เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก - ตอนที่ 607 ออกหน้าอย่างกล้าหาญ / ตอนที่ 608 ขัดแย้งกันเอง
ตอนที่ 607 ออกหน้าอย่างกล้าหาญ
ความจริงก็เปิดเผยออกมาให้เห็นกันแล้ว กล้าดีอย่างไรมาต่อว่าเหยียนเค่อลับหลังอีก ซย่าเสี่ยวมั่วโมโหมากๆ
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นอะไรกับเหยียนเค่อ แต่ถ้ามองจากความมีคุณธรรมแล้วเธอก็ควรจะออกมาพูดแก้ต่างทำลายคำพูดใส่ร้ายต่างๆให้หมด
“เป็นพวกไร้ประโยชน์จริงๆ ถ้าคุณไม่ได้เห็นด้วยตาคุณเองรบกวนช่วยมองอย่างเป็นกลางด้วย เรื่องที่ฉันต้องการพิสูจน์มีอยู่สองสามเรื่อง อย่างแรก ประธานเหยียนหล่อมากจริงๆ อย่างที่สอง ประธานเหยียนไม่ดำ อย่างที่สาม ประธานเหยียนไม่มีทางทำเรื่องผิดศีลธรรมแบบนั้น ส่วนเรื่องอื่นๆฉันไม่ได้เห็น จึงไม่ทราบว่าความจริงเป็นอย่างไร แต่ว่าตอนนี้ความจริงก็ปรากฏต่อหน้าพวกเราทุกคนแล้ว พวกคนที่ยังไม่เชื่อรบกวนช่วยกลับไปเปิดดูหลายๆรอบหน่อย อย่าเอาแต่ปฏิเสธความจริงเพียงเพราะใจของพวกคุณไม่ยอมรับ พวกคุณไม่คู่ควรที่จะได้เห็นใบหน้าแท้จริงของเขา”
ก่อนหน้านี้ซย่าเสี่ยวมั่วตามประเด็นเรื่อง ‘YANไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลเหยียน’ อยู่ ด้านล่างยังใส่ภาพของเหยียนเค่อที่ไม่ใช่ภาพหน้าตรงเข้าไปพร้อมกับใส่ภาพวาดที่ตนเองวาดหน้าเหยียนเค่อแบบไม่ชัดเจนลงไปด้วย
ซย่าเสี่ยวมั่วโพสต์ได้ไม่นาน ฉินซื่อหลานก็นำไปแชร์ต่อต่อ สวีอันหรานก็เช่นกัน ขนาดพวกฉินจานก็ยังเอากับเขาด้วย…เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่ได้ช่วยแก้ความบริสุทธิ์ให้เหยียนเค่อตรงๆแบบที่ซย่าเสี่ยวมั่วทำ เพียงแค่เอ่ยเสริมขึ้น “วาดได้หล่อเหมือนจริง” …จากนั้นคนที่เหลือก็แห่กันคอมเม้นต์ใต้ภาพ “ผู้ชายหล่อขนาดนี้ ยออมเจ็บปวดยกให้เธอแล้วกัน”
ซย่าเสี่ยวมั่วหน้าตึง คนพวกนี้ช่วยจริงจังกันหน่อยได้ไหม น่าเป็นห่วงจริงๆ
เหยียนเค่อเห็นเวยป๋อแล้วก็อึ้งไปพักหนึ่ง ในใจรู้สึกมีความสุขอยู่ครู่หนึ่ง แต่พอเขาคิดได้ว่าซย่าเสี่ยวมั่วทำแค่ช่วยแก้ต่างให้เขาบนเวยป๋อไม่แม้แต่จะส่งข้อความมาให้เขาสักนิด ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าหล่อนไม่อยากเกี่ยวข้องกับเขาแบบส่วนตัวอีก
