เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก - ตอนที่ 617 พบโดยบังเอิญ / ตอนที่ 618 สารภาพรัก
ตอนที่ 617 พบโดยบังเอิญ
เหยียนเค่อรวบรวมความกล้าอยู่เป็นนาน ตอนนี้ไม่เหลือมาดตอนที่เพิ่งมาถึงแล้ว แต่ว่าขอเพียงได้อยู่ใกล้ๆ สถานที่ที่ซย่าเสี่ยวมั่วอยู่ จิตใจเขาก็จะรู้สึกสงบได้
เหยียนเค่อรู้สึกมาตลอดว่าตัวเองเป็นคนเก็บตัว เพราะว่าในทางจิตวิทยาได้ให้คำนิยามของคนที่มีนิสัยชอบเก็บตัวเอาไว้ว่า คนพวกนี้จะฟื้นฟูจิตใจของตัวเองได้เร็วกว่าหากอยู่ตามลำพัง แต่ตั้งแต่ที่เขาพบกับซย่าเสี่ยวมั่วเขาก็เริ่มสงสัยว่าตนเองกลายเป็นคนเปิดกว้างขึ้น เขาเก็บตัวอยู่คนเดียวก็ไม่ได้ฟื้นฟูอารมณ์ได้เร็วเหมือนตอนที่อยู่กับซย่าเสี่ยวมั่ว
เขาเหม่อลอย เริ่มเดินเล่นไปเรื่อยๆ จากนั้นจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงนุ่มนวลดังแว่วขึ้นมา จึงรีบไปแอบอยู่ตรงม้านั่งยาวข้างๆ แปลงดอกไม้
“ฉันแทบจะเป็นบ้าเพราะแกอยู่แล้วนะ มาเดินเล่นกับแกทุกวันฉันคงตายแน่ๆ ” ซย่าเสี่ยวมั่วพูดออกมาประโยคหนึ่งปากก็มีไอควันจากอากาศหนาวออกมาด้วย
หลังจากที่ดื่มน้ำจนอิ่มก็เริ่มบ่นเจ้าโกลเด้นต่อ
“แกดูว่าแกไปเอานิสัยอะไรมา ตอนนี้ทั้งตัวก็เต็มไปด้วยกลิ่นขอองเหยียนเค่อ แถมยังไปหัดนิสัยแบบนี้มาอีก…”
กลิ่นน้ำหอมของชายหนุ่มลอยมาติดจมูกเธออยู่ทุกวัน พอมันปีนป่ายอยู่บนตัวเธอก็เต็มไปด้วยกลิ่นนี้ ยังจะชอบเดินเล่นอีก เสื้อกันหนาวของเธอใส่จนอากาศหนาวแทบจะทะลุเข้ามาได้อยู่แล้ว
เหยียนเค่อได้ยินชื่อตัวเองหางตาก็เริ่มกระตุก พยายามห้ามใจไม่เดินออกไปขัดแล้วฟังหล่อนพูดต่อ
“ทำไมแกไม่ได้เรื่องขนาดนี้นะ ฉันก็ชอบนายนั่นไปคนหนึ่งแล้ว ขนาดหมาที่ฉันเลี้ยงยังดันไปชอบอีก…” ซย่าเสี่ยวมั่วกัดฟันพูดประโยคนี้ออกมา น้ำเสียงดูไม่เต็มใจเอามากๆ
เหยีนยนเค่อรู้สึกว่าสมองตัวเองโดนช็อตไปชั่วครู่ราวกับโดนฟ้าฝ่าลงมา เขาสงสัยว่าเขาได้ยินผิดไป แต่ก็ได้ยินซย่าเสี่ยวมั่วพูดอีก “เขาเอาความเคยชินของตัวเองมาไว้ที่แก ยั่วกันอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน” พูดระบายอารมณ์
“ทำไมฉันต้องไปชอบนายนั่นด้วยนะ”
หูราวกับว่าได้ยินเสียงหัวใจเต้นรัวๆ แถมยังเต้นเป็นจังหวะอีกด้วย เหยียนเค่อพยายามระงับอารมณ์ไม่ให้แสดงออกมาทางสีหน้า เม้มปากตัวเอง มันน่าตะโกนโห่ร้องออกมาจริงๆ
ซย่าเสี่ยวมั่วกำลังจะสั่งสอนหมาของตนเองต่อ แต่เธอนั่งก้มอยู่นานจึงพยุงเข่าลุกขึ้นยืนแล้วตบไปที่ขาที่เหมือนจะโดนแช่แข็งแล้ว แต่ยังไม่ทันจะได้สติ เจ้าโกลเด้นก็วิ่งไปทางด้านหลังเธอ เธอถูกรั้งไปด้วยจนมาหยุดอยู่ด้านหลังของเจ้าโกลเด้น
เหยียนยกมือโอบซย่าเสี่ยวมั่วไว้ อีกข้างก็จูงเจ้าโกลเด้นอยู่
หัวใจของซย่าเสี่ยวมั่วราวกับจะหยุดเต้นไปชั่วขณะจากนั้นก็สั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ ความสูงที่คุ้นเคยกลิ่นที่คุ้นเคย ขาของเธอเริ่มอ่อน หลับตาแล้วลืมตาขึ้นใหม่ จากนั้นก็แสดงกิริยาที่เหยียนเค่อไม่คาดคิดว่าหล่อนจะทำ
