เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย - ตอนที่ 300 เปิดอกคุย / ตอนที่ 301 ไม่อยากจะเชื่อ
ตอนที่ 300 เปิดอกคุย
“อย่าเพิ่งรับปากเร็วเกินไป” เวินเยวี่ยฉิงเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ฟังให้จบก่อนดีกว่า”
“ค่ะ หนูรอฟังอยู่ค่ะ” เฉียวซือมู่ไม่ใส่ใจ ลากเก้าอี้ไปวางข้างเตียงคนไข้ ทำท่าตั้งหน้าตั้งตาฟัง
เวินเยวี่ยฉิงถอนหายใจ “พ่อของลูกกลับมาแล้ว”
“อะไรนะคะ!” เฉียวซือมู่ตกใจจนกระโดดโหยง น้ำเสียงเปลี่ยนทันที “คุณแม่พูดว่าอะไรนะคะ? คุณพ่อกลับมาแล้ว? ก็คุณพ่อเขา… เขา…”
คุณพ่อที่ตายไปจากใจเธอนานแล้วกลับมาแล้วอย่างนั้นหรือ? เรื่องนี้ทำให้เธอตกตะลึงจนลืมรักษากิริยา มองหน้าคุณแม่อย่างไม่อยากจะเชื่อ
เวินเยวี่ยฉิงพยักหน้าหนักแน่น “ใช่ ครั้งที่แล้วที่ซูเปอร์มาร์เก็ต แม่เห็นหลังพ่อไวๆ เราเป็นผัวเมียกันเป็นสิบๆ ปี อย่าว่าแต่แผ่นหลังเลย ต่อให้เหลือแต่กระดูกแม่ก็จำได้ แม่ก็เลยวิ่งตามไป”
เธอเอ่ยพลางมองเฉียวซือมู่ “แม่รู้ว่าลูกคิดยังไงกับพ่อ แต่แม่อยากให้ลูกจำเอาไว้ พ่อก็คือพ่อ ตอนเด็กๆ พ่อเขารักลูกมากจริงๆ นะ”
เฉียวซือมู่ตะลึงนิ่งอึ้ง คุณแม่ดูออกว่าเธอคิดและอยากจะพูดอะไร จึงได้แต่พยักหน้า “หนูรู้ค่ะ”
นี่สินะเหตุผลที่คุณแม่ไม่อยากจะบอกเธอ แต่เพื่ออะไรล่ะ?
เวินเยวี่ยฉิงเอ่ยต่อ “ครั้งนั้นแม่วิ่งตามเขาไป แม่เห็นเขาใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ขาดๆ ไม่พอดีตัว เหมือนเสื้อผ้าที่ไปเก็บคนอื่นมา ยิ่งดูก็ยิ่งแปลก แม่ก็เลยไม่ได้เรียกเขา แต่แอบตามเขาไปเงียบๆ เพื่อไม่ทำให้เขารู้ตัว แม่ก็เลยต้องปิดมือถือ”
เฉียวซือมู่ฟังจบแล้วถึงได้รู้ว่าทำไมตอนนั้นคุณแม่ถึงปิดโทรศัพท์มือถือ แต่เธอยังคงรู้สึกแปลกใจอยู่ดี แม้เมื่อก่อนครอบครัวเธอจะไม่ได้ร่ำรวยเท่าตระกูลจิ้น แต่ก็ถือว่าเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ในเมืองนี้ ตระกูลเฉียวเป็นคนชนชั้นไฮโซ ตอนที่คุณพ่อหนีไปพร้อมกับผู้หญิงคนนั้น ท่านหอบเงินทั้งหมดไปด้วย เหลือทิ้งไว้แต่หนี้มากมายมหาศาลเอาไว้ให้พวกเธอ ถ้าท่านไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ท่านสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบายๆ ไปตลอดชีวิตเลย
แต่ทำไมฟังจากที่คุณแม่เล่าแล้วเหมือนคุณพ่อจะยากจนข้นแค้นมากเลยล่ะ มันจะเป็นไปได้อย่างไร? เธอคิดมาตลอดว่าคุณพ่อคงกำลังใช้ชีวิตสำเริงสำราญอยู่ที่ไหนสักแห่ง แต่ไม่เคยคิดเลยว่าท่านจะกลายเป็นแบบนั้นไปได้