พอคิดได้แบบนี้ เหยียนเค่อก็รู้สึกเศร้า
ฉินซื่อหลานที่คอยสังเกตการณ์อยู่ ไม่เห็นเหยียนเค่อออกมาแสดงความรู้สึกอะไรกับซย่าเสี่ยวมั่วเลยจึงโทรไปหาเหยียนเค่ออย่างไม่เข้าใจ
“ซย่าเสี่ยวมั่วเป็นคนของประชาชนช่วยพูดแก้ต่างถกเถียงในที่สาธารณะให้นายขนาดนี้แล้ว ทำไมนายไม่แสดงความเห็นอะไรเลย”
“นายไม่เข้าใจ”
“ฉันไม่เข้าใจอะไร หรือว่านายจะยอมตกลงปลงใจแต่งงานกับสวีอิ๋งอิ๋งแล้ว”
“นิสัยของซย่าเสี่ยวมั่วถ้าทนเห็นไม่ได้ก็ชอบออกมาพูดอะไรแบบนี้ ไม่เคยคำนึงถึงผลตามมาอยู่แล้ว ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นนายก็ช่วยรับมือไปแล้วกัน” เหยียนเค่อตอบแค่คำถามช่วงแรกส่วนคำถามหลังเขาไม่อยากตอบ
ซย่าเสี่ยวมั่วที่ไม่ได้รับการตอบรับจากเหยียนเค่อก็เริ่มมั่นใจในการคาดเดาของตนเอง กินข้าวด้วยอารมณ์ที่เศร้าสร้อย
แม่เหยียนนึกว่าเหยียนเค่อทำผิดอะไรร้ายแรง แต่พอเห็นลูกเดินกลับมาในห้องอย่างไม่เป็นอะไรก็เบาใจลง
“แม่” เหยียนเค่อเห็นแม่เดินถืออาหารเข้ามาก็วางสายโทรศัพท์ “ผมไม่อยากกินข้าว”
“พ่อไม่ได้ตีลูกใช่ไหม” ถึงแม้แม่เหยียนจะโกรธลูกชายแค่ไหนแต่ก็ไม่ได้อยากเห็นลูกเป็นอะไรไป
ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ตนพูดขึ้น เหยียนเค่อก็แทบจะลืมความเจ็บปวดตรงช่วงหัวไหล่ไปแล้ว แต่เขาก็ส่ายหน้า “ไม่เป็นไรครับ”
พอแม่เหยียนได้ยินน้ำเสียงที่บอกว่าไม่เป็นอะไรก็มีท่าทางขึงขังขึ้นอีกครั้ง”อย่างนั้นคืนนี้ก็อยู่กินข้าวที่บ้าน กำหนดเรื่องที่ควรทำซะที”
“แม่หยุดทรมานผมซะที” เหยียนเค่อทนไม่ไหวแล้ว “เมื่อคืนผมพูดไว้ชัดเจนแล้ว ต่อให้เมื่อคคืนปู่ไม่อยู่ผมก็จะทำแบบนั้นอยู่ดี พวกท่านเลิกคิดที่จะให้ผมแต่งงานกับสวีอิ๋งอิ๋งเสียที”
แม่เหยียนโกรธจนกระแทกถาดอาหารลงบนโต๊ะจนเกิดเสียงดัง แต่เหยียนเค่อก็ยังคงไม่เปลี่ยนท่าที
ตนพูดดีๆด้วยแล้วแต่เหยียนเค่อก็ยังคงไม่เปลี่ยนใจ แม่เหยียนรู้สึกพ่ายแพ้ หมุนตัวเดินออกจากห้องไป ตอนปิดประตูห้องก็ปิดกระแทกกจนเกิดเสียงดัง
ตอนที่ 608 ขัดแย้งกันเอง