เหยียนเค่อไล่ตามซย่าเสี่ยวมั่วที่วิ่งหนีอย่างบ้าคลั่ง เขาจับข้อมือของหล่อนไว้แน่น กลัวว่าหล่อนจะวิ่งหนีไปอีก “เธอวิ่งหนีทำไมเนี่ย”
ขาเล็กแบบนี้แต่ก็วิ่งเร็วใช้ได้ เหยียนเค่อหอบหน่อยๆ ควันเย็นสีขาวที่ออกมาจากปากหายไปเมื่อโดนกระทบกับอากาศเย็น
ซย่าเสี่ยวมั่วเหนื่อยจนแทบทรงตัวไม่อยู่ ถ้าไม่ใช่เพราะเหยียนเค่อจับข้อมือเธอไว้อยู่เกรงว่าตอนนี้เธอคงลงไปนั่งกองกับพื้นแล้ว
“แฮ่ก แฮ่ก…” ซย่าเสี่ยวมั่วหอบหายใจถี่ ส่ายหน้าไม่มีแม้แต่แรงเอ่ยตอบคำถาม
เหยียนเค่อพยุงหล่อนขึ้นแล้วกอดหล่อนเอาไว้แน่น ซย่าเสี่ยวมั่วไม่รู้ว่าจู่ๆ ชายหนุ่มทำแบบนี้ทำไม เอาแขนที่ไม่มีแรงดันออกอยู่สองสามครั้ง แต่เขากลับกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ซย่าเสี่ยวมั่วรู้สึกว่าอากาศในปอดที่ตอนนี้มีอยู่น้อยนิดก็ถูกบีบเข้าไปด้วย
เหยียนเค่อกอดร่างบางไว้ในอ้อมกอดรู้สึกว่าความเครียดในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้มันสลายไปหมดแล้ว อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ฮื้อฮื้อฮื้อ” เสียงอุทานอย่างไม่พอใจของหล่อนดึงสติของเหยียนเค่อให้กลับมา
“เป็นอะไรไปอีก” คางของเหยียนเค่อเกยอยู่บนไหล่ของหญิงสาว เอ่ยถามข้างหูของหล่อนอย่างไม่พอใจ
“ฉันหายใจไม่ออก” ซย่าเสี่ยวมั่วทำท่าทางราวกับใกล้จะตาย
เหยียนเค่อผ่อนแรงที่แขนลง คางเกยอยู่บนผมของซย่าเสี่ยวมั่ว เขาพอใจกับท่วงท่านี้มาก
ตอนที่ 618 สารภาพรัก
“ซย่าเสี่ยวมั่ว”
ซย่าเสี่ยวมั่วที่กลับมาหายใจได้เป็นปกติได้ยินเสียงชายหนุ่มเรียกชื่อตนในใจก็เต็มไปด้วยความรู้สึกเอ่อล้น เมื่อครู่เธอไม่มีแรงคิดให้ถี่ถ้วน แต่เธอก็รับรู้ได้ว่าเหยียนเค่อคงได้ยินทุกอย่างที่เธอพูดหมดแล้ว ดังนั้นด้วยนิสัยก็ชายหนุ่มคงต้องเอาเรื่องนี้มาล้อดูถูกเธอแน่
คนในอ้อมกอดไม่ส่งเสียงตอบรับทำให้เหยียนเค่อเริ่มใจแป้ว เขาดันศีรษะที่แนบติดอยู่กับแผ่นอกของตนเองให้ออกห่างแล้วประคองใบหน้าของหล่อนให้เงยมาสบตากับเขา
ดวงตากลมโตประกอบกับหางตาที่มีเสน่ห์อย่างร้ายกาจทำให้ตั้งแต่ช่วงลำคอขึ้นมาจนถึงใบหน้าของซย่าเสี่ยวมั่วแดงไปหมด
เธออาจจะโดนหัวเราะเยาะแล้วเอ่ยประชดว่าเธอกำลังฝันอยู่ แต่เธอก็ยินดีที่จะอยู่ในอ้อมกอดนี้โดยไม่ตื่นขึ้นมาอีก
“เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไร” ความจริงแล้วในใจเหยียนเค่อก็รู้สึกสงสัยอยู่ว่าตนเองอาจจะได้ยินผิดไป ดังนั้นเขาจึงอยากได้รับการยืนยันอีกสักครั้ง
“เปล่า” ซย่าเสี่ยวมั่วเริ่มหลบสายตา ไม่อยากสบตากับชายหนุ่ม
“พูดมา” เหยียนเค่อแกล้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
แขนที่โอบเอวเขาไว้ปล่อยลง ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนทั้งคู่เพิ่มขึ้น เหยียนเค่อดึงมือหล่อนกลับมาโอบรอบเอวเขาดังเดิมอย่างขัดใจ จากนั้นก็จ้องตาหล่อนต่อ
