เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย - ตอนที่ 428 ขอโทษด้วย ผมไม่อนุมัติ / ตอนที่ 429 วันนี้เธอสวยมาก
- Home
- เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย
- ตอนที่ 428 ขอโทษด้วย ผมไม่อนุมัติ / ตอนที่ 429 วันนี้เธอสวยมาก
ตอนที่ 428 ขอโทษด้วย ผมไม่อนุมัติ
ไม่ว่าคนคนนั้นจะมีจุดประสงค์อะไรก็ตาม จะต้องเป็นคนที่ไม่หวังดีเป็นแน่
เธอได้แต่ตอบ “อืม” เบาๆ
ไหนๆ พรุ่งนี้เธอก็จะไปลาออกจากงานอยู่แล้ว มีคนคอยติดตามก็คงไม่เป็นไร
เธอตัดสินใจแล้วว่าพรุ่งนี้จะโทรศัพท์ไปลาออกแทน!
บ่ายวันถัดมา เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเตรียมโทรไปลาออกกับเจ้านาย
อีกฝ่ายกดรับสายอย่างรวดเร็ว เสียงไพเราะน่าฟังของอีริคดังลอยมาตามสาย “เฉียว? มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ?”
น้ำเสียงเขาฟังดูปกติมาก ราวกับเมื่อวานไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นเลยอย่างไรอย่างนั้น
เธอสูดหายใจลึก พยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูใจเย็นที่สุด “ขอโทษค่ะคุณอีริค ฉันคงต้องทำให้คุณผิดหวังเสียแล้ว ฉันจะขอลาออกค่ะ”
น้ำเสียงของอีกฝ่ายฟังดูไม่แปลกใจเลยสักนิด อย่างน้อยเธอฟังแล้วรู้สึกเช่นนั้น “อ้อ ทำไมล่ะ?”
เธอเม้มริมฝีปากเล็กน้อย รู้ทั้งรู้ก็ยังจะแกล้งถามอีก แต่เธอไม่อยากหักหน้าเขาจนมองหน้ากันไม่ติด จึงให้เหตุผลไปว่า “ที่บ้านฉันเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย ฉันก็เลยออกไปทำงานนอกบ้านไม่ได้แล้ว ต้องขอโทษด้วยนะคะ”
อีกฝ่ายชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นใหม่ “ขอโทษด้วยนะครับ ผมคงรับปากในสิ่งที่คุณต้องการไม่ได้”
“ทำไมล่ะคะ?” เธอกำโทรศัพท์มือถือในมือแน่น “ฉันคิดว่าฉันมีเหตุผลในการลาออก ไม่ทราบว่าคุณมีเหตุผลอะไรถึงไม่อนุมัติคะ?”
“คือว่าอย่างนี้นะครับ บริษัทเราจะจัดงานเลี้ยงฉลอง กำหนดการคือคืนนี้ คุณอยากจะลาออกก็ได้ แต่คุณมาร่วมงานแล้วค่อยลาออกได้ไหมครับ?”
“แต่ฉันคิดว่า…”
“คุณจะไม่มาก็ได้ แต่คุณไม่คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะสร้างความทรงจำที่ไม่ดีให้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ เหรอครับ? อย่างคุณหวัง เมื่อกี้เธอเพิ่งคุยกับผมว่าอยากจะเจอคุณ เธอยังมีเรื่องต้องคุยกับคุณอีก”
“เหรอคะ?” เธอลังเลชั่วครู่ “เธอมีอะไรจะคุยกับฉันเหรอคะ?”
“เรื่องนั้นผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมถึงอยากให้คุณมาร่วมงานคืนนี้ไง จะได้บอกลากันด้วยไงครับ” อีริคพยายามเกลี้ยกล่อม
“ก็… ได้ค่ะ” เธอฟังคำพูดโน้มน้าวของเขาแล้วลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็รับปากจนได้
แค่คืนเดียว รอบกายยังมีเพื่อนร่วมงานอีกตั้งเยอะ เขาคงไม่กล้าทำอะไรหรอกมั้ง อีกอย่าง คุณหวังดีกับเธอมาก ตนควรจะไปบอกลาเธอด้วยตัวเอง
เธอครุ่นคิดไปมาท่าทางเหม่อลอยไปไกล จู่ๆ ก็รู้สึกว่าตนโง่มาก งานเลี้ยงกลางคืน จิ้นหยวนก็ต้องกลับบ้านแล้วนะสิ แล้วเธอจะบอกจิ้นหยวนอย่างไร?
