เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย - ตอนที่ 270 แผลเป็น / ตอนที่ 271 แก้เบื่อ
ตอนที่ 270 แผลเป็น
“ก็จริง” จิ้นหยวนกระชับวงแขนกอดเธอแน่น เห็นได้ชัดว่าเขายังมีความในใจอื่นอีก
เธอมองเขาด้วยความสงสัย ครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วเอ่ยถาม “หร่วนเซียงเซียงใจกล้าถึงขั้นกล้าคบชู้เลยเหรอคะ?”
จิ้นหยวนยิ้มเย็น แม้เขาจะไม่เคยคิดว่าหร่วนเซียงเซียงเป็นภรรยาของตัวเอง แต่ยามได้ยินเรื่องแบบนี้เขาเองก็รู้สึกทั้งขยะแขยงและสะอิดสะเอียน สีหน้าเขาในยามนี้จึงดูแย่มาก “เขาเป็นแฟนเก่าของเธอน่ะ”
“แฟนเก่า?” เธออุทานด้วยความตกใจ หร่วนเซียงเซียงหลงรักจิ้นหยวนจนหัวปักหัวปำไม่ใช่เหรอ? แล้วมีแฟนเก่าโผล่มาได้อย่างไร?
เขามองเธอแวบหนึ่ง สายตาเย็นชาแปรเปลี่ยนเป็นสายตาแห่งรักแทน เขาคลอเคลียพลางลูบผมยาวสลวยของเธอ “คุณนี่ไร้เดียงสาจริงๆ คุณคิดว่าที่เธอต้องแต่งงานกับผมให้ได้ เป็นเพราะรักผมจริงๆ อย่างนั้นเหรอ?”
“อ้าว ไม่ใช่เหรอคะ?” เฉียวซือมู่เบิกตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ
หร่วนเซียงเซียงไม่ได้รักจิ้นหยวน? แล้วเธอยอมลงทุนลงแรงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้แต่งงานกับเขาเพื่ออะไร?
“บางส่วนอาจจะเป็นเพราะผม แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะความคิดของพ่อเธอต่างหาก ตระกูลหร่วนย่ำแย่ลงทุกวัน ลูกชายคนเดียวก็ไม่ได้เรื่อง หร่วนจิงเทียนน่าจะถูกตาต้องใจสมบัติของผม ก็เลยอยากให้ลูกสาวได้แต่งงานกับผม พอเธอมีลูกก็เท่ากับเป็นการแบ่งสมบัติของผมให้ตระกูลหร่วนด้วย ส่วนไอ้ขยะนั่นก็จะได้มีคนดูแลด้วย แบบนี้ก็เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว แล้วหร่วนเซียงเซียงก็ดันชอบผมเข้าจริงๆ พอเป็นแบบนี้ ก็เลยกลายเป็นว่าต้องแต่งงานกับผมคนเดียวเท่านั้น แต่ความจริง… เฮอะ เธอมีแฟนอยู่แล้ว พวกเขาคงเห็นว่าผมเป็นแค่ไอ้หน้าโง่ล่ะมั้ง”
นานทีปีหนจิ้นหยวนถึงจะพูดจายืดยาวขนาดนี้ เฉียวซือมู่ฟังจนตาแทบถลนออกมา เธอเอ่ยตะกุกตะกัก “คุณ… คุณจะบอกว่าที่เธอแต่งงานกับคุณก็เพราะเงินเหรอคะ?”
เขามองเธอแวบหนึ่ง “แล้วคุณคิดว่าไงล่ะ?”
น้ำเสียงเขาไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด เธอฟังแล้วไม่กล้าถามอะไรอีก
สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว เรื่องแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่หยามศักดิ์ศรีเขามาก ภรรยาตัวเองแต่งงานด้วยเพราะสมบัติ ไม่ใช่เพราะความรัก แล้วยังสวมเขาให้เขาอีก แถมยังจะยัดเยียดลูกชู้ให้เขาอีกต่างหาก ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันมากเพียงพอที่จะทำให้ชายคนหนึ่งอับอายขายหน้า แต่ตอนนี้เขาเพียงแค่พูดมันออกมาด้วยความไม่พอใจเท่านั้น ซึ่งน้อยคนนักที่จะทำได้แบบนี้
เมื่อคิดได้เช่นนั้นจึงไม่กล้าถามอะไรเขาอีก ได้แต่ยิ้มขอโทษเขา “ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง? ยังเจ็บหน้าอกอยู่หรือเปล่าคะ?”