เวินเยวี่ยฉิงทอดถอนใจ “ตอนนั้นแม่รู้สึกว่ามันแปลกมาก เงินที่เขาหอบหนีไปมากพอให้เขาใช้ชีวิตสุขสบายไปทั้งชาติ แล้วทำไมถึงกลายเป็นแบบนั้นไปได้? เสี้ยววินาทีหนึ่งแม่ยังคิดว่าตัวเองคงตาฝาดไป แต่พอเห็นใบหน้าด้านข้างของเขาถึงได้แน่ใจว่าเป็นเขาจริงๆ”
“แล้วหลังจากนั้นล่ะคะ?” เฉียวซือมู่อดรนทนไม่ไหวอยากจะฟังต่อ
“หลังจากนั้น…” เวินเยวี่ยฉิงยิ้มขมขื่น “หลังจากนั้นแม่ก็แอบตามเขาไปจนถึงบ้านเก่าซอมซ่อแถวชานเมือง ในบ้านไม่มีอะไรเลย เห็นปุ๊บก็รู้แล้วว่าเป็นบ้านร้างที่ถูกเจ้าของทิ้งไปแล้ว เขานอนอยู่ในนั้น จากนั้นล้วงของกินออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วกินมัน แม่ถึงได้รู้ว่าที่เขาไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตก็เพื่อขโมยของกิน และนั่นหมายความว่าตอนนี้เขาไม่มีเงินเหลือติดตัวแม้แต่สตางค์แดงเดียวแล้ว”
“มันจะเป็นไปได้ยังไงกันคะ?” เฉียวซือมู่ร้องเสียงหลง “เงินที่คุณพ่อหอบหนีไป ต่อให้ไม่ทำงานก็มีเงินใช้ไปตลอดชีวิต แล้วทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?”
เวินเยวี่ยฉิงถอนหายใจ “แม่เองก็คิดเหมือนลูก แต่แม่ไม่ทันระวังทำเสียงดังจนทำให้เขารู้ตัว”
“คุณพ่อเห็นคุณแม่เหรอคะ? แล้วจากนั้นล่ะคะ?” เฉียวซือมู่เบิกตาโต ถ้าเป็นแบบนั้นจริง หลังจากกลับบ้านแล้วคุณแม่ต้องบอกเธอสิ แต่ทำไมเป็นตายร้ายดีอย่างไรท่านก็ไม่ยอมบอกเธอล่ะ?
ตอนที่ 301 ไม่อยากจะเชื่อ
เวินเยวี่ยฉิงรู้ว่าปกปิดต่อไปไม่ได้แล้ว จึงยอมเล่าทุกอย่างจนหมดเปลือก
ที่แท้ เฉียวจื่อจี้ พ่อของเฉียวซือมู่ได้รู้จักกับหญิงสาวคนหนึ่ง ตอนแรกเธอเป็นพนักงานของเขา แต่สุดท้ายเขาก็หลงเสน่ห์เธอเข้าอย่างจัง จนทั้งสองมีความสัมพันธ์กัน
ตอนแรกเฉียวจื่อจี้แค่รู้สึกสดชื่นกับความแปลกใหม่โดยไม่คิดที่จะอยู่กับเธอตลอดไป แต่ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นไปหาลู่ทางมาจากไหน ถึงได้ล่อหลอกให้เขาติดการพนันจนได้
สามสิ่งที่ไม่ควรแตะต้องมากที่สุดก็คือประเวณี การพนันและยาเสพติด แต่เฉียวจื่อจี้กลับหลวมตัวเข้าไปพัวพันทีเดียวถึงสองอย่าง ทำให้เขาหลงมัวเมาจนถอนตัวไม่ขึ้น ตอนแรกเขาแค่อยากจะเอาเงินที่เสียไปคืนแล้วเขาจะวางมือทันที แต่สุดท้ายเขากลับติดการพนันงอมแงม กว่าจะได้สติก็ตอนที่เขาใช้เงินสดในบริษัทจนเกือบหมดเกลี้ยง ทำให้รายได้ไม่พอกับรายจ่าย
