เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย - ตอนที่ 512 จำสิ่งที่สัญญาเอาไว้กับผมด้วยนะครับ / ตอนที่ 513 หัวหน้าวัง
- Home
- เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย
- ตอนที่ 512 จำสิ่งที่สัญญาเอาไว้กับผมด้วยนะครับ / ตอนที่ 513 หัวหน้าวัง
ตอนที่ 512 จำสิ่งที่สัญญาเอาไว้กับผมด้วยนะครับ
“ครับ ผมผิดเองๆ” พอเห็นเธอโกรธจนอายแบบนี้แล้ว คนหน้าหนาอย่างจิ้นหยวนก็ต้องขอยอมรับเอง
ทำแบบนี้ก็จะได้ไม่ทำให้เธอหงุดหงิดไปด้วยเสียเลย เธอไม่เพียงแต่จะชะงักไป แต่ยังเชิดหน้าทำเสียงฮึดฮัดอีก “ฉันจะออกไปเดินเล่น” พูดจบก็จะเดินหนี
อย่าคิดว่าเธอไม่เห็นไฟที่ยังลุกโชนอยู่แววตาของเขาล่ะ เพราะเธอรู้จักละคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี ถ้ายังไม่ไปละก็เธอก็คงไม่มีทางได้ไปไหนอีกแน่ๆ
แต่ทั้งๆที่เธอคิดว่าตัวเองเร็วแล้ว แต่จิ้นหยวนกลับเร็วกว่าเสียได้ แค่เธอขยับตัวแขนของเธอก็ถูกคว้าเอาไว้ จากนั้นทั้งร่างก็ถูกหมุนกลับไป รู้ตัวอีกทีก็ตกอยู่ในอ้อมกอดของเขาอีกแล้ว
“คุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” เธอดิ้นด้วยความหงุดหงิด วันนี้ผู้ชายคนนี้กินยาผิดหรือไงกัน? ที่นี่มันห้องทำงานของเขานะ หรือว่าเขาอยากอีกงั้นเหรอ? เป็นแบบนั้นได้ยังไงกัน?
แน่นอน เธอคงจะลืมไปเหมือนกันว่าก่อนหน้านี้พวกเขาเองก็เคยทำเรื่องอย่างว่าในห้องทำงานนี้
จิ้นหยวนก้มหน้ามองเธอ มุมปากมีรอยยิ้มดูไม่ออกเลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่ “กลัวผมหรือครับ?”
“เหลวไหล ฉันจะออกไปข้างนอกแล้ว คุณเป็นประธานนะ ทำแบบนี้ได้ยังไงกัน?”
“ทำแบบนี้แบบไหนครับ?” เห็นได้ชัดว่าจิ้นหยวนไม่อยากจะปล่อยให้เธอไปไหน เขาจับแขนเธอไว้แล้วต้อนถาม
อีกนิดเฉียวซือมู่ก็จะโกรธเขาจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง “ก็ได้ๆ ฉันผิดเอง ท่านประธานช่วยยกโทษให้ฉันเถอะนะคะ ฉันแค่อยากจะออกไปเดินเล่นข้างนอกเท่านั้นเอง”
พอเห็นว่าเธอยอมอ่อนข้อให้ เขาถึงค่อยๆปล่อยตัวเธอออก เธอทำท่าเหมือนดีใจ แต่พอกำลังจะยืนขึ้น ก็ถูกเขาคว้าตัวไว้อีก “เดี๋ยวก่อนครับ”
“อะไรอีกคะ?” เธอหันไปมองเขา ก้พบว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของเขามันจางหายไปแล้ว เหลือแค่เพียงสีหน้าที่ดูจริงจัง
“สัญญากับผม ว่าคุณจะไม่พูดอะไรแบบนั้นให้ผมได้ยินอีก”
“คำพูดอะไรคะ?” เธอถามกลับ แต่พอเห็นสีหน้าของเขาแล้วก็เกิดนึกขึ้นมาได้ทันที อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจ คำพูดที่พูดไปก่อนหน้านี้ก็แค่พูดออกไปเฉยๆ ไม่คิดเลยว่าเขาจะคิดจริงจัง ว่ากันว่าผู้ชายต้องมีความใจกว้างไปใช่หรือ แล้วทำไปเธอถึงได้รู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้าที่ใจแคบเสียจริงๆเลย?