จิ้นหยวนให้ความร่วมมือในการเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นอย่างดี “ไม่เจ็บแล้ว พรุ่งนี้เรากลับบ้านกันนะ”
“ได้ไงกันคะ” เธอตกใจ “แผลคุณยังไม่ได้ตัดไหมด้วยซ้ำ จะกลับบ้านได้ยังไงคะ คุณอยากตายนักหรือไง?”
จิ้นหยวนยักไหล่ อยากจะบอกเหลือเกินว่าเมื่อก่อนเขาบาดเจ็บหนักกว่านี้ยังผ่านไปได้เลย นี่แค่แผลเล็กนิดเดียวเอง แต่พอเห็นใบหน้าซีดเผือดของเธอแล้วก็ต้องกลืนคำพูดพวกนั้นกลับลงคอ อย่าทำให้เธอตกใจจะดีกว่า…
หลังจากนั้นจิ้นหยวนก็ต้องใช้ชีวิตแต่ละวันอย่างเบื่อหน่าย เฉียวซือมู่คอยพะวักพะวนอยู่ตลอดเวลา แม้จิ้นหยวนจะฟื้นแล้ว และช่วยลดภาระเธอไปไม่น้อย เช่นเรื่องเช็ดตัว นวดตัว เป็นต้น ตอนนี้เธอไม่ต้องทำเรื่องพวกนั้นแล้ว อย่างมากก็แค่ช่วยพยุงเขาไปเข้าห้องน้ำ กระนั้น เธอยังคงเป็นห่วงเป็นกังวลเขาอยู่ตลอดเวลา นั่นเป็นเพราะว่า คนไข้อย่างจิ้นหยวนไม่ยอมทำตัวเป็นคนไข้ที่ดีนะสิ
ตอนที่ 271 แก้เบื่อ
ทั้งๆ ที่คุณหมอกำชับหนักหนาว่าร่างกายเขายังไม่หายดี ต้องพักผ่อนให้มาก ห้ามเครียด และห้ามออกกำลังกายหักโหม แล้วดูสิว่าเขาทำอะไร? เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอเผลอ เขาเป็นต้องหยิบโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คขึ้นมาเช็คอีเมล์และสั่งงานตลอด จนบางครั้งเธอรู้สึกว่าคนแข็งแรงปกติยังสู้เขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ขืนเขายังทำตัวแบบนี้อยู่อีกแล้วจะได้พักผ่อนได้อย่างไร ดังนั้น เขาจึงถูกเฉียวซือมู่ว่ากล่าวตักเตือนทุกครั้ง แต่อีตาคนต้นเรื่องกลับทำตัวให้เธอต้องเป็นห่วงอยู่เรื่อย เขาเอาแต่รับปากครับผมลูกเดียว แต่เธอเผลอทีไร เขาก็ทำตัวเหมือนเดิมทุกที พอถูกจับได้ก็แก้ตัวน้ำขุ่นๆ ทำเอาเธอโมโหแทบตาย
ในที่สุดเธอก็ฉลาดเสียที เธอริบโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คของเขาจนเกลี้ยงเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เขาจึงได้แต่มองเธอตาละห้อย
แต่ผ่านไปเพียงแค่วันเดียว เขาก็พบเรื่องสนุกเรื่องใหม่แทน นั่นก็คือคอยแทะโลมเธอทุกครั้งที่มีโอกาส เขาจะเอนตัวอยู่บนเตียง คอยจับมือเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย และในที่สุดเธอก็จะถูกเขาเกาะแกะจนหนีไปไหนไม่ได้
ระหว่างนั้นยังถูกพี่โจวที่เป็นพยาบาลพิเศษเห็นเข้าโดยบังเอิญตั้งสองครั้ง เฉียวซือมู่เห็นสีหน้ายิ้มๆ ของเธอแล้วอับอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี แต่จิ้นหยวนกลับมองเธอหน้าใสซื่อ “คุณเป็นเมียจ๋าของผม เราจู๋จี๋กันก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน”
“แต่นี่มันในห้องคนไข้นะคะ คุณยังป่วยหนักอยู่ เราจะทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ” เธอเอ่ยจริงจัง แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เธอถูกเขาจับตัวเอาไว้บนเตียง สองหนุ่มสาวนั่งอิงแอบแนบชิดกัน จึงทำให้คำพูดเธอไร้น้ำหนักสิ้นดี
จิ้นหยวนหัวเราะเบาๆ ฝังศีรษะลงบนหน้าอกเธอด้วยความร้อนแรง เอ่ยเสียงอู้อี้ “ใครใช้ให้คุณยึดมือถือผมไปล่ะ ไม่มีอะไรให้เล่น ก็ต้องเล่นคุณแก้เบื่อสิ”
เธอได้ยินแล้วไม่สบอารมณ์ เธอจิกผมเขาอย่างแรงเพื่อดึงให้เขาเงยหน้าขึ้น ไม่ให้เขานัวเนียเธออีก “กรุณาทำความเข้าใจใหม่ด้วยนะคะ ฉันไม่ใช่ของเล่นของคุณ เล่นเลิ่นอะไรกัน?”