โง่ที่สุด เธอตบกบาลตัวเอง อยากจะคืนคำจริงๆ
แต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก เธอมองโทรศัพท์มือถือหน้าดำคร่ำเครียด หรือจะโทรศัพท์ไปบอกเขาว่าเธอเสียใจภายหลังแล้ว?
แต่เขาคงไม่ยอมหรอกมั้ง?
ขณะที่เธอกำลังกลุ้มอกกลุ้มใจอย่างหนักอยู่นั้น จู่ๆ หน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธอก็สว่างวาบขึ้น มีสายเรียกเข้าจากจิ้นหยวนนั่นเอง
เธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพลางยิ้มหวาน “อาหยวน?”
เสียงทุ้มต่ำน่าฟังของจิ้นหยวนดังลอดมาตามสาย “กำลังทำอะไรอยู่เหรอ?”
“กำลังเบื่อๆ ก็เลยนั่งเหม่ออยู่ค่ะ” เธอแสร้งทำเป็นแง่งอนไม่พอใจ
เขารู้สึกผิดนิดๆ “คุณออกไปเดินเล่นก็ได้นะ”
“ไม่เอา ฉันจะรอคุณอยู่ที่บ้านนี่แหละ”
เขาฟังแล้วรู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมาทันที “คือว่าอย่างนี้นะที่รัก คืนนี้ผมต้องไปงานเลี้ยงค็อกเทล คงต้องกลับดึกน่ะ”
“หา… อย่างนั้นเหรอคะ?” เธอรู้สึกผิดหวังมาก แต่คิดๆ ดูแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอีก สวรรค์เข้าข้างเธอแล้ว
เธอพยายามสะกดกลั้นความตื่นเต้นดีใจเอาไว้ให้มิดแล้วเอ่ยกับเขา “ฉันอยากให้คุณกลับบ้านเร็วๆ จัง”
จิ้นหยวนรู้สึกผิดมาก “ขอโทษด้วยนะ แค่คืนนี้คืนเดียว กลับไปแล้วคุณจะลงโทษผมยังไงก็ได้”
“จริงนะ? ถ้างั้น ฉันจะลงโทษคุณโดยการ… ให้คุณพาฉันออกไปเที่ยวพรุ่งนี้” เธอคิดวิธีลงโทษออกทันที
เขารับปากทันใด “ได้ ตกลงตามนี้”
ตอนที่ 429 วันนี้เธอสวยมาก
เธอวางโทรศัพท์มือถือลง บังเอิญมาก ถ้าเช่นนั้น เธอก็มีเวลามากเพียงพอที่จะไปร่วมงานเลี้ยงแล้ว
เธอตื่นเต้นขึ้นมาทันที ความจริงเธอถูกชีวิตประจำวันที่แสนน่าเบื่อบีบคั้นมากจนเกินไป ข้อเสนอของอีริคยังล่อใจเธอมากอีกต่างหาก เธอจึงตกปากรับคำเขาง่ายๆ
เธอเตรียมตัวอย่างอารมณ์ดี รับประทานอาหารเย็นอย่างใจลอย เพียงไม่นานก็ถึงเวลาที่อีริคบอก
ความมืดโรยตัว เธอแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วรีบวิ่งออกจากบ้านอย่างเร่งร้อน
หน้าประตู มีรถคันหนึ่งจอดเทียบท่ารออยู่ก่อนแล้ว
คราวนี้เธอออกจากบ้านอย่างเปิดเผย หากใครถามเธอก็จะบอกว่าเพื่อนเชิญให้เธอไปร่วมงานสังสรรค์ ทุกคนต่างรู้ดีว่าจิ้นหยวนรักเธอมากแค่ไหน จึงไม่มีใครกล้าขัดใจเธอแม้แต่คนเดียว
เธอก็แค่ออกไปเที่ยวเล่นเท่านั้น
เมื่อไปถึงหน้าโรงแรม เธอเยื้องกรายลงจากรถ บอดี้การ์ดสองคนที่ติดตามมาด้วยจะตามเธอขึ้นไปด้วย แต่กลับถูกเธอห้ามเอาไว้เสียก่อน “ฉันแค่ไปสังสรรค์กับเพื่อนเท่านั้น พวกนายอยากไปไหนก็ไป เดี๋ยวถึงเวลากลับแล้วฉันจะโทรบอกเอง”
“แต่ว่า…”