เขาตื่นตระหนกมากและคิดจะวางมือ แต่กลับพบว่าตัวเองก่อหนี้สินไว้มากมายมหาศาล ถ้าเกิดเรื่องนี้เปิดเผยออกไป ไม่เพียงลูกเมียจะไม่ให้อภัยเขา ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือครอบครัวอาจจะล้มละลาย ขณะที่เขากำลังตื่นตระหนกและทำอะไรไม่ถูกนั้น ชู้รักของเขาก็ออกอุบายให้เขา บอกให้เขาหอบทรัพย์สมบัติที่ยังเหลืออยู่หนีไปซะ แบบนี้เจ้าหนี้ก็จะหาตัวเขาไม่เจอ แถมยังเหลือเงินทองอีกตั้งเยอะ วางพนันอีกสักตั้ง จะได้เอาเงินที่เสียไปทั้งหมดคืนมาด้วย
เขากำลังหวาดกลัว พอได้ยินคำแนะนำของเธอจึงรีบทำตามทันที เขาขายทรัพย์สินที่เหลืออยู่จนหมด จากนั้นหนีไปพร้อมชู้รัก
“แต่ว่า… ต่อให้คุณพ่อแพ้พนัน แต่ก็คงไม่ถึงขั้นตกอยู่ในสภาพน่าอเนจอนาถขนาดนั้นหรอกมั้งคะ อีกอย่าง ผู้หญิงคนนั้นล่ะคะ?” เฉียวซือมู่ฟังเรื่องราวยืดยาวของคุณพ่อจนจบแล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย
เวินเยวี่ยฉิงส่ายศีรษะอย่างปลงอนิจจัง “พ่อลูกน่ะมีตาหามีแววไม่ ดูคนผิดมาทั้งชีวิตแล้วยังไม่รู้จักจำ ผู้หญิงคนนั้นเลวมาก หลังจากหนีไปด้วยกันแล้วก็คอยยุยงให้เขาไปเล่นการพนันอีก คิดแต่จะเอาเงินคืน แต่มันง่ายอย่างที่คิดเสียที่ไหนกันล่ะ เล่นไปก็มีแต่เสียกับเสีย แถมยังเสียจนหมดตัวอีกต่างหาก ผู้หญิงคนนั้นเห็นท่าไม่ดีก็เลยแอบหนีไป พ่อของลูกถึงได้ตกอยู่ในสภาพนั้นไงล่ะ” เธอเอ่ยอย่างปลงๆ
เธอกับเฉียวจื่อจี้มีช่วงเวลาสวยงามด้วยกันมากมาย เธอคิดไม่ถึงเลยว่าความรู้สึกที่แปรเปลี่ยนจะกลายเป็นเรื่องน่ากลัวมากขนาดนี้ ยามเธอเห็นชายที่ตัวเองเคยรักหมดใจและเป็นที่พึ่งมาตลอดชีวิตกลายเป็นคนที่น่าสมเพชแบบนั้นแล้ว ในใจเธอเต็มไปด้วยความสับสนปนเปที่ยากจะอธิบาย
เฉียวซือมู่กลับไม่รู้สึกประหลาดใจเลยสักนิด เธอทำงานข่าวมานานหลายปี เคยเห็นผีพนันมาไม่น้อย ผีพนันที่จมปลักอยู่กับการพนันจนถอนตัวไม่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนดีเลิศประเสริฐศรีมาจากไหนก็ตาม สุดท้ายก็ต้องบ้านแตกสาแหรกขาด และพบกับจุดจบที่น่าสมเพช ดังนั้น เธอจึงไม่รู้สึกแปลกใจเลยสักนิดที่ได้ยินคุณแม่เล่าว่าคุณพ่อเล่นพนันจนไม่เหลือเงินสักบาท แต่กลับเอ่ยอย่างไม่เห็นใจเลยสักนิด “มันก็สมควรแล้วนี่คะ”
เวินเยวี่ยฉิงส่ายศีรษะ สีหน้าสับสน
เฉียวซือมู่เห็นท่าทางของคุณแม่แล้วหวนนึกถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวที่เคยดีมาก เธอเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “แล้วตอนนี้คุณแม่คิดยังไงกับคุณพ่อคะ? แล้วตอนนี้คุณพ่ออยู่ที่ไหนคะ?”
ความรู้สึกที่เธอมีต่อคุณพ่อนั้นสับสนไม่ต่างกัน ตอนที่รู้ว่าคุณพ่อพาชู้รักหนีไปพร้อมเงินทั้งหมดนั้น เธอโกรธเกลียดคุณพ่ออยู่ตั้งนาน อยากให้คุณพ่อตายๆ ไปซะให้รู้แล้วรู้รอด