ในขณะที่ไม่รู้จะพูดอะไร เธอก็พยักหน้าให้ ถ้าไม่ตกลงก็คงไม่ได้ พอเห็นแววตาที่จ้องมองมาทุกๆการเคลื่อนไหวของตัวเองแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าถ้าตัวเธอยังเอาแต่ปากแข็ง เธอคงได้ถูกเขาจับมัดเตียงสามวันสามคืนจนไม่ได้ไปไหนแน่ๆ
คิดๆดูแล้วเธอก็รู้สึกกลัวขึ้นมาไม่น้อย
พอจิ้นหยวนเห็นว่าเธอยอมรับผิดแล้ว ก็ยอมปล่อยเธอออก พร้อมกับพูดกำชับ “จำสิ่งที่สัญญาเอาไว้กับผมด้วยนะครับ”
“รู้แล้วค่ะ พูดมากจัง” สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา แต่พอเห็นสายตาของจิ้นหยวนที่มองมาก้ไม่กล้าพูดอะไรอีก
“ระวังตัวด้วยล่ะ ผมให้คนไปเป็นเพื่อนคุณดีกว่า” จิ้นหยวนเลื่อนสายตากลับ หันไปมองที่คอมพิวเตอร์เหมือนเดิม จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่ได้จะไปไหนไกล ก็แค่จะเดินๆดูเท่านั้นเอง” เธอตอบกลับ
“งั้นก็ได้ครับ ยังไงก็ระวังตัวด้วย พกมือถือด้วยนะครับ ถ้ามีเรื่องอะไรต้องรีบโทรหาผมทันที” จิ้นหยวนกำชับเธออย่าไม่รู้หน่าย
“ทราบแล้วค่ะๆ” เธอยกกระเป๋าของตัวเองขึ้นมา แล้วหมุนตัวไปเปิดประตู
เปิดออกไปก็พบกับกลุ่มเลขาที่นั่งกันอยู่มุมๆหนึ่งและกำลังมองมาด้วยสายตาแปลกใจ และเหมือนจะมีความประหลาดใจด้วย
พวกเขากำลังมองอะไรกันนะ? ทำไมสายตาถึงดูแปลกแบบนั้น?
พอพวกเลขาปะทะเข้ากับสายตากับเธอ ทั้งหมดก็รีบพากันก้มหัวลงทันที
พวกเขามีทั้งหมดสี่คน เป็นคนที่คอยรับใช้ช่วยงานของจิ้นหยวน หรือพูดได้ว่าเป็นคนที่จิ้นหยวนไว้เนื้อเชื่อใจ ดังนั้นเธอก็คงจะเลี่ยงอะไรมากไม่ได้ พอเห็นว่าพวกเขากำลังมองมาอย่างสงสัย จึงมองพวกเขาแล้วถามออกไป “ดูเหมือนพวกคุณแปลกใจมากตอนที่ฉันออกมาจากห้อง? ทำไมหรือคะ?”
ตอนที่ 513 หัวหน้าวัง
พวกเลขาไม่คิดเลยว่าเธอจะถามโต้งๆออกมาแบบนี้ ทำเอาตกใจจนหน้าซัดเผือดกันไปหมด แน่นอนว่าพวกเขาเป็นคนที่จิ้นหยวนไว้วางใจ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้ว่านายหญิงคนนี้มีบทบาทต่อหัวใจของท่านประธานมากแค่ไหน ตอนนี้พอเห็นว่าเธอมีท่าทางที่ไม่พอใจ ก็เกิดนึกถึงเรื่องเมื่อครู่ที่ตัวเองไปช่วยหลินจื้อเฉิงทำเรื่องเอาไว้เข้า ทำเอาขาดความมั่นใจจนแสดงออกมาผ่านทางสีหน้า
เฉียวซือมู่ไม่ได้รู้เลยสักนิดว่าสาเหตุที่ทำให้หลินจื้อเฉิงเข้าไปในห้องนั้นก็เพราะพวกเขาเอง พอเห็นท่าทีของพวกเขาแล้วจึงรู้สึกแปลกใจไม่น้อย ทำเอารู้สึกขาดความมั่นใจไปด้วย
หรือว่าหลินจื้อเฉิงเอาเรื่องเมื่อกี้นี้ไปพูดให้ฟังงั้นเหรอ? ไม่หรอกหน่า ถึงแม้ว่าบางทีเขาจะดูเป็นคนไม่ได้เรื่อง แต่ก็คงไม่ใช่พวกปากมากหรอก
งั้นพวกเขาเป็นอะไรกันแน่?