เหยียนเค่อเดินตัวลงบนเก้าอี้ นอนอาบแสงแดดอ่อนๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูรูปที่ซย่าเสี่ยวมั่วโพสต์ลงบนเวยป๋อ ล้วนเป็นภาพเมื่อก่อนตอนที่พวกเขาออกไปเที่ยวแล้วซย่าเสี่ยวมั่วแอบถ่ายเล่นอยู่ด้านหลัง คิดถึงช่วงเวลาที่ได้อยู่กับซย่าเสี่ยวมั่วว่ามันมีความสุขมากขนาดไหน ตอนนี้อยู่บ้านรู้สึกเหมือนกันว่าส่วนหนึ่งของตัวเองถูกทำลายไปแล้ว
ซย่าเสี่ยวมั่วมองดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก็รู้สึกว่าตัวเองทำได้สำเร็จอยู่เหมือนกัน หลี่หมิงเจ๋อเห็นซย่าเสี่ยวมั่วออกโรงแทนเหยียนเค่อในใจก็รู้สึกเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกมากมาย
“ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ” หลี่หมิงเจ๋อไม่คิดว่าการอาศัยภาพลักษณ์ของพวกฉินซื่อหลานและการพูดหยอกล้อกันเล่นแบบนี้จะทำให้ภาพลักษณ์ของเหยียนเค่อดูน่าดึงดูดสายตาผู้คนมากกว่าเมื่อก่อนเสียอีก
เฉิงนั่วพลั้งปากพูดขึ้นประโยคหนึ่ง “ซย่าเสี่ยวมั่วคนนี้น่ารำคาญเสียจริง”
หลี่หมิงเจ๋อรั้งเขาไว้ไม่ทัน สายตาของหลี่หมิงฉวีมองที่มองไปที่เฉิงนั่วก็เริ่มเปลี่ยนไป “นายมีสิทธิ์อะไรไปเกลียดเธอ เพราะนายดึงดูดความสนใจผู้คนไม่ได้เท่าเธอเหรอ”
“นายพูดอะไรของนายเนี่ย!” เฉิงนั่วได้ยินก็โมโหเหมือนกัน พวกเดียวกันเองไม่ช่วยพูดให้กันกลับมาพูดทำลายกันอีก
“พอแล้วๆ พวกนายเลิกทะเลาะกันได้แล้ว พวกเราต้องคิดหาวิธีให้เหยียนเฟิงได้ครองอำนาจ”
เฉิงนั่วก็เรียงลำดับความสำคัญได้จึงไม่ทะเลาะกับหลี่หมิงฉวีอีก คิดอย่างละเอียดแล้วพูดออกไป “เหยียนเค่อไม่เปิดเผยตัวตนแต่เหยียนเฟิงทำได้หนิ พวกเราสามารถเผยแพร่ภาพที่เหยียนเฟิงเพิ่งไปร่วมงานออกไปบนเว็บของบริษัท จะได้เป็นการกดฝั่ง YAN ด้วย”
พวกเขาคิดได้ดีมาก เหยียนเฟิงเห็นด้วย ภาพของเหยียนเฟิงที่ปรากฏบนเว็บของบริษัทก็มีประโยชน์ไม่น้อย แต่ว่าผ่านไปสักพักก็ถูกพวกฉินซื่อหลานนำไปแชร์ต่อ
เฉิงนั่วเปิดไปดู ก็มั่วโมโหแทบบ้า “ไม่เคยเห็นใครหน้าไม่อายขนาดนี้”
หลี่หมิงเจ๋อก็เข้าไปเปิดดู สักพักก็โมโหจนพูดอะไรไม่ออก
หุ้นส่วนของ YAN ทั้งหมดต่างแชร์โพสต์นี้ แถมยังเขียนข้อความที่เหมือนกับของฉินซื่อหลาน “จากมุมมองทางการแพทย์ พี่ชายดูดีขนาดนี้น้องชายจะขี้เหร่ได้อย่างไร หวังว่าคงจะคิดได้”
