เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย - ตอนที่ 370 ทำไมถึงไม่เชื่อใจกันเลย? / ตอนที่ 371 ผู้ชายที่สอบไม่ผ่าน
- Home
- เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย
- ตอนที่ 370 ทำไมถึงไม่เชื่อใจกันเลย? / ตอนที่ 371 ผู้ชายที่สอบไม่ผ่าน
ตอนที่ 370 ทำไมถึงไม่เชื่อใจกันเลย?
ชายทั้งสองหน้าตาละม้ายคล้ายกันมาก ราวกับว่ามีความเกี่ยวพันกันทางสายเลือด
เวินเยวี่ยฉิงดูออกว่าเธอกำลังสงสัยเรื่องอะไร เธอถอนหายใจแล้วเอ่ยขึ้น “พวกเขาเป็นพ่อลูกกัน ส่วนผู้หญิงคนนั้นเป็นภรรยาเก่าของเขา อี้เฉิน เด็กผู้ชายคนเมื่อกี้นี้น่ะ เขาเป็นลูกชายของพวกเขา”
มิน่าเล่า เขาถึงได้เดินตามลงไปด้วย ต่อให้ผู้หญิงคนนั้นทั้งโวยวายทั้งร้องไห้ หรือทำเรื่องน่าอับอายขายหน้ามากแค่ไหน เธอก็ยังเป็นแม่ของเขาอยู่ดี
ตรงบันไดไม่ใช่ที่ที่เหมาะจะคุยกัน ทั้งหมดจึงพากันลงไปยังชั้นล่าง ช่วยกันเก็บกวาดห้องรับแขกให้เรียบร้อย จัดแจงชงน้ำชาเสิร์ฟลงบนโต๊ะ ทุกคนนั่งลงบนโซฟา จากนั้นค่อยๆ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้คนที่มาทีหลังได้รับรู้
เรื่องที่ถูกเล่าเหมือนละครน้ำเน่าไม่มีผิด เรื่องเริ่มขึ้นตอนที่เวินเยวี่ยฉิงเข้าโรงพยาบาลเพราะถูกเฉียวจื่อจี้ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บครั้งนั้น คุณหมอชื่อหลัวเฮ่าเฝ้ามองดูเธอเป็นพิเศษ หลังจากที่เขามีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเวินเยวี่ยฉิงหลายครั้ง เขารู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนมาก เทียบกับภรรยาเก่าของตนแล้ว เธอดีกว่าเป็นหมื่นเท่า หลังจากเขารู้ว่าเธอต้องพบเจอเรื่องเลวร้ายอะไรในชีวิตมาบ้าง เขาจึงรู้สึกเห็นใจเธอมาก
หลังจากความพยายามอย่างหนัก ในที่สุดเขาก็ได้เบอร์โทรติดต่อของเธอ ทั้งสองจึงเริ่มติดต่อกันผ่านวีแชทตั้งแต่นั้น
เวินเยวี่ยฉิงยิ้มขื่นเมื่อเล่าถึงตรงนี้ “ตอนแรกแม่ไม่คิดว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเขา แค่คิดว่าเขาเป็นเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น เพราะเราอายุไล่เลี่ยกัน แล้วพ่อของลูกยังเป็นแบบนั้นอีก ไม่คิดเลยว่า…”
ไม่คิดเลยว่าทุกอย่างจะเลยเถิดไปไกลจนเกินความควบคุมของเธอ หลัวเฮ่าเริ่มตามจีบเธออย่างจริงจัง วันเวลาผ่านไป ความเด็ดเดี่ยวของเธอค่อยๆ เริ่มสั่นคลอน ในที่สุดเธอก็ใจอ่อน และยอมเปิดใจตอบรับไมตรีจากเขา
ทุกอย่างกำลังไปได้ดี ไม่รู้ว่าอดีตภรรยาของเขาไปได้ข่าวมาจากไหน วันหนึ่ง เธอก็ตามมาหาเรื่องถึงที่บ้าน และยังก่นด่าว่าเวินเยวี่ยฉิงเป็นเมียน้อยอีก
เวินเยวี่ยฉิงเพิ่งเคยถูกคนอื่นด่าเสียๆ หายๆ เป็นครั้งแรก เธอจึงโกรธจนตัวสั่น คิดว่าหลัวเฮ่าหลอกลวงตนและเขายังไม่ได้หย่าขาดจากเธอ จนกระทั่งเขารีบรุดมาที่นี่ และสาบานต่อฟ้าดินว่าเขาหย่าขาดจากเธอแล้วจริงๆ ทั้งยังนำเอกสารการหย่าออกมาแสดงเป็นหลักฐานอีก เธอจึงยอมเชื่อเขา
วันนี้อดีตภรรยาของเขาก็มาอาละวาดถึงที่นี่อีก ก่อนหน้านี้เธอนอกใจหลัวเฮ่าจนเขาต้องขอหย่ากับเธอ ตอนนี้อุตส่าห์ได้เจอผู้หญิงดีๆ แล้ว เขาจะยอมให้อดีตภรรยามาทำลายความสุขของเขาได้อย่างไร?
