแก้
คนที่โรงพยาบาลเห็นว่าช่วงนี้ผู้อำนวยการฉินดูมีเรื่องกลัดกลุ้มทุกข์ใจ
ฉินซื่อหลานรู้สึกว่าชีวิตเขาช่วงนี้เหนื่อยเสียยิ่งกว่าหมาเสียอีก
แต่ก่อนเขาก็เคยเลี้ยงหมา แต่ไม่เคยเลี้ยงหมาตัวไหนที่อารมณ์หดหู่ราวกับเป็นโรคอะไรสักอย่างแบบนี้ ที่สำคัญช่วงนี้เจ้าโกลเด้นเริ่มที่จะอดอาหารอีกแล้ว พอเขาพาไปตรวจที่โรงพยาบาลสัตว์ก็พบว่าไม่ได้ป่วยทางร่างกาย ในใจก็คิดว่าหรือควรจะหาเพื่อนให้มันดี
ฉินซื่อหลานกลัดกลุ้มอยู่ทั้งวัน จนไม่กล้าเข้าผ่าตัดคนไข้ พอกลับไปบ้านก็พบว่าอาหารสัตว์ที่เขาเทให้มันตั้งแต่เช้าไม่ยุบเลย มันไม่แตะเลยด้วยซ้ำ ยังคงนอนหมอบอยู่ที่เดิม
“แกอย่าเป็นแบบนี้สิ ถ้าแกตายซย่าเสี่ยวมั่วฆ่าฉันแน่” ฉินซื่อหลานนั่งยองๆอยู่ด้านหน้าเจ้าโกลเด้นแล้วพูดคุยกับมัน เจ้าโกลเด้นทำแค่ลืมตามองเขานิ่งๆ ไม่มีปฏิกิริยาใดๆทั้งนั้น
ฉินซื่อหลานโทรหาซย่าเสี่ยวมั่วอย่างจนปัญญา แต่ปรากฏว่าโทรหาเท่าไหร่ก็โทรไม่ติด
“ซย่าเสี่ยวมั่ว เธอไว้ใจฉันขนาดนี้เลยหรือไง” ตอนนี้ฉินซื่อหลานหันไปทางไหนก็มืดมนอับจนหนทางไปหมด ในใจเริ่มก่นด่า ทำไมตอนนี้เหยียนเค่อว่างขนาดใช้วันหยุดสิ้นปีพักผ่อนได้แล้วแต่เขากลับต้องมานั่งลำบากรับผิดชอบดูแลชีวิตหมาตัวหนึ่งด้วย เดี๋ยวนะ เหยียนเค่อ…
ในใจฉินซื่อหลานเริ่มกลับมามีความหวัง ไม่แน่ว่าเจ้านี่มันอาจจะยอมอยู่กับเหยียนเค่อ แม้ว่ามันจะไม่ยอมแต่ช่วยแก้แค้นให้ซย่าเสี่ยวมั่วก็ยังดี
เหยียนเค่อรับโทรศัพท์จากฉินซื่อหลานอย่างไม่ได้คาดคิดว่าเพื่อนจะโทรมา ตั้งแต่กลับมาพวกเขาก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย โทรมาหาเขาแบบนี้ต้องไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ
“นายมีอะไร”
“พี่รอง” น้ำเสียงราวกับคนจะร้องไห้เอ่ยดังขึ้น
“ฉันยังไม่ตาย”
“ฉันใกล้จะตายแล้ว” ฉินซื่อหลานไม่ได้เอ่ยเกินไปเลยสักนิดตอนนี้เขามีชีวิตแทบไม่ต่างกับหมาอยู่แล้ว “ฉันต้องการแสงสว่างจากนายมาช่วย”
ช่วงนี้เหยียนเค่อไม่มีเรื่องยุ่งอะไร จึงเอ่ยถามออกไปอย่างใจเย็น “สรุปมีเรื่องอะไร”
“หมาของซย่าเสี่ยวมั่วอยู่กับฉัน”