จิ้นหยวนสำนึกผิดทันที “ครับ ผมผิดไปแล้ว น่าจะพูดว่าจู่จี๋กับเมียจ๋าก็ไม่เห็นแปลกตรงไหน ก็ตอนนี้มันน่าเบื่อนี่นา”
คำพูดเขายังไม่คงฟังไม่รื่นหูอยู่ดี เธอถอนหายใจ รู้สึกว่าร่างกายเขาแข็งแรงกว่าคนปกติทั่วไปจริงๆ คนปกติทั่วไปหากได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนี้คงต้องนอนรักษาตัวอยู่บนเตียงอย่างน้อยครึ่งเดือน แล้วดูเขาสิ ฟื้นได้สองวันก็ลุกออกจากเตียงแล้ว พอวันที่สามก็อาบน้ำเองแล้ว ตอนนี้เพิ่งจะผ่านไปแค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น แต่สีหน้าเขาเลือดฝาด เดินเหินคล่องแคล่ง หากไม่ใช่เพราะบนอกเขายังมีรอยแผลอยู่ล่ะก็ เธอคงคิดว่าจิ้นหยวนต้องแอบเปลี่ยนตัวปลอมมาแน่
มิน่าเล่า เขาถึงได้บ่นว่าเบื่ออยู่ตลอดเวลา บังคับให้คนปกติคนหนึ่งเอาแต่กินแล้วก็นนอนนานๆ แบบนี้ใครจะไปทนไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนบ้างานอย่างจิ้นหยวนด้วยแล้ว
เมื่อคิดได้ดังนี้เธอจึงรู้สึกว่าตัวเองบังคับจิตใจเขามากเกินไป เธอครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้น “ถ้างั้นคุณก็ดูหนังสิคะ…”
จิ้นหยวนปฏิเสธทันทีโดยไม่เสียเวลาคิดแม้แต่วินาทีเดียว “ไม่เอา ให้ดูหนังผมดูคุณดีกว่า คุณสวยกว่าผู้หญิงในหนังตั้งเยอะ”
โอเค เธอยอมรับก็ได้ว่าคำพูดนี้ทำให้เธอดีใจมาก แต่มันก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่เขาจะใช้เล้าโลมเธออยู่แบบนี้…
เธอสูญเสียพลังงานเยอะมากกว่าจะทำให้เขาผละออกจากตัวเธอได้ แต่ขณะที่เธอกำลังจะลงจากเตียงนั้น จิ้นหยวนก็โถมเข้ามาทับตัวเธอไว้อย่างไม่ยอมแพ้ สองหนุ่มสาวนัวเนียกันอยู่บนเตียงอีก
ความจริงเธอไม่ได้อ่อนแอมากขนาดนั้น แต่จิ้นหยวนยังบาดเจ็บอยู่ เธอกลัวว่าจะถูกแผลเขาเข้า จึงไม่กล้าใช้แรงมากนัก ทำให้จิ้นหยวนได้คืบจะเอาศอก และเธอก็ต้องยอมเขาอย่างไม่มีทางเลือก