แต่เธอก็ไม่ใช่กระดูกอ่อนที่จะเคี้ยวกันได้ง่ายๆ หลัวเฮ่าทำทุกวิถีทางแต่เธอก็ไม่ยอมไปจากเขาเสียที และยังทำให้เขาเกือบจะต้องเสียงานอีก วันนี้ก็เหมือนเช่นเคย เขาพาลูกชายมาหาเวินเยวี่ยฉิงเพื่อคุยธุระ แต่เธอแอบตามเขามาถึงที่นี่จนมีปากเสียงกัน และยังทำลายข้าวของในบ้านเวินเยวี่ยฉิงจนเสียหายอีก
เฉียวซือมู่ฟังเรื่องราวทั้งหมดจบแล้วขมวดคิ้วแน่นจนแทบผูกเป็นโบว์ จิ้นหยวนทนดูไม่ไหว ยื่นมือออกไปนวดหว่างคิ้วเธอเบาๆ จนมันคลายออก “ไม่ต้องห่วง อย่างมากผมก็แค่หาคนพาเธอไปไกลๆ ก็เท่านั้นเอง”
นี่ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยมากสำหรับเขาจริงๆ แต่กลับถูกเฉียวซือมู่ถลึงตาใส่ “คุณอย่าก่อกวนสิ”
เวินเยวี่ยฉิงเอ่ยขึ้น “แม่ไม่อยากให้ลูกต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย คิดแต่ว่าเราเป็นผู้ใหญ่ สามารถแก้ปัญหากันเองได้ ใครจะไปรู้ว่าลูกจะฉลาดขนาดนี้ เดาถูกจนตามมาถึงที่”
เฉียวซือมู่เอ่ยอย่างเซ็งๆ “ตอนนี้หนูโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะคะ ไม่ใช่เด็กๆ อีกแล้ว ทำไมคุณแม่ถึงไม่ยอมเชื่อใจหนูบ้าง?”
เวินเยวี่ยฉิงจุกจนพูดไม่ออก เธอแค่ไม่อยากสร้างปัญหาให้ลูกสาว เธอผิดด้วยหรือ?
เธอหันไปมองหลัวเฮ่าแล้วเอ่ยเสียงขุ่น “คุณหลัว แล้วต่อจากนี้คุณจะทำยังไงต่อคะ?”
ในสายตาเธอ ปัญหาใหญ่ที่สุดของเรื่องนี้ก็คือหลัวเฮ่า หลัวเฮ่าหย่าขาดจากผู้หญิงคนนั้นแล้ว ผู้หญิงคนนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาแล้ว แต่เขาก็ยังปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นมาอาละวาดหาเรื่องเธอ หากจะบอกว่าเขาไม่มีส่วนรับผิดชอบเลยก็คงไม่ถูกนัก
ตอนที่ 371 ผู้ชายที่สอบไม่ผ่าน
ผู้ชายคนหนึ่งมีวิธีมากมายที่จะจัดการกับผู้หญิงคนหนึ่ง แม้จะใช้กำลังไม่ได้ แต่ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้นี่ แต่เขากลับปล่อยให้เรื่องราวกลายเป็นแบบนี้ คงต้องบอกว่า ตอนนี้เฉียวซือมู่รู้สึกมีอคติกับหลัวเฮ่ามาก
เธอไม่สนใจหรอกว่าคุณแม่จะมีเพื่อนคู่คิดคนใหม่หรือไม่ ความจริงเธอค่อนข้างเห็นดีด้วยซ้ำ เพราะคุณแม่อยู่ตัวคนเดียวก็ไม่ปลอดภัย มีชายคนรักคอยอยู่ใกล้ๆ ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่มีเงื่อนไขใดๆ เลย
ในสายตาเธอ ณ ตอนนี้ หลัวเฮ่าสอบไม่ผ่าน
สายตาไม่พอใจของเฉียวซือมู่ทำให้หลัวเฮ่าขยับกายเล็กน้อยด้วยความกระสับกระส่าย รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่หญิงสาวตรงหน้าทำให้ตนรู้สึกกดดันได้มากขนาดนี้ เขาเหลือบมองชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ข้างกายเธอแล้วค่อยรู้สึกมั่นใจขึ้นเล็กน้อย
เขามองเฉียวซือมู่แวบหนึ่ง แล้วหันไปมองเวินเยวี่ยฉิง ยืดอกพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว “ครั้งนี้เป็นความผิดของผมเองที่ปล่อยให้เธอมาหาเรื่องคุณถึงที่นี่ กลับไปผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย แล้วผมจะกลับมาใหม่ ขอให้พวกคุณเชื่อใจผมเถอะนะครับ”
เฉียวซือมู่เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง เอ่ยอย่างไม่เกรงใจ “ขอโทษนะคะ แล้วคุณคิดว่าจะจัดการกับเธอยังไงหรือคะ?”