เหยียนเค่อที่เดิมทียกยิ้มมุมปากอยู่ค่อยๆหุบลง เอ่ยถาม “แล้วไง”
ฉินซื่อหลานกลัวว่าเหยียนเค่อจะไม่ยอมรับช่วงต่อภาระนี้จึงรีบเอ่ยอธิบายอย่างรวดเร็ว “มันไม่ยอมกินอะไรเลย ฉันกลัวว่ามันจะตาย”
“แล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน” เหยียนเค่อเอ่ยถามเสียงเย็น แต่มันก็เป็นเรื่องจริง หมาของซย่าเสี่ยวมั่วไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาสักนิด
ฉินซื่อหลานคิดว่าเหยียนเค่อโมโหที่ซย่าเสี่ยมั่วไม่เอาหมาไปฝากไว้ที่เขา จึงรีบเอ่ยอธิบาย “ซย่าเสี่ยวมั่วคงคิดว่าฉันเป็นหมอเลยฝากหมาไว้ที่ฉัน นายอย่าคิดมาก”
“ฉันไม่ได้คิดมาก” เหยียนเค่อมองออกชัดเจน มีแต่เขาคนเดียวที่คิดไปเอง
“ฉันไม่รู้จะทำอย่างไรจริงๆ นายช่วยฉันหน่อยเถอะ มันใกล้จะตายอยู่แล้ว” ฉินซื่อหลานไม่ยอมปล่อยเหยียนเค่อไปง่ายๆ เขาพนันได้เลยว่าเพื่อนตนต้องใจอ่อน
ปลายสายนิ่งเงียบไปสักพัก ฉินซื่อหลานเอาโทรศัพท์ไปไว้ใกล้ๆเจ้าโกลเด้น ตบหัวมันเบาๆ เจ้าโกลเด้นหันมามองเขาแวบหนึ่ง ฉินซื่อหลานเล่นขย้ำไปที่คอมัน โกลเด้นส่งเสียงอันไร้เรี่ยวแรงร้องออกมาอย่างหงุดหงิด
เหยียนเค่อได้ยินเสียงร้องของเจ้าโกลเด้นก็ใจอ่อนขึ้นมาจริงๆ ตอบรับนิ่งๆ “อือ เลิกงานแล้วฉันจะไปรับมัน”
เจ้าโกลเด้นได้ยินเสียงเหยียนเค่อก็เห่าออกมาเบาๆ แต่เนื่องจากไร้เรี่ยวแรงเสียงที่เปล่งออกมาเลยดังแค่นิดเดียวแต่ถ้าเทียบกับเมื่อครู่ก็ถือว่าดังแล้ว
“รอฉันไปรับแกนะ” เหยียนเค่อพูดกับเจ้าโกลเด้น เมื่อกี้เพิ่งพูดไว้ว่ารอเลิกงานก่อนค่อยไปรับแต่ตอนนี้ชายหนุ่มกลับคว้ากุญแจรถเดินออกไปทันที
คนก็ยั่ว หมาก็ยั่ว เหยียนเค่อรู้สึกว่าเขาหลงซย่าเสี่ยวมั่วจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว
หลังจากที่ฉินซื่อหลานคุยโทรศัพท์เสร็จก็นอนแผ่ไปบนพื้น มองเจ้าโกลเด้นที่เกยอยู่ข้างเท้าตนอย่างจนใจ
“ถ้าแกบอกตั้งแต่แรกว่าแกเลือกนาย ฉันก็ส่งแกไปให้เหยียนเค่อนานแล้ว จะต้องมานั่งทนเหนื่อยป้อนข้าวป้อนน้ำแกทำไม” หลังบ่นเสร็จ หนึ่งคนกับหนึ่งตัวต่างก็ไม่ส่งเสียงใดๆอีก ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