เหยียนเค่อเห็นสีหน้าที่ใกล้จะร้องไห้เต็มทีของซย่าเสี่ยวมั่วก็ไม่รู้ว่าตนไปรังแกอะไรหล่อนเข้า กระชับกอดซย่าเสี่ยวมั่วแน่นขึ้นไปอีก จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังจนแทบจะเย็นชา “เธอตั้งใจฟังดีๆ นะ บางคำพูด ชาตินี้ทั้งชาติฉันอาจจะพูดมันออกมาแค่ครั้งเดียว ดังนั้น…” เหยียนเค่อหยุดอยู่นานไม่ยอมพูดต่อเสียที มองไปที่ซย่าเสี่ยวมั่วที่รอฟังประโยคหลังของตนอยู่ “อย่าหวังให้ฉันพูดอีกเป็นรอบที่สอง”
ซย่าเสี่ยวมั่วถูกทำให้ตกใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวเกร็งไปหมดแล้วจ้องไปที่ชายหนุ่ม
เหยียนเค่ออยากจะกัดไปที่ซย่าเสี่ยวมั่วที่ดูงงๆ อยู่ในอ้อมกอดสักทีจริงๆ เขาก้มหน้าไม่กล้ามองหล่อน กระแอมเล็กน้อย จากนั้นก็เบนสายตากลับ เขาไม่อยากให้การสารภาพรักครั้งแรกเป็นไปอย่างลวกๆ จึงพูดขึ้นอย่างจริงจัง “ฉันชอบเธอ”
หลังจากพูดจบใบหน้าขาวใสของเหยียนเค่อก็แดงขึ้นมาในทันที กดหัวซย่าเสี่ยวมั่วให้แนบไปกับอก แล้วคางของตนก็เกยอยู่บนหัวอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร
ซย่าเสี่ยวมั่วรู้สึกว่าสมองตนเองขาวโพลนไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อดี
ไม่มีคำเยาะเย้ยอย่างที่จินตนาการเอาไว้ หรืว่าเขาจะเก็บคำเยาะเย้ยเอาไว้ท้ายสุดกันแน่
“นาย” ซย่าเสี่ยวมั่วเริ่มเอ่ยปากพูดรู้สึกได้ว่าเสียงตนเองค่อนข้างสั่น “นายอย่ามาล้อเล่นนะ” พูดแล้วก็อยากจะผลักเหยียนเค่อออก
เหยียนเค่อไม่ยอมปล่อย ไม่คิดว่าหล่อนจะไม่เชื่อคำสารภาพรักของเขา “อย่าเหลวไหล ฉันจริงจัง เพราะฉะนั้นต่อจากนี้เธอเป็นของฉันแล้ว”
ซย่าเสี่ยวมั่วไม่พูดไม่จา ในใจรู้สึกตื่นเต้นแต่แข้งขาอ่อนไปหมดแล้ว
เหยียนเค่อรออยู่นานก็ไม่ได้รับคำตอบรับจากหล่อน จึงเอ่ยขึ้นอย่างขัดใจ “เธอพูดประโยคเมื่อกี้ออกมาอีกรอบซะดีๆ ”
“ฉัน ฉัน” ซย่าเสี่ยวมั่วเอนหัวหลบ ใบหน้าแดงจนฟ้องสิ่งที่คิดอยู่ในใจออกมาหมดแล้ว
เหยียนเค่อจุ๊บไปที่ใบหน้าด้านข้างหล่อน “รีบพูดมา”
ซย่าเสี่ยวมั่วหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม เบนหน้าหนีไม่อยากเห็นหน้าชายหนุ่ม เอ่ยขึ้นเสียแผ่ว “ฉันชอบนาย”
เหยียนเค่อยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างทนไม่ไหว
ซย่าเสี่ยวมั่วกลัวว่าเดี๋ยวสักพักชายหนุ่มจะหันมาพูดตนว่าทั้งหมดเป็นเรื่องล้อเล่น เริ่มหายใจติดขัด แต่หลังจากหัวเราะเสร็จเขาก็กลับมาเอ่ยด้วยเสียงจริงจังอีกครั้ง “อือ” “ถือว่าเธอยังสายตาดีอยู่ อย่างนั้นเธอจะตอบตกลงหรือเปล่า”
แม้เหยียนเค่อจะรู้สึกเขิน การสารภาพรักถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้หญิง เขาต้องทำให้ซย่าเสี่ยวมั่วกลายมาเป็นของเขาเสียก่อนเขาถึงจะวางใจได้
ปีศาจตนนี้ยั่วยวนเขามาตั้งนานเขาจะต้องเด็ดปีกของหล่อนให้อยู่กับเขาเสียก่อน
ซย่าเสี่ยวมั่วยังตามไม่ค่อยทัน “นาย นาย ให้ฉันตั้งสติแปปนึง”
เหยียนเค่อไม่พอใจกับคำตอบนี้เป็นอย่างมาก กอดหล่อนเอาไว้ไม่ยอมปล่อยรอให้หล่อนตั้งสติได้