พูดกันตามตรง ผู้หญิงคนนั้นสมควรถูกจับขังหลายเดือนด้วยซ้ำ ดูเฟอร์นิเจอร์ในบ้านที่เธอทำลายจนเสียหายยับเยินสิ แค่ค่าชดใช้ก็คงทำให้เธอกระอักเลือดแล้ว ถึงอย่างไรเธอก็เป็นอดีตภรรยาของชายคนนี้ คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการเธอ
หลัวเฮ่าลังเลชั่วครู่ “ถึงเธอจะเป็นภรรยาเก่าของผม แต่เราก็แตกหักกันตั้งแต่ตอนที่จับได้ว่าเธอแอบไปเปิดห้องกับชายชู้แล้ว ที่ผมยอมอดทนมาตลอดก็เพราะเห็นแก่อี้เฉินเท่านั้น” เขาถอนหายใจ “ก่อนหน้านี้ที่ผมยอมอดทนก็เพราะลูก แต่ตอนนี้ผมจะไม่ทนแล้ว ผมจะติดต่อให้ครอบครัวเขามารับตัวเธอกลับเดี๋ยวนี้แหละ”
“แล้วมันจะได้ผลเหรอคะ?” เฉียวซือมู่เอ่ยถามด้วยความไม่มั่นใจ
“ได้ผลสิครับ สภาพครอบครัวเธอค่อนข้างจะซับซ้อน ถึงเลี้ยงดูเธอจนกลายเป็นคนนิสัยแบบนี้ เมื่อก่อนเป็นเพราะผมใจอ่อนมากเกินไป” เขายิ้มขื่น จากนั้นรีบเปลี่ยนประเด็น “ไม่ว่ายังไงก็ตาม ขอให้พวกคุณเชื่อผมเถอะ ผมจะจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วกลับมาใหม่”
เอ่ยจบแล้วหันไปยิ้มให้เวินเยวี่ยฉิง “ครั้งนี้ผมเป็นคนผิดต่อคุณ” เขาเอ่ยอย่างจริงใจ จนเวินเยวี่ยฉิงรีบส่ายศีรษะปฏิเสธ “ไม่หรอกค่ะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณซะหน่อย”
เขาถอนหายใจแล้วลุกขึ้นยืน “ผมคงต้องกลับก่อน เชื่อผม ผมจะต้องมีคำตอบที่น่าพอใจให้พวกคุณอย่างแน่นอน”
เอ่ยจบแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋า เงยหน้าขึ้นยิ้มให้พวกเขา “ผมกลับก่อนนะครับ ต้องขอโทษอีกครั้งด้วยนะครับ”
เอ่ยจบแล้วเดินออกจากบ้าน
เวินเยวี่ยฉิงมองหน้าลูกสาว ขณะที่กำลังจะอ้าปากพูดนั้น จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขัดจังหวะขึ้น เธอหยิบมันขึ้นมาดูแล้วร้อง “เอ๊ะ” ออกมา
เธอชายตามองลูกสาว “หลัวเฮ่าเพิ่งโอนเงินให้แม่”
เอ่ยพลางยื่นโทรศัพท์มือถือให้เฉียวซือมู่ดู เฉียวซือมู่เดินเข้าไปดูใกล้ๆ เห็นรายการเงินโอนเข้าเมื่อหนึ่งนาทีที่แล้ว จำนวนเงินไม่มากไม่น้อย แต่ก็มากพอสำหรับชดใช้ค่าเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกทำลายจนเสียหาย
เธอหัวเราะเบาๆ มุมมองที่มีต่อหลัวเฮ่าดีขึ้นอีกเล็กน้อย เธอยื่นโทรศัพท์มือถือคืนให้เวินเยวี่ยฉิง “มันเป็นเงินค่าเสียหายที่เขาชดใช้ให้คุณแม่น่ะค่ะ ชดใช้ที่ภรรยาเก่าเขาทำลายบ้านคุณแม่จนพัง คุณแม่รับไว้เถอะค่ะ”
เวินเยวี่ยฉิงเองก็เดาออกแล้วเหมือนกัน เธอถอนหายใจ “ความจริงเขาเป็นคนดีมากเลยนะ แต่ผู้หญิงคนนั้นยุ่งยากมากเกินไปหน่อย”
เฉียวซือมู่มองดูท่าทางคุณแม่แล้วรู้สึกโมโหนิดๆ “ค่า ถ้าหนูมาไม่ทัน ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณแม่จะถูกเขาด่ายังไง หนูล่ะยอมแพ้คุณแม่จริงๆ”