บอดี้การ์ดหน้าซื่อเกาหัวแกรกๆ รู้สึกว่าทำเช่นนั้นไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่
เฉียวซือมู่เอามือเท้าสะเอว “แต่ว่าอะไร ฉันแค่ไปสังสรรค์กับเพื่อนเท่านั้น ที่นี่เป็นโรงแรมห้าดาวนะ ระบบรักษาความปลอดภัยดีมาก ไม่มีปัญหาอะไรหรอกน่า ไม่ต้องพูดมากแล้ว นายสองคนอยากไปไหนก็ไปเถอะ ถ้าฉันจะกลับแล้วจะโทรเรียกเอง”
พูดจบแล้วหมุนตัวเดินจากไปทันที บอดี้การ์ดทั้งสองอยากจะรั้งเธอเอาไว้แต่ไม่กล้า ได้แต่มองหน้าเลิ่กลั่กไปมา สีหน้าเคร่งเครียด
“บอกเจ้านายดีไหม?” บอดี้การ์ดที่มีความรอบคอบมากกว่าปรึกษากับบอดี้การ์ดอีกคน
“ไม่ต้องหรอก ก็ไม่เห็นมีอะไรน่าเป็นห่วงนี่”
บอดี้การ์ดทั้งสองปรึกษาหารือกัน กระทั่งเธอเดินหายเข้าไปหลังประตูโรงแรมแล้ว ทั้งสองก็ยังไม่ได้ข้อสรุปเสียที
เฉียวซือมู่เดินไปขึ้นลิฟท์ กดปุ่มเพื่อไปยังชั้นที่สิบแปด ซึ่งเป็นชั้นที่บริษัทเหมาเอาไว้แล้ว เธอเพิ่งเดินเข้าไปในลิฟท์ จิ้นหยวนก็เดินออกมาจากประตูอีกบานพอดี เขามองประตูลิฟท์ที่เพิ่งปิดสนิทแล้วมุ่นหัวคิ้วเล็กน้อย จากนั้นหมุนตัวเดินไปยังลิฟท์อีกตัว แน่นอนว่าทั้งสองไปกันคนละชั้น
เฉียวซือมู่เดินออกจากลิฟท์ เห็นห้องโถงกว้างใหญ่มากปรากฎอยู่ตรงหน้า ชั้นสิบแปดเป็นชั้นที่ทางโรงแรมให้ลูกค้าเช่าเพื่อจัดกิจกรรมต่างๆ ราคาจึงแพงมาก
เธอสำรวจเสื้อผ้าของตนเอง เพื่อร่วมงานคืนนี้ เธอบรรจงเลือกสวมชุดกระโปรงสีดำเรียบหรูที่ตัดเย็บเรียบง่ายหากแต่ละเอียดประณีต สวมเข้าคู่กับเครื่องประดับเพชรเม็ดเล็กๆ ทำให้เธอดูสง่างามมาก ไม่ว่าเดินไปไหนก็สามารถดึงดูดสายตาทุกคนได้เป็นอย่างดี
เธอเดินเข้าไปในงาน พลันเห็นผู้คนมากมาย มีทั้งคนที่เธอรู้จักและไม่รู้จัก ต่างจับกลุ่มพูดคุยกันเบาๆ ทุกคนต่างแต่งกายหรูหรา ไม่เหมือนคนที่ร่วมงานฉลองของบริษัทเลยสักนิด แต่เหมือนปาร์ตี้พบประสังสรรค์ส่วนตัวมากกว่า
เธอมุ่นหัวคิ้วสงสัย ในงานมีแต่คนที่เธอไม่รู้จักเสียเป็นส่วนใหญ่ นั่นยิ่งทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ มากยิ่งขึ้น ทันใดนั้น เธอเห็นเพื่อนร่วมงานที่ชื่อหลิวชั่งเดินเข้ามาหาเธอพอดี “ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าที่นี่ดูแปลกๆ?”
หลิวชั่งชะงักเล็กน้อยก่อนจะตั้งสติใหม่ แต่คำพูดแรกของเขาไม่ใช่คำตอบที่เธอถาม ทว่าเป็นคำชมแทน “ว้าว วันนี้เธอสวยมาก”
“ขอบใจ” เธอยิ้มๆ แล้วถามเสียงเบา “นายยังไม่ได้ตอบคำถามฉันเลยนะ ทำไมถึงมีคนนอกมาร่วมงานเยอะขนาดนี้ล่ะ ไหนบอกว่าเป็นงานเลี้ยงฉลองของบริษัทไม่ใช่หรือไง?”
อีริคบอกว่าบริษัทได้รับออร์เดอร์ใหญ่จึงจัดงานเลี้ยงฉลองขึ้น แต่ไม่มีเหตุผลที่ต้องเชิญคนนอกมาร่วมงานมากมายขนาดนี้นี่นา?