เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก - ตอนที่ 581 เคยเจอกันมาก่อน / ตอนที่ 582 เกิดระย่างห่าง
ตอนที่ 581 เคยเจอกันมาก่อน
เป็นดังที่ซย่าเสี่ยวมั่วคาดจริงๆ วันรุ่งขึ้น ตอนนี้เธอเอาของของเจ้าโกลเด้นออกมาจากกระเป๋าก็เจอเข้ากับน้ำหอมผู้ชายที่เหมือนเพิ่งเปิดใช้ได้ไม่นานหนึ่งขวด
“แกนี่โชคดีกว่าฉันเยอะเลย รู้สึกว่าฉันจะไม่มีปัญญาเลี้ยงแกแล้วนะ” ซย่าเสี่ยวมั่วพูดกับเจ้าโกลเด้นที่มองดูเธอเก็บของในกระเป๋าอยู่ “ถึงว่าทำไมดูรักกระเป๋านัก ขนาดอกไก่เกรดดีแกยังได้กิน ฉันยังไม่กล้าซื้อกินเลยนะ หึ ฉันไม่ยอม จะเอาไปแอบให้หมดเลย”
เจ้าโกลเด้นเดินกระดิกหางวนรอบตัวเธอ ตาจ้องไปที่กล่องอกไก่ที่ยังไม่ได้แกะที่อยู่ในมือของเธอ
“ฉันจะเก็บไว้ให้แกก่อน รอแกหาคู่ได้เมื่อไหร่ค่อยเอาออกมาฉลอง”
ทั้งคนทั้งหมาเล่นกันอย่างมีความสุข ซย่าเสี่ยวมั่วได้ยินเสียงเคาะประตูก็เอื้อมมือไปลูบหัวเจ้าโกลเด้นให้มันนั่งเชื่องๆอยู่ ส่วนเธอลุกไปเปิดประตู
ผู้ช่วยหวังมองไปยังหญิงสาวที่พอเคยเห็นหน้าอยู่บ้างกับเจ้าโกลเด้นที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี จู่ๆเขาเกิดความรู้สึกว่าแค่มีนายหญิงก็มีทุกอย่างแล้ว
“สวัสดีค่ะ” ซย่าเสี่ยวมั่วเห็นว่าเขาดูไม่ธรรมดา เหมือนว่าเคยเจอกันมาก่อน
ผู้ช่วยหวังยื่นนามบัตรที่เตรียมมาให้หญิงสาว “ผมเป็นผู้ช่วยของประธานเหยียน ท่านให้ผมมาช่วยจัดการเรื่องที่เหลือต่อครับ”
“รบกวนคุณแล้ว” ซย่าเสี่ยวมั่วยิ้ม
ผู้ช่วยหวังยื่นโทรศัพท์ส่งให้หล่อน “ประธานเหยียนอยากจะคุยด้วยครับ”
หลังจากที่ซย่าเสี่ยวมั่วรับโทรศัพท์มาน้ำเสียงก็กระด้างขึ้น “ฮัลโหล”
“นั่นเป็นผู้ช่วยของฉัน เขาจะช่วยจัดการเรื่องที่เหลือ”
“ขอบคุณ”
“ไม่เป็นไร” เหยียนเค่อได้ยินหล่อนดูเกรงใจเขาขนาดนี้เลยไม่ได้พูดอะไรต่อ พรุ่งนี้วันขึ้นปีใหม่เขายังมีเรื่องต้องทำอีก
“บาย บาย” จากนั้นซย่าเสี่ยวมั่วก็วางสาย ผู้ช่วยหวังที่มองดูเหตุการณ์ทั้งหมดก็ควบคุมสีหน้าตัวเองเอาไว้ไม่ได้
นายหญิงเป็นคนวางสายใส่บอสของเขาก่อน ดูเหมือนว่าบอสของเขาจะเป็นโรคกลัวภรรยาเอามากๆแน่ๆ
ซย่าเสี่ยวมั่วยื่นโทรศัพท์คืนให้ผู้ช่วยหวัง แต่เห็นเขายืนเหม่อจึงเอ่ยเรียกสติ “เอ่อ”
“คุณซย่า คนของเราอยู่ห้องด้านล่างแล้ว ส่วนฝ่ายนิติบุคคลทางเราก็เรียกมาแล้ว โดยรวมน่าจะไม่มีอะไรแล้ว อยากทราบว่าคุณจะฟ้องร้องไหมครับ”
“ฟ้องร้อง?” ซย่าเสี่ยวมั่วเบิกตาโพล่งอย่างตกใจ ทำไมเรื่องถึงไปถึงขั้นนั้นได้
ผู้ช่วยหวังเห็นหล่อนตกใจก็พูดอธิบาย “ประธานเหยียนกำชับมาครับ”
“อ๋อ” ถ้าเป็นเหยียนเค่อก็ไม่น่าแปลกใจอะไร “ฉันยังไงก็ได้ แต่แค่อย่าหาเรื่องมาให้ฉันก็พอ”
“เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของทนายเราจัดการเองครับ คุณวางใจได้ แต่ประธานเหยียนอยากได้รับความเห็นชอบจากคุณเสียก่อน” ผู้ช่วยหวังคุ้นชินกับการจัดการเรื่องที่เป็นทางการแบบนี้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ซย่าเสี่ยวมั่วออกหน้าก็จัดการเคลียร์ได้ “เรื่องนี้เพื่อนบ้านของคุณเป็นฝ่ายผิด ใส่ร้ายจะเอาผลประโยชน์จากคุณอีกทั้งยังมีการข่มขู่คุกคามคุณอีก”
ซย่าเสี่ยวมั่วเปิดประตูให้ชายหนุ่มเข้ามา “เข้ามาก่อนแล้วค่อยคุยก็ได้ค่ะ ขอโทษที ฉันเพิ่งนึกได้”
ตั้งแต่ที่ผู้ช่วยหนุ่มมาสมองเธอก็ดูเหมือนจะหยุดสั่งการไปชั่วขณะ จนผู้ช่วยหนุ่มพูดประโยคเมื่อกี้เธอจึงได้สติ
ผู้ช่วยหวังโบกมือปฏิเสธ “ผมแค่มาถามความเห็นของคุณเฉยๆ ถ้าคุณโอเคผมจะได้ไปจัดการตามนั้น”
“คุณไม่ต้องใช้คำนอบน้อมกับฉันหรอกค่ะ ฉันไม่ชิน” ซย่าเสี่ยวมั่วรู้สึกเลื่อมใสในการทำงานของชายหนุ่ม
ผู้ช่วยหวังพยักหน้า จากนั้นก็ขอตัวกลับไป “ผมไปจัดการเอง คุณวางใจได้ครับ”
“ขอบคุณมาก” นอกจากคำนี้ซย่าเสี่ยวมั่วก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรแล้ว อีกอย่างคนคนนี้ก็ให้ความรู้สึกคุ้นตามาก ราวกับเธอเคยเจอที่ไหนมาก่อน “คุณไปจัดการเถอะ”
พอผู้ช่วยหวังเดินลงไปชั้นล่างซย่าเสี่ยวมั่วก็หมุนตัวกลับเพื่อไปหาหลักฐานว่าเธอเคยรู้จักเขามาก่อน
ตอนที่ 582 เกิดระย่างห่าง
ซย่าเสี่ยวมั่วเกิดความรู้สึกแรงกล้า คิดว่าตนเองจะหาหลักฐานที่ยืนยันตัวตนของชายหนุ่มได้แต่กลับรู้สึกว่ามันขาดอะไรไปบางอย่าง เธอยืนนิ่งครุ่นคิดอยู่กลางห้องรับแขก
จากนั้นหยิบนามบัตรขึ้นมาดูอย่างไม่ได้ตั้งใจ มือที่คลำจับถูกนามบัตรถึงสติเธอให้กลับมา
ซย่าเสี่ยวมั่วเดินกลับเข้าไปในห้องเพื่อเอานามบัตรไปใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์ เมื่อล้วงไปตรงช่องใส่บัตรพบว่ามีนามบัตรอยู่อีก ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เธอล้วงเอานามบัตรทั้งหมดออกมาดู เป็นอย่างที่คิดจริงๆว่าในนามบัตรห้าหกใบทั้งหมดมีอยู่ใบหนึ่งที่เหมือนกับนามบัตรที่เธอได้มาตอนนี้
ซย่าเสี่ยวมั่วรีบเอานามบัตรทั้งสองใบมาเปรียบเทียบกันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็นึกออกถึงที่มาของนามบัตรใบนี้
เธอรีบโทรหาเหยียนเค่อในทันที
เหยียนเค่อกำลังประชุมอยู่ โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น พวกลูกน้องก็คิดว่าเจ้านายของเขาคงทำเหมือนเดิมคือตัดสายทิ้งโดยไม่แม้แต่จะมอง แต่พวกเขากลับไม่คิดว่าเจ้านายจะทิ้งพวกเขาให้นั่งอยู่แล้วตัวเองก็เดินออกไปรับโทรศัพท์ด้านนอก
“ฮัลโหล”
ซย่าเสี่ยวมั่วได้ยินเสียงเย็นชาชายหนุ่มของรู้สึกนิ่งลง ตนคงไม่อาจอ้างเรื่องที่เขาต้องชดใช้มาควบคุมเขาได้หรอก