พวกเลขาเห็นท่าทางเธอแล้วก็รีบหันหน้าเข้าหากัน จนกระทั่งมีคนหนึ่งในกลุ่มเริ่มทนไม่ไหว ยื่นมือไปดึงแขนเสื้อของอีกคน “หัวหน้าวัง คุณพูดสิ…”
วังชิงมองไปที่เขา จากนั้นก็พยายามยิ้มแย้มออกมา “ที่จริงก็ไม่มีอะไรหรอกครับ ตอนแรกพวกเราคิดว่าจะเข้าไปคุยงานกับท่านประธานดีไหม แต่นายหญิงก็ออกมาพอดีน่ะครับ”
“งั้นหรือคะ?” เฉียวซือมู่ได้ยินแบบนั้นก็ไม่คิดอะไรมาก หมุนตัวกะจะเดินต่อ
วังชิงเป็นเลขาที่อยู่มานานและมีประสบการณ์มากที่สุดในกลุ่ม เวลาต้องเจอเรื่องอะไรส่วนใหญ่เขาก็ต้องเป็นคนออกหน้า พอเห็นว่าเฉียวซือมู่เดินออกไปแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา ยกมือขึ้นดันแว่นให้เข้าที่ แต่ไม่ทันระวังมือไปปัดเข้ากับเอกสารที่ตั้งอยู่บนโต๊ะจนหล่นลงพื้น
และมันก็ตกลงไปอยู่ตรงหน้าเฉียวซือมู่พอดี
อีกนิดเธอก็เกือบจะเหยียบมันอยู่แล้ว
วังชิงตากระตุกรัว
เฉียวซือมู่ชะงักเท้า ชักเท้าที่กำลังจากก้าวออกไปกลับมา ก้มตัวลงเก็บเอกสารนั่น เอกสารมันถูกเปิดออก เธอมองดูมันคร่าวๆ ก็นำกลับไปไว้บนโต๊ะเหมือนเดิม
วังชิงมองไปที่เอกสาร สีหน้าดูรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
เฉียวซือมู่ยิ้ม “ระวังหน่อยนะคะ”
เธอหมุนตัวแล้วเดินออกไปทันที
เธอแค่ดูมันคร่าวๆเท่านั้น บนเอกสารนั่นมีแต่ตัวเลขเต็มไปหมด อาจจะเป็นเอกสารการประมูลก็ได้?
เธอเองก็ไม่แน่ใจ และไม่สนใจด้วย ไม่นานก็ปล่อยลืมเรื่องนั้นไป
แต่เธอคิดไม่ถึงเลยว่าแค่ความใจดีของเธอแค่ครั้งนั้นครั้งเดียวจะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายตามหลังเธอมา
เธอเดินไปดูทุกที ตึกนี้ทั้งตึกต่างก็เป็นผลผลิตของจิ้นซื่อทั้งหมด แต่ละชั้นต่างก็แยกแต่ละแผนกเอาไว้ พนักงานต่างก็แบ่งงานกันไปมากมายหลากหลาย
เธอเดินดูตั้งแต่ชั้นบนลงมาชั้นล่าง ก็เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเลยสักอย่าง ดูๆสีของท้องฟ้าแล้ว ก็นึกขึ้นได้ว่าแถวๆนี้มีร้านขนมปังร้ายหนึ่งที่มีเค้กอร่อยมาก จึงตัดสินใจไปที่นั่นเพื่อซื้อเค้กกลับมาแบ่งทานกับจิ้นหยวน
พอเธอกลับมา จิ้นหยวนก็คงจะประชุมเสร็จพอดี ถึงตอนนั้นก็สามารถแบ่งให้ทานได้
เธอคิดสิ่งเหล่านั้นอยู่ในใจเงียบๆ และสุดท้ายก็ได้เค้กมาเสียหลายก้อน บวกกับกาแฟที่จิ้นหยวนชอบอีกหนึ่ง มือถือถุงรีบสับเท้าเดินกลับบริษัททันที
ใครจะไปรู้ว่าในระหว่างที่เธอกำลังอารมณ์ดีอยู่นั้น ตอนที่เดินเข้าประตูก็ไม่ทันได้ระวังข้างหน้า จนเกิดเดินชนเข้ากับคนที่เดินสวนออกมา
เธอไม่ทันได้ระวังตัว ไหล่เล็กถูกใครบางคนชนเข้าเสียเต็มแรง ถุงที่อยู่ในมือร่วงหล่นลงพื้น จนเกิดเสียงที่ไม่อยากได้ยินขึ้นมา
แย่ล่ะสิ เค้กที่เธอซื้อมาคงเละไปแล้วแน่ๆ
เธอขมวดคิ้วลูบๆไหล่ตัวเอง ยังไม่มีอารมณ์จะไปสนใจว่าคนๆนั้นเป็นใครกันแน่ เธอโน้มตัวลงแล้วหยิบถุงขึ้นมา เช็คดูของแล้วก็ถอนหายใจโล่งอกออกมา คงต้องยกความดีความชอบให้ทางร้านที่ตั้งใจห่ออย่างดี เค้กจึงไม่ได้เปลี่ยนรูปอะไรไปมาก ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร แม้แต่กาแฟก็หกออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น