หลังจากที่เหยียนเฟิงได้เห็นก็โกรธจนแทบกระอักเลือด ภาพของเขาถูกเอาไปเป็นของประดับบารมีของคนอื่น อีกอย่างด้วยคำพูดแบบนี้เขาเลยทำได้แค่อดทน ไม่ยุติธรรมเลย
“ยังมีวิธีไหนอีกไหม หุ้นของ YAN ตอนนี้กลับมาพุ่งขึ้นอีกแล้ว ทุกครั้งที่เราโจมตีออกไปมันต้องวกกลับมาหาพวกเราทุกรอบ ความสูญเสียของทางเรามากกว่าของเหยียนเค่ออีกนะ” เฉิงนั่วเริ่มมีน้ำโห เขารู้สึกมาตลอดว่าเหยียเฟิงคิดใจใหญ่เกินไป แต่ก็เอ่ยเตือนไม่ได้ ทุกครั้งพวกเขาหลายตระกูลต้องจับมือร่วมกันจู่โจมแต่ก็เทียบไม่ได้เลยกับแค่โทรศัพท์ไม่กี่สายของเหยียนเค่อ
หลี่หมิงฉวีได้ยินเขาพูดแบบนี้ก็เอ่ยประชด “ทนไม่ได้ก็ถอนตัวออกไป พวกเราไม่จำเป็นต้องง้อแค่ตระกูลเฉิง”
“นาย” เฉิงนั่วก็แค่บ่นระบายอารมณ์เฉยๆ อยากให้เหยียนเฟิงคิดหาวิธีอื่นที่เป็นไปได้มากกว่านี้ ไม่คิดว่าหลี่หมิงฉวีจะกล้าพูดแบบนี้ออกมา “ใช่ เทียบไม่ได้กับตระกูลหลี่อันหญิงใหญ่ของนายหรอก ต้องให้คนที่ใช้เงินฟุ่มเฟือยอย่างนายมาดูถูก”
สองคนจ้องตากันอย่างแค้นเคือง หลี่หมิงเจ๋อทำได้แค่ห้ามทัพอยู่ตรงกลาง “เหยียนเค่อยังไม่ถูกกำจัด พวกเรามาขัดแย้งกันเองแบบนี้ไม่ยิ่งทำให้ฝ่ายนั้นสะใจเหรอ เลิกทะเลาะกันได้แล้ว”
เหยียนเฟิงควบคุมไม่ได้ตอนนี้เรื่องมันเกิดขึ้นไวเกินไป แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่ชอบพูดปลอบคนอื่น จึงได้แต่ยืนมองคนโง่พวกนี้ทะเลาะกันเองอยู่ด้วยสายตาเยือกเย็น
หลี่หมิงเจ๋ออยากให้เหยียนเฟิงพูดอะไรสักหน่อย แต่ในเมื่อชายหนุ่มไม่สนใจเขาก็ทำอะไรไม่ได้ จึงทำได้แค่พาหลี่หมิงฉวีกลับไปก่อน
“อย่างน้อยก็ทำให้ YAN ได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย และก็ทำให้เหยียนเค่อเดือนร้อนได้อยู่”
คำพูดประโยคนี้เหยียนเฟิงไม่อยากได้ยิน เขาทุ่มเงินไปมากมายขนาดนี้แค่เพียงเพราะอยากทำให้เหยียนเค่อไม่สบายใจเหรอ เหยียนเค่อคู่ควรหรือไง
หลี่หมิงเจ๋อพูดจบก็แทบอยากจะเรียกเอาคำพูดคืน เขาต้องได้รับผลกระทบจากการที่สองคนนั่นทะเลาะกันแน่เลยจึงได้พูดคำพูดที่ดูเหมือนอวยเหยียนเค่อออกไปแบบนี้
พอจะพูดอธิบายเหยียนเฟิงก็ไม่อยากได้ยินแล้ว ส่งสัญญาณให้พวกเขากลับไปก่อน “พวกนายกลับไปเถอะ อยู่ที่นี่กันมาทั้งบ่าย ขอบใจที่มาช่วย”
“อือ” พูดมากก็ผิดมาก หลี่หมิงเจ๋อรีบลากหลี่หมิงฉวีกลับไปก่อน