“พูดมา” ซย่าเสี่ยวมั่วไม่ยอมเอ่ยพูดอะไรเสียที พวกลูกน้องก็ยังรอเขาอยู่ด้านใน ตนจึงต้องเป็นคนเอ่ยปากก่อน
ซย่าเสี่ยวมั่วลูบหน้าผากตัวเอง ล้มเลิกความตั้งใจที่จะทำเมื่อโทรมาหาเขา “”ไม่มีอะไร นายไปทำงานเถอะ”
“หึ อยากได้ยินเสียงฉันหรืออะไร” เหยียนเค่อเอ่ยยิ้มๆ พูดออกไปแล้วก็รู้สึกเขินๆ
ซย่าเสี่ยวมั่วไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆเขาก็เปลี่ยนอารมณ์ แต่ด้วยพฤติกรรมชั่วร้ายของเหยียนเค่อถ้าเธอคิดมากไปเธอก็จะเป็นฝ่ายแพ้
“เปล่า”
“เปล่า?” น้ำเสียงเหยียนเค่อเริ่มสูงขึ้น “อย่างนั้นโทรหาฉันทำไม”
“บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร” ซย่าเสี่ยวมั่วไม่อยากคุยกับคนหลายหน้าอย่างชายหนุ่ม
“มีธุระก็พูดมา ฉันไม่มีเวลามารับสายไร้สาระหรอกนะ” เหยียนเค่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา ในใจเริ่มร้อนรน ไม่รู้ว่าทำไมหญิงสาวมีปฏิกิริยาแบบนี้กับเขา
“ใช่ ไร้สาระ แล้วนายเอาเวลามาเล่นกับความรู้สึกฉันแบบนี้หมายความว่าอย่างไร” จู่ๆซย่าเสี่ยวมั่วก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย จากนั้นก็ตัดสายทิ้ง
เหยียนเค่อรู้สึกงง เขาทำเรื่องไปตั้งมากมาย คิดไม่ออกในเวลานี้หรอกว่าสรุปเขาไปทำอะไรให้หล่อนโกรธ
ทุกคนเห็นเจ้านายเดนกลับเข้ามาด้วยท่าทางอารมณ์ไม่ดี จึงลอบส่งสายตาให้กันไปมา แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าใครสามารถทำให้เจ้านายของพวกเขาเดินยิ้มออกไปรับโทรศัพท์แล้วเดินกลับเข้ามาด้วยท่าทางโมโหแบบนี้
เหยียนเค่อแทบไม่มีอารมณ์ทำงานต่อเลยด้วยซ้ำ พอฟังพวกเขาสรุปรายงานเสร็จก็สั่งเลิกประชุมทันที
ผู้จัดหารและหัวหน้าแผนกต่างๆเห็นประธานเดินหยิบถือแฟ้มเดนออกไปจนมองไม่เห็นแล้วถึงได้โล่งใจ
ผู้ช่วยงหวังรับโทรศัพท์ของเหยียนเค่อในใจก็มีลางสังหรณ์แปลกๆ
“บอส”
“จัดการไปถึงไหนแล้ว”
“เรียบร้อยครับ คุณซย่าให้ดำเนินการตามกฎหมายได้แล้ว แต่เธอไม่อยากเข้ามายุ่ง” ตอนนี้ผู้หญิงบริสุทธ์ไร้เดียงสาหาได้ยากมาก เขารู้สึกประทับใจจริงๆ
ก็เป็นไปตามที่เหยียนเค่อคาดไว้ หากซย่าเสี่ยวมั่วมาร่วมวงจัดการนี่สิถึงจะแปลก
พอถามเรื่องงานเสร็จเหยียนเค่อก็เริ่มซักผู้ช่วยหวังต่อ
“นายไปพูดอะไรกับซย่าเสี่ยวมั่ว”
ผู้ช่วยหวังครุ่นคิดอยากละเอียด ตนพูดกับนายหญิงอยู่แค่ไม่กี่ประโยคเอง พอนึกทวนคำพูดดูก็เหมือว่าตนจะไมได้พูดอะไรผิดไปนะ
“เปล่านี่ครับ” ในเวลาแบบนี้ผู้ช่วยหวังไม่กล้าล้อเล่น จึงเอ่ยอย่างจริงจัง
เหยียนเค่อขมวดคิ้ว รู้ว่าตนเองถามไปก็ไม่ได้อะไรหรอก “นายไปดูหน่อยว่าเธอเป็นอะไร พูดถึงฉันดีๆด้วยล่ะ”
แต่ก่อนผู้ช่วยหวังรู้ได้ด้วยตัวเองว่าต้องเอ่ยชมประธานหนุ่ม แต่ครั้งนี้บอสของตนเป็นคนเอ่ยปากบอกเองอย่างชัดเจนว่าให้ตนชมเขาต่อหน้าคนอื่น ช่างน่าประหลาดใจจริงๆ